ประตูนรก (ฝรั่งเศส: La Porte de l'Enfer; อังกฤษ: The Gates of Hell) เป็นประติมากรรมกลุ่มขนาดใหญ่ที่สร้างโดยโอกุสต์ รอแด็งประติมากรชาวฝรั่งเศส ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ออร์แซในกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส
ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นภาพฉาก “” (Inferno) ซึ่งเป็นภูมิแรกของ “ไตรภูมิดันเต” โดยดันเต อาลีกีเอรี มีขนาดสูง 6 เมตร, กว้าง 4 เมตร และ หนา 1 เมตร และประกอบด้วยตัวแบบ 180 ตัว ตัวแบบมีขนาดตั้งแต่ 15 เซนติเมตร จนถึงกว่า 1 เมตร ตัวแบบบางตัวก็นำมาขยายเป็นประติมากรรมชิ้นอิสระโดยรอแด็ง
ประวัติ
ประติมากรรมชิ้นนี้ได้รับการจ้างให้สร้างขึ้นโดยผู้อำนวยการวิจิตรศิลป์เมื่อปี ค.ศ. 1880 ให้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1885 แต่รอแด็งก็ยังคงทำการสร้างอยู่เป็นพักๆ เป็นเวลา 37 ปี จนกระทั่งมาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1917
แต่พิพิธภัณฑ์ศิลปะตกแต่งก็มิได้รับการสร้างขึ้น งานของรอแด็งชิ้นนี้จึงตั้งอยู่ที่ รอแด็งอุทิศประติมากรรมชิ้นนี้, ภาพวาดลายเส้น และ สิทธิในการลอกเลียนในแก่รัฐบาลฝรั่งเศสในบั้นปลายของชีวิต ในปี ค.ศ. 1919 สองปีหลังจากที่รอแด็งเสียชีวิตก็กลายเป็นซึ่งเป็นที่เก็บรักษา “ประตูนรก” และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
แรงบันดาลใจในการสร้าง “ประตูนรก”
การสร้างงานชิ้นใหญ่ขนาด “ประตูนรก” เป็นงานที่ไม่เคยทำกันมาก่อน แต่แรงบันดาลของงานชิ้นนี้มาจากงานประติมากรรม “ประตูสวรรค์” บนบานประตูหอศีลจุ่มซานจิโอวานนิในฟลอเรนซ์ที่สร้างโดยลอเร็นโซ กิเบอร์ติ ประตูสัมริดจากคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีรูปลักษณ์จากพันธสัญญาเดิม แรงบันดาลอีกแรงหนึ่งมาจากมหาวิหารของยุคกลาง ที่บางแห่งมีทั้งงานที่รวมประติมากรรมและประติมากรรมนูนสูงด้วยกัน
รูปลักษณ์ที่เด่น
ประติมากรรมต้นฉบับเหล่านี้ได้รับการขยายและกลายเป็นงานศิลปะชิ้นเอกลักษณ์
- “คนครุ่นคิด” หรือ “กวี” ฝรั่งเศส: Le Penseur) ตั้งอยู่ตอนบนของประตูเหนือบานประตู การตีความหมายหนึ่งกล่าวว่าเป็นภาพของดันเตมองลงมายังผู้คนในนรกภูมิ อีกความหมายหนึ่งก็ว่าผู้ที่เป็นแบบคือรอแด็งเอง ผู้กำลังครุ่นคิดถึงองค์ประกอบของงาน และบ้างก็เชื่อว่าเป็นภาพของอาดัมครุ่นคำนึงถึงความหายนะต่อมวลมนุษย์ที่ตนเป็นผู้นำมาหลังจากการกระทำบาปครั้งแรก
- “” ฝรั่งเศส: Le Baiser เดิมเป็นภาพที่เป็นส่วนหนึ่งของประตู เช่นภาพ “ปาโอโลและฟรันเชสกาดารีมีนี” รอแด็งต้องการที่จะแสดงภาพของการเริ่มด้วยความปิติและการสิ้นสุดลงด้วยการถูกลงโทษ แต่ก็นำรูปลักษณ์นี้ออก และกลายมาเป็นประติมากรรมชิ้นที่รู้จักกันว่า “” เพราะเป็นงานที่แสดงความรู้สึกอันตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์อื่นๆ บนบานประตู
- “อูโลลิโนและบุตร” (ฝรั่งเศส: Ugolin et ses enfants) เป็นประติมากรรมที่เป็นภาพของเคานต์ ผู้ตามตำนานแล้วกินซากศพลูกของตนเองหลังจากที่ลูกตายจากการอดอาหาร กลุ่มอูโลลิโนต่อมาหล่อเป็นประติมากรรมสัมริดอีกชิ้นหนึ่งในปี ค.ศ. 1882
- “Les trois Ombres” เดิมเป็นประติมากรรมเป็นรูปลักษณ์สามรูปแยกกันในปี ค.ศ. 1899 ต่อมารอแด็งเชื่อมเข้าด้วยกันที่มือ คล้ายกับเวอร์ชันขนาดเล็กกว่า เดิมรูปลักษณ์ชี้ไปที่วลี "Lasciate ogne speranza, voi ch'intrate" (ไทย: สิ้นความหวังจนหมดสิ้น, ท่านผู้ที่เข้ามา ณ ที่นี่)
- “ความรักเทียม” (ฝรั่งเศส: Fugit Amor) ตั้งอยู่บนบานขวาของประตู เป็นประติมากรรมรูปลักษณ์หลายรูปของคนรักที่เป็นสัญลักษณ์ของเพาโลและรูปลักษณ์ ภาพชายรู้จักกันในชื่อ The Prodigial ด้วย
- “ปาโอโลและฟรันเชสกา” (อังกฤษ: Paolo and Francesca) เป็นประติมากรรมที่ตั้งอยู่บนบานซ้ายของประตู ปาโอโลพยายามดึงตัวฟรันเชสกาที่ดูเหมือนจะหลุดลอยไป
- “คำนึง” (อังกฤษ: Meditation) เป็นประติมากรรมที่อยู่ทางขวาสุดของหน้าบันของประตู ที่สร้างเป็นงานชิ้นใหญ่ในปี ค.ศ. 1896
- “ภรรยาสูงอายุ” (อังกฤษ: The Old Courtesan) เป็นประติมากรรมสำริดที่หล่อในปี ค.ศ. 1910 ของสตรีเปลือยสูงอายุ หรือที่เรียกว่า “Celle qui fut la belle heaulmière” (ไทย: เธอผู้ครั้งหนึ่งเป็นภรรยาคนงามของคนทำหมวกเกราะ) ซึ่งเป็นชื่อของบทกวีนิพนธ์โดย
- “ฉันเป็นคนงาม” (ฝรั่งเศส: Je Suis Belle) เป็นประติมากรรมที่หล่อในปี ค.ศ. 1882 เป็นกลุ่มคนกลุ่มที่สองทางด้านขวาสุดของประตู
- “ฤดูใบไม้ผลิอันไม่สิ้นสุด” (อังกฤษ: Eternal Springtime) เป็นประติมากรรมที่หล่อในปี ค.ศ. 1884
- “อาดัมและอีฟ” รอแด็งของทุนเพิ่มขึ้นจากผู้อำนวยการในการสร้างงานประติมากรรมชิ้นนี้ โดยตั้งใจที่จะใช้ขนาบประตูสองข้าง
ที่ตั้ง
พลาสเตอร์ของงานต้นฉบับได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1917 และตั้งแสดงอยู่ที่ ในปารีส และพลาสเตอร์ที่แสดงขั้นตอนของการพัฒนาของงานตั้งแสดงอยู่ที่ ใน และในปี ค.ศ. 1917 เช่นกันก็ได้มีการสร้างหุ่นจำลองของพิมพ์ประติมากรรมสัมริดสำหรับ:
- ในปารีส
- ในฟิลาเดลเฟีย
- [1] 2011-01-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ในโตเกียว
ต่อมาก็ได้มีการหล่อประติมากรรมสัมริดโดยพิพิธภัณฑ์รอแด็งให้แก่สถาบันหลายสถาบันที่รวมทั้ง:
- , ซือริช
- สวนประติมากรรมรอแด็ง บี. เจอราลด์ แคนเตอร์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
- หอศิลป์รอแด็ง, โซล, เกาหลี
อ้างอิง
- Dante, Inferno, Canto XXXIII
- Le Normand-Romain, Antoinette (1999). Rodin:The Gates of Hell. Paris: Musée Rodin. ISBN .
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ “ประตูนรก”
- Musée Rodin, Paris, France
- A free documentary about the Gates of Hell. Why did Rodin make two different gates and why they helped redefine the art of sculpture?
- Rodin Museum, Philadelphia, Pennsylvania, USA
- Alighieri, Dante. Inferno, Canto V 2009-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Gigapan image of the Gates of Hell.
- Octave Mirbeau, « Auguste Rodin ».
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
pratunrk frngess La Porte de l Enfer xngkvs The Gates of Hell epnpratimakrrmklumkhnadihythisrangodyoxkust rxaedngpratimakrchawfrngess thipccubntngaesdngxyuthiphiphithphnthxxraesinkrungparisinpraethsfrngesspratunrkchinthicdaesdngthisuxrich pratimakrrmchinniepnphaphchak Inferno sungepnphumiaerkkhxng itrphumidnet odydnet xalikiexri mikhnadsung 6 emtr kwang 4 emtr aela hna 1 emtr aelaprakxbdwytwaebb 180 tw twaebbmikhnadtngaet 15 esntiemtr cnthungkwa 1 emtr twaebbbangtwknamakhyayepnpratimakrrmchinxisraodyrxaedngprawtipratimakrrmchinniidrbkarcangihsrangkhunodyphuxanwykarwicitrsilpemuxpi kh s 1880 ihsrangesrcinpi kh s 1885 aetrxaedngkyngkhngthakarsrangxyuepnphk epnewla 37 pi cnkrathngmaesiychiwitinpi kh s 1917 aetphiphithphnthsilpatkaetngkmiidrbkarsrangkhun ngankhxngrxaedngchinnicungtngxyuthi rxaedngxuthispratimakrrmchinni phaphwadlayesn aela siththiinkarlxkeliyninaekrthbalfrngessinbnplaykhxngchiwit inpi kh s 1919 sxngpihlngcakthirxaedngesiychiwitkklayepnsungepnthiekbrksa pratunrk aelanganxun thiekiywkhxngaerngbndalicinkarsrang pratunrk karsrangnganchinihykhnad pratunrk epnnganthiimekhythaknmakxn aetaerngbndalkhxngnganchinnimacaknganpratimakrrm pratuswrrkh bnbanpratuhxsilcumsancioxwanniinflxernsthisrangodylxernos kiebxrti pratusmridcakkhriststwrrsthi 15 miruplksncakphnthsyyaedim aerngbndalxikaernghnungmacakmhawiharkhxngyukhklang thibangaehngmithngnganthirwmpratimakrrmaelapratimakrrmnunsungdwyknruplksnthiednpratimakrrmtnchbbehlaniidrbkarkhyayaelaklayepnngansilpachinexklksn khnkhrunkhid hrux kwi frngess Le Penseur tngxyutxnbnkhxngpratuehnuxbanpratu kartikhwamhmayhnungklawwaepnphaphkhxngdnetmxnglngmayngphukhninnrkphumi xikkhwamhmayhnungkwaphuthiepnaebbkhuxrxaedngexng phukalngkhrunkhidthungxngkhprakxbkhxngngan aelabangkechuxwaepnphaphkhxngxadmkhrunkhanungthungkhwamhaynatxmwlmnusythitnepnphunamahlngcakkarkrathabapkhrngaerk frngess Le Baiser edimepnphaphthiepnswnhnungkhxngpratu echnphaph paoxolaelafrnechskadarimini rxaedngtxngkarthicaaesdngphaphkhxngkarerimdwykhwampitiaelakarsinsudlngdwykarthuklngoths aetknaruplksnnixxk aelaklaymaepnpratimakrrmchinthiruckknwa ephraaepnnganthiaesdngkhwamrusukxntrngknkhamkbruplksnxun bnbanpratu xuollionaelabutr frngess Ugolin et ses enfants epnpratimakrrmthiepnphaphkhxngekhant phutamtananaelwkinsaksphlukkhxngtnexnghlngcakthiluktaycakkarxdxahar klumxuolliontxmahlxepnpratimakrrmsmridxikchinhnunginpi kh s 1882 Les trois Ombres edimepnpratimakrrmepnruplksnsamrupaeykkninpi kh s 1899 txmarxaedngechuxmekhadwyknthimux khlaykbewxrchnkhnadelkkwa edimruplksnchiipthiwli Lasciate ogne speranza voi ch intrate ithy sinkhwamhwngcnhmdsin thanphuthiekhama n thini khwamrkethiym frngess Fugit Amor tngxyubnbankhwakhxngpratu epnpratimakrrmruplksnhlayrupkhxngkhnrkthiepnsylksnkhxngephaolaelaruplksn phaphchayruckkninchux The Prodigial dwy paoxolaelafrnechska xngkvs Paolo and Francesca epnpratimakrrmthitngxyubnbansaykhxngpratu paoxolphyayamdungtwfrnechskathiduehmuxncahludlxyip khanung xngkvs Meditation epnpratimakrrmthixyuthangkhwasudkhxnghnabnkhxngpratu thisrangepnnganchinihyinpi kh s 1896 phrryasungxayu xngkvs The Old Courtesan epnpratimakrrmsaridthihlxinpi kh s 1910 khxngstriepluxysungxayu hruxthieriykwa Celle qui fut la belle heaulmiere ithy ethxphukhrnghnungepnphrryakhnngamkhxngkhnthahmwkekraa sungepnchuxkhxngbthkwiniphnthody chnepnkhnngam frngess Je Suis Belle epnpratimakrrmthihlxinpi kh s 1882 epnklumkhnklumthisxngthangdankhwasudkhxngpratu vduibimphlixnimsinsud xngkvs Eternal Springtime epnpratimakrrmthihlxinpi kh s 1884 xadmaelaxif rxaedngkhxngthunephimkhuncakphuxanwykarinkarsrangnganpratimakrrmchinni odytngicthicaichkhnabpratusxngkhangthitngphlasetxrkhxngngantnchbbidrbkarburnainpi kh s 1917 aelatngaesdngxyuthi inparis aelaphlasetxrthiaesdngkhntxnkhxngkarphthnakhxngngantngaesdngxyuthi in aelainpi kh s 1917 echnknkidmikarsranghuncalxngkhxngphimphpratimakrrmsmridsahrb inparis infilaedlefiy 1 2011 01 11 thi ewyaebkaemchchin inotekiyw txmakidmikarhlxpratimakrrmsmridodyphiphithphnthrxaedngihaeksthabnhlaysthabnthirwmthng suxrich swnpratimakrrmrxaedng bi ecxrald aekhnetxrthimhawithyalysaetnfxrd hxsilprxaedng osl ekahlixangxingDante Inferno Canto XXXIII Le Normand Romain Antoinette 1999 Rodin The Gates of Hell Paris Musee Rodin ISBN 2 9014 2869 X duephimoxkust rxaedngaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb pratunrk Musee Rodin Paris France A free documentary about the Gates of Hell Why did Rodin make two different gates and why they helped redefine the art of sculpture Rodin Museum Philadelphia Pennsylvania USA Alighieri Dante Inferno Canto V 2009 01 31 thi ewyaebkaemchchin Gigapan image of the Gates of Hell Octave Mirbeau Auguste Rodin