ปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธิ นั่งลำพระองค์ตั้งตรงพระบาท (เท้า) ทั้งสองซ้อนกัน โดยพระบาทขวาซ้อนทับอยู่บนพระบาทซ้าย พระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนหงายกันบนพระเพลา (ตัก) โดยวางพระหัตถ์ขวาซ้อนหงายอยู่บนพระหัตถ์ซ้าย (ท่าสมาธิราบ ขาขวาทับขาซ้าย) จัดเป็น "ปฐมปาง" หรือปางที่ให้กำเนิดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยพระองค์ทรงอยู่ในพระอิริยาบถนี้ในคืนวันตรัสรู้ เรียกได้อีกอย่างว่าปางตรัสรู้ หรือเป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งสมาธิโดยใช้ข้อพระบาททั้งสองข้างขัดกันซึ่งเรียกว่า (ปางขัดสมาธิเพชร) ความเป็นมาของปางสมาธิหรือปางตรัสรู้
หลังจากที่พระบรมโพธิสัตว์มีชัยชนะเหนือพญามารแล้ว ทรงบำเพ็ญสมาธิต่อไป เมื่อจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใสปราศจากอุปกิเลสแล้ว ในปฐมยามทรงบรรลุจตูปปาตญาณ คือสามารถหยั่งรู้การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ว่า สัตว์ทั้งหลายเกิดมาแล้วตายไป ประสบสุขและทุกข์ตามกรรมที่ทำไว้ และในปัจฉิมยามพระองค์ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ ทรงทำอาสวกิเลสทั้งหลายให้ดับสิ้นไป จนได้บรรลุอนุตสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลารุ่งอรุโณทัย ตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 หรือขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 (วันวิสาขบูชา) สถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันอยู่ในตำบลพุทธคยา ประเทศอินเดีย
ประวัติ
เป็นท่านั่งสมาธิหลังจากพระพุทธเจ้าทรงกำจัดพระยามาร และเสนามารให้ปราชัยไปแล้ว ด้วยพระบารมีตั้งแต่เวลาเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก (ปางมารวิชัย) ทรงเจริญสมาธิภาวนาด้วยท่านั่งสมาธินี้จนทำจิตให้ปราศจากอุปกิเลส บรรลุ และ ซึ่งเป็นส่วนของ ที่เรียกว่า "เข้า" จากนั้นก็ใช้ฌานสมาธิที่แน่วแน่นั้น เจริญปัญญา หรือองค์วิปัสสนา จนได้บรรลุ "ญาณ" (คือ ความรู้แจ้ง) ที่เรียกว่า "" (ความรู้แจ้งอันประเสริฐสุด) ทั้งสามประการคือ ทรงบรรลุญาณที่หนึ่ง ในตอนปฐมยาม (ประมาณ 3 ทุ่ม) ญาณนี้เรียกว่า "" หมายถึง ความรู้แจ้งถึงอดีตชาติหนหลังทั้งของตนและของคนอื่น พอถึงมัชฌิมยาม (ประมาณเที่ยงคืน) ก็ได้บรรลุญาณที่สอง ที่เรียกว่า "" หมายถึง ความรู้แจ้งถึงความจุติ คือ ดับและเกิดของสัตว์โลก ตลอดจนถึงความต่างกันที่เรียกว่า "กรรม" พอถึงปัจฉิมยาม (หลังเที่ยงคืนล่วงแล้ว) ทรงบรรลุญาณที่สาม คือ "" หมายถึง ความรู้แจ้งถึงความสิ้นไปของกิเลส และอริยสัจสี่ คือความทุกข์ (ทุกข์) เหตุเกิดของความทุกข์ (สมุทัย) ความดับทุกข์ (นิโรธ) วิธีดับทุกข์ (มรรค) และกำจัดอวิชชาไปจนสิ้นจากกมลสันดาน
ความเชื่อและคตินิยม
- เป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนเกิดวันพฤหัสบดี
- พระคาถาบูชา สวด 19 จบ
ปูเรนตัม โพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง เยนะ สังวิหิตารักขัง มะหาสัตตัง วะเนจะราฯ
จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง พรัหมะ มันตินติ อักขาตัง ปะริตตัน ตัมภะฌามะเหฯ
อ้างอิง
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. ตำนานพุทธเจดีย์. ธนบุรี : ศิลปาบรรณาคาร โรงพิมพ์รุ่งวัฒนา, 2513.
- เรื่องพระพุทธรูปปางต่างๆ หลวงบริบาลบุรีรัตน์ และนายเกษมบุญศรี (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์ขึ้นเพื่อพระราชทานในงานพระราชกุศลราชคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2500)
- สกุลศิลปพระพุทธรูปในประเทศไทย อาจารย์จิตร บัวบุศย์
- ศิลปในประเทศไทย ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิสกุล
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
pangsmathi epnphraphuththruplksnanngsmathi nnglaphraxngkhtngtrngphrabath etha thngsxngsxnkn odyphrabathkhwasxnthbxyubnphrabathsay phrahtththngsxngwangsxnhngayknbnphraephla tk odywangphrahtthkhwasxnhngayxyubnphrahtthsay thasmathirab khakhwathbkhasay cdepn pthmpang hruxpangthiihkaenidxngkhsmedcphrasmmasmphuththeca dwyphraxngkhthrngxyuinphraxiriyabthniinkhunwntrsru eriykidxikxyangwapangtrsru hruxepnphraphuththrupinxiriyabthprathbnngsmathiodyichkhxphrabaththngsxngkhangkhdknsungeriykwa pangkhdsmathiephchr khwamepnmakhxngpangsmathihruxpangtrsruphraphuththruppangsmathi thiepnphraphuththruppracaphrachnmwarrchkalthi 4phraphuththethwptimakr wdphraechtuphn krungethph phraphuththruppangsmathi pangtrsru hlngcakthiphrabrmophthistwmichychnaehnuxphyamaraelw thrngbaephysmathitxip emuxcittngmnbrisuththiphxngisprascakxupkielsaelw inpthmyamthrngbrrluctuppatyan khuxsamarthhyngrukarewiynwaytayekidkhxngsrrphstwwa stwthnghlayekidmaaelwtayip prasbsukhaelathukkhtamkrrmthithaiw aelainpcchimyamphraxngkhthrngbrrluxaswkkhyyan thrngthaxaswkielsthnghlayihdbsinip cnidbrrluxnutsmmasmophthiyan trsruepnphrasmmasmphuththeca inewlarungxruonthy trngkbwnephyeduxn 6 hruxkhun 15 kha eduxn 6 wnwisakhbucha sthanthitrsrukhxngphrasmmasmphuththeca pccubnxyuintablphuththkhya praethsxinediyprawtiepnthanngsmathihlngcakphraphuththecathrngkacdphrayamar aelaesnamarihprachyipaelw dwyphrabarmitngaetewlaeynkxnphraxathitytk pangmarwichy thrngecriysmathiphawnadwythanngsmathinicnthacitihprascakxupkiels brrlu aela sungepnswnkhxng thieriykwa ekha caknnkichchansmathithiaenwaennn ecriypyya hruxxngkhwipssna cnidbrrlu yan khux khwamruaecng thieriykwa khwamruaecngxnpraesrithsud thngsamprakarkhux thrngbrrluyanthihnung intxnpthmyam praman 3 thum yannieriykwa hmaythung khwamruaecngthungxditchatihnhlngthngkhxngtnaelakhxngkhnxun phxthungmchchimyam pramanethiyngkhun kidbrrluyanthisxng thieriykwa hmaythung khwamruaecngthungkhwamcuti khux dbaelaekidkhxngstwolk tlxdcnthungkhwamtangknthieriykwa krrm phxthungpcchimyam hlngethiyngkhunlwngaelw thrngbrrluyanthisam khux hmaythung khwamruaecngthungkhwamsinipkhxngkiels aelaxriyscsi khuxkhwamthukkh thukkh ehtuekidkhxngkhwamthukkh smuthy khwamdbthukkh niorth withidbthukkh mrrkh aelakacdxwichchaipcnsincakkmlsndankhwamechuxaelakhtiniymepnphraphuththruppracawnekidkhxngkhnekidwnphvhsbdi phrakhathabucha swd 19 cbpuerntm ophthismphaer niphphttng omraoyniyng eyna sngwihitarkkhng mahasttng waencaracirssng wayamntapi enwa skkhingsu khnhitung phrhma mntinti xkkhatng parittn tmphachamaehxangxingsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph tananphuththecdiy thnburi silpabrrnakhar orngphimphrungwthna 2513 eruxngphraphuththruppangtang hlwngbribalburirtn aelanayeksmbuysri phrabathsmedcphraecaxyuhwphrakrunaoprdekla ihphimphkhunephuxphrarachthaninnganphrarachkuslrachkhvhmngkhlkhunphratahnkcitrldarohthan emuxwnthi 31 tulakhm ph s 2500 skulsilpphraphuththrupinpraethsithy xacarycitr bwbusy silpinpraethsithy sastracary hmxmecasuphthrdis diskul