นกแคสโซแวรี ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ไพลโอซีน - ปัจจุบัน, 5.0–0Ma | |
---|---|
นกแคสโซแวรีใต้ (Casuarius casuarius) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | |
วงศ์: | Casuariidae , 1847 |
สกุล: | Casuarius , 1760 |
ชนิดต้นแบบ | |
Struthio casuarius Linnaeus, 1758 | |
ชนิด | |
ชื่อพ้อง | |
|
นกแคสโซแวรี (อังกฤษ: cassowary) เป็นนกบินไม่ได้ขนาดใหญ่สกุลหนึ่ง อาศัยอยู่ในแถบซีกโลกใต้ (โอเชียเนีย) จัดอยู่ในสกุล Casuarius ในวงศ์ Casuariidae
ศัพท์มูลวิทยา
คำว่า "แคสโซแวรี" นั้น มาจากภาษามลายูคำว่า kasuari
ลักษณะ
จัดเป็นนกประเภท (นกบินไม่ได้ขนาดใหญ่ ที่มีโครงสร้างแบบนกยุคก่อนประวัติศาสตร์) เช่นเดียวกับนกกระจอกเทศ, และนกกีวี โดยเป็นนกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองมาจากนกกระจอกเทศ และนกอีมูเท่านั้น มีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร หรือกว่านั้น ตัวเมียโดยปกติจะใหญ่กว่าตัวผู้ อาจจะสูงได้ถึง 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 53.8 กิโลกรัม
นกแคสโซแวรีมีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำปกคลุมลำตัว ซึ่งขนมีลักษณะแตกต่างไปจากนกจำพวกอื่น ๆ คือ ขนเส้นเดียวแต่แตกออกเป็น 2 เส้น มีไว้สำหรับป้องกันตัวยามเมื่อต้องเดินฝ่าพงหนามหรือพุ่มไม้ มีลำคอยาวไม่มีขนเหมือนนกกระจอกเทศ บริเวณใบหน้าและลำคอมีสีสันสดใสต่างกันไปตามแต่ละชนิด และมีจุดเด่น คือ หงอนขนาดใหญ่บนหัว ซึ่งเป็นสารประกอบ ภายในเป็นโพรงกลวง ปัจจุบันยังไม่มีทราบถึงสาเหตุการมีของหงอนนี้ แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนสันนิษฐานว่า มีไว้เพื่อช่วยในการส่งเสียงร้อง แบบเดียวกับไดโนเสาร์บางสกุลที่มีหงอนบนหัว เช่น พาราซอโรโลฟัส หรือแลมบีโอซอรัส เสียงที่ได้จะเป็นเสียงทุ้มต่ำ ซึ่งนกแคสโซแวรีจัดเป็นนกที่มีเสียงร้องต่ำที่สุดในโลก และยังมีเหตุผลนอกเหนือไปจากนี้ คือ ใช้ในการประกาศเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือเป็นการแสดงออกทางเพศ นกแคสโซแวรีในวัยอ่อน หงอนดังกล่าวจะยังไม่ปรากฏ แต่จะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อนกโตขึ้นตามวัย ซึ่งหงอนดังกล่าวสามารถยาวได้ถึง 15-17 เซนติเมตร
นิ้วตีนของนกแคสโซแวรี มี 3 นิ้ว แตกต่างไปจากแรไทต์อย่างนกกระจอกเทศที่มี 2 นิ้ว ทุกนิ้วมีกรงเล็บที่แหลมคม โดยเฉพาะนิ้วกลางที่ยื่นยาวที่สุด ซึ่งยาวได้ถึง 5 นิ้ว (12 เซนติเมตร) เป็นอาวุธที่ใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวด้วยการกระโดดถีบ ด้วยความแรง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การกระจายพันธุ์และการแพร่พันธุ์
นกแคสโซแวรีกระจายพันธุ์ในป่าดิบชื้นของเกาะนิวกินีและบางส่วนของออสเตรเลีย เช่น รัฐควีนส์แลนด์ เป็นนกที่หากินตามลำพัง อาหารตามปกติได้แก่ ผลไม้, ลูกไม้ต่าง ๆ ที่ตกหล่นบนพื้นหรือขึ้นตามพุ่มเตี้ย ๆ, เห็ดรา และสามารถกินเนื้อสัตว์ได้ด้วย เช่น สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก ๆ รวมถึงซากสัตว์ เวลาในการออกหากินอยู่ในช่วงโพล้เพล้ทั้งในตอนเช้ามืดและตอนเย็น
มีฤดูผสมพันธุ์ราวเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โดยตัวผู้จะเป็นฝ่ายตามหาตัวเมีย หลังจากจับคู่กันได้ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะผสมพันธุ์กัน หลังจากผสมพันธุ์แล้ว นกตัวเมียจะวางไข่ครั้งละ 5-6 ฟอง บนพื้นดินในรังที่ตัวผู้สร้างไว้จากใบไม้ต่าง ๆ เปลือกไข่สีเขียวเข้มหรือสีเขียวอ่อน เสร็จแล้วจะจากไป ปล่อยให้นกตัวผู้เป็นฝ่ายกกไข่และเลี้ยงดูลูกนกที่ฟักออกมา นกตัวเมียจะผสมพันธุ์กับตัวผู้หลายตัวโดยมีรัศมีการหาคู่กว้างประมาณ 7 กิโลเมตร ตัวผู้ใช้เวลาฟักประมาณ 50-52 วัน ลูกนกที่เกิดมาใหม่จะมีขนสีน้ำตาล สีสันไม่สดใส และยังไม่มีหงอน ตัวผู้ใช้เวลาเลี้ยงลูกนานประมาณ 9 เดือน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปหากินตามอิสระ มีอายุขัยได้ถึง 50 ปี หรือมากกว่านั้นในที่เลี้ยง แต่อายุโดยเฉลี่ยในป่าเพียง 12-19 ปี เท่านั้น
การจำแนก
นกแคสโซแวรีปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด โดยมีบางชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
- นกแคสโซแวรีใต้ (Casuarius casuarius) เป็นนกแคสโซแวรีชนิดที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักดีที่สุดในโลก
- (Casuarius bennetti) พบในพื้นที่ราบสูงของนิวกินี
- (Casuarius unappendiculatus) พบในพื้นที่ตอนเหนือและภาคตะวันตกของเกาะนิวกินี ในพื้นที่ราบต่ำ
- †
สถานะและความสัมพันธ์กับมนุษย์
นกแคสโซแวรี โดยเฉพาะนกแคสโซแวรีใต้ นับเป็นนกที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากมีนิสัยหงุดหงิดหรือก้าวร้าวได้ง่าย เมื่อจะทำร้ายผู้รุกรานจะใช้การกระโดดถีบอย่างรุนแรง จากกรงเล็บที่แหลมคมทำให้ได้รับแผลฉกรรจ์ได้ มีมนุษย์ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตมาแล้ว
นกแคสโซแวรี วิ่งได้เร็วเต็มที่ได้ถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อต้องการหนีสามารถที่จะลงน้ำว่ายน้ำได้ด้วย จำนวนประชากรคาดว่ามีประมาณ 1,500-3,000 ตัว ในที่สถานที่เลี้ยง ในออสเตรเลียมี 40 ตัว นอกนั้นกระจายไปตามสวนสัตว์ต่าง ๆ ทั่วโลก สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรนกลดลง คือ การตัดไม้ทำลายป่า ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา คาดว่ามีนกแคสโซแวรีหายไปถึงร้อยละ 50
ปัจจุบัน ในบางพื้นที่ของออสเตรเลีย นกแคสโซแวรีใต้ บางครั้งจะออกมาหากินตามท้องถนน ชายหาด หรือในชุมชนเมืองที่มนุษย์อยู่อาศัยด้วย ซึ่งอาจทำอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้
ระเบียงภาพ
- ส่วนหัวและหงอนบนหัวของนกแคสโซแวรีใต้
- นิ้วตีนและเล็บที่แหลมคม
- ลูกนกที่ยังมีขนสีน้ำตาล
- ไข่นก
- ภาพโพรงในหงอนของนกแคสโซแวรี
- การจัดแสดงนกแคสโซแวรีในสวนสัตว์
- ลูกนกแคสโซแวรีที่เพาะขยายพันธุ์ได้ในสวนสัตว์ไทย
อ้างอิง
- Brands, S. (2012)
- Gotch, A.T. (1995)
- นกคาสโซวารี นักเลงใหญ่แห่งป่าลึก
- Cassowary Bird: Feathered Velociraptor, "Biggest & Baddest" สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต. ทางทรูวิชั่นส์: อังคารที่ 15 มกราคม 2556
- "นกแคสโซแวรี..ขี้อาย สยบศัตรูด้วยถีบมหากาฬ". ไทยรัฐ. 2009-11-03.
- "Invasion of the Cassowaries". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-13. สืบค้นเมื่อ 2013-01-15.
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Casuarius ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nkaekhsosaewri chwngewlathimichiwitxyu iphloxsin pccubn 5 0 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N nkaekhsosaewriit Casuarius casuarius karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Avesxndb wngs Casuariidae 1847skul Casuarius 1760chnidtnaebbStruthio casuarius Linnaeus 1758chnidCasuarius casuarius chuxphxngCasoarius Bont Struthio Linnaeus Cela Moehr 1752 Rhea 1800 nkaekhsosaewri xngkvs cassowary epnnkbinimidkhnadihyskulhnung xasyxyuinaethbsikolkit oxechiyeniy cdxyuinskul Casuarius inwngs Casuariidaesphthmulwithyakhawa aekhsosaewri nn macakphasamlayukhawa kasuarilksnacdepnnkpraephth nkbinimidkhnadihy thimiokhrngsrangaebbnkyukhkxnprawtisastr echnediywkbnkkracxkeths aelankkiwi odyepnnkthimikhnadihyepnxndb 3 khxngolkrxngmacaknkkracxkeths aelankximuethann mikhwamsungpraman 100 esntiemtr hruxkwann twemiyodypkticaihykwatwphu xaccasungidthung 2 emtr nahnkpraman 53 8 kiolkrm nkaekhsosaewrimilksnaednkhux mikhnsidapkkhlumlatw sungkhnmilksnaaetktangipcaknkcaphwkxun khux khnesnediywaetaetkxxkepn 2 esn miiwsahrbpxngkntwyamemuxtxngedinfaphnghnamhruxphumim milakhxyawimmikhnehmuxnnkkracxkeths briewnibhnaaelalakhxmisisnsdistangkniptamaetlachnid aelamicudedn khux hngxnkhnadihybnhw sungepnsarprakxb phayinepnophrngklwng pccubnyngimmithrabthungsaehtukarmikhxnghngxnni aetnkwithyasastrbangkhnsnnisthanwa miiwephuxchwyinkarsngesiyngrxng aebbediywkbidonesarbangskulthimihngxnbnhw echn pharasxorolfs hruxaelmbioxsxrs esiyngthiidcaepnesiyngthumta sungnkaekhsosaewricdepnnkthimiesiyngrxngtathisudinolk aelayngmiehtuphlnxkehnuxipcakni khux ichinkarprakasexklksnechphaatw hruxepnkaraesdngxxkthangephs nkaekhsosaewriinwyxxn hngxndngklawcayngimprakt aetcakhxy ihykhuniperuxy emuxnkotkhuntamwy sunghngxndngklawsamarthyawidthung 15 17 esntiemtr niwtinkhxngnkaekhsosaewri mi 3 niw aetktangipcakaerithtxyangnkkracxkethsthimi 2 niw thukniwmikrngelbthiaehlmkhm odyechphaaniwklangthiyunyawthisud sungyawidthung 5 niw 12 esntiemtr epnxawuththiichepnekhruxngpxngkntwdwykarkraoddthib dwykhwamaerng 25 kiolemtrtxchwomng karkracayphnthuaelakaraephrphnthu nkaekhsosaewrikracayphnthuinpadibchunkhxngekaaniwkiniaelabangswnkhxngxxsetreliy echn rthkhwinsaelnd epnnkthihakintamlaphng xahartampktiidaek phlim lukimtang thitkhlnbnphunhruxkhuntamphumetiy ehdra aelasamarthkinenuxstwiddwy echn stweluxykhlan stwkhrungbkkhrungna stweliynglukdwynmkhnadelk rwmthungsakstw ewlainkarxxkhakinxyuinchwngophlephlthngintxnechamudaelatxneyn mivduphsmphnthuraweduxnphvsphakhm mithunayn odytwphucaepnfaytamhatwemiy hlngcakcbkhuknidpraman 2 spdah cungcaphsmphnthukn hlngcakphsmphnthuaelw nktwemiycawangikhkhrngla 5 6 fxng bnphundininrngthitwphusrangiwcakibimtang epluxkikhsiekhiywekhmhruxsiekhiywxxn esrcaelwcacakip plxyihnktwphuepnfaykkikhaelaeliyngduluknkthifkxxkma nktwemiycaphsmphnthukbtwphuhlaytwodymirsmikarhakhukwangpraman 7 kiolemtr twphuichewlafkpraman 50 52 wn luknkthiekidmaihmcamikhnsinatal sisnimsdis aelayngimmihngxn twphuichewlaeliyngluknanpraman 9 eduxn kxnthicaaeykyaykniphakintamxisra mixayukhyidthung 50 pi hruxmakkwanninthieliyng aetxayuodyechliyinpaephiyng 12 19 pi ethannkarcaaenknkaekhsosaewripccubnsamarthaebngxxkidepn 3 chnid odymibangchnidthisuyphnthuipaelw nkaekhsosaewriit Casuarius casuarius epnnkaekhsosaewrichnidthiihythisud aelaepnthiruckdithisudinolk Casuarius bennetti phbinphunthirabsungkhxngniwkini Casuarius unappendiculatus phbinphunthitxnehnuxaelaphakhtawntkkhxngekaaniwkini inphunthirabta sthanaaelakhwamsmphnthkbmnusynkaekhsosaewri odyechphaankaekhsosaewriit nbepnnkthiidchuxwaxntraythisudinolk enuxngcakminisyhngudhngidhruxkawrawidngay emuxcatharayphurukrancaichkarkraoddthibxyangrunaerng cakkrngelbthiaehlmkhmthaihidrbaephlchkrrcid mimnusythuktharaycnidrbbadecbsahsaelaesiychiwitmaaelw nkaekhsosaewri wingiderwetmthiidthung 45 kiolemtrtxchwomng aelaemuxtxngkarhnisamarththicalngnawaynaiddwy canwnprachakrkhadwamipraman 1 500 3 000 tw inthisthanthieliyng inxxsetreliymi 40 tw nxknnkracayiptamswnstwtang thwolk saehtusakhythithaihcanwnprachakrnkldlng khux kartdimthalaypa inchwngstwrrsthiphanma khadwaminkaekhsosaewrihayipthungrxyla 50 pccubn inbangphunthikhxngxxsetreliy nkaekhsosaewriit bangkhrngcaxxkmahakintamthxngthnn chayhad hruxinchumchnemuxngthimnusyxyuxasydwy sungxacthaxntraytxphuxyuxasyidraebiyngphaphswnhwaelahngxnbnhwkhxngnkaekhsosaewriit niwtinaelaelbthiaehlmkhm luknkthiyngmikhnsinatal ikhnk phaphophrnginhngxnkhxngnkaekhsosaewri karcdaesdngnkaekhsosaewriinswnstw luknkaekhsosaewrithiephaakhyayphnthuidinswnstwithyxangxingBrands S 2012 Gotch A T 1995 nkkhasoswari nkelngihyaehngpaluk Cassowary Bird Feathered Velociraptor Biggest amp Baddest sarkhdithangxnimxlphlaent thangthruwichns xngkharthi 15 mkrakhm 2556 nkaekhsosaewri khixay sybstrudwythibmhakal ithyrth 2009 11 03 Invasion of the Cassowaries khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 12 13 subkhnemux 2013 01 15 brrnanukrmaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Casuarius thiwikispichis