เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป (หรือปรากฏในแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่เป็น อเมเนมเฮต โซเบคโฮเทป ในปัจจุบันนี้เชื่อว่าเป็น โซเบคโฮเทปที่ 1 หรือที่เรียกว่า โซเบคโฮเทปที่ 2 ในการศึกษาที่เก่ากว่า) เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจากราชวงศ์ที่สิบสามในสมัยช่วงระหว่างกลางที่สอง ซึ่งพระองค์ทรงครองราชย์อย่างน้อย 3 ปีในราว 1800 ปีก่อนคริสตกาล ตำแหน่งตามลำดับเวลาของพระองค์เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก โดยหากฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป ทรงเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์ขึ้น ซึ่งในกรณีนี้พระองค์ถูกเรียกว่า ฟาโรห์โซเบคที่ 1 หรือหากพระองค์เป็นผู้ปกครองพระองค์ที่ยี่สิบแห่งราชวงศ์ ซึ่งในกรณีนี้พระองค์ถูกเรียกว่า ฟาโรห์โซเบคโฮเทปที่ 2 ในการศึกษาสมัยช่วงระหว่างกลางที่สองในปี ค.ศ. 1997 โดยนักอียิปต์วิทยา ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญของฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป ในฐานะผู้สถาปนาราชวงศ์ ซึ่งเป็นข้อสมมติฐานที่ขณะนี้มีความโดดเด่นในวิชาไอยคุปต์วิทยา
ฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
โซเบคโฮเทปที่ 1 หรือ โซเบคโฮเทปที่ 2 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รูปสลักส่วนศีรษะ ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าจะเป็นฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป ถึงแม้ว่าจะมีการเสนอความเห็นที่มองว่าเป็นของฟาโรห์พระองค์อื่น ๆ แทน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | อย่างน้อยที่สุด 3 ปี, 1803–1800 ปีก่อนคริสตกาล or 1724–1718 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | ยังคลุมเครือ, โซเบคเนเฟรู หรือ เซดเจฟาคาเร คาย อเมนเอมฮัตที่ 7 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | ยังคลุมเครือ, เซเคมคาเร โซเบฟ หรือ เคนดเจอร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบิดา | ยังคลุมเครือ, อาจจะเป็น อเมนเอมฮัตที่ 4 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชสมภพ | หลังจาก 1900 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สวรรคต | ก่อนหน้า 1700 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่สิบสาม |
หลักฐานรับรอง
ฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป มีหลักฐานสนับสนุนจากแหล่งหลักฐานชั้นต้นร่วมสมัย โดยชิ้นแรก พระองค์ถูกกล่าวถึงในบันทึกปาปิรุสแห่งคาฮูนฉบับที่ 4 ซึ่งขณะนี้อยู่ใน (ยูซี 32166) (รีฮอล์ต, หน้าที่ 315) บันทึกปาปิรุสแห่งคาฮูนนี้เป็น "การสำรวจสำมะโนครัวเรือนของนักบวชที่ทำหน้าที่สวดมนต์ โดยลงในปีที่ 1 แห่งการครองราชย์" ของพระองค์ และยังบันทึกการเกิดของบุตรชายของนักบวชที่ทำหน้าที่สวดมนต์ในช่วงปีที่ 40 แห่งการครองราชย์ "ซึ่งน่าจะหมายถึงเพียงรัชสมัยของฟาโรห์อเมนเอมฮัตที่ 3 เท่านั้น" จากหลักฐานนี้จึงชี้ให้เห็นว่าฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทปทรงขึ้นครองราชย์ไม่ระยะเวลาไม่นานหลังจากการสวรรคตของฟาโรห์อเมนเอมฮัตที่ 3
หลักฐานชิ้นที่สองคือ พบชิ้นส่วนทางสถาปัตยกรรมจำนวนหนึ่งที่ปรากฏพระราชอิสริยยศของฟาโรห์โซเบคโฮเทป ได้แก่ ชิ้นส่วนของวิหารน้อยจาก ทับหลังสามหลังจาก และเมดามุด ซุ้มประตูจากลักซอร์ และวงกบประตูจากเมดามุด ซึ่งขณะนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
บันทึกระดับแม่น้ำไนล์
บันทึกระดับแม่น้ำไนล์จำนวน 3 บันทึกจากและคุมนาในนิวเบียที่เกี่ยวเนื่องกับฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป ซึ่งบันทึกล่าสุดในรัชสมัยของพระองค์ก็มีอายุย้อนไปถึงปีที่ 4 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงครองราชย์อย่างน้อยสามปีเต็ม
การค้นพบวัตถุขนาดเล็ก
วัตถุขนาดเล็กที่กล่าวถึงฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป ซึ่งประกอบด้วยตราประทับทรงกระบอกจากเมือง ใบมีดขวานแซะไม้ รูปสลักขนาดเล็กจากเคอร์มา และลูกปัดเผา ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์เพทรี (ยูซี 13202)
หลุมฝังพระบรมศพที่ถูกสันนิษฐาน
เชื่อกันว่า หลุมฝังพระบรมศพของพระองค์ถูกค้นพบในอไบดอสในปี ค.ศ. 2013 แต่ขณะนี้มีการตั้งคำถามถึงที่มาของหลุมฝังพระบรมศพ ในระหว่างการขุดค้นในเมืองอไบดอสในปี ค.ศ. 2013 ทีมนักโบราณคดีนำโดย แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียได้ค้นพบหลุมฝังพระบรมศพของฟาโรห์ที่มีพระนามว่า โซเบคโฮเทป ในขณะที่ฟาโรห์โซเบคโฮเทปที่ 1 ได้รับการเสนอให้เป็นเจ้าของหลุมฝังพระบรมศพแห่งนี้ในรายงานข่าวหลายฉบับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2014 แต่หลังจากการตรวจสอบเพิ่มเติมทำให้มีความเป็นไปได้ว่าหลุมฝังพระบรมศพจะเป็นของฟาโรห์โซเบคโฮเทปที่ 4 แทน
ตำแหน่งตามลำดับเวลา
มีข้อโต้แย้งในอียิปต์วิทยาเกี่ยวกับตำแหน่งของฟาโรห์พระองค์นี้ในราชวงศ์ที่สิบสามแห่งยียิปต์ โดยมีพระนามครองพระราชบัลลังก์ว่า เซเคมเร คูทาวีเร ซึ่งปรากฏในบันทึกพระนามกษัตริย์แห่งตูรินในลำดับฟาโรห์พระองค์ที่สิบเก้าแห่งราชวงศ์ที่สิบสาม อย่างไรก็ตาม บันทึกระดับแม่น้ำไนล์และหลักที่มีการกล่าวถึงพระองค์บนบันทึกปาปิรุสที่พบที่เอล-ลาฮูน ซึ่งแสดงในเห็นว่า พระองค์อาจจะอยู่ในช่วงต้นของราชวงศ์ที่สิบสาม มีเพียงการกล่าวถึงเฉพาะพระองค์ในอนุสาวรีย์ทั้งสองประเภทในช่วงปลายราชวงศ์ที่สิบสอง และช่วงต้นราชวงศ์ที่สิบสามเท่านั้น
ในบันทึกพระนามกษัตริย์แห่งตูริน พระนาม คูทาวีเร ยังปรากฏเป็นพระนามฟาโรห์พระองค์แรกของราชวงศ์ที่สิบสาม คิม รีฮอล์ต นักไอยคุปต์วิทยาได้ยืนยันว่า เป็นไปได้ว่าที่ผู้บันทึกรายพระนามนี้อาจจะสับสนระหว่างพระนาม เซเคมเร คูทาวี กับ คูทาวีเร ซึ่งเป็นพระนามของฟาโรห์เวกาฟ นอกจากนี้ ยังมีฟาโรห์จำนวนอย่างน้อย 3 พระองค์ที่ใช้พระนามดังกล่าว จึงเป็นที่ยากที่จะชี้ว่าพระนามใดจะเป็นของพระองค์ ได้แก่ ฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี โซเบคโฮเทป, ฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี พันทเจนิ และฟาโรห์เซเคมเร คูทาวี คาบาว
ตามพระนามของพระองค์พระนามว่า อเมนเอมฮัต โซเบคโฮเทป จึงมีคนแสดงความเห็นว่า พระองค์น่าจะเป็นพระราชโอรสของฟาโรห์อเมนเอมฮัตที่ 4 ซึ่งเป็นพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ที่สิบสอง โดยพระนาม อเมนเอมฮัต โซเบคโฮเทป สามารถแปลได้ว่า โซเบคโฮเทป พระราชโอรสแห่งอเมนเอมฮัต ดังนั้น ฟาโรห์โซเบคโฮเทป อาจจะเป็นพระเชษฐาหรือพระอนุชาของฟาโรห์เซเคมคาเร โซนเบฟ ซึ่งเป็นฟาโรห์พระองค์ที่สองแห่งราชวงศ์ที่สิบสาม นักไอยคุปต์วิทยาคนอื่น ๆ มีความเห็นว่าพระนาม อเมนเอมฮัต โซเบคโฮเทป จะเป็นเพียงพระนามคู่ ซึ่งสามารถพบได้โดยทั่วไปในราชวงศ์ที่สิบสองและราชวงศ์ที่สิบสามแห่งอียิปต์
อ้างอิง
- K. S. B. Ryholt, The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period, c.1800–1550 BC, Carsten Niebuhr Institute Publications, vol. 20. Copenhagen: Museum Tusculanum Press, 1997.
- Thomas Schneider after : Lexikon der Pharaonen, p. 255
- Darrell D. Baker: The Encyclopedia of the Pharaohs: Volume I – Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300–1069 BC, Stacey International, ISBN , 2008, p. 443
- "Sekhemre Khutawy Sobekhotep, the Petrie Museum". Digitalegypt.ucl.ac.uk. สืบค้นเมื่อ 10 January 2014.
- Kahun papyrus IV 2021-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Petrie Museum
- Ryholt, 1997 SIP, p.315
- Nicolás Grimal: A History of Ancient Egypt, Wiley-Blackwell, 1994, pp 183–184
- Faience bead of Sekhemre Khutawy[], Petrie Museum
- : A Royal Necropolis at Abydos, in: Near Eastern Archaeology, 78 (2), 2015, p. 70
- . Penn Museum. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-24. สืบค้นเมื่อ 2014-01-17.
- "King Sobekhotep I Tomb discovered in Sohag". State Information Services. 7 January 2014. สืบค้นเมื่อ 8 January 2014.
- Stephen Adkins (7 January 2014). "Pennsylvania Researchers Discover Tomb of Egypt's First King of 13th Dynasty". University Herald. สืบค้นเมื่อ 8 January 2014.
- "US diggers identify tomb of Pharoah [sic] Sobekhotep I". Times Live. South Africa. 6 January 2014. สืบค้นเมื่อ 8 January 2014.
- . . 7 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-27. สืบค้นเมื่อ 8 January 2014.
- Stark, Florian (7 January 2014). "Pharaonengrab aus apokalyptischen Zeiten entdeckt". (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 8 January 2014.
- (1908): Scarabs an introduction to the study of Egyptian seals and signet rings, available online copyright free see plate XLIII num 3
- Dodson, Aidan and Hilton, Dyan. The Complete Royal Families of Ancient Egypt. Thames & Hudson, 2004. ISBN
- Stephen Quirke: In the Name of the King: on Late Middle Kingdom Cylinders, in: Timelines, Studies in Honour of Manfred Bietak, Leuven, Paris, Dudley, MA. ISBN , 263-64
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- K. S. B. Ryholt, The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period, c.1800–1550 BC, (Carsten Niebuhr Institute Publications, vol. 20. Copenhagen: Museum Tusculanum Press, 1997), 336, File 13/1.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
esekhmer khuthawi osebkhohethp hruxpraktinaehlngkhxmulswnihyepn xemenmeht osebkhohethp inpccubnniechuxwaepn osebkhohethpthi 1 hruxthieriykwa osebkhohethpthi 2 inkarsuksathiekakwa epnfaorhaehngxiyiptobrancakrachwngsthisibsaminsmychwngrahwangklangthisxng sungphraxngkhthrngkhrxngrachyxyangnxy 3 piinraw 1800 pikxnkhristkal taaehnngtamladbewlakhxngphraxngkhepnthithkethiyngknxyangmak odyhakfaorhesekhmer khuthawi osebkhohethp thrngepnphusthapnarachwngskhun sunginkrniniphraxngkhthukeriykwa faorhosebkhthi 1 hruxhakphraxngkhepnphupkkhrxngphraxngkhthiyisibaehngrachwngs sunginkrniniphraxngkhthukeriykwa faorhosebkhohethpthi 2 inkarsuksasmychwngrahwangklangthisxnginpi kh s 1997 odynkxiyiptwithya idklawthungpraednsakhykhxngfaorhesekhmer khuthawi osebkhohethp inthanaphusthapnarachwngs sungepnkhxsmmtithanthikhnanimikhwamoddedninwichaixykhuptwithyafaorhesekhmer khuthawi osebkhohethposebkhohethpthi 1 hrux osebkhohethpthi 2rupslkswnsirsa sungthuksnnisthanwacaepnfaorhesekhmer khuthawi osebkhohethp thungaemwacamikaresnxkhwamehnthimxngwaepnkhxngfaorhphraxngkhxun aethnfaorhrchkalxyangnxythisud 3 pi 1803 1800 pikxnkhristkal or 1724 1718 pikxnkhristkalkxnhnayngkhlumekhrux osebkhenefru hrux esdecfakhaer khay xemnexmhtthi 7thdipyngkhlumekhrux esekhmkhaer osebf hrux ekhndecxrphraprmaphiithyphranamhxrsemenkh Mnḫ phuthrngsnga phranamhxrsthxngkhaxngkhenthecru ˁnḫ nṯrw phrachnmchiphaehngethpheca bnthukphranamaehngturin esekhmer khuthawi osebkhohethp sḫm rˁ ḫwỉ t3 wỉ ethphra phuthrngkhwamaekhngaekrng phuthrngkhumkhrxngdinaednthngsxng ethphosebkh phuthrngphungphxphrathyphranamkhrxngrachyesekhmer khuthawi Sḫm Rˁ ḫwj t3wj ethphra phuthrngkhwamaekhngaekrng phuthrngkhumkhrxngdinaednthngsxngphranamprasutixemnexmht osebkhohethp Jmn m ḥ3t Sbk ḥtp xamun phuthrngxyuebuxnghna osebkh phuthrngphungphxphrathyphrarachbidayngkhlumekhrux xaccaepn xemnexmhtthi 4phrarachsmphphhlngcak 1900 pikxnkhristkalswrrkhtkxnhna 1700 pikxnkhristkalrachwngsrachwngsthisibsamhlkthanrbrxngphranam esekhmerkhuthawi khxngfaorhosebkhohethp bncarukcakwiharfngphrabrmsphkhxngfaorhemnthuohethpthi 2 inediyr exl bahari faorhesekhmer khuthawi osebkhohethp mihlkthansnbsnuncakaehlnghlkthanchntnrwmsmy odychinaerk phraxngkhthukklawthunginbnthukpapirusaehngkhahunchbbthi 4 sungkhnanixyuin yusi 32166 rihxlt hnathi 315 bnthukpapirusaehngkhahunniepn karsarwcsamaonkhrweruxnkhxngnkbwchthithahnathiswdmnt odylnginpithi 1 aehngkarkhrxngrachy khxngphraxngkh aelayngbnthukkarekidkhxngbutrchaykhxngnkbwchthithahnathiswdmntinchwngpithi 40 aehngkarkhrxngrachy sungnacahmaythungephiyngrchsmykhxngfaorhxemnexmhtthi 3 ethann cakhlkthannicungchiihehnwafaorhesekhmer khuthawi osebkhohethpthrngkhunkhrxngrachyimrayaewlaimnanhlngcakkarswrrkhtkhxngfaorhxemnexmhtthi 3 hlkthanchinthisxngkhux phbchinswnthangsthaptykrrmcanwnhnungthipraktphrarachxisriyyskhxngfaorhosebkhohethp idaek chinswnkhxngwiharnxycak thbhlngsamhlngcak aelaemdamud sumpratucaklksxr aelawngkbpratucakemdamud sungkhnanixyuthiphiphithphnthlufwr bnthukradbaemnainl bnthukradbaemnainlcanwn 3 bnthukcakaelakhumnainniwebiythiekiywenuxngkbfaorhesekhmer khuthawi osebkhohethp sungbnthuklasudinrchsmykhxngphraxngkhkmixayuyxnipthungpithi 4 sungaesdngihehnwaphraxngkhthrngkhrxngrachyxyangnxysampietm karkhnphbwtthukhnadelk wtthukhnadelkthiklawthungfaorhesekhmer khuthawi osebkhohethp sungprakxbdwytraprathbthrngkrabxkcakemuxng ibmidkhwanaesaim rupslkkhnadelkcakekhxrma aelalukpdepha pccubnxyuinphiphithphnthephthri yusi 13202 hlumfngphrabrmsphthithuksnnisthan echuxknwa hlumfngphrabrmsphkhxngphraxngkhthukkhnphbinxibdxsinpi kh s 2013 aetkhnanimikartngkhathamthungthimakhxnghlumfngphrabrmsph inrahwangkarkhudkhninemuxngxibdxsinpi kh s 2013 thimnkobrankhdinaody aehngmhawithyalyephnsileweniyidkhnphbhlumfngphrabrmsphkhxngfaorhthimiphranamwa osebkhohethp inkhnathifaorhosebkhohethpthi 1 idrbkaresnxihepnecakhxnghlumfngphrabrmsphaehngniinrayngankhawhlaychbbtngaeteduxnmkrakhm pi kh s 2014 aethlngcakkartrwcsxbephimetimthaihmikhwamepnipidwahlumfngphrabrmsphcaepnkhxngfaorhosebkhohethpthi 4 aethntaaehnngtamladbewlaphaphwadtraprathbxanwa phraoxrsaehngethphra osebkhochthp xemnexmht phuthrngepnthirkaehngosebkh ra ecaaehngixxu mitethru mikhxotaeynginxiyiptwithyaekiywkbtaaehnngkhxngfaorhphraxngkhniinrachwngsthisibsamaehngyiyipt odymiphranamkhrxngphrarachbllngkwa esekhmer khuthawier sungpraktinbnthukphranamkstriyaehngturininladbfaorhphraxngkhthisibekaaehngrachwngsthisibsam xyangirktam bnthukradbaemnainlaelahlkthimikarklawthungphraxngkhbnbnthukpapirusthiphbthiexl lahun sungaesdnginehnwa phraxngkhxaccaxyuinchwngtnkhxngrachwngsthisibsam miephiyngkarklawthungechphaaphraxngkhinxnusawriythngsxngpraephthinchwngplayrachwngsthisibsxng aelachwngtnrachwngsthisibsamethann inbnthukphranamkstriyaehngturin phranam khuthawier yngpraktepnphranamfaorhphraxngkhaerkkhxngrachwngsthisibsam khim rihxlt nkixykhuptwithyaidyunynwa epnipidwathiphubnthukrayphranamnixaccasbsnrahwangphranam esekhmer khuthawi kb khuthawier sungepnphranamkhxngfaorhewkaf nxkcakni yngmifaorhcanwnxyangnxy 3 phraxngkhthiichphranamdngklaw cungepnthiyakthicachiwaphranamidcaepnkhxngphraxngkh idaek faorhesekhmer khuthawi osebkhohethp faorhesekhmer khuthawi phnthecni aelafaorhesekhmer khuthawi khabaw tamphranamkhxngphraxngkhphranamwa xemnexmht osebkhohethp cungmikhnaesdngkhwamehnwa phraxngkhnacaepnphrarachoxrskhxngfaorhxemnexmhtthi 4 sungepnphraxngkhsudthayaehngrachwngsthisibsxng odyphranam xemnexmht osebkhohethp samarthaeplidwa osebkhohethp phrarachoxrsaehngxemnexmht dngnn faorhosebkhohethp xaccaepnphraechsthahruxphraxnuchakhxngfaorhesekhmkhaer osnebf sungepnfaorhphraxngkhthisxngaehngrachwngsthisibsam nkixykhuptwithyakhnxun mikhwamehnwaphranam xemnexmht osebkhohethp caepnephiyngphranamkhu sungsamarthphbidodythwipinrachwngsthisibsxngaelarachwngsthisibsamaehngxiyiptxangxingK S B Ryholt The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period c 1800 1550 BC Carsten Niebuhr Institute Publications vol 20 Copenhagen Museum Tusculanum Press 1997 Thomas Schneider after Lexikon der Pharaonen p 255 Darrell D Baker The Encyclopedia of the Pharaohs Volume I Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300 1069 BC Stacey International ISBN 978 1 905299 37 9 2008 p 443 Sekhemre Khutawy Sobekhotep the Petrie Museum Digitalegypt ucl ac uk subkhnemux 10 January 2014 Kahun papyrus IV 2021 03 25 thi ewyaebkaemchchin Petrie Museum Ryholt 1997 SIP p 315 Nicolas Grimal A History of Ancient Egypt Wiley Blackwell 1994 pp 183 184 Faience bead of Sekhemre Khutawy lingkesiy Petrie Museum A Royal Necropolis at Abydos in Near Eastern Archaeology 78 2 2015 p 70 Penn Museum khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 07 24 subkhnemux 2014 01 17 King Sobekhotep I Tomb discovered in Sohag State Information Services 7 January 2014 subkhnemux 8 January 2014 Stephen Adkins 7 January 2014 Pennsylvania Researchers Discover Tomb of Egypt s First King of 13th Dynasty University Herald subkhnemux 8 January 2014 US diggers identify tomb of Pharoah sic Sobekhotep I Times Live South Africa 6 January 2014 subkhnemux 8 January 2014 7 January 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 07 27 subkhnemux 8 January 2014 Stark Florian 7 January 2014 Pharaonengrab aus apokalyptischen Zeiten entdeckt phasaeyxrmn subkhnemux 8 January 2014 1908 Scarabs an introduction to the study of Egyptian seals and signet rings available online copyright free see plate XLIII num 3 Dodson Aidan and Hilton Dyan The Complete Royal Families of Ancient Egypt Thames amp Hudson 2004 ISBN 0 500 05128 3 Stephen Quirke In the Name of the King on Late Middle Kingdom Cylinders in Timelines Studies in Honour of Manfred Bietak Leuven Paris Dudley MA ISBN 90 429 1730 X 263 64aehlngkhxmulephimetimK S B Ryholt The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period c 1800 1550 BC Carsten Niebuhr Institute Publications vol 20 Copenhagen Museum Tusculanum Press 1997 336 File 13 1