บาดแผล เป็นคำเรียกลักษณะของการฉีกขาดของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในร่างกาย (Disruption of the anatomical continuity of tissur) ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับแรงกระแทกจากของแข็ง (Mechanical Forces) หรืออาจเกิดจากของมีคม บาดแผลจึงกลายเป็นสิ่งที่ตามมาของการเกิดอาการบาดเจ็บ (Trauma) การเกิดบาดแผลภายในร่างกาย ถ้าบาดแผลได้รับจากการทำร้ายร่างกายหรือเกิดจากการกระทำของผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถึงกับเสียชีวิต บาดแผลจะกลายเป็นหลักฐานในการชี้ชัดถึงสาเหตุการตาย และเป็นหลักฐานสำคัญในการมัดตัวผู้กระทำความผิดในคดีฆาตกรรม
บาดแผล | |
---|---|
ชายมีบาดแผล | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | T14.0-T14.1 |
ICD- | 872-893 |
MeSH | D014947 |
ในทางอาชญากรรม บาดแผลอาจเป็นเครื่องบ่งชี้เจตนาของผู้กระทำความผิด ถ้าบาดแผลที่ปรากฏตามร่างกายสาหัสและโหดเหี้ยมเพียงใด ก็จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการกระทำภายในจิตใจของผู้กระทำความผิด เพราะฉะนั้นในการวินิจฉัยบาดแผลที่ปรากฏตามร่างกาย ก็จะเป็นการวินิฉัยจิตใจของผู้กระทำความผิดด้วย ว่ามีเจตนา มุ่งร้ายหรือป้องกันตัวเองจากภัยอันตรายอย่างไร
บาดแผลและแผล
นอกเหนือจากคำว่า "บาดแผล" แล้ว ในทางด้านการแพทย์ยังปรากฏคำว่า "แผล" (Ulcer) โดย บาดแผล และ แผล นั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แผลอาจเกิดจากการหายไปหรือการแหว่งของเนื้อเยื่อที่บริเวณผิวหนังของร่างกาย หรือแผลที่ปรากฏในบริเวณเยื่อบุภายในร่างกาย ซึ่งแผลที่ปรากฏบริเวณผิวหนังเมื่อร่างกายเป็นฝี เป็นหนองแล้วเกิดการแตกของผิวหนัง เมื่อเลือดและหนองไหลออกมาจากฝีที่แตก ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเป็นโพรงและเกิดเป็นแผลขึ้นมา หรือลักษณะของผิวหนังบริเวณร่างกายเมื่อเกิดการอักเสบ เนื้อบริเวณที่เกิดการอักเสบจะตายและเน่าเปื่อยหายไป เกิดเป็นรอยแหว่งบริเวณผิวหนังและกลายเป็นแผล หรือเมื่อร่างกายเกิดเป็นมะเร็งหรือเนื้องอก เมื่อเนื้อนั้นโตเต็มที่แล้วแตกออกกลายเป็นแผล
ในทางนิติวิทยาศาสตร์ บาดแผลสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ชนิด คือ
- บาดแผลถลอก (Abrasion)
- บาดแผลฟกช้ำ (Contusion of bruise)
- บาดแผลถูกแทง (Stab wound)
- บาดแผลฉีกขาดขอบเรียบ (Cut or incised wound)
- บาดแผลฉีกขาดขอบไม่เรียบ (Lacerated wound)
- บาดแผลเกิดจากกระสุนปืน (Gunshot wound)
ชนิดของบาดแผล
บาดแผลถลอก
บาดแผลถลอก เป็นลักษณะของการเกิดบาดแผลที่บริเวณชั้นผิวหนังชั้นตื้น ซึ่งเป็นบาดแผลที่เกิดจากการฉีกขาดของผิวหนังที่เป็นหนังกำพร้า บาดแผลถลอกจะมีลักษณะเป็นขุยขาว ๆ ที่บริเวณชั้นผิวหนัง ซึ่งอาจจะมีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกมาจากบาดแผลบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับแรงที่มากระทำที่บริเวณผิวหนัง ตามปกติบาดแผลถลอกจะหายเองเมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 วัน ถ้าไม่มีการติดเชื้อและการอักเสบของบาดแผล ลักษณะของบาดแผลจะเปลี่ยนจากขุยขาว ๆ เป็นตกสะเก็ดสีน้ำตาล แผลจะแห้งและแข็ง แต่ถ้าภายหลังจาก 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดบาดแผลแล้วมีการติดเชื้อและแผลอักเสบ บริเวณบาดแผลจะมีน้ำเหลืองและหนองไหลเยิ้ม
การเกิดบาดแผลถลอก เกิดจากการที่ของแข็งที่มีผิวหยาบ มากระทบหรือเสียดสีกับผิวหนัง หรืออาจเกิดจากการขีดข่วนของของมีคมหรือของเล่ม เช่นลวดหนาม เส้นลวดหรือเศษไม้เป็นต้น ลักษณะของบาดแผลถลอกที่เกิดจากการขีดข่วนของของแหลมหรือของมีคม จะมีลักษณะเป็นเส้นหรือเป็นแนว ในการชันสูตรพลิกศพ ศพที่มีร่องรอยของบาดแผลถลอกจะมีลักษณะของบาดแผลเป็นสีน้ำตาล บริเวณผิวหนังที่มีบาดแผลถลอกจะแห้งและแข็งกว่าผิวหนังบริเวณอื่น เพราะน้ำที่อยู่ภายในร่างกาย สามารถระเหยออกไปได้มากกว่าที่อื่น
บาดแผลฟกช้ำ
การเกิดบาดแผลฟกช้ำ เกิดจากการที่ของแข็งที่มีผิวหยาบ มากระทบหรือเสียดสีกับผิวหนัง หรืออาจเกิดจากการขีดข่วนของของมีคมหรือของเล่ม เช่นลวดหนาม เส้นลวดหรือเศษไม้เป็นต้น ลักษณะของบาดแผลถลอกที่เกิดจากการขีดข่วนของของแหลมหรือของมีคม จะมีลักษณะเป็นเส้นหรือเป็นแนว ในการชันสูตรพลิกศพ ศพที่มีร่องรอยของบาดแผลถลอกจะมีลักษณะของบาดแผลเป็นสีน้ำตาล บริเวณผิวหนังที่มีบาดแผลถลอกจะแห้งและแข็งกว่าผิวหนังบริเวณอื่น เพราะน้ำที่อยู่ภายในร่างกาย สามารถระเหยออกไปได้มากกว่าที่อื่น
บาดแผลถูกแทง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บาดแผลฉีดขาดขอบเรียบ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บาดแผลฉีกขาดขอบไม่เรียบ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บาดแผลเกิดจากกระสุนปืน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เป็นรู
ความสัมพันธ์ของบาดแผลกับการทำร้ายร่างกาย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บาดแผลอันตรายสาหัส
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- บาดแผลกับกฎหมาย, นิติเวชศาสตร์, ศ. นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์, หน้า 279, 2544
แหล่งข้อมูลอื่น
- การเขียนใบรับรองแพทย์ และการชันสูตรบาดแผล โรงพยาบาลรามาธิบดี 2007-12-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บาดแผล โดย พันตำรวจโท นายแพทย์พิพัฒน์ ชูวรเวช / สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
badaephl epnkhaeriyklksnakhxngkarchikkhadkhxngenuxeyuxaelaxwywaphayinrangkay Disruption of the anatomical continuity of tissur sungxacekidcakkaridrbaerngkraaethkcakkhxngaekhng Mechanical Forces hruxxacekidcakkhxngmikhm badaephlcungklayepnsingthitammakhxngkarekidxakarbadecb Trauma karekidbadaephlphayinrangkay thabadaephlidrbcakkartharayrangkayhruxekidcakkarkrathakhxngphuxun cnepnehtuihthungkbesiychiwit badaephlcaklayepnhlkthaninkarchichdthungsaehtukartay aelaepnhlkthansakhyinkarmdtwphukrathakhwamphidinkhdikhatkrrmbadaephlchaymibadaephlbychicaaenkaelalingkipphaynxkICD 10T14 0 T14 1ICD 872 893MeSHD014947 inthangxachyakrrm badaephlxacepnekhruxngbngchiectnakhxngphukrathakhwamphid thabadaephlthiprakttamrangkaysahsaelaohdehiymephiyngid kcaepnkaraesdngihehnthungectnainkarkrathaphayincitickhxngphukrathakhwamphid ephraachanninkarwinicchybadaephlthiprakttamrangkay kcaepnkarwinichycitickhxngphukrathakhwamphiddwy wamiectna mungrayhruxpxngkntwexngcakphyxntrayxyangirbadaephlaelaaephlnxkehnuxcakkhawa badaephl aelw inthangdankaraephthyyngpraktkhawa aephl Ulcer ody badaephl aela aephl nnmilksnathiaetktangknxxkip aephlxacekidcakkarhayiphruxkaraehwngkhxngenuxeyuxthibriewnphiwhnngkhxngrangkay hruxaephlthipraktinbriewneyuxbuphayinrangkay sungaephlthipraktbriewnphiwhnngemuxrangkayepnfi epnhnxngaelwekidkaraetkkhxngphiwhnng emuxeluxdaelahnxngihlxxkmacakfithiaetk thaihenuxeyuxbriewnnnepnophrngaelaekidepnaephlkhunma hruxlksnakhxngphiwhnngbriewnrangkayemuxekidkarxkesb enuxbriewnthiekidkarxkesbcatayaelaenaepuxyhayip ekidepnrxyaehwngbriewnphiwhnngaelaklayepnaephl hruxemuxrangkayekidepnmaernghruxenuxngxk emuxenuxnnotetmthiaelwaetkxxkklayepnaephl inthangnitiwithyasastr badaephlsamarthaebngxxkidepn 6 chnid khux badaephlthlxk Abrasion badaephlfkcha Contusion of bruise badaephlthukaethng Stab wound badaephlchikkhadkhxberiyb Cut or incised wound badaephlchikkhadkhxbimeriyb Lacerated wound badaephlekidcakkrasunpun Gunshot wound chnidkhxngbadaephlbadaephlthlxk badaephlthlxk epnlksnakhxngkarekidbadaephlthibriewnchnphiwhnngchntun sungepnbadaephlthiekidcakkarchikkhadkhxngphiwhnngthiepnhnngkaphra badaephlthlxkcamilksnaepnkhuykhaw thibriewnchnphiwhnng sungxaccamieluxdhruxnaehluxngsumxxkmacakbadaephlbangelknxy khunxyukbaerngthimakrathathibriewnphiwhnng tampktibadaephlthlxkcahayexngemuxrayaewlaphanippraman 2 3 wn thaimmikartidechuxaelakarxkesbkhxngbadaephl lksnakhxngbadaephlcaepliyncakkhuykhaw epntksaekdsinatal aephlcaaehngaelaaekhng aetthaphayhlngcak 24 chwomnghlngcakekidbadaephlaelwmikartidechuxaelaaephlxkesb briewnbadaephlcaminaehluxngaelahnxngihleyim karekidbadaephlthlxk ekidcakkarthikhxngaekhngthimiphiwhyab makrathbhruxesiydsikbphiwhnng hruxxacekidcakkarkhidkhwnkhxngkhxngmikhmhruxkhxngelm echnlwdhnam esnlwdhruxessimepntn lksnakhxngbadaephlthlxkthiekidcakkarkhidkhwnkhxngkhxngaehlmhruxkhxngmikhm camilksnaepnesnhruxepnaenw inkarchnsutrphliksph sphthimirxngrxykhxngbadaephlthlxkcamilksnakhxngbadaephlepnsinatal briewnphiwhnngthimibadaephlthlxkcaaehngaelaaekhngkwaphiwhnngbriewnxun ephraanathixyuphayinrangkay samarthraehyxxkipidmakkwathixun badaephlfkcha karekidbadaephlfkcha ekidcakkarthikhxngaekhngthimiphiwhyab makrathbhruxesiydsikbphiwhnng hruxxacekidcakkarkhidkhwnkhxngkhxngmikhmhruxkhxngelm echnlwdhnam esnlwdhruxessimepntn lksnakhxngbadaephlthlxkthiekidcakkarkhidkhwnkhxngkhxngaehlmhruxkhxngmikhm camilksnaepnesnhruxepnaenw inkarchnsutrphliksph sphthimirxngrxykhxngbadaephlthlxkcamilksnakhxngbadaephlepnsinatal briewnphiwhnngthimibadaephlthlxkcaaehngaelaaekhngkwaphiwhnngbriewnxun ephraanathixyuphayinrangkay samarthraehyxxkipidmakkwathixun badaephlthukaethng swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidbadaephlchidkhadkhxberiyb swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidbadaephlchikkhadkhxbimeriyb swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidbadaephlekidcakkrasunpun swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid epnrukhwamsmphnthkhxngbadaephlkbkartharayrangkayswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidbadaephlxntraysahsswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxangxingbadaephlkbkdhmay nitiewchsastr s nph withury xungpraphnth hna 279 2544aehlngkhxmulxunkarekhiynibrbrxngaephthy aelakarchnsutrbadaephl orngphyabalramathibdi 2007 12 31 thi ewyaebkaemchchin badaephl ody phntarwcoth nayaephthyphiphthn chuwrewch saranukrmithysahrbeyawchn elmthi 8wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb badaephl bthkhwamkartay hrux badaephlniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk