Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
| นกตีทอง | |
|---|---|
 | |
| Megalaima haemacephala --> | |
| สถานะการอนุรักษ์ | |
| การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
| อาณาจักร: | Animalia |
| ไฟลัม: | Chordata |
| ชั้น: | Aves |
| อันดับ: | Piciformes |
| วงศ์: | Megalaimidae |
| สกุล: | Megalaima |
| สปีชีส์: | M. haemacephala |
| ชื่อทวินาม | |
| Megalaima haemacephala Statius Muller, 1776 | |
| ชื่อพ้อง | |
| Xantholaema haemacephala | |
นกตีทอง (อังกฤษ: coppersmith barbet, crimson-breasted barbet, coppersmith, ชื่อวิทยาศาสตร์: Megalaima haemacephala) เป็นนกโพระดก (Megalaimidae) ที่เล็กที่สุด ตัวเขียว คอเหลือง อกและหน้าผากแดง ขอบตาเหลือง มักเกาะบนต้นไม้สูง รู้จักกันดีเพราะร้องเสียง “ป๊ก ๆ” เป็นจังหวะสมํ่าเสมอเหมือนกับช่างตีทอง (ฝรั่งว่าเหมือนกับช่างตีทองแดง) เป็นนกประจำถิ่นของเอเชียใต้ และบางส่วนของเอเชียอาคเนย์ ทำรังโดยเจาะโพรงไม้เหมือนกับนกโพระดกประเภทอื่น ๆ โดยมากกินผลไม้ เช่น ลูกไทร แต่บางครั้งก็กินแมลงอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะแมลงเม่า (ปลวกมีปีก) ในประเทศไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 จึงห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ห้ามครอบครอง ห้ามเพาะพันธุ์ ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรัง การห้ามการครอบครองและการค้ามีผลไปถึงไข่และซาก
คำพรรณนา
นกโพระดกพันธุ์นี้ อาจอยู่ในเขตเดียวกันกับนกโพระดกตัวใหญ่กว่าชนิดอื่น ๆ ที่พบในเอเชียใต้ ในเทือกเขาฆาฏตะวันตกของประเทศอินเดีย จะอยู่ในเขตเดียวกันกับนกโพระดกพันธุ์ M. malabarica ซึ่งมีขนาดคล้ายกัน แต่ร้องถี่กว่า หน้าผากที่แดง ขอบตาและคอที่เหลือง ท้องที่ลาย และตัวด้านบนที่เขียว เป็นลักษณะเฉพาะของนก ลูกนกจะมีสีจางกว่า และไม่มีส่วนสีแดง ตัวผู้ตัวเมียจะคล้ายกัน พันธุ์ย่อยในประเทศศรีลังกามีหน้าที่ดำกว่า มีสีแดงมากกว่าที่อก และมีแถบเข้มกว่าตรงท้อง
ในฤดูผสมพันธุ์ ขนที่สึกหรอจะทำให้หลังด้านบน ดูออกเป็นสีน้ำเงิน
ในบรรดานกโพระดกสกุล Megalaima นกตีทองเป็นสัตว์ "ต้นตระกูล" (basal) ของสกุล ดังที่พบโดยการวิเคราะห์วิวัฒนาการชาติพันธุ์ (phylogenetic analysis) ดังนั้น นกสกุลเดียวกันพันธุ์อื่น ๆ ในเอเชีย จึงเป็นนกที่แยกสายพันธุ์ออกจากสกุลนี้ในภายหลัง
มีพันธุ์ย่อย 9 พันธุ์ที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางคือ
- พันธุ์ต้นแบบ haemacephala (P. L. S. Müller, 1776) พบในหมู่เกาะลูซอนและมินโดโร ในประเทศฟิลิปปินส์
- พันธุ์ย่อย indica (Latham, 1790) พบในอินเดียใต้ เริ่มจากเขตตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน ไปจนถึงศรีลังกา ไทย และเวียดนาม มีพันธุ์ย่อยอื่น ๆ ที่เดี๋ยวนี้รวมเข้าในพันธุ์นี้
พันธุ์ย่อย ๆ ที่เหลือ พบในเกาะต่าง ๆ ในเอเชียอาคเนย์
- delica (Parrot, 1907) เกาะสุมาตรา
- rosea (Dumont, 1816) เกาะชวา
- homochroa (Dziadosz & Parkes, 1984) เกาะ Tablas (จังหวัดรอมบลอน ประเทศฟิลิปปินส์)
- celestinoi (Gilliard, 1949) เกาะ Catanduanes, Biliran, ซามาร์, เลย์เต ประเทศฟิลิปปินส์
- intermedia (Shelley, 1891) เกาะปาไนย์, Guimaras, Negros ประเทศฟิลิปปินส์
- cebuensis (Dziadosz & Parkes, 1984) เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์
- mindanensis (Rand, 1948) เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์
ที่อยู่และการกระจายพันธุ์
นกมักจะอยู่ในสวน ป่าเล็ก ๆ และป่าโล่ง ๆ ที่ ๆ มีต้นไม้ตายแล้ว ขุดเจาะได้ง่าย เป็นลักษณะสำคัญของที่อยู่ของนก นกจะทำรังและนอนอยู่ในโพรงไม้
ในอินเดียใต้ นกมักจะอยู่ในที่ต่ำกว่า 4,000 ฟุต (1,219 เมตร) ในเทือกเขาหิมาลัย นกจะอยู่ในหุบเขาในเขตรอบนอก จนถึงเขตสูงประมาณ 3,000 ฟุต (914 เมตร) นกจะมีน้อยในเขตทะเลทราย หรือในป่าที่ชื้นมาก
พฤติกรรมและนิเวศน์
นกมักจะอยู่เดี่ยว ๆ เป็นคู่ ๆ หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ แต่อาจพบเป็นฝูงใหญ่บนต้นไทรที่ออกผลมาก นกชอบตากแดดตอนเช้า ๆ บนกิ่งไร้ใบบนต้นไม้สูง ๆ บางครั้งจะโฉบไปโฉบมาแล้วมาจับกิ่งใกล้ ๆ กัน นกบินเป็นเส้นตรง โดยกระพือปีกเร็ว ๆ
นกต้องแย่งรังกับนกและสัตว์กินผลไม้อื่น ๆ ที่ทำรังในโพรงไม้ ได้พบว่า นกโพระดกคอสีฟ้าไล่นกตีทองออกจากรัง และนกปรอดพันธุ์ Pycnonotus cafer (red-vented bulbul) จะขโมยผลไม้ที่ตัวผู้นำมาให้ตัวเมีย
รังที่เป็นโพรงจะใช้สำหรับพักด้วย นกบางตัวอยู่ตัวเดียว และบางพวกจะพักตอนกลางวันด้วย ลูกนกจะพักอยู่กับพ่อแม่ แต่บ่อยครั้งต้องกลับมาก่อน ไม่เช่นนั้น พ่อแม่อาจจะไม่ให้เข้ารัง
เสียงร้อง
นกร้องเสียงดัง คล้ายกับช่างเคาะโลหะ ดัง "ป๊ก...ป๊ก...ป๊ก" คล้ายกับช่างตีทอง (หรือตีทองแดง สำหรับฝรั่ง) ซึ่งให้ชื่อกับนก ร้องซ้ำ ๆ กันนาน โดยเริ่มเบา ๆ ก่อน แล้วดังขึ้นจนถึงระดับ เป็นจังหวะสม่ำเสมอที่ 108-121 ครั้งต่อนาที และอาจจะร้องถึง 204 ครั้ง นกไม่อ้าปากเวลาร้อง หนังที่คอทั้งสองข้างจะพองออกแล้วยุบ และจะผงกหัว ในการร้องแต่ละครั้ง นกจะไม่ร้องในฤดูหนาว
อาหาร
นกชอบกินลูกบันยัน โพ ไทรประเภทอื่น ๆ ผลเมล็ดเดียวแข็ง (drupe) ผลประเภทอื่น ๆ และบางครั้งแมลงที่โฉบกินในอากาศ และอาจจะกินกลีบดอกไม้บางชนิดด้วย นกกินผลไม้หนักกว่าตนเอง 1.5 - 3 เท่าต่อวัน
การสืบพันธุ์
วิธีจีบกันรวมทั้งร้องเพลง พองคอออก ผงกหัว สะบัดหาง ให้อาหาร และไซ้ขน
นกผสมพันธุ์กันโดยมากทั้งปี โดยต่างกันในพื้นที่ต่าง ๆ ฤดูผสมพันธุ์ในอินเดีย อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ในศรีลังกา อยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนกันยายน ทั้งตัวผู้ตัวเมียช่วยกันเจาะรัง ใต้กิ่งไม้ตามขวางกิ่งแคบ ๆ นกอาจจะพักนอนอยู่ในรังด้วย นกวางไข่ 3-4 ฟอง แต่เหมือนกับนกที่ทำรังในโพรงไม้อื่น ๆ เวลาฟักไข่นั้น ไม่ค่อยชัดเจน แต่ประมาณว่าอยู่ที่ 2 อาทิตย์ ทั้งตัวผู้ตัวเมียช่วยกันฟักไข่ บางครั้ง นกอาจจะมีลูกสองชุดติด ๆ กัน
ปัจจัยการตาย
นกผู้ใหญ่อาจจะถูกล่า และในเขตเมือง นกอาจจะบินชนสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ รวมทั้งกำแพงขาว การตายเพราะพิษจากสารฆ่าศัตรูพืชและสัตว์ ก็ยังปรากฏด้วย
เชิงอรรถและอ้างอิง
- BirdLife International (2012). "Megalaima haemacephala". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2013.2. สืบค้นเมื่อ 2013-11-26.
- "ตีทอง", พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒,
น. ชื่อนกชนิด Megalaima haemacephala ในวงศ์ Megalaimidae เป็นนกโพระดกที่เล็กที่สุด ตัวเขียว คอเหลือง อกแดง หน้าผากแดง ขอบตาเหลือง ทำรังในโพรงไม้ กินผลไม้ เช่น ลูกไทร มักเกาะบนต้นไม้สูง ร้องเสียง “ป๊ก ๆ” เป็นจังหวะสมํ่าเสมอ.
- "สัตว์ป่าคุ้มครอง". โลกสีเขียว. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-26. สืบค้นเมื่อ 2015-04-23.
{{}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) ((help)) - Rasmussen, PC & JC Anderton (2005). Birds of South Asia: The Ripley Guide. Vol. 2. Smithsonian Institution & Lynx Edicions. pp. 279–280.
- Ali, S & S D Ripley (1983). Handbook of the birds of India and Pakistan. Vol. 4 (2 ed.). Oxford University Press. pp. 163–165.
- Moyle, RG (2004). "Phylogenetics of barbets (Aves: Piciformes) based on nuclear and mitochondrial DNA sequence data". Molecular Phylogenetics and Evolution. 30 (1): 187–200. doi:10.1016/S1055-7903(03)00179-9. PMID 15022769.
- Lok AFSL & Lee TK (2009). (PDF). Nature in Singapore. 1: 47–54. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-06-06. สืบค้นเมื่อ 2015-06-09.
- Dewar, Douglas (1915). Birds of the Indian Hills. John Lane. p. 243.
- Blanford, WT (1895). The Fauna of British India, Including Ceylon and Burma. Birds. Volume 3. Taylor and Francis. p. 98.
- Tooth,EE (1901). "Nesting difficulties of the coppersmith". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 13 (4): 713–714.
- Ali, Salim & Dillon Ripley (1987). Handbook of the Birds of India and Pakistan (Vol 4). Oxford University Press. p. 300.
- Aitken,EH (1893). "The habits of the coppersmith". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 8 (2): 326–327.
- Bharos,AMK (1997). "Unusual feeding pattern and diet of Crimsonbreasted Barbet (Megalaima haemacephala)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 94 (2): 411.
- Muthukrishnan,TS; Sundarbabu,Rajeswari (1982). "Feeding habits of Coppersmith Megalaima haemacephala (Muller)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 79 (1): 197–198.
{{}}: CS1 maint: multiple names: authors list () - Sharma,AK (1993). "Territorial fight among crimsonbreasted barbet". Newsletter for Birdwatchers. 33 (5): 95.
- Vijayaraghavan,B (1957). "Accidental death of a Crimsonbreasted Barbet [Megalaima haemacephala (Muller)]". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 54 (2): 462.
- Dhindsa, M.S.; Sandhu, J.S.; Sohi, A.S. (1986). "Pesticidal mortality of crimson-breasted barbet (Megalaima haemacephala) with a note on its body size". Bulletin of the British Ornithologists' Club. 106 (3): 93–96.
{{}}: CS1 maint: multiple names: authors list ()
แหล่งข้อมูลอื่น
- Coppersmith Barbet videos, photos & sounds on the Internet Bird Collection
- Skull 2011-06-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nktithxngMegalaima haemacephala gt sthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Avesxndb Piciformeswngs Megalaimidaeskul Megalaimaspichis M haemacephalachuxthwinamMegalaima haemacephala Statius Muller 1776chuxphxngXantholaema haemacephala Bucco indicus nktithxng xngkvs coppersmith barbet crimson breasted barbet coppersmith chuxwithyasastr Megalaima haemacephala epnnkophradk Megalaimidae thielkthisud twekhiyw khxehluxng xkaelahnaphakaedng khxbtaehluxng mkekaabntnimsung ruckkndiephraarxngesiyng pk epncnghwasmaesmxehmuxnkbchangtithxng frngwaehmuxnkbchangtithxngaedng epnnkpracathinkhxngexechiyit aelabangswnkhxngexechiyxakheny tharngodyecaaophrngimehmuxnkbnkophradkpraephthxun odymakkinphlim echn lukithr aetbangkhrngkkinaemlngxun dwy odyechphaaaemlngema plwkmipik inpraethsithy epnstwpakhumkhrxng tamphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpa phuththskrach 2535 cunghamla phyayamla hamkha hamnaekhahruxsngxxk hamkhrxbkhrxng hamephaaphnthu hamekbhruxthaxntrayrng karhamkarkhrxbkhrxngaelakarkhamiphlipthungikhaelasakkhaphrrnnankophradkphnthuni xacxyuinekhtediywknkbnkophradktwihykwachnidxun thiphbinexechiyit inethuxkekhakhattawntkkhxngpraethsxinediy caxyuinekhtediywknkbnkophradkphnthu M malabarica sungmikhnadkhlaykn aetrxngthikwa hnaphakthiaedng khxbtaaelakhxthiehluxng thxngthilay aelatwdanbnthiekhiyw epnlksnaechphaakhxngnk luknkcamisicangkwa aelaimmiswnsiaedng twphutwemiycakhlaykn phnthuyxyinpraethssrilngkamihnathidakwa misiaedngmakkwathixk aelamiaethbekhmkwatrngthxng luknkphnthuyxy indica thiyngimmisiaedng aelamisicangkwa emuxngoklkata praethsxinediy invduphsmphnthu khnthisukhrxcathaihhlngdanbn duxxkepnsinaengin inbrrdankophradkskul Megalaima nktithxngepnstw tntrakul basal khxngskul dngthiphbodykarwiekhraahwiwthnakarchatiphnthu phylogenetic analysis dngnn nkskulediywknphnthuxun inexechiy cungepnnkthiaeyksayphnthuxxkcakskulniinphayhlng miphnthuyxy 9 phnthuthiyxmrbknxyangkwangkhwangkhux phnthutnaebb haemacephala P L S Muller 1776 phbinhmuekaalusxnaelaminodor inpraethsfilippins phnthuyxy indica Latham 1790 phbinxinediyit erimcakekhttawnxxkechiyngehnuxkhxngpraethspakisthan ipcnthungsrilngka ithy aelaewiydnam miphnthuyxyxun thiediywnirwmekhainphnthuni phnthuyxy thiehlux phbinekaatang inexechiyxakheny delica Parrot 1907 ekaasumatra rosea Dumont 1816 ekaachwa homochroa Dziadosz amp Parkes 1984 ekaa Tablas cnghwdrxmblxn praethsfilippins celestinoi Gilliard 1949 ekaa Catanduanes Biliran samar elyet praethsfilippins intermedia Shelley 1891 ekaapainy Guimaras Negros praethsfilippins cebuensis Dziadosz amp Parkes 1984 ekaaesbu praethsfilippins mindanensis Rand 1948 ekaamindaena praethsfilippinsthixyuaelakarkracayphnthunkmkcaxyuinswn paelk aelapaolng thi mitnimtayaelw khudecaaidngay epnlksnasakhykhxngthixyukhxngnk nkcatharngaelanxnxyuinophrngim khunkthirnginemuxngoklkata praethsxinediy inxinediyit nkmkcaxyuinthitakwa 4 000 fut 1 219 emtr inethuxkekhahimaly nkcaxyuinhubekhainekhtrxbnxk cnthungekhtsungpraman 3 000 fut 914 emtr nkcaminxyinekhtthaelthray hruxinpathichunmakphvtikrrmaelaniewsn source source source source widioxaesdngnktithxngsngesiyngrxng ihsngektpakthiimxa rxngodyphxngkhx nkmkcaxyuediyw epnkhu hruxepnfungelk aetxacphbepnfungihybntnithrthixxkphlmak nkchxbtakaeddtxnecha bnkingiribbntnimsung bangkhrngcaochbipochbmaaelwmacbkingikl kn nkbinepnesntrng odykraphuxpikerw nktxngaeyngrngkbnkaelastwkinphlimxun thitharnginophrngim idphbwa nkophradkkhxsifailnktithxngxxkcakrng aelankprxdphnthu Pycnonotus cafer red vented bulbul cakhomyphlimthitwphunamaihtwemiy rngthiepnophrngcaichsahrbphkdwy nkbangtwxyutwediyw aelabangphwkcaphktxnklangwndwy luknkcaphkxyukbphxaem aetbxykhrngtxngklbmakxn imechnnn phxaemxaccaimihekharng esiyngrxng nkrxngesiyngdng khlaykbchangekhaaolha dng pk pk pk khlaykbchangtithxng hruxtithxngaedng sahrbfrng sungihchuxkbnk rxngsa knnan odyerimeba kxn aelwdngkhuncnthungradb epncnghwasmaesmxthi 108 121 khrngtxnathi aelaxaccarxngthung 204 khrng nkimxapakewlarxng hnngthikhxthngsxngkhangcaphxngxxkaelwyub aelacaphngkhw inkarrxngaetlakhrng nkcaimrxnginvduhnaw xahar nkkinlukithr emuxngihedxrabad praethsxinediy nkchxbkinlukbnyn oph ithrpraephthxun phlemldediywaekhng drupe phlpraephthxun aelabangkhrngaemlngthiochbkininxakas aelaxaccakinklibdxkimbangchniddwy nkkinphlimhnkkwatnexng 1 5 3 ethatxwn karsubphnthu withicibknrwmthngrxngephlng phxngkhxxxk phngkhw sabdhang ihxahar aelaiskhn nkphsmphnthuknodymakthngpi odytangkninphunthitang vduphsmphnthuinxinediy xyurahwangeduxnkumphaphnththungeduxnemsayn insrilngka xyurahwangeduxnthnwakhmthungeduxnknyayn thngtwphutwemiychwyknecaarng itkingimtamkhwangkingaekhb nkxaccaphknxnxyuinrngdwy nkwangikh 3 4 fxng aetehmuxnkbnkthitharnginophrngimxun ewlafkikhnn imkhxychdecn aetpramanwaxyuthi 2 xathity thngtwphutwemiychwyknfkikh bangkhrng nkxaccamiluksxngchudtid kn pccykartay nkphuihyxaccathukla aelainekhtemuxng nkxaccabinchnsingkxsrangtang rwmthngkaaephngkhaw kartayephraaphiscaksarkhastruphuchaelastw kyngpraktdwyechingxrrthaelaxangxingBirdLife International 2012 Megalaima haemacephala IUCN Red List of Threatened Species Version 2013 2 subkhnemux 2013 11 26 tithxng phcnanukrmxielkthrxniks chbbrachbnthitysthan ph s 2542 n chuxnkchnid Megalaima haemacephala inwngs Megalaimidae epnnkophradkthielkthisud twekhiyw khxehluxng xkaedng hnaphakaedng khxbtaehluxng tharnginophrngim kinphlim echn lukithr mkekaabntnimsung rxngesiyng pk epncnghwasmaesmx stwpakhumkhrxng olksiekhiyw cakaehlngedimemux 2015 03 26 subkhnemux 2015 04 23 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a imruckpharamietxr deadurl thuklaewn aenana url status help Rasmussen PC amp JC Anderton 2005 Birds of South Asia The Ripley Guide Vol 2 Smithsonian Institution amp Lynx Edicions pp 279 280 Ali S amp S D Ripley 1983 Handbook of the birds of India and Pakistan Vol 4 2 ed Oxford University Press pp 163 165 Moyle RG 2004 Phylogenetics of barbets Aves Piciformes based on nuclear and mitochondrial DNA sequence data Molecular Phylogenetics and Evolution 30 1 187 200 doi 10 1016 S1055 7903 03 00179 9 PMID 15022769 Lok AFSL amp Lee TK 2009 PDF Nature in Singapore 1 47 54 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 06 06 subkhnemux 2015 06 09 Dewar Douglas 1915 Birds of the Indian Hills John Lane p 243 Blanford WT 1895 The Fauna of British India Including Ceylon and Burma Birds Volume 3 Taylor and Francis p 98 Tooth EE 1901 Nesting difficulties of the coppersmith J Bombay Nat Hist Soc 13 4 713 714 Ali Salim amp Dillon Ripley 1987 Handbook of the Birds of India and Pakistan Vol 4 Oxford University Press p 300 Aitken EH 1893 The habits of the coppersmith J Bombay Nat Hist Soc 8 2 326 327 Bharos AMK 1997 Unusual feeding pattern and diet of Crimsonbreasted Barbet Megalaima haemacephala J Bombay Nat Hist Soc 94 2 411 Muthukrishnan TS Sundarbabu Rajeswari 1982 Feeding habits of Coppersmith Megalaima haemacephala Muller J Bombay Nat Hist Soc 79 1 197 198 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Sharma AK 1993 Territorial fight among crimsonbreasted barbet Newsletter for Birdwatchers 33 5 95 Vijayaraghavan B 1957 Accidental death of a Crimsonbreasted Barbet Megalaima haemacephala Muller J Bombay Nat Hist Soc 54 2 462 Dhindsa M S Sandhu J S Sohi A S 1986 Pesticidal mortality of crimson breasted barbet Megalaima haemacephala with a note on its body size Bulletin of the British Ornithologists Club 106 3 93 96 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb nktithxng Coppersmith Barbet videos photos amp sounds on the Internet Bird Collection Skull 2011 06 10 thi ewyaebkaemchchin