ฮอรัส ซา (หรือ ซา) เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณในสมัยราชวงศ์ตอนต้น พระองค์อาจจะทรงขึ้นครองราชย์ในช่วงราชวงศ์ที่สองหรือสามของอียิปต์ การมีอยู่ของพระองค์เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ และการตีหมายของวัตถุโบราณซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันการมีอยู่ของพระองค์
ฮอรัส ซา | |
---|---|
เวเนก ? เซเนดจ์ ? ซานัคต์ ? | |
ชิ้นส่วนของภาชนะที่ปรากฏคำจารึก Ḥwt-k3 Ḥrw-z3 | |
ฟาโรห์ | |
รัชกาล | ราชวงศ์ที่สอง หรือ ราชวงศ์ที่สาม |
สุสาน | ไม่แน่นอน, สุสานชุดที่ซักกอเราะฮ์ ?, ? |
หลักฐานยืนยัน
ฟาโรห์ฮอรัส ซาทรงเป็นที่รู้จักมาจากเศษภาชนะที่มีจารึกพระนามของพระองค์ด้วยหมึกสีดำ ภาชนะดังกล่าวถูกพบในห้องโถงทางทิศตะวันออกใต้พีระมิดของฟาโรห์ดโจเซอร์ที่ซักกอเราะฮ์ เป็นคำจารึกขนาดสั้นและเขียนด้วยลายมือแบบเล่นหาง พระนามของฟาโรห์ "ฮอรัส ซา" ไม่ได้ปรากฏในเซเรคและมีการโต้แย้งในการระบุว่าเป็นพระนามฮอรัส
พระนาม "ฮอรัส ซา" ปรากฏอยู่ในจารึก Ḥwt-k3 Ḥrw-z3 ("เรือนแห่งดวงวิญญาณของฮอรัส ซา") ซึ่งพบร่วมกับนามของและมา'อา-อาเพอร์-มิน ซึ่งทั้งสองคนเป็นขุนนางตำแหน่งระดับสูงที่ทำหน้าที่ในเรือนแห่งดวงวิญญาณ (Ka-house) ในช่วงสมัยต้นราชวงศ์ของอียิปต์ เรือนแห่งดวงวิญญาณนั้นเป็นต้นแบบของวิหารบูชาพระบรมศพในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำพิธีบูชาดวงวิญญาณ (Ka) ของฟาโรห์ที่เสด็จสวรรคต คำจารึกเพิ่มเติมของ Ḥwt-k3 Ḥrw-z3 ถูกพบในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 ที่ซักกอเราะฮ์ ในบริเวณหลุมฝังศพของ และซึ่งใกล้กับหลุมฝังศพของอย่างมาก โดยมายาและเมริรา-เมรินิธเป็นขุนนางราชสำนักในช่วงปลาย ซึ่งนำสุสานจากสมัยราชวงศ์ที่สองกลับมาใช้ใหม่สำหรับตัวเอง ประมาณ 1,500 ปี หลังจากการตายของเจ้าของเดิม
การระบุตัวตน
, ดีทริช วิลดุง และ ได้เสนอว่า "ซา" เป็นคำย่อของพระนามฮอรัสว่า ซานัคต์ ส่วนได้ปฏิเสธข้อสันนิษฐานดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าจารึกหมึกจากห้องโถงใต้ดินทางตะวันออกของพีระมิดแห่งดโจเซอร์ที่ซักกอเราะฮ์ ส่วนใหญ่แล้วมาจากรัชสมัยของฟาโรห์นิเนทเจอร์หรือหลังจากนั้นไม่นาน ในขณะที่ฟาโรห์ซานัคต์ทรงครองราชย์ในช่วงกลางราชวงศ์ที่สาม นอกจากนี้ จารึกที่กล่าวถึง "เรือนแห่งดวงวิญญาณของโฮเทปเซเคมวี" ซึ่งมีลักษณะโวหารที่คล้ายกับของฟาโรห์ฮอรัส ซา ซึ่งจะระบุให้ฟาโรห์ซาทรงอยู่ในราชวงศ์ที่สอง เนื่องจากฟาโรห์โฮเทปเซเคมวีทรงเป็นผู้ปกครองพระองค์แรกของราชวงศ์ที่สอง ดังนั้น เฮ็ลท์คจึงเสนอว่า ฮอรัส ซา เป็นพระนามฮอรัสของผู้ปกครองที่ยังคลุมเครืออีกพระองค์หนึ่งของราชวงศ์ที่สองซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับฟาโรห์เวเนก ซึ่งยังไม่ทราบพระนามฮอรัส
นักไอยคุปต์วิทยาเพิ่งได้ตั้งข้อสงสัยกับข้อสมมติฐานดัง โดยระบุฟาโรห์เวเนกเป็นพระองค์เดียวกันกับฟาโรห์ราเนบ ส่วนคาพลอนียังได้สร้างพระนามฮอรัสของฟาโรห์เวเนกขึ้นใหม่จากชิ้นส่วนของศิลาแห่งปาแลร์โมว่า เวเนกเซเคมวี ในทั้งสองกรณีดัลกล่าวในข้างต้น ฮอรัส ซา ไม่สามารถเป็นพระนามฮอรัสของฟาโรห์เวเนกได้ และทั้งสองข้อนี้จะไม่ระบุว่าเป็นฟาโรห์พระองค์เดียวกัน ด้วยเหตุนี้ คาพลอนีจึงเปรียบฮอรัส ซากับฟาโรห์ njswt-bity Wr-Za-Khnwm, "กษัตริย์แห่งอียิปต์บนและล่าง เวอร์ซาคนุม" และให้ระบุระยะเวลาแห่งการครองราชย์อยู่ที่ 2 เดือน 23 วัน ในช่วงเวลาว่างกษัตริย์ระหว่างรัชสมัยของฟาโรห์คาเซเคมวีและรัชสมัยของฟาโรห์ดโจเซอร์ อย่างไรก็ตาม สมมติฐานของคาพลอนีได้ถูกโต้แย้งโดยการค้นพบตราดินเหนียวของฟาโรห์ดโจเซอร์ในหลุมฝังพระบรมศพของฟาโรห์คาเซเคมวี ซึ่งบ่งชี้ว่าเกิดการขึ้นครองราชย์ในทันทีและฟาโรห์คาเซเคมวีทรงถูกฝังพระบรมศพในภายหลัง ฮอรัส ซา อาจจะเป็นพระนามฮอรัสของฟาโรห์เซเนดจ์หรือฟาโรห์จากราชวงศ์ที่สอง ซึ่งทรงปกครองเมืองเมมฟิสในช่วงเวลาที่มีปัญหาหลังจากรัชสมัยของฟาโรห์นิเนทเจอร์
อย่างไรก็ตาม นักไอยคุปต์วิทยาอย่าง , และอิโลนา เรกูลสกี ได้โต้แย้งให้ระมัดระวังในการอ่านจารึกอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญลักษณ์รูปนกบนรูปเรือนแห่งดวงวิญญาณ ซึ่งอาจจะเป็นสัญลักษณ์รูปนกนางแอ่น ซึ่งจะทำให้จารึกอ่านว่า เวอร์-ซา-ฮุต-คา (Wer-sa-hut-Ka, "มหาพิทักษ์ของเรือนแห่งดวงวิญญาณ") แต่เรกูลสกีเห็นว่าน่าจะอ่านเป็นสัญลักษณ์รูปนกฮอรัสมากกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบอย่างชัดเจนว่าพระนามดังกล่าวจะเป็นพระนามของฟาโรห์ แต่เรกูลสกีได้ระบุช่วงจารึกของจารึกจนถึงช่วงปลายของรัชสมัยฟาโรห์คาเซเคมวี
สถานที่ฝังพระบรมศพ
ไม่ทราบสถานที่ฝังพระบรมศพของฟาโรห์ฮอรัส ซา แต่ได้เชื่อมโยงฟาโรห์ฮอรัส ซา กับพื้นที่เขตกำแพงล้อมที่ยังไม่เสร็จของ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของซักกอเราะฮ์ แต่ข้อสมมติฐานดังกล่าวไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและกิสร์ อัมมุดิร์ได้มีการอ้างถึงกับฟาโรห์จากราชวงศ์ที่สองหลายพระองค์ โดยเฉพาะฟาโรห์คาเซคเอมวี หรืออีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง นักไอยคุปต์วิทยา โยริส ฟาน วอเทอริง ได้เสนอว่าหลุมฝังศพของมหาปุโรหิตแห่ง นามว่า ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของซักกอเราะฮ์ เดิมที่แล้วหลุมฝังพระบรมศพของฟาโรห์ฮอรัส ซา เนื่องจากมีการค้นพบจารึก Ḥwt-k3 Ḥrw-z3 ในบริเวณใกล้เคียงหลุมฝังศพดังกล่าว
อ้างอิง
- Ilona Regulski: Second dynasty ink inscriptions from Saqqara paralleled in the Abydos material from the Royal Museums of Art and History in Brussels. pp. 953–959.
- Wolfgang Helck, Die Datierung der Gefäßaufschriften aus der Djoserpyramide, in: Zeitschrift für ägyptische Sprache und Altertumskunde 106, 1979, ISSN 0044-216X, pp. 120–132.
- Joris van Wetering: The Royal Cemetery of the Early Dynastic Period at Saqqara and the Second Dynasty Royal Tombs, in Proceedings of the Krakow Conference, 2002.
- René van Walsem, Sporen van een revolutie in Saqqara. Het nieuw ontdekte graf van Meryneith alias Meryre en zijn plaats in de Amarnaperiode, Phoenix : bulletin uitgegeven door het Vooraziatisch-Egyptisch Genootschap Ex Oriente Lux, 47 (1-2), pp. 69-89.; see also M. J. Raven and R. Walsem: Preliminary report on the Leiden Excavations at Saqqara, 2001, 2003, 2004, 2007, Complete list 17 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Thomas Schneider: Lexikon der Pharaonen, p. 243.
- Wolfgang Helck: Untersuchungen zur Thinitenzeit, p. 103 and 108.
- Jochem Kahl, Ra is my Lord - Searching for the rise of the Sun God at the dawn of Egyptian history, Harrassowitz, Wiesbaden 2007, ISBN , pp. 12–14 & 74.
- Peter Kaplony: Steingefässe mit Inschriften der Frühzeit und das Alten Reiches. Monographies Reine Elisabeth, Bruxelles 1968
- Peter Kaplony: Die Inschriften der Ägyptischen Frühzeit. O. Harrassowitz, Wiesbaden 1963, pp. 380, 468 & 611.
- Toby Wilkinson: Early Dynastic Egypt. Routledge, London 1999, p. 83 & 95
- Thomas Von der Way: Zur Datierung des "Labyrinth-Gebäudes" auf dem Tell el-Fara'in (Buto), in: Göttinger Miszellen 157, 1997, 107-111
บรรณานุกรม
- Thomas Schneider: Lexikon der Pharaonen, Albatros, Düsseldorf 2002, ISBN
- & : La Pyramide à Degrés V. – Inscriptions Gravées sur les Vases: Fouilles à Saqqarah, Service des antiquités de l'Égypte, Kairo 1936
- : Untersuchungen zur Thinitenzeit. Harrassowitz, Wiesbaden 1987, ISBN
- Nabil Swelim: Some Problems on the History of the Third Dynasty, Archaeology Society, Alexandria 1983
- Ilona Regulski: Second dynasty ink inscriptions from Saqqara paralleled in the Abydos material from the Royal Museums of Art and History in Brussels. In: Stan Hendrickx, R.F. Friedman, Barbara Adams & K. M. Cialowicz: Egypt at its origins. Studies in memory of Barbara Adams. Proceedings of the international Conference „Origin of the State, Predynastic and Early Dynastic Egypt“, Kraków, 28th August – 1st September 2002 (= Orientalia Lovaniensia analecta. Vol. 138). Peeters Publishers, Leuven (NL) 2004, ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hxrs sa hrux sa epnfaorhaehngxiyiptobraninsmyrachwngstxntn phraxngkhxaccathrngkhunkhrxngrachyinchwngrachwngsthisxnghruxsamkhxngxiyipt karmixyukhxngphraxngkhepnthithkethiyngknxyu aelakartihmaykhxngwtthuobransungcaepnekhruxngyunynkarmixyukhxngphraxngkhhxrs saewenk esendc sankht chinswnkhxngphachnathipraktkhacaruk Ḥwt k3 Ḥrw z3faorhrchkalrachwngsthisxng hrux rachwngsthisamphraprmaphiithysusanimaennxn susanchudthiskkxeraah hlkthanyunynfaorhhxrs sathrngepnthiruckmacakessphachnathimicarukphranamkhxngphraxngkhdwyhmuksida phachnadngklawthukphbinhxngothngthangthistawnxxkitphiramidkhxngfaorhdocesxrthiskkxeraah epnkhacarukkhnadsnaelaekhiyndwylaymuxaebbelnhang phranamkhxngfaorh hxrs sa imidpraktineserkhaelamikarotaeynginkarrabuwaepnphranamhxrs phranam hxrs sa praktxyuincaruk Ḥwt k3 Ḥrw z3 eruxnaehngdwngwiyyankhxnghxrs sa sungphbrwmkbnamkhxngaelama xa xaephxr min sungthngsxngkhnepnkhunnangtaaehnngradbsungthithahnathiineruxnaehngdwngwiyyan Ka house inchwngsmytnrachwngskhxngxiyipt eruxnaehngdwngwiyyannnepntnaebbkhxngwiharbuchaphrabrmsphinewlatxma sungepnsthanthithithaphithibuchadwngwiyyan Ka khxngfaorhthiesdcswrrkht khacarukephimetimkhxng Ḥwt k3 Ḥrw z3 thukphbinchwngkhristthswrrsthi 1980 thiskkxeraah inbriewnhlumfngsphkhxng aelasungiklkbhlumfngsphkhxngxyangmak odymayaaelaemrira emrinithepnkhunnangrachsankinchwngplay sungnasusancaksmyrachwngsthisxngklbmaichihmsahrbtwexng praman 1 500 pi hlngcakkartaykhxngecakhxngedimkarrabutwtn dithrich wildung aela idesnxwa sa epnkhayxkhxngphranamhxrswa sankht swnidptiesthkhxsnnisthandngklawodyihehtuphlwacarukhmukcakhxngothngitdinthangtawnxxkkhxngphiramidaehngdocesxrthiskkxeraah swnihyaelwmacakrchsmykhxngfaorhnienthecxrhruxhlngcaknnimnan inkhnathifaorhsankht thrngkhrxngrachyinchwngklangrachwngsthisam nxkcakni carukthiklawthung eruxnaehngdwngwiyyankhxngohethpesekhmwi sungmilksnaowharthikhlaykbkhxngfaorhhxrs sa sungcarabuihfaorhsathrngxyuinrachwngsthisxng enuxngcakfaorhohethpesekhmwithrngepnphupkkhrxngphraxngkhaerkkhxngrachwngsthisxng dngnn ehlthkhcungesnxwa hxrs sa epnphranamhxrskhxngphupkkhrxngthiyngkhlumekhruxxikphraxngkhhnungkhxngrachwngsthisxngsungxaccaekiywkhxngkbfaorhewenk sungyngimthrabphranamhxrs nkixykhuptwithyaephingidtngkhxsngsykbkhxsmmtithandng odyrabufaorhewenkepnphraxngkhediywknkbfaorhraenb swnkhaphlxniyngidsrangphranamhxrskhxngfaorhewenkkhunihmcakchinswnkhxngsilaaehngpaaelromwa ewenkesekhmwi inthngsxngkrnidlklawinkhangtn hxrs sa imsamarthepnphranamhxrskhxngfaorhewenkid aelathngsxngkhxnicaimrabuwaepnfaorhphraxngkhediywkn dwyehtuni khaphlxnicungepriybhxrs sakbfaorh njswt bity Wr Za Khnwm kstriyaehngxiyiptbnaelalang ewxrsakhnum aelaihraburayaewlaaehngkarkhrxngrachyxyuthi 2 eduxn 23 wn inchwngewlawangkstriyrahwangrchsmykhxngfaorhkhaesekhmwiaelarchsmykhxngfaorhdocesxr xyangirktam smmtithankhxngkhaphlxniidthukotaeyngodykarkhnphbtradinehniywkhxngfaorhdocesxrinhlumfngphrabrmsphkhxngfaorhkhaesekhmwi sungbngchiwaekidkarkhunkhrxngrachyinthnthiaelafaorhkhaesekhmwithrngthukfngphrabrmsphinphayhlng hxrs sa xaccaepnphranamhxrskhxngfaorhesendchruxfaorhcakrachwngsthisxng sungthrngpkkhrxngemuxngemmfisinchwngewlathimipyhahlngcakrchsmykhxngfaorhnienthecxr xyangirktam nkixykhuptwithyaxyang aelaxiolna erkulski idotaeyngihramdrawnginkarxancarukxyangthuktxng odyechphaaxyangyingsylksnrupnkbnruperuxnaehngdwngwiyyan sungxaccaepnsylksnrupnknangaexn sungcathaihcarukxanwa ewxr sa hut kha Wer sa hut Ka mhaphithkskhxngeruxnaehngdwngwiyyan aeterkulskiehnwanacaxanepnsylksnrupnkhxrsmakkwa thungaemwacaimthrabxyangchdecnwaphranamdngklawcaepnphranamkhxngfaorh aeterkulskiidrabuchwngcarukkhxngcarukcnthungchwngplaykhxngrchsmyfaorhkhaesekhmwisthanthifngphrabrmsphimthrabsthanthifngphrabrmsphkhxngfaorhhxrs sa aetidechuxmoyngfaorhhxrs sa kbphunthiekhtkaaephnglxmthiyngimesrckhxng sungtngxyuthangtawntkkhxngskkxeraah aetkhxsmmtithandngklawimidrbkaryxmrbxyangkwangkhwangaelakisr xmmudiridmikarxangthungkbfaorhcakrachwngsthisxnghlayphraxngkh odyechphaafaorhkhaeskhexmwi hruxxikkhxsnnisthanhnung nkixykhuptwithya oyris fan wxethxring idesnxwahlumfngsphkhxngmhapuorhitaehng namwa sungtngxyuthangtxnehnuxkhxngskkxeraah edimthiaelwhlumfngphrabrmsphkhxngfaorhhxrs sa enuxngcakmikarkhnphbcaruk Ḥwt k3 Ḥrw z3 inbriewniklekhiynghlumfngsphdngklawxangxingIlona Regulski Second dynasty ink inscriptions from Saqqara paralleled in the Abydos material from the Royal Museums of Art and History in Brussels pp 953 959 Wolfgang Helck Die Datierung der Gefassaufschriften aus der Djoserpyramide in Zeitschrift fur agyptische Sprache und Altertumskunde 106 1979 ISSN 0044 216X pp 120 132 Joris van Wetering The Royal Cemetery of the Early Dynastic Period at Saqqara and the Second Dynasty Royal Tombs in Proceedings of the Krakow Conference 2002 Rene van Walsem Sporen van een revolutie in Saqqara Het nieuw ontdekte graf van Meryneith alias Meryre en zijn plaats in de Amarnaperiode Phoenix bulletin uitgegeven door het Vooraziatisch Egyptisch Genootschap Ex Oriente Lux 47 1 2 pp 69 89 see also M J Raven and R Walsem Preliminary report on the Leiden Excavations at Saqqara 2001 2003 2004 2007 Complete list 17 minakhm 2016 thi ewyaebkaemchchin Thomas Schneider Lexikon der Pharaonen p 243 Wolfgang Helck Untersuchungen zur Thinitenzeit p 103 and 108 Jochem Kahl Ra is my Lord Searching for the rise of the Sun God at the dawn of Egyptian history Harrassowitz Wiesbaden 2007 ISBN 3 447 05540 5 pp 12 14 amp 74 Peter Kaplony Steingefasse mit Inschriften der Fruhzeit und das Alten Reiches Monographies Reine Elisabeth Bruxelles 1968 Peter Kaplony Die Inschriften der Agyptischen Fruhzeit O Harrassowitz Wiesbaden 1963 pp 380 468 amp 611 Toby Wilkinson Early Dynastic Egypt Routledge London 1999 p 83 amp 95 Thomas Von der Way Zur Datierung des Labyrinth Gebaudes auf dem Tell el Fara in Buto in Gottinger Miszellen 157 1997 107 111brrnanukrmThomas Schneider Lexikon der Pharaonen Albatros Dusseldorf 2002 ISBN 3 491 96053 3 amp La Pyramide a Degres V Inscriptions Gravees sur les Vases Fouilles a Saqqarah Service des antiquites de l Egypte Kairo 1936 Untersuchungen zur Thinitenzeit Harrassowitz Wiesbaden 1987 ISBN 3 447 02677 4 Nabil Swelim Some Problems on the History of the Third Dynasty Archaeology Society Alexandria 1983 Ilona Regulski Second dynasty ink inscriptions from Saqqara paralleled in the Abydos material from the Royal Museums of Art and History in Brussels In Stan Hendrickx R F Friedman Barbara Adams amp K M Cialowicz Egypt at its origins Studies in memory of Barbara Adams Proceedings of the international Conference Origin of the State Predynastic and Early Dynastic Egypt Krakow 28th August 1st September 2002 Orientalia Lovaniensia analecta Vol 138 Peeters Publishers Leuven NL 2004 ISBN 90 429 1469 6