นกศิวะหางสีตาล | |
---|---|
ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Passeriformes |
วงศ์: | |
สกุล: | Minla |
สปีชีส์: | M. strigula |
ชื่อทวินาม | |
Minla strigula (, 1837) | |
ชื่อพ้อง | |
|
นกศิวะหางสีตาล หรือ นกศิวะหางตาล (อังกฤษ: Bar-throated minla, Chestnut-tailed minla; ชื่อวิทยาศาสตร์: Minla strigula) เป็นนกใน (Leiothrichidae) พบในอนุทวีปอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม
ลักษณะ
นกศิวะหางสีตาลเป็นนกที่มีขนาดปานกลาง ตัวผู้และตัวเมียเหมือนกัน ทางด้านบนของตัวมีสีเขียวมะกอก ด้านล่างมีสีอ่อนกว่าบนหลัง รอบตามีสีเหลือง หางและปีกบางส่วนมีสีน้ำตาลแกมแดง หน้าผากมีสีน้ำตาลแดง ที่คอมีลายขวางสีดำ มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางประมาณ16-18.5 เซนติเมตร มีหัวสีน้ำตาลอมส้มซึ่งค่อยๆจางลงจนกลมกลืนกับสีของหลัง ไหล่ สะโพกซึ่งเป็นสีเขียวอ่อนแกมเทา คางสีเหลืองเข้ม ใต้คอสีขาวมีลายบั้งสีดำขวางอยู่หลายๆบั้ง ทำให้ดูเหมือนเป็นนกที่มีคอลายๆ ปากสีน้ำตาลเข้ม ขนคลุมส่วนล่างของลำตัวเป็นสีเหลืองออกเขียวอ่อนนิดๆ ขนปีกมีสีเป็นชุดเดียวกับขนหางคือสีน้ำตาลแกมแดง ดำ และ ขาว มีจุดเด่นซึ่งเป็นที่มาของชื่อคือขนหางคู่บนสุดมีสีน้ำตาลแกมแดง ปลายหางเป็นสีขาวอมเหลือง ขอบขนและขนหางคู่อื่นเป็นสีดำ ตัวผู้และตัวเมียหน้าตาคล้ายคลึงกัน
การกระจายพันธุ์
พบในอนุทวีปอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, กระจายพันธุ์ข้ามไปยังภูฐาน, อินเดีย, ลาว, มาเลเซีย, พม่า, เนปาล, ไทย, ทิเบต และเวียดนาม อาศัยในป่าดิบเขาเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน สูงจากระดับน้ำทะเล 1500-3700 เมตร สำหรับในประเทศไทย พบในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ พบได้บ่อยมากที่ดอยอินทนนท์ โดยชนิดย่อยที่พบในเมืองไทยคือชนิดย่อย M.s.castanicauda ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในประเทศพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2420 และพบในเมืองไทยที่ดอยอินทนนท์เมื่อ พ.ศ. 2477 นอกจากดอยอินทนนท์แล้วยังสามารถพบนกศิวะหางสีตาลได้ที่ดอยผ้าห่มปก เชิงยอดเขาโมโกจู จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก
พฤติกรรม
ทำรังวางไข่ในช่วงฤดูฝน เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์นกในฝูงจะแยกย้ายกันไปอยู่เป็นคู่ ในการเกี้ยวพาราสีนกแต่ละคู่จะเบียดกันแนบชิดตลอดเวลา ทำรังเป็นรูปถ้วยสูงจากพื้นดิน1-3เมตร ทำรังด้วยหญ้า ใบไผ่ มอส เปลือกต้นก่อที่นำมาขัดสานเป็นรูปถ้วยแล้วรัดภายนอกด้วยไลเคนส์ทำให้รังดูแข็งแรงและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม รองก้นรังด้วยขนสัตว์ รากไม้เล็กๆ ฝอยลม ใบสน วางไข่ครอกละ 2-4 ฟอง เปลือกไข่สีเขียวอมฟ้าหรือน้ำเงินเข้ม หรือน้ำเงินแกมเขียว ทั้งพ่อและแม่นกช่วยกันเลี้ยงลูกอ่อน การกินอาหารกินพวกแมลง หนอน เมื่อถึงฤดูหนาวจะอาศัยกินพวกน้ำหวานจากดอกไม้
อ้างอิง
- BirdLife International 2004. Minla strigula. 2006 IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 26 July 2007.
- Collar, N. J. & Robson C. 2007. Family Timaliidae (Babblers) pp. 70 – 291 in; del Hoyo, J., Elliott, A. & Christie, D.A. eds. , Vol. 12. Picathartes to Tits and Chickadees. Lynx Edicions, Barcelona.
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Minla strigula ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nksiwahangsitalthixuthyanaehngchatidxyxinthnnth tablbanhlwng cnghwdechiyngihm praethsithysthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Avesxndb Passeriformeswngs skul Minlaspichis M strigulachuxthwinamMinla strigula 1837 chuxphxngChrysominla strigula nksiwahangsital hrux nksiwahangtal xngkvs Bar throated minla Chestnut tailed minla chuxwithyasastr Minla strigula epnnkin Leiothrichidae phbinxnuthwipxinediyaelaexechiytawnxxkechiyngit epnstwpakhumkhrxng tamlksnanksiwahangsitalepnnkthimikhnadpanklang twphuaelatwemiyehmuxnkn thangdanbnkhxngtwmisiekhiywmakxk danlangmisixxnkwabnhlng rxbtamisiehluxng hangaelapikbangswnmisinatalaekmaedng hnaphakmisinatalaedng thikhxmilaykhwangsida mikhwamyawcakplaypakcrdplayhangpraman16 18 5 esntiemtr mihwsinatalxmsmsungkhxycanglngcnklmklunkbsikhxnghlng ihl saophksungepnsiekhiywxxnaekmetha khangsiehluxngekhm itkhxsikhawmilaybngsidakhwangxyuhlaybng thaihduehmuxnepnnkthimikhxlay paksinatalekhm khnkhlumswnlangkhxnglatwepnsiehluxngxxkekhiywxxnnid khnpikmisiepnchudediywkbkhnhangkhuxsinatalaekmaedng da aela khaw micudednsungepnthimakhxngchuxkhuxkhnhangkhubnsudmisinatalaekmaedng playhangepnsikhawxmehluxng khxbkhnaelakhnhangkhuxunepnsida twphuaelatwemiyhnatakhlaykhlungkn lksnakhxngnksiwahangtalnksiwahangtalekaabntnimkarkracayphnthuphbinxnuthwipxinediy aelaexechiytawnxxkechiyngit kracayphnthukhamipyngphuthan xinediy law maelesiy phma enpal ithy thiebt aelaewiydnam xasyinpadibekhaekhtrxnaelakungekhtrxn sungcakradbnathael 1500 3700 emtr sahrbinpraethsithy phbinphakhtawntkechiyngehnux phbidbxymakthidxyxinthnnth odychnidyxythiphbinemuxngithykhuxchnidyxy M s castanicauda sungphbepnkhrngaerkinpraethsphmaemuxpi ph s 2420 aelaphbinemuxngithythidxyxinthnnthemux ph s 2477 nxkcakdxyxinthnnthaelwyngsamarthphbnksiwahangsitalidthidxyphahmpk echingyxdekhaomokcu cnghwdkaaephngephchr cnghwdtak nksiwahangtalemuxthungvduhnawcaxasykinphwknahwancakdxkimphvtikrrmtharngwangikhinchwngvdufn emuxthungvduphsmphnthunkinfungcaaeykyayknipxyuepnkhu inkarekiywpharasinkaetlakhucaebiydknaenbchidtlxdewla tharngepnrupthwysungcakphundin1 3emtr tharngdwyhya ibiph mxs epluxktnkxthinamakhdsanepnrupthwyaelwrdphaynxkdwyilekhnsthaihrngduaekhngaerngaelaklmklunkbsphaphaewdlxm rxngknrngdwykhnstw rakimelk fxylm ibsn wangikhkhrxkla 2 4 fxng epluxkikhsiekhiywxmfahruxnaenginekhm hruxnaenginaekmekhiyw thngphxaelaaemnkchwykneliynglukxxn karkinxaharkinphwkaemlng hnxn emuxthungvduhnawcaxasykinphwknahwancakdxkimxangxingBirdLife International 2004 Minla strigula 2006 IUCN Red List of Threatened Species Downloaded on 26 July 2007 Collar N J amp Robson C 2007 Family Timaliidae Babblers pp 70 291 in del Hoyo J Elliott A amp Christie D A eds Vol 12 Picathartes to Tits and Chickadees Lynx Edicions Barcelona aehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Minla strigula thiwikispichis wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Minla strigula