บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
พลับพลา (อังกฤษ: tabernacle) ได้ถูกกล่าวถึงในพระธรรมอพยพ พระเจ้าทรงบัญชาให้โมเสส สร้างสถานนมัสการพระเจ้าขึ้น เป็นเต็นท์ที่ประทับ และจัดทำองค์ประกอบต่าง ๆ ของสถานนมัสการนั้นขึ้น
ม่านพลับพลา
พลับพลาประกอบด้วยม่าน จำนวน 10 ผืน ผ้าม่านแต่ละผืน ทำด้วยผ้าป่านเนื้อดี และผ้าทอด้วยด้ายย้อมสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และมีรูปเครูปบนผ้าม่านนั้น ผ้าม่านแต่ละผืนยาว 28 ศอก กว้าง 4 ศอก ผ้าม่านนี้คล้องขอเกี่ยวกันเป็น 2 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยผ้าม่าน 5 ผืน ผ้าม่ามแต่ละชุดจะมีหู จำนวน 50 หู ซึ่งคล้องด้วยขอทองคำให้เกี่ยวกันไว้
นอกจากนี้ ยังมีม่านที่ทำด้วยขนแพะ สำหรับเป็นเต็นท์คลุมพลับพลาชั้นนอกอีก 11 ผืน ผ้าม่านขนแพะแต่ละผืนจะยาว 30 ศอก กว้าง 4 ศอก ผ้าม่านแต่ละผืนมีหว่ง 50 หูติดกับขอบผ้าม่านแต่ละชุด ผ้าม่านชุดที่หนึ่งจะมีผ้าม่านขนแพะ 5 ผืน ผ้าม่านชุดที่สอง มีผ้าม่านขนแพะ 6 ผืน มีขอทองสัมฤทธิ์ เกี่ยวที่หูของผ้าม่าน ทำให้เป็นผืนเดียวกัน
ด้านบนของพลับพลา ใช้หนังแกะตัวผู้ ย้อมสีแดงชั้นหนึ่ง และคลุมหลังด้วยทาคัชอีกชั้นหนึ่ง
ไม้กรอบสำหรับทำพลับพลา ใช้ไม้กระถินเทตตั้งตรง แต่ละแผ่นกว้าง ศอกเศษ ยาว 10 ศอก มีเดือยชิ้นละ 2 อัน ทำฐานรองรับด้วยเงิน ชิ้นละ 2 ฐาน จำนวนไม้กรอบทั้งสั้น 48 แผ่น ใช้สำหรับกรอบด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ทิศละ 20 แผ่น และใช้สำหรบกรอบทางด้านหลัง ใช้ไม้กรอบจำนวน 6 แผ่น และใช้สำหรับมุมอีก 2 แผ่น
สิ่งของประกอบพลับพลา
กำหนดของพระเจ้า ทรงให้นำหีบพระโอวาทไว้ในพลับพลา และวางพระที่นั่งกรุณาบนหีบพระโอวาท และทำผ้าม่านด้วยผ้าทอกั้นไว้ เป็นการแบ่งพื้นที่ระหว่างวิสุทธิสถาน(พื้นที่ลานพลับพลา) และอภิสุทธิสถาน(พื้นที่พลับพลา) และทรงกำหนดเครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีสำหรับใช้ในพลับพลาดังนี้
ลานพลับพลา
ลานพลับพลานี้ โมเสสได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้สร้าง มีรั้วทางด้านทิศเหนือ และทิศใต้ยาวด้านละ 100 ศอก ทำด้วยผ้าป่านเนื้อดี มีเสา และฐานทองสัมฤทธิ์รองรับเสาด้านละ 20 ต้น รั้วทางด้านทิศตะวันตก และทิศตะวันออก ยาวด้านละ 50 ศอก มีเสาด้านละ 10 ต้น ประตูทางเข้าอยู่ทางด้านทิศตะวันออก มีบานประตู 2 บาน ความกว้างบานละ 15 ศอก บังประตูด้วยผ้าป่าน และผ้าสีฟ้า สี่ม่วง สีแดงเข้ม
หีบพระโอวาท
หีบพระโอวาท หรือ หีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้า Ark of Covernance เป็นหีบสำคัญ เนื่องจากภายในได้บรรจุ แผ่นศิลาจารึกคำสอนของพระเจ้า ซึ่งอิสราเอลถือได้ว่าเป็นเสมือนตัวแทนพระเจ้าทีเดียว และหีบพระโอวาทมีบทบาทต่ออิสราเอลในยุคต่าง ๆ มาก เช่น
- เมื่ออิสราเอลต้องการยึดเมือง แม้เมืองจะมีกำแพงเข้มแข็ง แต่อิสราเอลได้เพียงแต่เดินขบวนรอบกำแพงเมือง โดยมีปุโรหิต และหีบพระโอวาทนำหน้า กำแพงเมืองเยรีโค ก็ถล่มราบลงต่อหน้าอิสราเอล
- เมื่อคนฟีลิสเตียมาบุกอิสราเอล และได้ยึดหีบพระโอวาทไปวางไว้ในวิหารแห่งพระดาโกน เมื่อเช้าขึ้นมา พระดาโกนก็ล้มคว่ำหน้าลงมายังพื้นดินตรงหน้าหีบพระโอวาท และเมื่อชาวฟีลิสเตียยกพระดาโกนขึ้นตั้ง วันรุ่งขึ้น พระดาโกนก็ล้มลง เศียรพระดาโกนก็หักออก
- เมื่อกษัตริย์ดาวิด ได้นำหีบพระโอวาทกลับมาจากชาวฟีลิสเตีย ได้นำหีบพระโอวาทขึ้นเกวียนบรรทุก โดยมีอุสซาห์ และอาบีนาดับเป็นผู้ดูแล เมื่อระหว่างทางโคสะดุด อุสซาห์ได้เอื้อมมือไปจับหีบพระโอวาท พระพิโรธของพระเจ้าก็ขึ้นกับอุสซาห์ และทรงประหารเขาที่นั่นเพราะเขาเหยียดมือออกจับหีบนั้น (ทั้งนี้ เนื่องจากในพระบัญญัติห้ามมิให้บุคคลทั่วไปแตะต้องหีบพระโอวาท การขนส่งหีบพระโอวาทให้กระทำโดยการหาบด้วยคานหาม)
ในการสร้างหีบพระโอวาทนั้น พระเจ้าทรงบัญชาผ่านโมเสสที่ภูเขาซีนาย ดังนี้ "ให้เขาทำหีบใบหนึ่งด้วยไม้กระถินเทศ ยาว 2 ศอกคืบ กว้างศอกคืบ และสูงศอกคืบ หีบนั้นหุ้มด้วยทองคำบริสุทธิ์ทั้งด้านในและด้านนอก แล้วทำกระจังคาดรอบหีบนั้นด้วยทองคำ ให้หล่อห่วงทองคำสี่ห่วงสำหรับหีบนั้น ติดไว้ที่มุมทั้งสี่ ...ทำคันหามด้วยไม้กระถินเทศหุ้มด้วยทองคำสำหรับยกหีบนั้น...ไม้คานหามให้สอดไว้ในห่วงของหีบอย่าถอดเลย...แล้วจงทำพระที่นั่งกรุณาด้วยทองคำบริสุทธิ์ ยาวสองศอกคืบ สูงศอกคืบ จงทำเครูบทองคำ 2 รูปตั้งไว้ที่ปลายพระที่นั่งกรุณาทั้งสองข้าง ให้ตอนปลายเครูบทั้งสองข้างติดเป็นเนื้อเดียวกับพระที่นั่งทองคำ ให้เครูบกางปีกออกปกพระที่นั่งกรุณา แล้วตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบ..."
แท่นเครื่องเผาบูชา
แท่นสำหรับเผาเครื่องเผาบูชา ในพลับพลานั้น ทำด้วยไม้กระถินเทศหุ้มด้วยทองคำ เช่นเดียวกับวัสดุอื่น ๆ ในพลับพลา มีขนาดกว้าง 5 ศอก ยาว 5 ศอก และสูง 3 ศอก มีเชิงงอนติดไว้ที่มุมทั้งสี่ด้าน
แท่นเครื่องเผาบูชา มีเครื่องประกอบอื่น ซึ่งทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ประกอบด้วย หม้อสำหรับใส่ขึ้เถ้า ทัพพี ชาม ขอเกี่ยวเนื้อ และถาดรองไฟ นอกจากนี้ยังมีตาข่ายประดับแท่น ติดรอบแท่นในระดับที่ต่ำกว่ากระจัง โดยห้อยตั้งแต่กลางแท่นลงไป และมีห่วงทองสัมฤทธิ์ติดที่มุมทั้งสี่ของตาข่าย มีไม้คานหามทำจากไม้มะกอกเทศ หุ้มทองสัมฤทธิ์
แท่นเครื่องหอม
แท่นสำหรับเผาเครื่องหอมทำจากไม้มะถินเทศหุ้มด้วยทองคำ ขนาดกว้างxยาวxสูง 1x1x2 ศอก มีเชิงงอนมุมแท่น และกระจังทองคำล้อมรอบ มีห่วงทองคำ 2 อยู่ใต้กระจังด้านละห่วงตรงข้ามกัน มีไม้สำหรับหาม ทำด้วยไม้กระถินเทศหุ้มทองคำ
แท่นสำหรับเผาเครื่องหอมนี้ ถูกไว้ใกล้กับหีบพระโอวาท และมอบหมายให้ปุโรหิตเผาเครื่องหอมวันละ 2 ครั้ง คือเช้าและเย็น เช่นเดียวกันกับการจุดทันประทีป
โต๊ะขนมหน้าพระพักตร์
ในพลับพลา มีโต๊ะสำหรับวางขนมปังหน้าพระพักตร์ ซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาแก่โมเสสไว้ว่า "จงเอาไม้กระถินเทศมาทำโต๊ะตัวหนึ่ง ยาวสองศอก กว้างหนึ่งศอก สูงสองคืบ...หุ้มโต๊ะนั้นด้วยทองคำ...ประกับโต๊ะให้กว้างหนึ่งฝ่ามือโดยรอบ แล้วทำกระจังทองคำประกอบให้รอบประกับนั้น...จงทำห่วงทองคำติดไว้ที่มุมขาโต๊ะทั้งสี่ ติดกับกระจังเพื่อเอาไว้สอดคานหาม...จงทำคานหามด้วยไม้มะกอกเทศ หุ้มด้วยทองคำ...จงทำจาน ชาม ช้อน คนโท และอ่างน้ำที่ใช้สำหรับรินเครื่องดื่มบูชา เหล่านี้ด้วยทองคำบริสุทธิ์..."
คันประทีปทองคำ
ตามพระบ้ญชาของพระเจ้า ในพลับพลาจะมีคันประทีป 1 อัน ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ โดยมีรายละเอียดที่ระบุไว้ในพระคัมภีร์ดังนี้ ฐานและลำดัวของคันประทีปนั้น ให้ใช้ค้อนทำดอก คือ ฐานดอกและกลีบติดเป็นเนื้อเดียวกันกับคันประทีป ให้มีกิ่ง 6 กิ่งแยกจากคันประทีปนั้น ข้างละ 3 กิ่ง
กิ่งหนึ่งมีดอก เหมือนดอกอัลมันด์ 3 ดอก ทุกดอกมีฐานดอก และกลีบดอก ใต้กิ่งทุก ๆ คู่ ทั้งหกกิ่งที่ลำประทีป มีกระเปาะเป็นเนื้อเดียวกับคันประทีป แต่สำหรับตัวคันประทีป มีดอกเหมือนดอกอัลมันด์ 4 ดอก และคันประทีปนี้มีตะเกียงทั้งสิ้น 7 ดวง
ประทีปในพลับพลา จะต้องเติมด้วยน้ำมันมะกอกเทศบริสุทธิ์ และให้ประทีปนี้ส่องสว่างตลอดเวลา และกำหนดให้ปุโรหิตเป็นผู้ดูแลประทีปนี้ตั้งแต่พลบค่ำจนถึงหัวรุ่ง
นอกจากดวงประทีปแล้ว ยังมีตะไกรตัดใส้ตะเกียง และถาดใส่ตะไกรตัดใส้ตะเกียง โดยทั้ง 3 สิ่งนี้ ได้แก่ คันประทีป กรรไกรตัดใส้ตะเกียง และถาดใส่ตะไกร ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก 1 ตะลันต์
น้ำมันเจิม และเครื่องหอม
ในพระธรรมอพยพ พระเจ้าตรัสสั่งโมเสสถึงสูตรปรุงน้ำมันเจิม และเครื่องหอมไว้ และให้เป็นสูตรเฉพาะสำหรับการเป็นน้ำมันเจิมเท่านั้น ไม่ทรงอนุญาตให้นำไปใช้ชโลมผู้คนทั่วไป โดยน้ำมันเจิมนี้ใช้สำหรับเจิมปุโรหิต เต้นท์นัดพบ หีบพระโอวาท คันประทีป แท่นเครื่องเผาบูชา แท่นเครื่องหอมบูชา และสิ่งต่าง ๆ ที่ใช้ในพลับพลาของพระเจ้า
องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ มดยอบน้ำหนัก 500 เชเขล อบเชยหอมหนัก 250 เชเชล ตะไคร้ 250 เชเชล การบูร 500 เชเชล และน้ำมันมะกอกเทศ 1 ฮิน แล้วนำไปปรุงด้วยศิลปของช่างปรุงน้ามัน
เครื่องโลหะสำหรับวิสทุธิสถาน
ในสถานนมัสการ มีอุปกรณ์ประกอบหลายอย่างที่ต้องใช้ประกอบกับบรรดาองค์ประกอบแต่ละตัวของพลับพลา อาทิ
- ขันทองสัมฤทธิ์ สำหรับการล้างชำระ
- พานทองสัมฤทธิ์
- ม่านบังตา
ในการสร้างพลับพลา และอุปกรณ์ประกอบในพลับพลา พระธรรมอพยพระบุไว้ว่า ได้จากการรวบรวมจากชาวอิสราเอลที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 603,550 คน รวบรวมได้ทองคำ ทั้งสิ้น 29 ตะลันต์ กับ 730 เชเขล และเงิน ทั้งสิ้น 1,770 เชเขล
มาตราส่วน
การเทียบมาตรหน่วยวัด ในพันธสัญญาเดิม
- 1 ศอก = 44.42 เซนติเมตร
- 1 คืบ = 22.21 เซนติเมตร
- 1 เชเขล = 11.424 กรัม
- 1 ตะลันต์ = 34.272 กิโลกรัม
อ้างอิง
- พระธรรมอพยพ บทที่ 26
- พลับพลาแบบนี้ ใช้จนกระทั่งถึงสมัยของกษัตริย์ดาวิด ก็มีการเปลี่ยนแปลงสร้างใหม่ต่างไปจากเดิม
- พระธรรมอพยพ บทที่ 20
- พระธรรมโยชูวา บทที่ 6 ข้อที่ 1-27
- พระธรรม 1ซามูเอล บทที่ 5 ข้อที่ 1-12
- พระธรรม 2ซามูเอล บทที่ 6 ข้อที่ 1-11
- พระธรรมอพยพ บทที่ 25 ข้อที่ 10-22 และพระธรรมอพยพ บทที่ 37 ข้อที่ 1-9
- พระธรรมอพยพ บทที่ 27 ข้อที่ 1-8 และพระธรรมอพยพ บทที่ 38 ข้อที่ 1-7
- พระธรรมอพยพ บทที่ 30 ข้อที่ 1-10 และพระธรรมอพยพ บทที่ 37 ข้อที่ ข้อ 25-28
- พระธรรมอพยพ บทที่ 25 ข้อที่ 23-30 และพระธรรมอพยพ บทที่ 37 ข้อที่ 10-16
- พระธรรมอพยพ บทที่ 27 ข้อที่ 20-21
- พระธรรมอพยพ บทที่ 25 ข้อที่ 31-40 และพระธรรมอพยพ บทที่ 37 ข้อที่ 17-24
- พระธรรมอพยพ บทที่ 30 ข้อที่ 22-38 และพระธรรมอพยพ บทที่ 37 ข้อที่ 29
- พระธรรมอพยพ บทที่ ข้อที่ 17-21
- พระธรรมอพยพ บทที่ 38 ข้อที่ 21-31
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับเรียงพิมพ์ใหม่ ปี พ.ศ. 2541 (1998)
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul phlbphla khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phlbphla xngkvs tabernacle idthukklawthunginphrathrrmxphyph phraecathrngbychaihomess srangsthannmskarphraecakhun epnetnththiprathb aelacdthaxngkhprakxbtang khxngsthannmskarnnkhunphlbphlacalxngin praethsxisraexlmanphlbphlaphlbphlaprakxbdwyman canwn 10 phun phamanaetlaphun thadwyphapanenuxdi aelaphathxdwydayyxmsifa simwng siaedngekhm aelamirupekhrupbnphamannn phamanaetlaphunyaw 28 sxk kwang 4 sxk phamannikhlxngkhxekiywknepn 2 chud aetlachudprakxbdwyphaman 5 phun phamamaetlachudcamihu canwn 50 hu sungkhlxngdwykhxthxngkhaihekiywkniw nxkcakni yngmimanthithadwykhnaepha sahrbepnetnthkhlumphlbphlachnnxkxik 11 phun phamankhnaephaaetlaphuncayaw 30 sxk kwang 4 sxk phamanaetlaphunmihwng 50 hutidkbkhxbphamanaetlachud phamanchudthihnungcamiphamankhnaepha 5 phun phamanchudthisxng miphamankhnaepha 6 phun mikhxthxngsmvththi ekiywthihukhxngphaman thaihepnphunediywkn danbnkhxngphlbphla ichhnngaekatwphu yxmsiaedngchnhnung aelakhlumhlngdwythakhchxikchnhnung imkrxbsahrbthaphlbphla ichimkrathinethttngtrng aetlaaephnkwang sxkess yaw 10 sxk mieduxychinla 2 xn thathanrxngrbdwyengin chinla 2 than canwnimkrxbthngsn 48 aephn ichsahrbkrxbdanthistawnxxk aelathistawntk thisla 20 aephn aelaichsahrbkrxbthangdanhlng ichimkrxbcanwn 6 aephn aelaichsahrbmumxik 2 aephnsingkhxngprakxbphlbphlakahndkhxngphraeca thrngihnahibphraoxwathiwinphlbphla aelawangphrathinngkrunabnhibphraoxwath aelathaphamandwyphathxkniw epnkaraebngphunthirahwangwisuththisthan phunthilanphlbphla aelaxphisuththisthan phunthiphlbphla aelathrngkahndekhruxngich aelaxupkrntang thimisahrbichinphlbphladngni lanphlbphla lanphlbphlani omessidrbbychacakphraecaihsrang mirwthangdanthisehnux aelathisityawdanla 100 sxk thadwyphapanenuxdi miesa aelathanthxngsmvththirxngrbesadanla 20 tn rwthangdanthistawntk aelathistawnxxk yawdanla 50 sxk miesadanla 10 tn pratuthangekhaxyuthangdanthistawnxxk mibanpratu 2 ban khwamkwangbanla 15 sxk bngpratudwyphapan aelaphasifa simwng siaedngekhm hibphraoxwath hibphraoxwath hrux hibphnthsyyaaehngphraeca Ark of Covernance epnhibsakhy enuxngcakphayinidbrrcu aephnsilacarukkhasxnkhxngphraeca sungxisraexlthuxidwaepnesmuxntwaethnphraecathiediyw aelahibphraoxwathmibthbathtxxisraexlinyukhtang mak echn emuxxisraexltxngkaryudemuxng aememuxngcamikaaephngekhmaekhng aetxisraexlidephiyngaetedinkhbwnrxbkaaephngemuxng odymipuorhit aelahibphraoxwathnahna kaaephngemuxngeyriokh kthlmrablngtxhnaxisraexl emuxkhnfilisetiymabukxisraexl aelaidyudhibphraoxwathipwangiwinwiharaehngphradaokn emuxechakhunma phradaoknklmkhwahnalngmayngphundintrnghnahibphraoxwath aelaemuxchawfilisetiyykphradaoknkhuntng wnrungkhun phradaoknklmlng esiyrphradaoknkhkxxk emuxkstriydawid idnahibphraoxwathklbmacakchawfilisetiy idnahibphraoxwathkhunekwiynbrrthuk odymixussah aelaxabinadbepnphuduael emuxrahwangthangokhsadud xussahidexuxmmuxipcbhibphraoxwath phraphiorthkhxngphraecakkhunkbxussah aelathrngpraharekhathinnephraaekhaehyiydmuxxxkcbhibnn thngni enuxngcakinphrabyytihammiihbukhkhlthwipaetatxnghibphraoxwath karkhnsnghibphraoxwathihkrathaodykarhabdwykhanham inkarsranghibphraoxwathnn phraecathrngbychaphanomessthiphuekhasinay dngni ihekhathahibibhnungdwyimkrathineths yaw 2 sxkkhub kwangsxkkhub aelasungsxkkhub hibnnhumdwythxngkhabrisuththithngdaninaeladannxk aelwthakracngkhadrxbhibnndwythxngkha ihhlxhwngthxngkhasihwngsahrbhibnn tidiwthimumthngsi thakhnhamdwyimkrathinethshumdwythxngkhasahrbykhibnn imkhanhamihsxdiwinhwngkhxnghibxyathxdely aelwcngthaphrathinngkrunadwythxngkhabrisuththi yawsxngsxkkhub sungsxkkhub cngthaekhrubthxngkha 2 ruptngiwthiplayphrathinngkrunathngsxngkhang ihtxnplayekhrubthngsxngkhangtidepnenuxediywkbphrathinngthxngkha ihekhrubkangpikxxkpkphrathinngkruna aelwtngphrathinngkrunanniwbnhib aethnekhruxngephabucha aethnsahrbephaekhruxngephabucha inphlbphlann thadwyimkrathinethshumdwythxngkha echnediywkbwsduxun inphlbphla mikhnadkwang 5 sxk yaw 5 sxk aelasung 3 sxk miechingngxntidiwthimumthngsidan aethnekhruxngephabucha miekhruxngprakxbxun sungthadwythxngsmvththi prakxbdwy hmxsahrbiskhuetha thphphi cham khxekiywenux aelathadrxngif nxkcakniyngmitakhaypradbaethn tidrxbaethninradbthitakwakracng odyhxytngaetklangaethnlngip aelamihwngthxngsmvththitidthimumthngsikhxngtakhay miimkhanhamthacakimmakxkeths humthxngsmvththi aethnekhruxnghxm aethnsahrbephaekhruxnghxmthacakimmathinethshumdwythxngkha khnadkwangxyawxsung 1x1x2 sxk miechingngxnmumaethn aelakracngthxngkhalxmrxb mihwngthxngkha 2 xyuitkracngdanlahwngtrngkhamkn miimsahrbham thadwyimkrathinethshumthxngkha aethnsahrbephaekhruxnghxmni thukiwiklkbhibphraoxwath aelamxbhmayihpuorhitephaekhruxnghxmwnla 2 khrng khuxechaaelaeyn echnediywknkbkarcudthnprathip otakhnmhnaphraphktr khnprathipthxngkha inphlbphla miotasahrbwangkhnmpnghnaphraphktr sungphraecathrngbychaaekomessiwwa cngexaimkrathinethsmathaotatwhnung yawsxngsxk kwanghnungsxk sungsxngkhub humotanndwythxngkha prakbotaihkwanghnungfamuxodyrxb aelwthakracngthxngkhaprakxbihrxbprakbnn cngthahwngthxngkhatidiwthimumkhaotathngsi tidkbkracngephuxexaiwsxdkhanham cngthakhanhamdwyimmakxkeths humdwythxngkha cngthacan cham chxn khnoth aelaxangnathiichsahrbrinekhruxngdumbucha ehlanidwythxngkhabrisuththi khnprathipthxngkha tamphrabychakhxngphraeca inphlbphlacamikhnprathip 1 xn thadwythxngkhabrisuththi odymiraylaexiydthirabuiwinphrakhmphirdngni thanaelaladwkhxngkhnprathipnn ihichkhxnthadxk khux thandxkaelaklibtidepnenuxediywknkbkhnprathip ihmiking 6 kingaeykcakkhnprathipnn khangla 3 king kinghnungmidxk ehmuxndxkxlmnd 3 dxk thukdxkmithandxk aelaklibdxk itkingthuk khu thnghkkingthilaprathip mikraepaaepnenuxediywkbkhnprathip aetsahrbtwkhnprathip midxkehmuxndxkxlmnd 4 dxk aelakhnprathipnimitaekiyngthngsin 7 dwng prathipinphlbphla catxngetimdwynamnmakxkethsbrisuththi aelaihprathipnisxngswangtlxdewla aelakahndihpuorhitepnphuduaelprathipnitngaetphlbkhacnthunghwrung nxkcakdwngprathipaelw yngmitaikrtdistaekiyng aelathadistaikrtdistaekiyng odythng 3 singni idaek khnprathip krrikrtdistaekiyng aelathadistaikr thamacakthxngkhabrisuththinahnk 1 talnt namnecim aelaekhruxnghxm inphrathrrmxphyph phraecatrssngomessthungsutrprungnamnecim aelaekhruxnghxmiw aelaihepnsutrechphaasahrbkarepnnamnecimethann imthrngxnuyatihnaipichcholmphukhnthwip odynamnecimniichsahrbecimpuorhit etnthndphb hibphraoxwath khnprathip aethnekhruxngephabucha aethnekhruxnghxmbucha aelasingtang thiichinphlbphlakhxngphraeca xngkhprakxbthisakhy idaek mdyxbnahnk 500 echekhl xbechyhxmhnk 250 echechl taikhr 250 echechl karbur 500 echechl aelanamnmakxkeths 1 hin aelwnaipprungdwysilpkhxngchangprungnamn ekhruxngolhasahrbwisthuthisthan insthannmskar mixupkrnprakxbhlayxyangthitxngichprakxbkbbrrdaxngkhprakxbaetlatwkhxngphlbphla xathi khnthxngsmvththi sahrbkarlangchara phanthxngsmvththi manbngta inkarsrangphlbphla aelaxupkrnprakxbinphlbphla phrathrrmxphyphrabuiwwa idcakkarrwbrwmcakchawxisraexlthimixayutngaet 20 pikhunip canwn 603 550 khn rwbrwmidthxngkha thngsin 29 talnt kb 730 echekhl aelaengin thngsin 1 770 echekhlmatraswnkarethiybmatrhnwywd inphnthsyyaedim 1 sxk 44 42 esntiemtr 1 khub 22 21 esntiemtr 1 echekhl 11 424 krm 1 talnt 34 272 kiolkrmxangxingphrathrrmxphyph bththi 26 phlbphlaaebbni ichcnkrathngthungsmykhxngkstriydawid kmikarepliynaeplngsrangihmtangipcakedim phrathrrmxphyph bththi 20 phrathrrmoychuwa bththi 6 khxthi 1 27 phrathrrm 1samuexl bththi 5 khxthi 1 12 phrathrrm 2samuexl bththi 6 khxthi 1 11 phrathrrmxphyph bththi 25 khxthi 10 22 aelaphrathrrmxphyph bththi 37 khxthi 1 9 phrathrrmxphyph bththi 27 khxthi 1 8 aelaphrathrrmxphyph bththi 38 khxthi 1 7 phrathrrmxphyph bththi 30 khxthi 1 10 aelaphrathrrmxphyph bththi 37 khxthi khx 25 28 phrathrrmxphyph bththi 25 khxthi 23 30 aelaphrathrrmxphyph bththi 37 khxthi 10 16 phrathrrmxphyph bththi 27 khxthi 20 21 phrathrrmxphyph bththi 25 khxthi 31 40 aelaphrathrrmxphyph bththi 37 khxthi 17 24 phrathrrmxphyph bththi 30 khxthi 22 38 aelaphrathrrmxphyph bththi 37 khxthi 29 phrathrrmxphyph bththi khxthi 17 21 phrathrrmxphyph bththi 38 khxthi 21 31 phrakhristthrrmkhmphir chbberiyngphimphihm pi ph s 2541 1998 duephimphrathrrmxphyph phrathrrmoychuwa samuexl