ยูเซอร์มาอัตเร เซเตเพนอามุน โอซอร์คอนที่ 2 เป็นฟาโรห์พระองค์ที่ห้า ของราชวงศ์ที่ยี่สิบสองแห่งอียิปต์โบราณและเป็นพระราชโอรสชองฟาโรห์ทาเคลอตที่ 1 และสมเด็จพระราชินีคาเปส พระองค์ปกครองอียิปต์ระหว่าง 872 ถึง 837 ปีก่อนคริสตกาล โดยปกครองอยู่ที่เมืองทานิส ซึ่งเป็นเมืองหลวงประจำราชวงศ์นี้
โอซอร์คอนที่ 2 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สิ่งของที่มีพระนามของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 ที่สลักอยู่ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 872-837 ปีก่อนคริสกตาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | ทาเคลอตที่ 1 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | โชเชงค์ที่ 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบุตร | ทเสบาสต์เพรู, , โชเชงค์ D, | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สวรรคต | 837 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สุสาน | เอ็นอาร์ที 1 ทานิส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่ 22 |
หลังจากได้ครองราชย์ต่อจากพระบิดาชองพระองค์ ฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 ได้เผชิญหน้ากับกฎการแข่งขันทางการเมืองของลูกพี่ลูกน้องนามว่า ฮาร์เซียเซ A ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองธีบส์และโอเอซิสทางตะวันตกของอียิปต์ พระองค์กลัวว่าผู้ปกครองฮาร์เซียเซ A จะทำการแย่งชิงอำนาจของพระองค์ แต่ฮาร์เซียเซ A สิ้นพระชนม์ใน 860 ปีก่อนคริสตกาล, จึงทำให้พระองค์มั่นใจว่าปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นอีกโดยการแต่งตั้งพระโอรสของพระองค์เองนามว่า ให้เป็นนักบวชชั้นสูงแห่งเทพอามุนที่เมืองธีบส์เพื่อที่จะรวบรวมอำนาจในอียิปต์บน จึงหมายความว่าพระองค์ทรงได้ปกครองทั่วทั้งอาณาจักรอียิปต์โบราณ ในช่วงรัชกาลของพระองค์จะเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่และความรุ่งเรืองของอียิปต์
พระมเหสีและพระโอรส-ธิดา
ฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 เป็นที่รู้กันว่ามีพระมเหสีอย่างน้อยสามพระองค์:
- ไอเซทเอมเคบ เป็นที่รู้จักว่าเป็นมารดาของสตรีนามว่า ทเจสบาสต์เพรู ซึ่งได้อภิเษกสมรสกับนักบวชชั้นสูงแห่งเทพพทาห์นามว่า ทาเคลอต B
- ดเจดมัตเอสอังค์ที่ 4 เป็นมารดาของนักบวชชั้นสุงแห่งเทพอามุนนามว่า ซึ่งเป็นพระราชโอรสชองฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 และเป็นบิดาของทาเคลอต F/ทาเคลอตที่สอง
- สมเด็จพระราชินี เป็นที่รู้จักกันมากในบรรดาพระมเหสีของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 ซึ่งเป็นมารดาของพระโอรส 2 พระองค์และพระธิดา 3 พระองค์:
- เจ้าชาย เป็น
- เจ้าชาย เป็นนักบวชชั้นสูงแห่งเทพอามุนในเมืองทานิส และหลังจากนั้นฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 ได้เลื่อนขั้นให้เป็นหัวหน้านักบวชชั้นสูงแห่งเทพอามุนที่ทานิส เพื่อเสริมอำนาจปกครองของพระองค์ในอียิปต์ล่าง อย่างไรก็ตามเจ้าชายฮอร์นัคท์ก็สิ้นพระชนม์ในอายุที่ยังไม่ถึง 10 ปี
- เจ้าหญิง ทาชาเคเปอร์ ทำหน้าที่เป็นพระมเหสีแห่งอามุนในช่วงรัชสมัยของฟาโรห์ทาเคลอตที่สาม
- เจ้าหญิงคาโรมามา C, อาจจะเป็นพระองค์เดียวกันกับพระนาง ซึ่งทำหน้าที่เป็น
- เจ้าหญิง [ทา?]อิไอร์เมอร์
และนอกจากนี้พระโอรสและธิดาของฟาโรห์โอซอร์คอนได้รวมถึงผูสืบทอดบัลลังก์นามว่า โชเชงค์ที่สาม และพระนางเทนต์เซเพ (D) เป็นภรรยาของพทาฮูดจ์อังค์เคฟ ซึ่งเป็นบุตรของนิมลอต C จึงทำให้มีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2
หลุมฝังพระศพ
นักขุดค้นชาวฝรั่งเศสชื่อว่า ปิแอร์ มองเตต ได้ค้นพบหลุมฝังศพของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 ที่ทานิส เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1939 เผยให้เห็นว่าฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 2 ได้ถูกฝังอยู่ในโลงหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดสลักจากรูปปั้น เพียงบางส่วนของโลงศพรูปเหยี่ยวและโถคาโนปิก ยังคงอยู่ในหลุมฝังศพที่เคยถูกปล้น เครื่องประดับตกแต่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองในรัชสมัยของพระองค์
อ้างอิง
- Osorkon (II) Usermaatre, Digital Egypt for Universities.
- Aidan Dodson & Dyan Hilton: The Complete Royal Families of Ancient Egypt. Thames & Hudson, 2004, ISBN
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อDH2
- Kitchen, The Third Intermediate Period in Egypt (1100–650 BC). 3rd ed. Warminster: Aris & Phillips Limited. 1996
- .Nos ancêtres de l'Antiquité, 1991. , p.153 and 166
- Nicolas Grimal, A History of Ancient Egypt, Blackwell Books, 1992. p.325
- San el-Hagar
- Bob Brier, Egyptian Mummies: Unravelling the Secrets of an Ancient Art, William Morrow & Company Inc., New York, 1994. p.144
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yuesxrmaxter esetephnxamun oxsxrkhxnthi 2 epnfaorhphraxngkhthiha khxngrachwngsthiyisibsxngaehngxiyiptobranaelaepnphrarachoxrschxngfaorhthaekhlxtthi 1 aelasmedcphrarachinikhaeps phraxngkhpkkhrxngxiyiptrahwang 872 thung 837 pikxnkhristkal odypkkhrxngxyuthiemuxngthanis sungepnemuxnghlwngpracarachwngsnioxsxrkhxnthi 2singkhxngthimiphranamkhxngfaorhoxsxrkhxnthi 2 thislkxyufaorhrchkal872 837 pikxnkhrisktalkxnhnathaekhlxtthi 1thdipochechngkhthi 3phraprmaphiithyphranamhxrskhankhth emri maxt eskhaxiesewxr nisuthawi k3 nḫt mrj M3ˁt sḫˁ j sw r nsw t3wj krathingthiaekhngaerng phuepnthirkaehng epnphuaekkhrxngthngsxngdinaednphranamenbtiesmaephesstimisaxiesthphranamhxrsthxngkhaewxrephti huxiemntixuphranamkhrxngrachyyuesxrmaxter esetephnxamun wsr M3ˁt Rˁ stp n Jmn rarwykhxngmaxtkhuxrasungepnhnunginxamunphranamprasutiyuesxrekhn emrixamun Wsrkn mrj Jmn oxsxrkhxn phuepnthirkaehngxamunphrarachbutrthesbastephru ochechngkh D swrrkht837 pikxnkhristkalsusanexnxarthi 1 thanisrachwngsrachwngsthi 22 hlngcakidkhrxngrachytxcakphrabidachxngphraxngkh faorhoxsxrkhxnthi 2 idephchiyhnakbkdkaraekhngkhnthangkaremuxngkhxnglukphiluknxngnamwa haresiyes A sungepnphupkkhrxngemuxngthibsaelaoxexsisthangtawntkkhxngxiyipt phraxngkhklwwaphupkkhrxngharesiyes A cathakaraeyngchingxanackhxngphraxngkh aetharesiyes A sinphrachnmin 860 pikxnkhristkal cungthaihphraxngkhmnicwapyhanicaimekidkhunxikodykaraetngtngphraoxrskhxngphraxngkhexngnamwa ihepnnkbwchchnsungaehngethphxamunthiemuxngthibsephuxthicarwbrwmxanacinxiyiptbn cunghmaykhwamwaphraxngkhthrngidpkkhrxngthwthngxanackrxiyiptobran inchwngrchkalkhxngphraxngkhcaepnchwngewlaaehngkarsrangxnusawriykhnadihyaelakhwamrungeruxngkhxngxiyiptphramehsiaelaphraoxrs thidafaorhoxsxrkhxnthi 2 epnthiruknwamiphramehsixyangnxysamphraxngkh ixesthexmekhb epnthiruckwaepnmardakhxngstrinamwa thecsbastephru sungidxphiesksmrskbnkbwchchnsungaehngethphphthahnamwa thaekhlxt B decdmtexsxngkhthi 4 epnmardakhxngnkbwchchnsungaehngethphxamunnamwa sungepnphrarachoxrschxngfaorhoxsxrkhxnthi 2 aelaepnbidakhxngthaekhlxt F thaekhlxtthisxng smedcphrarachini epnthiruckknmakinbrrdaphramehsikhxngfaorhoxsxrkhxnthi 2 sungepnmardakhxngphraoxrs 2 phraxngkhaelaphrathida 3 phraxngkh ecachay epn ecachay epnnkbwchchnsungaehngethphxamuninemuxngthanis aelahlngcaknnfaorhoxsxrkhxnthi 2 ideluxnkhnihepnhwhnankbwchchnsungaehngethphxamunthithanis ephuxesrimxanacpkkhrxngkhxngphraxngkhinxiyiptlang xyangirktamecachayhxrnkhthksinphrachnminxayuthiyngimthung 10 pi ecahying thachaekhepxr thahnathiepnphramehsiaehngxamuninchwngrchsmykhxngfaorhthaekhlxtthisam ecahyingkhaormama C xaccaepnphraxngkhediywknkbphranang sungthahnathiepn ecahying tha xiixremxr aelanxkcakniphraoxrsaelathidakhxngfaorhoxsxrkhxnidrwmthungphusubthxdbllngknamwa ochechngkhthisam aelaphranangethnteseph D epnphrryakhxngphthahudcxngkhekhf sungepnbutrkhxngnimlxt C cungthaihmiskdiepnphrarachnddakhxngfaorhoxsxrkhxnthi 2hlumfngphrasphnkkhudkhnchawfrngesschuxwa piaexr mxngett idkhnphbhlumfngsphkhxngfaorhoxsxrkhxnthi 2 thithanis emuxwnthi 27 kumphaphnth kh s 1939 ephyihehnwafaorhoxsxrkhxnthi 2 idthukfngxyuinolnghinaekrnitkhnadihythimifapidslkcakruppn ephiyngbangswnkhxngolngsphrupehyiywaelaothkhaonpik yngkhngxyuinhlumfngsphthiekhythukpln ekhruxngpradbtkaetngthiyngkhnghlngehluxxyu sungaesdngihehnkhwamecriyrungeruxnginrchsmykhxngphraxngkhxangxingOsorkon II Usermaatre Digital Egypt for Universities Aidan Dodson amp Dyan Hilton The Complete Royal Families of Ancient Egypt Thames amp Hudson 2004 ISBN 0 500 05128 3 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux DH2 Kitchen The Third Intermediate Period in Egypt 1100 650 BC 3rd ed Warminster Aris amp Phillips Limited 1996 Nos ancetres de l Antiquite 1991 p 153 and 166 Nicolas Grimal A History of Ancient Egypt Blackwell Books 1992 p 325 San el Hagar Bob Brier Egyptian Mummies Unravelling the Secrets of an Ancient Art William Morrow amp Company Inc New York 1994 p 144