เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค [(เยอรมัน: Bürgerliches Gesetzbuch) ; ย่อ: เบเกเบ (เยอรมัน: BGB)] หรือ ประมวลกฎหมายแพ่งเยอรมัน เป็นของประเทศเยอรมนีซึ่งเริ่มร่างเมื่อ ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) นับเป็นโครงการขนาดมหึมาและไม่ปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์โลกโครงการหนึ่ง กับทั้งกลายมาเป็นแม่แบบของประมวลกฎหมายแพ่งแห่งประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ระบบซีวิลลอว์ อาทิ โปรตุเกส จีนแผ่นดินใหญ่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน กรีซ ยูเครน และรวมถึงไทย เองด้วย
เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค | |
---|---|
เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค ประกาศในรัฐกิจจานุเบกษาเยอรมันลงวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1896 (พ.ศ. 2439) | |
ข้อมูลทั่วไป | |
วันเริ่มใช้ | 1 มกราคม ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) |
ท้องที่ใช้ | ทั่วประเทศเยอรมนี |
ภาพรวม | |
ประเภทกฎหมายเอกชน ว่าด้วย กฎหมายบุคคล (บุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล), กฎหมายนิติกรรมและสัญญา, (หนี้โดยนิติกรรม และ หนี้โดยนิติเหตุ เช่น , จัดการงานนอกสั่ง และ ฯลฯ), กฎหมายทรัพย์สิน (ทรัพยสิทธิ และ ฯลฯ), กฎหมายครอบครัว (, สมรส, ฯลฯ) และ กฎหมายมรดก | |
เว็บไซต์ | |
เยอรมัน • อังกฤษ |
ประวัติ
ยุคจักรวรรดิเยอรมนี
การประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฝรั่งเศสหรือประมวลกฎหมายนโปเลียน (ฝรั่งเศส: Code Napoléon) เมื่อ ค.ศ. 1804 (พ.ศ. 2347) ส่งอิทธิพลมายังประเทศเยอรมนีครั้งที่ยังเป็นสมาพันธรัฐให้จัดทำดุจกัน อันจะเป็นการจัดระบบและรวบรวมกฎหมายที่ต่างแบบกันทั้งหลายซึ่งยังมีผลใช้บังคับอยู่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่หนทางไปสู่ความฝันครั้งนี้ของประเทศเยอรมนียังขรุขระนัก เนื่องเพราะช่วงนั้นยังไม่มีองค์กรนิติบัญญัติที่เหมาะสม กับทั้งได้รับเสียงคัดค้านอย่างหนักจากที่นำโดย (เยอรมัน: Friedrich Carl von Savigny)
กระนั้น ใน ค.ศ. 1871 (พ.ศ. 2414) รัฐต่าง ๆ ในประเทศเยอรมันร่วมกันนำพาประเทศเข้าสู่ระบอบจักรวรรดิ ซึ่งในช่วงแรกรัฐต่าง ๆ ยังบริหารอำนาจนิติบัญญัติอย่างเอกเทศ กระทั่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งจักรวรรดิเยอรมนีเมื่อ ค.ศ. 1873 (พ.ศ. 2416) ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติขึ้นทำหน้าที่องค์กรกลางในการนิติบัญญัติ และมีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการหลายคณะเพื่อร่างกฎหมาย เพื่อใช้เป็นรากฐานในการจัดทำประมวลกฎหมายแพ่งใช้บังคับตลอดจักรวรรดิแทนที่กฎหมายที่ใช้บังคับเฉพาะถิ่นอย่างเดิม
ประมวลกฎหมายแพ่งฉบับแรกร่างเสร็จใน ค.ศ. 1888 (พ.ศ. 2431) แต่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบอย่างท่วมท้น คณะกรรมการชุดใหม่จึงได้รับการแต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิยี่สิบสองคนจากหลายสาขา อาทิ ผู้แทนนักนิติศาสตร์ ผู้แทนนักเศรษฐศาสตร์ และผู้แทนนักปรัชญา ทำหน้าที่ร่างประมวลกฎหมายแพ่งฉบับใหม่ ได้แก่ "เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค" นี้ ซึ่งต่อมาผ่านการพิจารณาสำคัญหลายครั้งกระทั่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติเยอรมนีลงมติรับรองให้ใช้เป็นกฎหมายได้ใน ค.ศ. 1896 (พ.ศ. 2439) และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) ตราบวันนี้
ยุคนาซี
ในยุคนาซี รัฐบาลนาซีมีแผนการจะยกเลิกเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคทั้งหมด แล้วประกาศใช้ประมวลกฎหมายใหม่ที่ตั้งใจจะให้เรียก "" (เยอรมัน: Volksgesetzbuch) หรือ "ประมวลกฎหมายแห่งปวงชน" แทนที่ โดยประมวลกฎหมายใหม่ที่จัดทำขึ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับอุดมคติของรัฐบาลนาซี มากกว่าเจตนารมณ์แบบเสรีนิยมของเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค แต่แผนการครั้งนี้มิเคยกลายเป็นจริง
ยุคตั้งแต่ ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488)
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเยอรมนีแบ่งออกเป็นสองฟาก ฟากตะวันตกยึดถือระบอบประชาธิปไตยแบบทุนนิยม ส่วนฟากตะวันออกยึดถือระบอบสังคมนิยม กระนั้น เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคยังคงทำหน้าที่เป็นกฎหมายแพ่งของทั้งสองฟากอยู่ กระทั่งฟากตะวันออกค่อย ๆ ประกาศใช้กฎหมายใหม่ที่ละอย่างสองอย่างเพื่อแทนที่เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค โดยเริ่มประกาศใช้ประมวลกฎหมายครอบครัวก่อนใน ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) และกฎหมายอื่น ๆ จนสิ้นสุดลงที่การประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งใหม่ทั้งฉบับใน ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) เรียก "ซีวิลเกเซทซ์บุค" (เยอรมัน: Zivilgesetzbuch) และรัฐบัญญัติว่าด้วยสัญญา ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) แต่ฟากตะวันตกนั้นยังใช้เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคอยู่ กระทั่งมีการสร้างเอกภาพใหม่ในเยอรมนีเพื่อรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวเมื่อ ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคจึงกลับมีผลใช้บังคับทั่วประเทศเยอรมนีอีกครั้ง
ในฟากตะวันตกตลอดมาจนเมื่อสร้างเอกภาพใหม่ในเยอรมนี เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาหลายครานับแต่ประกาศใช้เป็นครั้งแรกมา ครั้งสำคัญได้แก่ใน ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) ที่มีการชำระขนานใหญ่ซึ่งบรรพ 3 อันว่าด้วย ส่งผลให้แนวทางของศาลในการปรับใช้และตีความกฎหมายแพ่งต้องพัฒนาเป็นการใหญ่ไปด้วย
เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคยังคงมีบทบาทเป็นศูนย์กลางของระบบซีวิลลอว์ในประเทศเยอรมนี มีอิทธิพลเหนือกฎเกณฑ์หลัก ๆ ที่ตราขึ้นต่อ ๆ มา แม้ปัจจุบัน ดังนั้น ในประมวลกฎหมายพาณิชย์เยอรมันจึงเป็นแต่กฎเกณฑ์พิเศษที่กำหนดขึ้นมาควบคุมและห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อประกอบกฎเกณฑ์ทั่วไปที่มีแล้วในเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค
ระบบควบคุมสังคมตามเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคเป็นแนวความคิดอันเป็นแบบอย่างทางนิติศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศตวรรษที่ 24) เมื่อแรกประกาศใช้ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ว่าไม่ได้คำนึงถึงการกำหนดให้ทุกฝ่ายมีความรับผิดชอบต่อสังคม นักนิติศาสตร์ก็ช่วยกันปรับปรุงระบบดังกล่าวเรื่อยมาเพื่อให้ใช้การได้ดีที่สุด และเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยอิทธิพลของกฎหมายแห่งสหภาพยุโรปอันเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคก็ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมอย่างมากเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศนี้ ทั้งนี้ นักนิติศาสตร์มองว่าการปรับปรุงเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค เป็นไปเพื่อยังให้เกิดผลจริงซึ่งการทำให้กฎหมายว่าด้วยเกิดความทันสมัยขึ้นตามแนวความคิดสมัยใหม่ใน ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)
โครงสร้าง
เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคมีโครงสร้างที่ได้รับการดัดแปลงจากจนพิสดาร หรือที่เรียกว่า "" (อังกฤษ: pandect) โดยมีเนื้อหาสาระครอบคลุมกฎเกณฑ์เกี่ยวกับบุคคล ทรัพย์ ครอบครัว และมรดก เช่นเดียวกับประมวลกฎหมายของชาติอื่น ๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากกฎหมายโรมัน แต่ต่างจากประมวลกฎหมายแพ่งฝรั่งเศสหรือ "ประมวลกฎหมายนโปเลียน" (ฝรั่งเศส: Code Napoléon) และประมวลกฎหมายแพ่งออสเตรียหรือ "" (เยอรมัน: Allgemeines bürgerliches Gesetzbuch) ตรงที่เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคประมวลบทบัญญัติทั่วไปมาไว้เป็นส่วนแรกสุด ทำให้เข้าใจบทบัญญัติในส่วนอื่น ๆ ได้ง่าย
เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคประกอบด้วยบทบัญญัติห้าบรรพ (อังกฤษ: book) ดังต่อไปนี้
- บรรพ 1 ว่าด้วยบททั่วไป (เยอรมัน: Allgemeiner Teil; อังกฤษ: General Part) — มาตรา 1 ถึงมาตรา 240 ซึ่งว่าด้วยกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มีผลครอบคลุมถึงอีกสี่บรรพที่เหลือด้วย อาทิ กฎเกณฑ์เรื่องบุคคล ความสามารถในการผูกนิติสัมพันธ์ การบอกเลิกโมฆียกรรม การทำการแทน และการจำกัดพฤติการณ์บางอย่าง
- บรรพ 2 ว่าด้วยหนี้ (เยอรมัน: Recht der Schuldverhältnisse; อังกฤษ: Law of Obligations) — มาตรา 241 ถึงมาตรา 853 ซึ่งว่าด้วยสัญญาประเภทต่าง ๆ ระหว่างบุคคล และ
- บรรพ 3 ว่าด้วยทรัพย์สิน (เยอรมัน: Sachenrecht; อังกฤษ: Property Law) — มาตรา 854 ถึงมาตรา 1296 ซึ่งว่าด้วยการครอบครองและสิทธิต่าง ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน ทั้งและอสังหาริมทรัพย์
- บรรพ 4 ว่าด้วยครอบครัว (เยอรมัน: Familienrecht; อังกฤษ: Family Law) — มาตรา 1297 ถึงมาตรา 1921 ซึ่งว่าด้วยการสมรส และนิติสัมพันธ์ต่าง ๆ ระหว่างสมาชิกในครอบครัว
- บรรพ 5 ว่าด้วยมรดก (เยอรมัน: Erbrecht; อังกฤษ: Law of Succession) — มาตรา 1922 ถึงมาตรา 2385 ว่าด้วยมรดก กล่าวคือเกิดอะไรขึ้นบ้างแก่สิ่งของของบุคคลที่ตายแล้ว รวมถึงการประกาศเจตนาของเขาด้วย
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- ไม่มีกฎหมายแห่งเยอรมนีฉบับไหนที่มีจำนวนมาตรามากกว่าเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคที่มีทั้งสิ้นสองพันสามร้อยแปดสิบห้ามาตราอีกแล้ว
- มาตรา 923 (1) แห่งเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค เป็น (อังกฤษ: hexameter) อันสมบูรณ์แบบในภาษาเยอรมัน โดยบัญญัติว่า
"Steht auf der Grenze ein Baum, so gebühren die Früchte und, wenn der Baum gefällt wird, auch der Baum den Nachbarn zu gleichen Teilen"
"If a tree stands on the border between two plots of land, the neighbours have equal rights to the fruit thereof and, if it is cut down, also to the tree."
"หากไม้ยืนต้นเจริญคาบขอบที่ดินสองที่ ผู้อยู่ข้างเคียงขอบที่ดินเช่นว่าย่อมมีสิทธิเสมอกันในสิ่งงอกเงยจากไม้ยืนต้นนั้น และในลำต้นแห่งไม้ยืนต้นนั้นเมื่อถูกโค่นลง"
- ส่วนมาตรา 923 (3) แห่งเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค มีสัมผัสคล้องจองกันในภาษาเยอรมัน โดยบัญญัติว่า
"Diese Vorschriften gelten auch | für einen auf der Grenze stehenden Strauch"
"The foregoing provisions are also valid for bushes standing on the border."
"บทบัญญัติก่อนหน้านี้ให้ใช้บังคับแก่ไม้พุ่มอันเจริญบนขอบที่ดินด้วย"
- แม้กฎหมายอื่น ๆ หลายฉบับพยายามจะแก้ปัญหาพิเศษบางประการซึ่งอาจอยู่นอกเหนือขอบเขตของกฎหมายแพ่งทั่วไป กระนั้น ตัวเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุคซึ่งเป็นประมวลกฎหมายแพ่งเองก็ปรากฏ "บีเนนเรช" (เยอรมัน: Bienenrecht) หรือ "กฎแห่งผึ้ง" (อังกฤษ: law of bees) อยู่ในมาตรา 961 ถึงมาตรา 964 แห่งบรรพ 3 อันว่าด้วยทรัพย์ กฎแห่งผึ้งเป็นผลมาจากการที่กฎหมายเยอรมันให้ตีความว่าผึ้งเป็นสัตว์ป่าเมื่อละจากรัง และตามกฎหมายแล้วบุคคลจะครอบครองสัตว์ป่ามิได้ มาตราดังกล่าวจึงอนุญาตให้ผู้ครอบครองฝูงผึ้งก่อนวันประกาศใช้เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์คงมีสิทธิในฝูงผึ้งนั้นได้ แต่มาตรา 961 ถึงมาตรา 964 นี้มักถูกมองว่ามีความสำคัญน้อยมากในกฎหมายเยอรมัน
อ้างอิง
- แสวง บุญเฉลิมวิภาส. (2543). ประวัติศาสตร์กฎหมายไทย. กรุงเทพฯ : วิญญูชน. . หน้า 58.
แหล่งข้อมูลอื่น
- (ภาษาเยอรมัน) เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค (ฉบับสมบูรณ์) โดย
- (ภาษาอังกฤษ) เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค (ฉบับสมบูรณ์) โดย
- (ภาษาเยอรมัน) ค้นหาบทบัญญัติในเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค
- (ภาษาเยอรมัน) ศูนย์ข้อมูลเบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค 2005-02-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- (ภาษาเยอรมัน) ทัศนวิจารณ์เบือร์แกร์ลีเชสเกเซทซ์บุค โดยนักนิติศาสตร์ชาวเยอรมัน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ebuxraekrliechsekesthsbukh eyxrmn Burgerliches Gesetzbuch yx ebekeb eyxrmn BGB hrux pramwlkdhmayaephngeyxrmn epnkhxngpraethseyxrmnisungerimrangemux kh s 1881 ph s 2424 aelamiphlichbngkhbemuxwnthi 1 mkrakhm kh s 1900 ph s 2443 nbepnokhrngkarkhnadmhumaaelaimpraktmakxninprawtisastrolkokhrngkarhnung kbthngklaymaepnaemaebbkhxngpramwlkdhmayaephngaehngpraethsxun thiichrabbsiwillxw xathi oprtueks cinaephndinihy yipun ekahliit ithwn kris yuekhrn aelarwmthungithy exngdwyebuxraekrliechsekesthsbukhebuxraekrliechsekesthsbukh prakasinrthkiccanuebksaeyxrmnlngwnthi 24 singhakhm kh s 1896 ph s 2439 khxmulthwipwnerimich1 mkrakhm kh s 1900 ph s 2443 thxngthiichthwpraethseyxrmniphaphrwmpraephthkdhmayexkchn wadwy kdhmaybukhkhl bukhkhlthrrmda aela nitibukhkhl kdhmaynitikrrmaelasyya hniodynitikrrm aela hniodynitiehtu echn cdkarngannxksng aela l kdhmaythrphysin thrphysiththi aela l kdhmaykhrxbkhrw smrs l aela kdhmaymrdkewbisteyxrmn xngkvsprawtiyukhckrwrrdieyxrmni karprakasichpramwlkdhmayaephngfrngesshruxpramwlkdhmaynopeliyn frngess Code Napoleon emux kh s 1804 ph s 2347 sngxiththiphlmayngpraethseyxrmnikhrngthiyngepnsmaphnthrthihcdthaduckn xncaepnkarcdrabbaelarwbrwmkdhmaythitangaebbknthnghlaysungyngmiphlichbngkhbxyuihepnhnungediywkn aethnthangipsukhwamfnkhrngnikhxngpraethseyxrmniyngkhrukhrank enuxngephraachwngnnyngimmixngkhkrnitibyytithiehmaasm kbthngidrbesiyngkhdkhanxyanghnkcakthinaody eyxrmn Friedrich Carl von Savigny krann in kh s 1871 ph s 2414 rthtang inpraethseyxrmnrwmknnaphapraethsekhasurabxbckrwrrdi sunginchwngaerkrthtang yngbriharxanacnitibyytixyangexkeths krathngmikaraekikhephimetimrththrrmnuyaehngckrwrrdieyxrmniemux kh s 1873 ph s 2416 sngphlihekidkarcdtngsphanitibyytiaehngchatikhunthahnathixngkhkrklanginkarnitibyyti aelamikaraetngtngkhnakrrmathikarhlaykhnaephuxrangkdhmay ephuxichepnrakthaninkarcdthapramwlkdhmayaephngichbngkhbtlxdckrwrrdiaethnthikdhmaythiichbngkhbechphaathinxyangedim pramwlkdhmayaephngchbbaerkrangesrcin kh s 1888 ph s 2431 aetidrbesiyngwiphakswicarnechinglbxyangthwmthn khnakrrmkarchudihmcungidrbkaraetngtngkhun prakxbdwyphuthrngkhunwuthiyisibsxngkhncakhlaysakha xathi phuaethnnknitisastr phuaethnnkesrsthsastr aelaphuaethnnkprchya thahnathirangpramwlkdhmayaephngchbbihm idaek ebuxraekrliechsekesthsbukh ni sungtxmaphankarphicarnasakhyhlaykhrngkrathngsphanitibyytiaehngchatieyxrmnilngmtirbrxngihichepnkdhmayidin kh s 1896 ph s 2439 aelamiphlichbngkhbemuxwnthi 1 mkrakhm kh s 1900 ph s 2443 trabwnni yukhnasi inyukhnasi rthbalnasimiaephnkarcaykelikebuxraekrliechsekesthsbukhthnghmd aelwprakasichpramwlkdhmayihmthitngiccaiheriyk eyxrmn Volksgesetzbuch hrux pramwlkdhmayaehngpwngchn aethnthi odypramwlkdhmayihmthicdthakhunnimiwtthuprasngkhephuxrxngrbxudmkhtikhxngrthbalnasi makkwaectnarmnaebbesriniymkhxngebuxraekrliechsekesthsbukh aetaephnkarkhrngnimiekhyklayepncring yukhtngaet kh s 1945 ph s 2488 phayhlngsngkhramolkkhrngthi 2 praethseyxrmniaebngxxkepnsxngfak faktawntkyudthuxrabxbprachathipityaebbthunniym swnfaktawnxxkyudthuxrabxbsngkhmniym krann ebuxraekrliechsekesthsbukhyngkhngthahnathiepnkdhmayaephngkhxngthngsxngfakxyu krathngfaktawnxxkkhxy prakasichkdhmayihmthilaxyangsxngxyangephuxaethnthiebuxraekrliechsekesthsbukh odyerimprakasichpramwlkdhmaykhrxbkhrwkxnin kh s 1966 ph s 2509 aelakdhmayxun cnsinsudlngthikarprakasichpramwlkdhmayaephngihmthngchbbin kh s 1976 ph s 2519 eriyk siwilekesthsbukh eyxrmn Zivilgesetzbuch aelarthbyytiwadwysyya kh s 1982 ph s 2525 aetfaktawntknnyngichebuxraekrliechsekesthsbukhxyu krathngmikarsrangexkphaphihmineyxrmniephuxrwmpraethsepnhnungediywemux kh s 1990 ph s 2533 ebuxraekrliechsekesthsbukhcungklbmiphlichbngkhbthwpraethseyxrmnixikkhrng infaktawntktlxdmacnemuxsrangexkphaphihmineyxrmni ebuxraekrliechsekesthsbukhidrbkaraekikhephimetimephuxphthnahlaykhranbaetprakasichepnkhrngaerkma khrngsakhyidaekin kh s 2002 ph s 2545 thimikarcharakhnanihysungbrrph 3 xnwadwy sngphlihaenwthangkhxngsalinkarprbichaelatikhwamkdhmayaephngtxngphthnaepnkarihyipdwy ebuxraekrliechsekesthsbukhyngkhngmibthbathepnsunyklangkhxngrabbsiwillxwinpraethseyxrmni mixiththiphlehnuxkdeknthhlk thitrakhuntx ma aempccubn dngnn inpramwlkdhmayphanichyeyxrmncungepnaetkdeknthphiessthikahndkhunmakhwbkhumaelahanghunswncakd ephuxprakxbkdeknththwipthimiaelwinebuxraekrliechsekesthsbukh rabbkhwbkhumsngkhmtamebuxraekrliechsekesthsbukhepnaenwkhwamkhidxnepnaebbxyangthangnitisastrinkhriststwrrsthi 19 phuththstwrrsthi 24 emuxaerkprakasichkidrbesiyngwiphakswicarnesngaeswaimidkhanungthungkarkahndihthukfaymikhwamrbphidchxbtxsngkhm nknitisastrkchwyknprbprungrabbdngklaweruxymaephuxihichkariddithisud aelaemuxerw ni odyxiththiphlkhxngkdhmayaehngshphaphyuorpxnepnkdhmayrahwangpraeths ebuxraekrliechsekesthsbukhkidrbkaraekikhephimetimxyangmakephuxihsxdkhlxngkbkdhmayrahwangpraethsni thngni nknitisastrmxngwakarprbprungebuxraekrliechsekesthsbukh epnipephuxyngihekidphlcringsungkarthaihkdhmaywadwyekidkhwamthnsmykhuntamaenwkhwamkhidsmyihmin kh s 2002 ph s 2545 okhrngsrangebuxraekrliechsekesthsbukhmiokhrngsrangthiidrbkarddaeplngcakcnphisdar hruxthieriykwa xngkvs pandect odymienuxhasarakhrxbkhlumkdeknthekiywkbbukhkhl thrphy khrxbkhrw aelamrdk echnediywkbpramwlkdhmaykhxngchatixun thiidrbxiththiphlcakkdhmayormn aettangcakpramwlkdhmayaephngfrngesshrux pramwlkdhmaynopeliyn frngess Code Napoleon aelapramwlkdhmayaephngxxsetriyhrux eyxrmn Allgemeines burgerliches Gesetzbuch trngthiebuxraekrliechsekesthsbukhpramwlbthbyytithwipmaiwepnswnaerksud thaihekhaicbthbyytiinswnxun idngay ebuxraekrliechsekesthsbukhprakxbdwybthbyytihabrrph xngkvs book dngtxipni brrph 1 wadwybththwip eyxrmn Allgemeiner Teil xngkvs General Part matra 1 thungmatra 240 sungwadwykdeknthtang thimiphlkhrxbkhlumthungxiksibrrphthiehluxdwy xathi kdekntheruxngbukhkhl khwamsamarthinkarphuknitismphnth karbxkelikomkhiykrrm karthakaraethn aelakarcakdphvtikarnbangxyang brrph 2 wadwyhni eyxrmn Recht der Schuldverhaltnisse xngkvs Law of Obligations matra 241 thungmatra 853 sungwadwysyyapraephthtang rahwangbukhkhl aela brrph 3 wadwythrphysin eyxrmn Sachenrecht xngkvs Property Law matra 854 thungmatra 1296 sungwadwykarkhrxbkhrxngaelasiththitang ekiywkbthrphysin thngaelaxsngharimthrphy brrph 4 wadwykhrxbkhrw eyxrmn Familienrecht xngkvs Family Law matra 1297 thungmatra 1921 sungwadwykarsmrs aelanitismphnthtang rahwangsmachikinkhrxbkhrw brrph 5 wadwymrdk eyxrmn Erbrecht xngkvs Law of Succession matra 1922 thungmatra 2385 wadwymrdk klawkhuxekidxairkhunbangaeksingkhxngkhxngbukhkhlthitayaelw rwmthungkarprakasectnakhxngekhadwyekrdelkekrdnxyimmikdhmayaehngeyxrmnichbbihnthimicanwnmatramakkwaebuxraekrliechsekesthsbukhthimithngsinsxngphnsamrxyaepdsibhamatraxikaelw matra 923 1 aehngebuxraekrliechsekesthsbukh epn xngkvs hexameter xnsmburnaebbinphasaeyxrmn odybyytiwa Steht auf der Grenze ein Baum so gebuhren die Fruchte und wenn der Baum gefallt wird auch der Baum den Nachbarn zu gleichen Teilen If a tree stands on the border between two plots of land the neighbours have equal rights to the fruit thereof and if it is cut down also to the tree hakimyuntnecriykhabkhxbthidinsxngthi phuxyukhangekhiyngkhxbthidinechnwayxmmisiththiesmxkninsingngxkengycakimyuntnnn aelainlatnaehngimyuntnnnemuxthukokhnlng swnmatra 923 3 aehngebuxraekrliechsekesthsbukh mismphskhlxngcxngkninphasaeyxrmn odybyytiwa Diese Vorschriften gelten auch fur einen auf der Grenze stehenden Strauch The foregoing provisions are also valid for bushes standing on the border bthbyytikxnhnaniihichbngkhbaekimphumxnecriybnkhxbthidindwy aemkdhmayxun hlaychbbphyayamcaaekpyhaphiessbangprakarsungxacxyunxkehnuxkhxbekhtkhxngkdhmayaephngthwip krann twebuxraekrliechsekesthsbukhsungepnpramwlkdhmayaephngexngkprakt biennerch eyxrmn Bienenrecht hrux kdaehngphung xngkvs law of bees xyuinmatra 961 thungmatra 964 aehngbrrph 3 xnwadwythrphy kdaehngphungepnphlmacakkarthikdhmayeyxrmnihtikhwamwaphungepnstwpaemuxlacakrng aelatamkdhmayaelwbukhkhlcakhrxbkhrxngstwpamiid matradngklawcungxnuyatihphukhrxbkhrxngfungphungkxnwnprakasichebuxraekrliechsekesthskhngmisiththiinfungphungnnid aetmatra 961 thungmatra 964 nimkthukmxngwamikhwamsakhynxymakinkdhmayeyxrmnxangxingaeswng buyechlimwiphas 2543 prawtisastrkdhmayithy krungethph wiyyuchn ISBN 9742826218 hna 58 aehlngkhxmulxun phasaeyxrmn ebuxraekrliechsekesthsbukh chbbsmburn ody phasaxngkvs ebuxraekrliechsekesthsbukh chbbsmburn ody phasaeyxrmn khnhabthbyytiinebuxraekrliechsekesthsbukh phasaeyxrmn sunykhxmulebuxraekrliechsekesthsbukh 2005 02 17 thi ewyaebkaemchchin phasaeyxrmn thsnwicarnebuxraekrliechsekesthsbukh odynknitisastrchaweyxrmn