นกอีเสือสีน้ำตาล | |
---|---|
นกอีเสือสีน้ำตาลในไทย | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Passeriformes |
วงศ์: | Laniidae |
สกุล: | |
สปีชีส์: | L. cristatus |
ชื่อทวินาม | |
Lanius cristatus (Linnaeus, 1758) | |
ชนิดย่อย | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของนกอีเสือสีน้ำตาล | |
ชื่อพ้อง | |
|
นกอีเสือสีน้ำตาล (อังกฤษ: Brown shrike; ชื่อวิทยาศาสตร์: Lanius cristatus) เป็นนกขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ในวงศ์ Laniidae จัดเป็นนกอพยพย้ายถิ่นอาศัยเข้ามาหากินในประเทศไทย พบได้บ่อยในช่วงปลายฤดูร้อนและปลายฤดูฝน ซึ่งนกอีเสื้อสีน้ำตาลมีถิ่นการกระจายพันธุ์กว้างขวาง โดยพบได้ตั้งแต่เอเชียเหนือจรดยุโรป, เอเชียกลาง, เอเชียตะวันออก, เอเชียใต้ และยังพบได้ที่อเมริกาเหนือ จึงมีชนิดย่อยด้วยกันทั้งหมด 4 ชนิด (ดูในตาราง)
ลักษณะ
หัวโต คิ้วเป็นเส้นสีน้ำตาลอ่อนออกขาว ปากใหญ่หนา ปลายปากแหลมงุ้มเป็นจะงอยสีน้ำตาลเข้มออกดำ ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นและที่แปลกกว่านกทั่ว ๆ ไปคือ มีฟันแหลมอยู่หนึ่งซี่อยู่ที่ขอบปากบน มีแถบสีดำตั้งแต่โคนปากไปถึงหู ดูคล้ายหน้ากาก
ลำตัวเพรียว ขนคลุมลำตัวสีน้ำตาลแดง ปีกสีน้ำตาลเข้มที่ใต้คาง หน้าอกสีน้ำตาลปนขาว หางยาวสีตาลเข้มกว่าลำตัว ใต้หางบริเวณก้นสีน้ำตาลปนเทาอ่อน ขาสีดำ เล็บแข็งแรงแหลมคม ตัวผู้และตัวเมียสีจะคล้ายกัน ขนาดโตเต็มวัยวัดจากหัวถึงปลายหางยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
พฤติกรรม
มีนิสัยหวงถิ่นหากิน มักส่งเสียงดัง "แจ้ก... แซ้ก...แจ้ก...แซ็ก" บินวนไปมาเพื่อไล่นกชนิดอื่น ๆ ที่เข้ามาใกล้เขตหากิน ไม่เว้นแม้แต่นกล่าเหยื่ออย่าง เหยี่ยว ปกติชอบหากินตามลำพัง เกาะอยู่ตัวเดียวตามกิ่งไม้, รั้วบ้าน, ทุ่งหญ้า, ท้องนาโล่ง อย่างสงบนิ่งไม่ส่งเสียงหรือเคลื่อนไหว มีเฉพาะเพียงดวงตาที่คอยขยับเขยื้อนจับจ้องมองหาเหยื่อ
ล่าอาหารจำพวก แมลงปีกแข็ง, ตั๊กแตน, กบ, เขียด, จิ้งเหลน, กิ้งก่า, ลูกหนู รวมทั้งลูกนกชนิดอิ่นด้วย เมื่อล่าเหยื่อได้แล้วจะใช้เขี้ยวที่ปากที่แหลมคมฉีกเนื้อของเหยื่อที่จับได้ออกเป็นชิ้น ๆ กิน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่คล้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเสือโคร่งหรือเสือดาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ คือ หลังจับเหยื่อได้แล้วจะไม่กินจนหมด แต่จะใช้ประโยชน์จากต้นไม้ที่มีหนามหรือแม้กระทั่งลวดหนามเพื่อเสียบเหยื่อให้สามารถฉีกกินได้สะดวก จนกระทั่งอิ่ม ซึ่งพฤติกรรมการล่าเหยื่อนี้ยังใช้เพื่อดึงดูดตัวเมียด้วยเช่นกัน
การขยายพันธุ์
ฤดูผสมพันธุ์ของนกอีเสือสีน้ำตาลจะอยู่ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม หลังจากจับคู่แล้ว ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันหากิ่งเหมาะบนต้นไม้ที่มีความสูง เพื่อทำรังวางไข่ วางไข่ครั้งละ 3-6 ฟอง ใช้เวลากก 15-16 วัน ลูกนกจึงออกมา ในวัยที่ยังเล็กทั้งพ่อและแม่นกจะช่วยกันหาอาหารมาป้อน กระทั่งผ่านพ้น 2 สัปดาห์ จึงจะเริ่มหัดบิน และแยกออกไปหากินตามลำพัง
ในช่วงที่ยังไม่โตเต็มวัย แถบคาดที่เป็นหน้ากากจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ขนคลุมลำตัวสีน้ำตาลแดง บริเวณใต้คางถึงหน้าอกสีขาวนวล มีลายคล้ายเกล็ดปลาทั่วตัว
นกอีเสือสีน้ำตาลจัดได้ว่าเป็นนกที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างมากชนิดหนึ่ง เพราะช่วยกำจัดศัตรูพืชทางการเกษตร แต่ปริมาณของนกอีเสือสีน้ำตาลในธรรมชาติเริ่มเหลือน้อย จนหมิ่นเหม่ต่อการสูญพันธุ์ ในประเทศไทยจึงจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม
อ้างอิง
- BirdLife International (2008). Lanius cristatus. In: IUCN 2008. IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 23 Oct 2009.
- นกอีเสือสีน้ำตาลจากไทยรัฐ: วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Lanius cristatus ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nkxiesuxsinatalnkxiesuxsinatalinithysthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Avesxndb Passeriformeswngs Laniidaeskul spichis L cristatuschuxthwinamLanius cristatus Linnaeus 1758 chnidyxyL c confusus L c cristatus L c lucionensis L c superciliosusaephnthiaesdngkarkracayphnthukhxngnkxiesuxsinatalchuxphxngOtomela cristata nkxiesuxsinatal xngkvs Brown shrike chuxwithyasastr Lanius cristatus epnnkkhnadelkchnidhnung inwngs Laniidae cdepnnkxphyphyaythinxasyekhamahakininpraethsithy phbidbxyinchwngplayvdurxnaelaplayvdufn sungnkxiesuxsinatalmithinkarkracayphnthukwangkhwang odyphbidtngaetexechiyehnuxcrdyuorp exechiyklang exechiytawnxxk exechiyit aelayngphbidthixemrikaehnux cungmichnidyxydwyknthnghmd 4 chnid duintarang lksnahwot khiwepnesnsinatalxxnxxkkhaw pakihyhna playpakaehlmngumepncangxysinatalekhmxxkda sungepnlksnathioddednaelathiaeplkkwankthw ipkhux mifnaehlmxyuhnungsixyuthikhxbpakbn miaethbsidatngaetokhnpakipthunghu dukhlayhnakak latwephriyw khnkhlumlatwsinatalaedng piksinatalekhmthiitkhang hnaxksinatalpnkhaw hangyawsitalekhmkwalatw ithangbriewnknsinatalpnethaxxn khasida elbaekhngaerngaehlmkhm twphuaelatwemiysicakhlaykn khnadotetmwywdcakhwthungplayhangyawpraman 20 esntiemtrphvtikrrmminisyhwngthinhakin mksngesiyngdng aeck aesk aeck aesk binwnipmaephuxilnkchnidxun thiekhamaiklekhthakin imewnaemaetnklaehyuxxyang ehyiyw pktichxbhakintamlaphng ekaaxyutwediywtamkingim rwban thunghya thxngnaolng xyangsngbningimsngesiynghruxekhluxnihw miechphaaephiyngdwngtathikhxykhybekhyuxncbcxngmxnghaehyux laxaharcaphwk aemlngpikaekhng tkaetn kb ekhiyd cingehln kingka lukhnu rwmthngluknkchnidxindwy emuxlaehyuxidaelwcaichekhiywthipakthiaehlmkhmchikenuxkhxngehyuxthicbidxxkepnchin kin nxkcakniyngmiphvtikrrmthikhlaystweliynglukdwynmxyangesuxokhrnghruxesuxdaw sungepnthimakhxngchux khux hlngcbehyuxidaelwcaimkincnhmd aetcaichpraoychncaktnimthimihnamhruxaemkrathnglwdhnamephuxesiybehyuxihsamarthchikkinidsadwk cnkrathngxim sungphvtikrrmkarlaehyuxniyngichephuxdungdudtwemiydwyechnknkarkhyayphnthuvduphsmphnthukhxngnkxiesuxsinatalcaxyurahwangeduxnmkrakhmthungeduxntulakhm hlngcakcbkhuaelw thngtwphuaelatwemiycachwyknhakingehmaabntnimthimikhwamsung ephuxtharngwangikh wangikhkhrngla 3 6 fxng ichewlakk 15 16 wn luknkcungxxkma inwythiyngelkthngphxaelaaemnkcachwyknhaxaharmapxn krathngphanphn 2 spdah cungcaerimhdbin aelaaeykxxkiphakintamlaphng inchwngthiyngimotetmwy aethbkhadthiepnhnakakcaepnsinatalekhm khnkhlumlatwsinatalaedng briewnitkhangthunghnaxksikhawnwl milaykhlayekldplathwtw nkxiesuxsinatalcdidwaepnnkthimipraoychntxmnusyxyangmakchnidhnung ephraachwykacdstruphuchthangkarekstr aetprimankhxngnkxiesuxsinatalinthrrmchatierimehluxnxy cnhminehmtxkarsuyphnthu inpraethsithycungcdepnstwpakhumkhrxngtamxangxingBirdLife International 2008 Lanius cristatus In IUCN 2008 IUCN Red List of Threatened Species Downloaded on 23 Oct 2009 nkxiesuxsinatalcakithyrth wnxngkharthi 1 mithunayn ph s 2553 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Lanius cristatusaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Lanius cristatus thiwikispichis