บทความนี้ไม่มีจาก |
มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาด หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐาน โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
หลวงพ่อพระองค์แสน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ประดิษฐานภายในพระวิหารวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
หลวงพ่อพระองค์แสน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ขัดสมาธิราบ ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทองหน้าตักกว้าง ๒ เมตร สูงจากฐานถึงพระเมาลี ๓.๒๐ เมตรประทับนั่งบนแท่นสูง๑.๓๕ เมตร หันพระพักตร์ไปทางทิศ ตะวันออก หันพระปฤศฎางค์เข้าหาองค์ หลวงพ่อพระองค์แสนเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนครคู่มากับพระ ธาตุเชิงชุม ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในพระวิหาร เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากอีกองค์หนึ่งของประเทศ
จากตำนาน หลวงพ่อพระองค์แสนสร้างขึ้นราวพุทธศักราช ๑๘๐๐ เพื่อแทนหลวงพ่อสุวรรณแสนองค์จริงที่เป็นทองคำทั้งองค์ (สร้างโดยพระเจ้า ชัยวรมันที่ ๓)คือในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ เกิดศึกสงครามหลายครั้ง จึงย้ายเมืองไปอยู่ที่นครธม ก่อนย้ายได้นำพระสุวรรณแสน ทองคำไปซ่อนไว้ในน้ำ ไม่สามารถนำไปได้ด้วยเหตุว่ากลัวข้าศึกจะมาแย่งชิงในระหว่างทาง พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ได้สร้างหลวงพ่อ พระองค์แสน(องค์ปัจจุบัน)แทนไว้ให้ ทำด้วยหินเหล็กเส้นชนิดสี่เหลี่ยมเป็นโครง(ผูกลวด) แล้วฉาบด้วยทรายผสมปูนขาวแช่น้ำเปลือก ไม้(ยางบง) น้ำแช่หนัง - มะขาม - น้ำอ้อย และเถา ฝักกรูด ลงรักปิดทอง มีพุทธลักษณะเท่าเดิม ภายในก็บรรจุเครื่องราง ของขลังสมัยก่อนไว้มาก ให้นามว่า "หลวงพ่อพระองค์แสน" เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ต่อมามีการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง
ในอดีต เมื่อมีการเฉลิมฉลองสมโพธิ์ราชธานีครบ ๒๐๐ ปีตามประกาศรัฐบาล จะมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ขยายโบสถ์ โดยตรงทุบองค์หลวงพ่อออก แล้วสร้างองค์ใหม่ไว้ข้างหลังแทน เมื่อการบูรณะเริ่มขึ้นช่างชาวญวน(เวียดนาม) พยามทุบองค์พระ และพยามลอกทองที่หุ้มออกแต่พอทุบไปครั้งใด ก็ได้ยินแต่เสียงหัวเราะดังกังวานออกมา จนภายหลังถึงกลับต้องล้มป่วยไป ด้วยเหตุนี้จึงต้องล้มเลิกการบูรณะเอาหลวงพ่อออก จากเหตุดังกล่าวเมื่อท่านมาสักการะหลวงพ่อพระองค์แสน จะเห็นมีหลวงพ่อซ้อนกันอยู่ ๒ องค์ องค์หน้าคือหลวงพ่อองค์เดิม ส่วนองค์หลังเป็นองค์ใหม่ที่จะสร้างขึ้นมาแทน
จากประวัติหลวงพ่อหลายอย่าง ในสมัยก่อนเคยมีพระมอญ ที่เคยมาบำเพ็ญศีลภาวนาที่วัด แล้วพอจะกลับก็บอกพระที่วัดไว้ว่า หลวงพ่อองค์นี้เป็นองค์ปลอม แต่เป็นองค์ปลอมที่ศักดิ์มาก ปู่ย่าตายายชาวสกลนครและหลายๆคน คงเคยได้ยินตำนานเล่าต่อกันมาว่า บริเวณกลางหนองหานนั้น จะมีจุดที่ลึกมากกว่าปกติ อยู่หลายแห่ง ซึ่งชาวประมงหนองหานจะเรียกว่า ขุม หรือหลุมนั้นเอง และจะมีชื่อเรียกต่างๆกัน เช่น ขุมใหญ่ ขุมเต่าฮาง ขุมก้านเหลือง ซึ่งขุมนี้จะลึกประมาณ ๑๕-๒๐ เมตรทีเดียวเชื่อกันว่าในสมัยก่อนเมื่อพระยาขอม จะย้ายเมืองอพยพผู้คนไปอยู่เขมรนั้น พระองค์ได้เอา หลวงพ่อพระสุวรรณแสน องค์เดิมมาซ่อนไว้ที่ขุมลึกกลางหนองหารชาวประมงจะเรียกจุดนี้ว่า ขุมใหญ่ ซึ่งเป็นขุมที่ลึกที่สุด ในอดีตสมัยรุ่นตา ยาย อาชีพหลักๆของชาวสกลนครก็คือ จับปลา มีอยู่วันหนึ่งมีคนออกทอดแหหาปลา แต่แหกลับติดอะไรบางอย่างใต้น้ำ จึงดำน้ำลงไปดึงออก เมื่อดำลงไปกำลังดึงแหออกนั้นก็เห็นว่าตนเหยียบอยู่บนบ่าพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ จากเหตุการณ์นี้ทำให้คนทั้งสกลนครเล่าลือกัน และมีคนพบเห็นเรื่อยมา แต่ในปัจจุบันเวลาผ่านมาหลายปี อาจจะเป็นเพราะ สาหร่าย วัชพืชน้ำ ตะกอนต่างๆทับถมกันสูงขึ้นทุกวัน จึงไม่มีคนพบเห็นอีก ด้วยเหตุนี้ชาวสกลนครจึงถือว่าหนองหาน เป็นหนองน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดด้วย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir mikhxsngsywabthkhwamnixaclaemidlikhsiththi aetrabuimidchdecnephraakhadaehlngthima hruxxangthungsingphimphthiyngtrwcsxbimid hakaesdngidwabthkhwamnilaemidlikhsiththi ihaethnpaynidwy laemidlikhsiththi hakkhunmnicwabthkhwamniimidlaemidlikhsiththi ihaesdnghlkthan oprdxyanapaynixxkkxnmikhxsrup hlwngphxphraxngkhaesn epnphraphuththruppangmarwichy silpaechiyngaesn pradisthanphayinphrawiharwdphrathatuechingchumwrwihar xaephxemuxng cnghwdsklnkhrhlwngphxphraxngkhaesn hlwngphxphraxngkhaesn epnphraphuththruppangmarwichy silpaechiyngaesn khdsmathirab kxxiththuxpunlngrkpidthxnghnatkkwang 2 emtr sungcakthanthungphraemali 3 20 emtrprathbnngbnaethnsung1 35 emtr hnphraphktripthangthis tawnxxk hnphrapvsdangkhekhahaxngkh hlwngphxphraxngkhaesnepnphraphuththrupkhubankhuemuxngkhxngchawsklnkhrkhumakbphra thatuechingchum pradisthanepnphraprathanxyuphayinphrawihar epnphraphuththrupthiskdisiththimakxikxngkhhnungkhxngpraeths caktanan hlwngphxphraxngkhaesnsrangkhunrawphuththskrach 1800 ephuxaethnhlwngphxsuwrrnaesnxngkhcringthiepnthxngkhathngxngkh srangodyphraeca chywrmnthi 3 khuxinsmyphraecachywrmnthi 7 ekidsuksngkhramhlaykhrng cungyayemuxngipxyuthinkhrthm kxnyayidnaphrasuwrrnaesn thxngkhaipsxniwinna imsamarthnaipiddwyehtuwaklwkhasukcamaaeyngchinginrahwangthang phraecachywrmnthi 7 idsranghlwngphx phraxngkhaesn xngkhpccubn aethniwih thadwyhinehlkesnchnidsiehliymepnokhrng phuklwd aelwchabdwythrayphsmpunkhawaechnaepluxk im yangbng naaechhnng makham naxxy aelaetha fkkrud lngrkpidthxng miphuththlksnaethaedim phayinkbrrcuekhruxngrang khxngkhlngsmykxniwmak ihnamwa hlwngphxphraxngkhaesn epnphraphuththrupskdisiththi txmamikarburnasxmaesmhlaykhrng inxdit emuxmikarechlimchlxngsmophthirachthanikhrb 200 pitamprakasrthbal camikarburnaptisngkhrnkhyayobsth odytrngthubxngkhhlwngphxxxk aelwsrangxngkhihmiwkhanghlngaethn emuxkarburnaerimkhunchangchawywn ewiydnam phyamthubxngkhphra aelaphyamlxkthxngthihumxxkaetphxthubipkhrngid kidyinaetesiynghweraadngkngwanxxkma cnphayhlngthungklbtxnglmpwyip dwyehtunicungtxnglmelikkarburnaexahlwngphxxxk cakehtudngklawemuxthanmaskkarahlwngphxphraxngkhaesn caehnmihlwngphxsxnknxyu 2 xngkh xngkhhnakhuxhlwngphxxngkhedim swnxngkhhlngepnxngkhihmthicasrangkhunmaaethn cakprawtihlwngphxhlayxyang insmykxnekhymiphramxy thiekhymabaephysilphawnathiwd aelwphxcaklbkbxkphrathiwdiwwa hlwngphxxngkhniepnxngkhplxm aetepnxngkhplxmthiskdimak puyatayaychawsklnkhraelahlaykhn khngekhyidyintananelatxknmawa briewnklanghnxnghannn camicudthilukmakkwapkti xyuhlayaehng sungchawpramnghnxnghancaeriykwa khum hruxhlumnnexng aelacamichuxeriyktangkn echn khumihy khumetahang khumkanehluxng sungkhumnicalukpraman 15 20 emtrthiediywechuxknwainsmykxnemuxphrayakhxm cayayemuxngxphyphphukhnipxyuekhmrnn phraxngkhidexa hlwngphxphrasuwrrnaesn xngkhedimmasxniwthikhumlukklanghnxngharchawpramngcaeriykcudniwa khumihy sungepnkhumthilukthisud inxditsmyrunta yay xachiphhlkkhxngchawsklnkhrkkhux cbpla mixyuwnhnungmikhnxxkthxdaehhapla aetaehklbtidxairbangxyangitna cungdanalngipdungxxk emuxdalngipkalngdungaehxxknnkehnwatnehyiybxyubnbaphraphuththrupxngkhihyxyu cakehtukarnnithaihkhnthngsklnkhrelaluxkn aelamikhnphbehneruxyma aetinpccubnewlaphanmahlaypi xaccaepnephraa sahray wchphuchna takxntangthbthmknsungkhunthukwn cungimmikhnphbehnxik dwyehtunichawsklnkhrcungthuxwahnxnghan epnhnxngnathiskdisiththipracacnghwddwy