พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ฝรั่งเศส: Château de Saint-Germain-en-Laye) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ที่เมืองแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลในจังหวัดอีฟว์ลีนในแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ในประเทศฝรั่งเศส ราว 19 กิโลเมตรทางตะวันตกของปารีส ในปัจจุบันพระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลเป็นที่ตั้งของ
พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล Château de Saint-Germain-en-Laye | |
---|---|
พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | วัง |
เมือง | แซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล |
ประเทศ | ประเทศฝรั่งเศส |
พิกัด | 48°53′53″N 2°5′47″E / 48.89806°N 2.09639°E |
เริ่มสร้าง | ค.ศ. 1122 |
ปรับปรุง | คริสต์ทศวรรษ 1230 (ขยายโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 9) คริสต์ทศวรรษ 1360 (สร้างใหม่โดยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5) ค.ศ. 1539 (ขยายต่อเติมโดยพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1) |
ผู้สร้าง | พระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศส |
เว็บไซต์ | |
พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติแห่งฝรั่งเศส |
ประวัติ
คริสต์ศตวรรษที่สิบสองถึงสิบสี่
ปราสาทที่ตั้ง ณ พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลชื่อ “Grand Châtelet” สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 6ในปี ค.ศ. 1122 ต่อมาใน ก็ได้รับการต่อเติมโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ในคริสต์ทศวรรษ 1230
ชาเปลเซนต์หลุยส์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 เป็นงานสำคัญของสมัยสถาปัตยกรรมแรยอน็อง (Rayonnant) ของ พระราชกำหนด ค.ศ. 1238 ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ที่ระบุการทำพิธีศาสนาตามปกติที่ชาเปลทำให้ทราบว่าเป็นชาเปลที่พระองค์ทรงสร้าง ชาเปลนี้คือ “วิหารแซ็งต์-ชาแปล” (Sainte-Chapelle) เดิมที่ใช้เป็นที่เก็บมงคลวัตถุ “” และ “” ผังของชาเปลนี้เป็นผังที่เป็นแบบอย่างของวิหารแซ็งต์-ชาแปลที่พระเจ้าหลุยส์มีพระบรมราชโองการให้สร้างภายใน (Conciergerie) ในปารีสระหว่าง ค.ศ. 1240 ถึง ค.ศ. 1248 สิ่งก่อสร้างทั้งสองสร้างโดยสถาปนิกคนโปรดปิแยร์เดอมองทรุยผู้นำลักษณะสถาปัตยกรรมที่คิดขึ้นที่แซ็ง-แฌร์แม็งไปปรับใช้ในปารีส ชาเปลมีช่องทางเดินกลางช่องเดียวที่ไปหยุดลงที่ชาเปลดาวกระจายตอนท้ายสุด ที่ผนังทั้งหมดกรุด้วยหน้าต่างกระจกแคบสูง ระหว่างหน้าต่างด้านนอกเป็นค้ำยันขนาดใหญ่ ของเพดานโค้งรวบมารวมกันบนเสาระหว่างช่วง และฐานเสาซ่อนอยู่หลังซุ้มเปิด ฉะนั้นโถงกลางของสิ่งก่อสร้างจึงว่างเปล่าปราศจากระบบการค้ำยัน การใช้หน้าต่างจำนวนมากสามารถทำให้ใช้เทคนิค “pierre armée” ซึ่งเป็นวิธีที่ใส่โครงโลหะโดยตรงเข้าไปในโครงสร้างของผนังเพื่อทำให้ผนังหินมีความมั่นคงขึ้น ผนังด้านตะวันตกตกแต่งด้วยหน้าต่างกุหลาบแบบกอธิคแบบสถาปัตยกรรมเรยงนงต์ ในชาเปลเดิมนี้เป็นสถานที่ที่ถวายมงกุฎหนามแก่พระเจ้าหลุยส์ในปี ค.ศ. 1238 แม้ว่ามงคลวัตถุดังกล่าวจะตั้งใจจะนำไปตั้งที่วิหารแซ็งต์-ชาแปลในปารีส แต่เก็บไว้ที่แซ็งต์-ชาแปลที่วังแซ็ง-แฌร์แม็งจนกระทั่งแซ็งต์-ชาแปลในปารีสได้รับการสถาปนาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1248
เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำทรงเผาปราสาทในปี ค.ศ. 1346 ส่วนที่เป็นสถาปัตยกรรมกอธิคที่เหลืออยู่ก็มีแต่ชาเปลเท่านั้น “Château Vieux” หรือ “พระราชวังเดิม” ได้รับการสร้างใหม่โดยพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ในคริสต์ทศวรรษ 1360 บนฐานเดิม
คริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึง 18
ส่วนที่เก่าที่สุดของพระราชวังปัจจุบันมาสร้างใหม่โดยพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1539 และหลังจากนั้นก็ได้รับการขยายต่อเติมหลายครั้ง พระเจ้าอองรีที่ 2 ทรงสร้าง หรือ “พระราชวังใหม่” ไม่ไกลจากพระราชวังเดิมเท่าใดนักที่ออกแบบโดยฟีลีแบร์ต เดอ ลอร์มที่ตั้งอยู่บนยอดเนินที่สร้างภายใต้การอำนวยการของเป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างบนเนินลดหลั่นกันลงมาสามชั้นที่เชื่อมติดต่อกันด้วยบันไดและระเบียงลาดที่วางอย่างสมมาตรลงมาจรดแม่น้ำแซนซึ่งเป็นแบบที่มีรากฐานมาจากที่ “ไปอยู่ในอิตาลีเป็นเวลานาน และมีความสนใจในการสร้างสวนประเภทนี้ที่เห็นได้จากงานภาพพิมพ์ลายแกะของที่ทำในปี ค.ศ. 1573”
สวนของพระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลเป็นหนึ่งในห้าหกสวนแบบอิตาลีในฝรั่งเศส ที่เป็นการวางรากฐานสำหรับสวนภูมิทัศน์แบบฝรั่งเศส สวนลักษณะนี้ต่างจาก (Parterre) เดิมตรงที่สวนปาร์แตร์เป็นสวนที่จัดวางให้ผสานกับวังหรือคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่แล้ว ที่มักจะเป็นผืนดินหรือลานที่ยากต่อการจัดสวนเพราะที่ตั้งเดิมของสิ่งก่อสร้างเป็นสถานที่เลือกเพราะความเหมาะสมต่อระบบการป้องกันตัวของปราสาท สวนแบบใหม่แผ่ออกมาจากศูนย์กลางของด้านหน้าของสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะสมมาตรที่ประกอบด้วยที่เป็นลวดลาย, ทางเดินที่ทำด้วยกรวด, น้ำพุและอ่างน้ำพุ และ (Bosquet) หรือต้นไม้ที่จงใจปลูกตามแผนที่วางไว้ การทำสวนลักษณะดังกล่าวนี้มารุ่งเรืองที่สุดหลังจากการสร้างสวนโดย (André Le Nôtre) หลังปี ค.ศ. 1650 ตามข้อเขียนของใน “Théâtre des plans et jardinage”เริ่มจัดในปี ค.ศ. 1595 สำหรับพระเจ้าอองรีที่ 4 โดยโมลเลต์ผู้ได้รับการฝึกที่ ผู้เป็นต้นตระกูลของนักการสวนหลวงต่อมา สวนหนึ่งที่ออกแบบโดยโมลเลต์ที่พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือ “Le théâtre d'agriculture et mesnage des champs” โดยโอลิเวียร์ เดอร์ แซร์
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เสด็จพระราชสมภพที่พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลในปี ค.ศ. 1638 กำแพงยันด้านหนึ่งของเพแร็คทลายลงมาในปี ค.ศ. 1660 และพระเจ้าหลุยส์ทรงทำการบูรณปฏิสังขรณ์สวนในปี ค.ศ. 1662 นอกจากนั้นก็ทรงตั้งราชสำนักที่นี่ในปี ค.ศ. 1666 แต่โปรด “พระราชวังเก่า” มากกว่า “พระราชวังใหม่” ที่ถูกทิ้งร้างในคริสต์ทศวรรษ 1660 และต่อมารื้อทิ้ง ระหว่างปี ค.ศ. 1663 จนถึงปี ค.ศ. 1682 เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงย้ายไปประทับที่พระราชวังแวร์ซายส์อย่างเป็นการถาวร คณะผู้ดูแลที่ประกอบด้วย, ฌูลส์ อาร์ดวง-มองซาร์ และก็พยายามดำเนินการดูแลเพื่อรักษาสถานภาพเอาไว้
สวนได้รับการสร้างใหม่โดยระหว่างปี ค.ศ. 1669 จนถึงปี ค.ศ. 1673 ที่รวมชั้นหินลดหลั่นที่ยาว 2.4 กิโลเมตรที่ทำให้เห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำแซน และ ปารีสที่ไกลออกไป
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงยกพระราชวังให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษระหว่างที่ทรงมาลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศสหลังจากการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ในปี ค.ศ. 1688 พระเจ้าเจมส์ประทับอยู่ที่แซ็ง-แฌร์แม็งอยู่เป็นเวลา 13 ปี พระราชธิดาประสูติที่แซ็ง-แฌร์แม็งในปี ค.ศ. 1692 พระบรมศพของพระเจ้าเจมส์ได้รับการบรรจุที่วัดแซ็ง-แฌร์แม็ง พระสนมแมรี เบียทริซพำนักต่อมาจนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1718 พระราชโอรสเจมส์ย้ายออกจากพระราชวังในปี ค.ศ. 1716 และในที่สุดก็ไปพำนักอยู่ที่โรม ผู้สนับสนุนฝ่ายสจวตที่ลี้ภัยพำนักอยู่ที่พระราชวังจนถึงการปฏิวัติฝรั่งเศสก่อนที่จะย้ายออกไปในปี ค.ศ. 1793
คริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงก่อตั้งโรงเรียนฝึกนายทหารม้าที่นี่ ต่อมาจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ก็ทรงให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1862 และในปี ค.ศ. 1867 พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลก็กลายเป็นที่ตั้งของ
เมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1919 พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลใช้เป็นที่ลงนามสนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลที่เป็นการยุติความขัดแย้งระหว่างฝ่ายพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและออสเตรีย
ระหว่างการยึดครองของกองทหารเยอรมันระหว่าง ปี ค.ศ. 1940 ถึงปี ค.ศ. 1944 พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แลถูกใช้เป็นศูนย์กลางของกองบังคับบัญชาการทหารเยอรมันที่ยึดครองฝรั่งเศส
อ้างอิง
- F. Hamilton Hazlehurst, Jacques Boyceau, pp20, 77-79, 100, noted by Karling.
- Karling 1974, p 11
- Even the parterres at bear no direct relation to the façades of the château.
- Sten Karling, in "The importance of André Mollet and his family for the development of the French formal garden," in The French Formal Garden, Elizabeth MacDougall and F. Hamilton Hazlehurst, editors, (Dumbarton Oaks, 1974), in making this point, notes , , , , and Saint-Germain-en-Laye.
- The book was not published until 1652, but it had long been in preparation (Karling 1974).
- "Austrian treaty signed in amity," The New York Times, Sept. 11, 1919, p. 12.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล
- Château de Saint-Germain-en-Laye ที่ฐานข้อมูลโครงสร้าง (Structurae) (French version of page also includes the history of the Château)
- Musée des Antiquités Nationales (ฝรั่งเศส)
- "St-Germain-en-Laye: un haut lieu de la royauté (ฝรั่งเศส)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha phrarachwngaesng aechraemng xxng ael frngess Chateau de Saint Germain en Laye epnphrarachwngthitngxyuthiemuxngaesng aechraemng xxng aelincnghwdxifwlininaekhwnxil edx frxngsinpraethsfrngess raw 19 kiolemtrthangtawntkkhxngparis inpccubnphrarachwngaesng aechraemng xxng aelepnthitngkhxngphrarachwngaesng aechraemng xxng ael Chateau de Saint Germain en Layephrarachwngaesng aechraemng xxng aelkhxmulthwippraephthwngemuxngaesng aechraemng xxng aelpraethspraethsfrngessphikd48 53 53 N 2 5 47 E 48 89806 N 2 09639 E 48 89806 2 09639erimsrangkh s 1122prbprungkhristthswrrs 1230 khyayodyphraecahluysthi 9 khristthswrrs 1360 srangihmodyphraecacharlsthi 5 kh s 1539 khyaytxetimodyphraecafrxngswsthi 1 phusrangphraecahluysthi 6 aehngfrngessewbistphiphithphnthobrankhdiaehngchatiaehngfrngessprawtikhriststwrrsthisibsxngthungsibsi chaeplaebbkxthikh prasaththitng n phrarachwngaesng aechraemng xxng aelchux Grand Chatelet srangodyphraecahluysthi 6inpi kh s 1122 txmain kidrbkartxetimodyphraecahluysthi 9 inkhristthswrrs 1230 chaeplesnthluyskhxngphraecahluysthi 9 epnngansakhykhxngsmysthaptykrrmaeryxnxng Rayonnant khxng phrarachkahnd kh s 1238 khxngphraecahluysthi 9 thirabukarthaphithisasnatampktithichaeplthaihthrabwaepnchaeplthiphraxngkhthrngsrang chaeplnikhux wiharaesngt chaaepl Sainte Chapelle edimthiichepnthiekbmngkhlwtthu aela phngkhxngchaeplniepnphngthiepnaebbxyangkhxngwiharaesngt chaaeplthiphraecahluysmiphrabrmrachoxngkarihsrangphayin Conciergerie inparisrahwang kh s 1240 thung kh s 1248 singkxsrangthngsxngsrangodysthapnikkhnoprdpiaeyredxmxngthruyphunalksnasthaptykrrmthikhidkhunthiaesng aechraemngipprbichinparis chaeplmichxngthangedinklangchxngediywthiiphyudlngthichaepldawkracaytxnthaysud thiphnngthnghmdkrudwyhnatangkrackaekhbsung rahwanghnatangdannxkepnkhaynkhnadihy khxngephdanokhngrwbmarwmknbnesarahwangchwng aelathanesasxnxyuhlngsumepid channothngklangkhxngsingkxsrangcungwangeplaprascakrabbkarkhayn karichhnatangcanwnmaksamarththaihichethkhnikh pierre armee sungepnwithithiisokhrngolhaodytrngekhaipinokhrngsrangkhxngphnngephuxthaihphnnghinmikhwammnkhngkhun phnngdantawntktkaetngdwyhnatangkuhlabaebbkxthikhaebbsthaptykrrmeryngnngt inchaepledimniepnsthanthithithwaymngkudhnamaekphraecahluysinpi kh s 1238 aemwamngkhlwtthudngklawcatngiccanaiptngthiwiharaesngt chaaeplinparis aetekbiwthiaesngt chaaeplthiwngaesng aechraemngcnkrathngaesngt chaaeplinparisidrbkarsthapnaineduxnemsayn kh s 1248 exdewird ecachaydathrngephaprasathinpi kh s 1346 swnthiepnsthaptykrrmkxthikhthiehluxxyukmiaetchaeplethann Chateau Vieux hrux phrarachwngedim idrbkarsrangihmodyphraecacharlthi 5 inkhristthswrrs 1360 bnthanedim khriststwrrsthi 16 thung 18 hxbnidtrngmumlan phumithsnkhxngphrarachwngaesng aechraemng xxng aelihm nganphimphkdkrdodyphrarachwngthitngxyuklangemuxngaesng aechraemng xxng aeliklsthanirthif swnthiekathisudkhxngphrarachwngpccubnmasrangihmodyphraecafrxngswsthi 1 inpi kh s 1539 aelahlngcaknnkidrbkarkhyaytxetimhlaykhrng phraecaxxngrithi 2 thrngsrang hrux phrarachwngihm imiklcakphrarachwngedimethaidnkthixxkaebbodyfiliaebrt edx lxrmthitngxyubnyxdeninthisrangphayitkarxanwykarkhxngepnklumsingkxsrangbneninldhlnknlngmasamchnthiechuxmtidtxkndwybnidaelaraebiyngladthiwangxyangsmmatrlngmacrdaemnaaesnsungepnaebbthimirakthanmacakthi ipxyuinxitaliepnewlanan aelamikhwamsnicinkarsrangswnpraephthnithiehnidcaknganphaphphimphlayaekakhxngthithainpi kh s 1573 swnkhxngphrarachwngaesng aechraemng xxng aelepnhnunginhahkswnaebbxitaliinfrngess thiepnkarwangrakthansahrbswnphumithsnaebbfrngess swnlksnanitangcak Parterre edimtrngthiswnparaetrepnswnthicdwangihphsankbwnghruxkhvhasnthitngxyuaelw thimkcaepnphundinhruxlanthiyaktxkarcdswnephraathitngedimkhxngsingkxsrangepnsthanthieluxkephraakhwamehmaasmtxrabbkarpxngkntwkhxngprasath swnaebbihmaephxxkmacaksunyklangkhxngdanhnakhxngsingkxsrangthimilksnasmmatrthiprakxbdwythiepnlwdlay thangedinthithadwykrwd naphuaelaxangnaphu aela Bosquet hruxtnimthicngicpluktamaephnthiwangiw karthaswnlksnadngklawnimarungeruxngthisudhlngcakkarsrangswnody Andre Le Notre hlngpi kh s 1650 tamkhxekhiynkhxngin Theatre des plans et jardinage erimcdinpi kh s 1595 sahrbphraecaxxngrithi 4 odyomleltphuidrbkarfukthi phuepntntrakulkhxngnkkarswnhlwngtxma swnhnungthixxkaebbodyomleltthiphrarachwngaesng aechraemng xxng aelidrbkartiphimphinhnngsux Le theatre d agriculture et mesnage des champs odyoxliewiyr edxr aesr phraecahluysthi 14 esdcphrarachsmphphthiphrarachwngaesng aechraemng xxng aelinpi kh s 1638 kaaephngyndanhnungkhxngephaerkhthlaylngmainpi kh s 1660 aelaphraecahluysthrngthakarburnptisngkhrnswninpi kh s 1662 nxkcaknnkthrngtngrachsankthiniinpi kh s 1666 aetoprd phrarachwngeka makkwa phrarachwngihm thithukthingranginkhristthswrrs 1660 aelatxmaruxthing rahwangpi kh s 1663 cnthungpi kh s 1682 emuxphraecahluysthi 14 thrngyayipprathbthiphrarachwngaewrsaysxyangepnkarthawr khnaphuduaelthiprakxbdwy chuls xardwng mxngsar aelakphyayamdaeninkarduaelephuxrksasthanphaphexaiw swnidrbkarsrangihmodyrahwangpi kh s 1669 cnthungpi kh s 1673 thirwmchnhinldhlnthiyaw 2 4 kiolemtrthithaihehnthiwthsnkhxngaemnaaesn aela paristhiiklxxkip phraecahluysthi 14 thrngykphrarachwngihepnthiprathbkhxngsmedcphraecaecmsthi 2 aehngxngkvsrahwangthithrngmaliphyxyuinfrngesshlngcakkarptiwtixnrungorcninpi kh s 1688 phraecaecmsprathbxyuthiaesng aechraemngxyuepnewla 13 pi phrarachthidaprasutithiaesng aechraemnginpi kh s 1692 phrabrmsphkhxngphraecaecmsidrbkarbrrcuthiwdaesng aechraemng phrasnmaemri ebiythrisphanktxmacnkrathngesiychiwitinpi kh s 1718 phrarachoxrsecmsyayxxkcakphrarachwnginpi kh s 1716 aelainthisudkipphankxyuthiorm phusnbsnunfayscwtthiliphyphankxyuthiphrarachwngcnthungkarptiwtifrngesskxnthicayayxxkipinpi kh s 1793 khriststwrrsthi 19 aela 20 inkhriststwrrsthi 19 ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngkxtngorngeriynfuknaythharmathini txmackrphrrdinopeliynthi 3 kthrngihthakarburnptisngkhrntngaetpi kh s 1862 aelainpi kh s 1867 phrarachwngaesng aechraemng xxng aelkklayepnthitngkhxng emuxwnthi 10 knyayn kh s 1919 phrarachwngaesng aechraemng xxng aelichepnthilngnamsnthisyyaaesng aechraemng xxng aelthiepnkaryutikhwamkhdaeyngrahwangfayphnthmitrinsngkhramolkkhrngthihnungaelaxxsetriy rahwangkaryudkhrxngkhxngkxngthhareyxrmnrahwang pi kh s 1940 thungpi kh s 1944 phrarachwngaesng aechraemng xxng aelthukichepnsunyklangkhxngkxngbngkhbbychakarthhareyxrmnthiyudkhrxngfrngessxangxingF Hamilton Hazlehurst Jacques Boyceau pp20 77 79 100 noted by Karling Karling 1974 p 11 Even the parterres at bear no direct relation to the facades of the chateau Sten Karling in The importance of Andre Mollet and his family for the development of the French formal garden in The French Formal Garden Elizabeth MacDougall and F Hamilton Hazlehurst editors Dumbarton Oaks 1974 in making this point notes and Saint Germain en Laye The book was not published until 1652 but it had long been in preparation Karling 1974 Austrian treaty signed in amity The New York Times Sept 11 1919 p 12 duephimphrarachwng prasath wiharaesngt chaaeplaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb phrarachwngaesng aechraemng xxng ael Chateau de Saint Germain en Laye thithankhxmulokhrngsrang Structurae French version of page also includes the history of the Chateau Musee des Antiquites Nationales frngess St Germain en Laye un haut lieu de la royaute frngess