บทความนี้ไม่มีจาก |
พระเจ้าเก้าตื้อ เป็นในพระอุโบสถ วัดสวนดอก หรือวัดบุบผาราม ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ วัดสำคัญของนครเชียงใหม่ พระเจ้าเก้าตื้อเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ที่สวยงามองค์หนึ่งของล้านนา ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดพระเจ้าเก้าตื้อ ซึ่งรวมเป็นวัดเดียวกับวัดสวนดอกเชียงใหม่[]
พระเจ้าเก้าตื้อ | |
---|---|
ชื่อสามัญ | พระเจ้าเก้าตื้อ |
พระพุทธรูป | |
ศิลปะ | ปางมารวิชัย |
ความกว้าง | 3 เมตร |
ความสูง | 4.70 เมตร |
วัสดุ | โลหะ 9,000 กิโลกรัม |
สถานที่ประดิษฐาน | พระอุโบสถ วัดสวนดอก ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ |
ความสำคัญ | ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะงดงามที่สุดในล้านนา |
ส่วนหนึ่งของ |
คำว่า ตื้อ เป็นหน่วยวัดน้ำหนักโลหะของล้านนาในสมัยโบราณ ซึ่ง 1 ตื้อ เท่ากับ 1,000 กิโลกรัม (บางตำรากล่าวว่า 1 ตื้อ หนักเท่ากับ 1,200 กิโลกรัม) พระเจ้าเก้าตื้อ หมายถึงพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะหนัก 9,000 กิโลกรัม หรือ 9 ตัน
ในพงศาวดารโยนกกล่าวว่า หรือ หรืออีกพระนามหนึ่งคือ พระติลกปนัดดาธิราชกษัตริย์รัชกาลที่ 14 แห่งราชวงศ์มังราย ที่ครองอาณาจักรล้านนา ได้โปรดให้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้น เพื่อเป็นประธานในวิหารพระสิงห์ โดยได้เริ่มทำการหล่อในวันพฤหัสบดี เดือน 8 ขึ้น 11 ค่ำ ปีชวด ฉอศก จุลศักราช 866 (พ.ศ. 2047) เมื่อหล่อได้ทำการตกแต่ง จนถึงวันพฤหัสบดี เดือน 5 ขึ้น 5 ค่ำ ปีฉลู สัปตศก จุลศักราช 467 (พุทธศักราช 2048) จึงสำเร็จบริบูรณ์ องค์พระมีที่ต่อ 8 แห่ง อย่างไรก็ตามเนื่องจากองค์พระมีน้ำหนักมากเมื่อหล่อเสร็จไม่สามารถชะลอเข้าเมืองได้ พระองค์จึงโปรดฯ ให้สร้างวิหารเป็นที่ประดิษฐาน ณ บริเวณใกล้ ๆ กับพระอารามวัดบุปผารามหรือวัดสวนดอก ครั้นถึงวันพุธเดือน 5 ขึ้น 4 ค่ำ ปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช 870 (พุทธศักราช 2052) จึงได้มีการชักพระพุทธปฏิมากรองค์นี้ เข้าประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถใน
พระเจ้าเก้าตื้อในปัจจุบัน
ปัจจุบันพระพุทธเจ้าเก้าตื้อ ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถของวัดสวนดอก ซึ่งเป็นวัดสำคัญของล้านนา เนื่องจากในประวัติศาสตร์กล่าวว่าเป็นที่ตั้งของคณะสงฆ์ฝ่ายลังกาวงศ์ ที่พญากือนาได้ส่งราชทูตไปขอพระราชทานมาจากพระมหาธรรมราชาลิไท แห่งอาณาจักรสุโขทัย โดยพระมหาธรรมราชาที่ 1 ได้โปรดให้พระมหาสุมนเถระ นำตั้งมั่นเผยแพร่พระพุทธศาสนา ยังอาณาจักรล้านนา ตามที่พระเจ้ากือนาทูลขอ พระมหาสุมนเถระได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาด้วยหนึ่งองค์ เมื่อพระมหาเถระเดินทางมาถึงล้านนา จึงได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุแด่พระเจ้ากือนา ในครั้งนั้นพระบรมสารีริกธาตุได้แสดงปาฏิหาริย์ แบ่งออกเป็น 2 องค์ พระเจ้ากือนาได้มีพระราชศรัทธา โปรดให้สร้างอารามบุบผาราม เป็นที่จำพรรษาของ และสร้างพระสถูปเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระบรมสารีริกธาตุอีกองค์หนึ่งนั้น ได้โปรดให้อัญเชิญขึ้นไว้บนหลังช้าง แล้วอธิษฐานเสี่ยงทายสถานที่สมควรจะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว ครั้งนั้นช้างมงคลได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เดินขึ้นไปบนดอยสุเทพ เมื่อถึงบนยอดดอยแล้ว ช้างได้คุกเข่าลงไม่ยอมเดินต่อ พระเจ้ากือนามหาธรรมิกราชจึงมีพระราชดำรัสให้สร้างพระบรมธาตุขึ้นบนดอยสุเทพ ซึ่งปัจจุบันคือ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
ปัจจุบันวัดสวนดอกยังมีศาสนวัตถุที่สำคัญ อาทิ พระบรมธาตุที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระวิหารโถงที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา สถูปบรรจุอัฐิธาตุของครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ตลอดจน สุสานราชตระกูล ณ เชียงใหม่ ข้างองค์พระเจดีย์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phraecaekatux epninphraxuobsth wdswndxk hruxwdbubpharam tablsuethph xaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihm wdsakhykhxngnkhrechiyngihm phraecaekatuxepnphraphuththrupsaridpangmarwichy thiswyngamxngkhhnungkhxnglanna pccubnpradisthanxyuinxuobsthwdphraecaekatux sungrwmepnwdediywkbwdswndxkechiyngihm txngkarxangxing phraecaekatuxchuxsamyphraecaekatuxphraphuththrupsilpapangmarwichykhwamkwang3 emtrkhwamsung4 70 emtrwsduolha 9 000 kiolkrmsthanthipradisthanphraxuobsth wdswndxk tablsuethph xaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihmkhwamsakhyidrbkarykyxngwaepnphraphuththrupthimiphraphuththlksnangdngamthisudinlannaswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna khawa tux epnhnwywdnahnkolhakhxnglannainsmyobran sung 1 tux ethakb 1 000 kiolkrm bangtaraklawwa 1 tux hnkethakb 1 200 kiolkrm phraecaekatux hmaythungphraphuththrupthihlxdwyolhahnk 9 000 kiolkrm hrux 9 tn inphngsawdaroynkklawwa hrux hruxxikphranamhnungkhux phratilkpnddathirachkstriyrchkalthi 14 aehngrachwngsmngray thikhrxngxanackrlanna idoprdihsrangphraphuththrupxngkhnikhun ephuxepnprathaninwiharphrasingh odyiderimthakarhlxinwnphvhsbdi eduxn 8 khun 11 kha pichwd chxsk culskrach 866 ph s 2047 emuxhlxidthakartkaetng cnthungwnphvhsbdi eduxn 5 khun 5 kha pichlu sptsk culskrach 467 phuththskrach 2048 cungsaercbriburn xngkhphramithitx 8 aehng xyangirktamenuxngcakxngkhphraminahnkmakemuxhlxesrcimsamarthchalxekhaemuxngid phraxngkhcungoprd ihsrangwiharepnthipradisthan n briewnikl kbphraxaramwdbuppharamhruxwdswndxk khrnthungwnphutheduxn 5 khun 4 kha pimaesng exksk culskrach 870 phuththskrach 2052 cungidmikarchkphraphuththptimakrxngkhni ekhapradisthanepnphraprathaninphraxuobsthinphraecaekatuxinpccubnpccubnphraphuththecaekatux pradisthanepnphraprathaninphraxuobsthkhxngwdswndxk sungepnwdsakhykhxnglanna enuxngcakinprawtisastrklawwaepnthitngkhxngkhnasngkhfaylngkawngs thiphyakuxnaidsngrachthutipkhxphrarachthanmacakphramhathrrmrachaliith aehngxanackrsuokhthy odyphramhathrrmrachathi 1 idoprdihphramhasumnethra natngmnephyaephrphraphuththsasna yngxanackrlanna tamthiphraecakuxnathulkhx phramhasumnethraidxyechiyphrabrmsaririkthatumadwyhnungxngkh emuxphramhaethraedinthangmathunglanna cungidthwayphrabrmsaririkthatuaedphraecakuxna inkhrngnnphrabrmsaririkthatuidaesdngpatihariy aebngxxkepn 2 xngkh phraecakuxnaidmiphrarachsrththa oprdihsrangxarambubpharam epnthicaphrrsakhxng aelasrangphrasthupecdiy ephuxpradisthanphrabrmsaririkthatu swnphrabrmsaririkthatuxikxngkhhnungnn idoprdihxyechiykhuniwbnhlngchang aelwxthisthanesiyngthaysthanthismkhwrcapradisthanphrabrmsaririkthatudngklaw khrngnnchangmngkhlidxyechiyphrabrmsaririkthatu edinkhunipbndxysuethph emuxthungbnyxddxyaelw changidkhukekhalngimyxmedintx phraecakuxnamhathrrmikrachcungmiphrarachdarsihsrangphrabrmthatukhunbndxysuethph sungpccubnkhux wdphrathatudxysuethphrachwrwihar pccubnwdswndxkyngmisasnwtthuthisakhy xathi phrabrmthatuthipradisthanphrabrmsaririkthatu phrawiharothngthiihythisudinlanna sthupbrrcuxthithatukhxngkhrubasriwichy nkbuyaehnglanna tlxdcn susanrachtrakul n echiyngihm khangxngkhphraecdiy