เคเปอร์มาอัตเร ราเมสเซสที่ 10 (หรือจะเขียนพระนามว่า รามเสส หรือ ราเมเซส) (ทรงปกครองประมาณระหว่าง 1111 ปีก่อนคริสตกาล – 1107 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณพระองค์ที่เก้าแห่งราชวงศ์ที่ยี่สิบ พระนามประสูติของพระองค์ คือ อามอนเฮอร์เคเพเชฟ และพระนามครองราชย์ คือ เคเปอร์มาอัตเร หมายถึง "ความยุติธรรมแห่งเทพราอันรักษาไว้"
ราเมสเซสที่ 10 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อาจจะเขียนพระนามว่า รามเสส หรือ ราเมเซส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ลักษณะของฟาโรห์รามเสสที่ 10 บนภาพร่างจากสุสาน โดย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 1111–1107 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | รามเสสที่ 9 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบุตร | ? | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สวรรคต | 1107 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สุสาน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่ยี่สิบ |
วันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ตรงกับเดือนที่ 1 แห่งฤดูหนาว วันที่ 27 (1 prt 27) ปีที่ทรงครองราชย์สูงสุดคือ ปีที่ 3 ช่วงเวลาที่สูงสุดตามหลักฐานที่ปรากฏในรัชสมัยคือ "ปีที่ 3 เดือนที่ 2 ของฤดูน้ำหลาก วันที่ 2" หรืออาจเป็น "ปีที่ 3 เดือนที่ 4 (ไม่ปรากฏจำนวนวัน)"
เนื่องจากฟาโรห์ เสด็จขึ้นครองราชย์ในเดือนที่ 3 ของฤดูร้อน วันที่ 20 (3 šmw 20) จึงเป็นไปตามโดยอัตโนมัติว่าฟาโรห์รามเสสที่ 10 จะต้องมีพระชนม์ชีพอยู่ในปีที่ 4 ซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานตรวจสอบ ข้อสันนิษฐานดังกล่าวเป็นการนำเรื่องเกี่ยวกับดาราศาสตร์มาอธิบายโดยว่าฟาโรห์รามเสสที่ 10 อาจจะทรงครองราชย์เป็นเวลา 9 ปี แต่ก็เหตุการณ์ช่วงเวลาที่เหลือก็ได้สูญหายไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในทำนองเดียวกัน จารึกแห่งธีบส์ หมายเลข 1860 เอ ได้กล่าวถึงปีที่ 8 อันสมมติ แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์รามเสสที่ 10 ซึ่งไม่ได้นำมาเป็นหลักฐานสนับสนุนอีกต่อไป
ไอแดน ด็อดสัน นักไอยยคุปต์วิทยาชาวอังกฤษได้เขียนไว้ในหนังสือปี ค.ศ. 2004 ว่า
ไม่ปรากฏหลักฐานใดที่บ่งชี้ความสัมพันธ์ระหว่างฟาโรห์พระองค์สุดท้ายอย่างฟาโรห์รามเสสที่ 9 , 10 และ 10 หากเป็นการสืบราชสันตติวงศ์แบบบิดา-บุตร พระนาง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นพระราชธิดาแห่งกษัตริย์ พระมเหสีแห่งกษัตริย์ และพระราชมารดาแห่งกษัตริย์ ดูเหมือนจะ [เป็น] บุคคลที่เป็นได้ว่าจะทรงเป็นพระมเหสีในฟาโรห์รามเสสที่ 10 แต่ก็สามารถทราบข้อมูลอย่างอื่นได้
อย่างไรก็ตาม ข้อสมมติฐานของด็อดสันเกี่ยวกับตำแหน่งของพระนางติติก็ต้องถูกล้มล้างไป เนื่องจากมีการพิสูจน์ในปี ค.ศ. 2010 ว่า พระนางติติน่าจะเป็นสมเด็จพระราชินีของฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ยี่สิบก่อนหน้าช่วงเวลาดังกล่าวแทน และพระองค์ถูกกล่าวถึงในบันทึกปาปิรุสแฮร์ริสที่เสียหายเป็นบางส่วนว่า พระองค์เป็นพระมเหสีของฟาโรห์รามเสสที่ 3 ดังที่ด็อดสันเองก็รับทราบ
ฟาโรห์รามเสสที่ 10 เป็นฟาโรห์ที่ปรากฏหลักฐานยืนยันน้อยมาก ในปีที่ 2 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ได้ปรากฏในบันทึกปาปิรุสแห่งตูริน หมายเลข 1932 และ 1939 ในขณะที่ปีที่สาม 3 แห่งการครองราชย์ได้รับการบันทึกไว้ในบันทึกสุสานคนงานแห่ง ซึ่งบันทึกประจำวันดังกล่าวได้กล่าวถึงความเกียจคร้านโดยทั่วไปของคนงานในสุสาน อย่างน้อยส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากภัยคุกคามจากกลุ่มโจรชาวลิเบียในหุบเขากษัตริย์ โดยบันทึกว่าคนงานแห่งเดียร์ อัล-เมดินาได้ขาดงานในปีที่ 3 เดือนเพเรต (หรือ ฤดูหนาว) วันที่ 6, 9, 11, 12, 18, 21 และ 24 เพราะกลัว "ชาวทะเลทราย" (คือ ชาวลิเบียหรือ) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้ท่องไปในอียิปต์บนและธีบส์อย่างตามอำเภอใจ ส่วนหนึ่งเป็นภาพสะท้อนของการไหลเข้าของชาวลิเบียจำนวนมหาศาลสู่ภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ตะวันตกของอียิปต์ล่างในช่วงเวลาดังกล่าว ฟาโรห์รามเสสที่ 10 ยังเป็นฟาโรห์แห่งราชอาณาจักรใหม่พระองค์สุดท้ายที่ปกครองนิวเบีย ซึ่งได้รับการยืนยันจากคำจารึกที่
หลุมฝังศพ ของพระองค์ในหุบเขากษัตริย์ยังเสร็จไม่แล้วเสร็จ ซึ่งไม่แน่ใจว่าพระองค์ทรงเคยถูกฝังพระบรมศพไว้ที่นั่นหรือไม่ เนื่องจากไม่พบพระบรมศพหรือชิ้นส่วนของวัตถุที่ใช้ทำพระบรมศพภายในนั้น
อ้างอิง
- R. Krauss & D.A. Warburton "Chronological Table for the Dynastic Period" in Erik Hornung, Rolf Krauss & David Warburton (editors), Ancient Egyptian Chronology (Handbook of Oriental Studies), Brill, 2006. p.493
- Peter Clayton, Chronicle of the Pharaohs, Thames & Hudson Ltd., 2006 paperback, p.167
- J. von Beckerath, GM 79 (1984), 8-9
- Botti & Peet, Il Giornale della Necropoli, 55
- Botti & Peet, Il Giornale della Necropoli, 55, txt d
- K. Ohlhafer, GM 135 (1993), 59ff
- R.A. Parker, The Length of the Reign of Ramesses X, RdÉ 11 (1951), 163-164
- M. Bierbrier, JEA 58 (1972), 195-199
- M. Bierbrier, JEA 61 (1975), 251
- L.D. Bell, "Only one High Priest and the Second Prophet Nesamun his younger Son, Serapis 6 (1980), 7-27
- Aidan Dodson & Dyan Hilton: The Complete Royal Families of Ancient Egypt. Thames & Hudson, 2004, ISBN , p.191
- Mark Collier, Aidan Dodson, & Gottfried Hamernik, P. BM 10052, Anthony Harris and Queen Tyti, JEA 96 (2010), pp.242-247
- E.F. Wente & C.C. Van Siclen, "A Chronology of the New Kingdom" in Studies in Honor of George R. Hughes, (SAOC 39) 1976, p.261
- J. Cerny, "Egypt from the Death of Ramesses III" in Cambridge Archaeological History (CAH), 'The Middle East and the Aegean Region c.1380-1000 BC', 1975, p.618
- Nicolas Grimal, A History of Ancient Egypt, (Blackwell Books: 1992), p.291
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ekhepxrmaxter raemsessthi 10 hruxcaekhiynphranamwa ramess hrux raemess thrngpkkhrxngpramanrahwang 1111 pikxnkhristkal 1107 pikxnkhristkal epnfaorhaehngxiyiptobranphraxngkhthiekaaehngrachwngsthiyisib phranamprasutikhxngphraxngkh khux xamxnehxrekhephechf aelaphranamkhrxngrachy khux ekhepxrmaxter hmaythung khwamyutithrrmaehngethphraxnrksaiw raemsessthi 10xaccaekhiynphranamwa ramess hrux raemesslksnakhxngfaorhramessthi 10 bnphaphrangcaksusan odyfaorhrchkal1111 1107 pikxnkhristkalkxnhnaramessthi 9thdipphraprmaphiithyphranamhxrskhankht eskhaxaexner K3 nḫt sḫˁˁ n Rˁ phraokhxnaekhngaekrng phraxngkh phuthrngprakttwtamkhasngaehngraphranamkhrxngrachyekhepxrmaxter esethpexner Ḫpr m3ˁ t Rˁ stp n Rˁ karaesdngtnkhxngethphiaehngra phuthrngthukeluxkaehngraphranamprasutiraemsess xamunehxrekhephechf emrixamun Rˁ msj sw Jmn ḥr ḫps f mrj Jmn ethphrathrngsrangphraxngkhkhunma phrakrxnaekhngaerngaehngxamun phraxngkhphuthrngepnthirkaehngxamun raemsess xamun ehxrekhephechf Rˁ msj sw Jmn ḥr ḫps f ethphrathrngsrangphraxngkhkhunma phrakrxnaekhngaerngaehngxamun raemsess Rˁ msj sw ethphrathrngsrangphraxngkhkhunmaphrarachbutr swrrkht1107 pikxnkhristkalsusanrachwngsrachwngsthiyisib wnkhunkhrxngrachykhxngphraxngkhtrngkbeduxnthi 1 aehngvduhnaw wnthi 27 1 prt 27 pithithrngkhrxngrachysungsudkhux pithi 3 chwngewlathisungsudtamhlkthanthipraktinrchsmykhux pithi 3 eduxnthi 2 khxngvdunahlak wnthi 2 hruxxacepn pithi 3 eduxnthi 4 impraktcanwnwn enuxngcakfaorh esdckhunkhrxngrachyineduxnthi 3 khxngvdurxn wnthi 20 3 smw 20 cungepniptamodyxtonmtiwafaorhramessthi 10 catxngmiphrachnmchiphxyuinpithi 4 sungyngimprakthlkthantrwcsxb khxsnnisthandngklawepnkarnaeruxngekiywkbdarasastrmaxthibayodywafaorhramessthi 10 xaccathrngkhrxngrachyepnewla 9 pi aetkehtukarnchwngewlathiehluxkidsuyhayiptngaetnnepntnma inthanxngediywkn carukaehngthibs hmayelkh 1860 ex idklawthungpithi 8 xnsmmti aehngkarkhrxngrachykhxngfaorhramessthi 10 sungimidnamaepnhlkthansnbsnunxiktxip ixaedn dxdsn nkixyykhuptwithyachawxngkvsidekhiyniwinhnngsuxpi kh s 2004 wa imprakthlkthanidthibngchikhwamsmphnthrahwangfaorhphraxngkhsudthayxyangfaorhramessthi 9 10 aela 10 hakepnkarsubrachsnttiwngsaebbbida butr phranang sungmitaaehnngepnphrarachthidaaehngkstriy phramehsiaehngkstriy aelaphrarachmardaaehngkstriy duehmuxnca epn bukhkhlthiepnidwacathrngepnphramehsiinfaorhramessthi 10 aetksamarththrabkhxmulxyangxunid traprathbskharbkhxngfaorhramessthi 10 inobolyya xyangirktam khxsmmtithankhxngdxdsnekiywkbtaaehnngkhxngphranangtitiktxngthuklmlangip enuxngcakmikarphisucninpi kh s 2010 wa phranangtitinacaepnsmedcphrarachinikhxngfaorhaehngrachwngsthiyisibkxnhnachwngewladngklawaethn aelaphraxngkhthukklawthunginbnthukpapirusaehrristhiesiyhayepnbangswnwa phraxngkhepnphramehsikhxngfaorh ramessthi 3 dngthidxdsnexngkrbthrab faorhramessthi 10 epnfaorhthiprakthlkthanyunynnxymak inpithi 2 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkhidpraktinbnthukpapirusaehngturin hmayelkh 1932 aela 1939 inkhnathipithisam 3 aehngkarkhrxngrachyidrbkarbnthukiwinbnthuksusankhnnganaehng sungbnthukpracawndngklawidklawthungkhwamekiyckhranodythwipkhxngkhnnganinsusan xyangnxyswnhnungkenuxngmacakphykhukkhamcakklumocrchawliebiyinhubekhakstriy odybnthukwakhnnganaehngediyr xl emdinaidkhadnganinpithi 3 eduxnephert hrux vduhnaw wnthi 6 9 11 12 18 21 aela 24 ephraaklw chawthaelthray khux chawliebiyhrux sungehnidchdwaidthxngipinxiyiptbnaelathibsxyangtamxaephxic swnhnungepnphaphsathxnkhxngkarihlekhakhxngchawliebiycanwnmhasalsuphumiphakhdindxnsamehliympakaemnainltawntkkhxngxiyiptlanginchwngewladngklaw faorhramessthi 10 yngepnfaorhaehngrachxanackrihmphraxngkhsudthaythipkkhrxngniwebiy sungidrbkaryunyncakkhacarukthi hlumfngsph khxngphraxngkhinhubekhakstriyyngesrcimaelwesrc sungimaenicwaphraxngkhthrngekhythukfngphrabrmsphiwthinnhruxim enuxngcakimphbphrabrmsphhruxchinswnkhxngwtthuthiichthaphrabrmsphphayinnnxangxingR Krauss amp D A Warburton Chronological Table for the Dynastic Period in Erik Hornung Rolf Krauss amp David Warburton editors Ancient Egyptian Chronology Handbook of Oriental Studies Brill 2006 p 493 Peter Clayton Chronicle of the Pharaohs Thames amp Hudson Ltd 2006 paperback p 167 J von Beckerath GM 79 1984 8 9 Botti amp Peet Il Giornale della Necropoli 55 Botti amp Peet Il Giornale della Necropoli 55 txt d K Ohlhafer GM 135 1993 59ff R A Parker The Length of the Reign of Ramesses X RdE 11 1951 163 164 M Bierbrier JEA 58 1972 195 199 M Bierbrier JEA 61 1975 251 L D Bell Only one High Priest and the Second Prophet Nesamun his younger Son Serapis 6 1980 7 27 Aidan Dodson amp Dyan Hilton The Complete Royal Families of Ancient Egypt Thames amp Hudson 2004 ISBN 0 500 05128 3 p 191 Mark Collier Aidan Dodson amp Gottfried Hamernik P BM 10052 Anthony Harris and Queen Tyti JEA 96 2010 pp 242 247 E F Wente amp C C Van Siclen A Chronology of the New Kingdom in Studies in Honor of George R Hughes SAOC 39 1976 p 261 J Cerny Egypt from the Death of Ramesses III in Cambridge Archaeological History CAH The Middle East and the Aegean Region c 1380 1000 BC 1975 p 618 Nicolas Grimal A History of Ancient Egypt Blackwell Books 1992 p 291