เชียงเครือ เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร
ตำบลเชียงเครือ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Chiang Khruea |
คำขวัญ: ตำบลเชียงเครือน่าอยู่ มุ่งสู่คุณภาพชีวิตที่ดี ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สกลนคร |
อำเภอ | เมืองสกลนคร |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 85.77 ตร.กม. (33.12 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2562) | |
• ทั้งหมด | 17,623 คน |
• ความหนาแน่น | 205.47 คน/ตร.กม. (532.2 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 47000 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 470106 |
เทศบาลตำบลเชียงเครือ | |
---|---|
ตรา | |
ทต.เชียงเครือ ที่ตั้งสำนักงานเทศบาลตำบลเชียงเครือในจังหวัดสกลนคร | |
พิกัด: 17°15′42″N 104°07′12″E / 17.261780°N 104.120120°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สกลนคร |
อำเภอ | เมืองสกลนคร |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | ประเวศ ไชยฮาด |
รหัส อปท. | 05470106 |
ที่อยู่ สำนักงาน | เลขที่ 109 หมู่ที่ 4 ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร 47000 |
โทรศัพท์ | 0 4275 4021 |
เว็บไซต์ | www |
ประวัติ
สันนิษฐานว่าแรกเริ่มเดิมทีมีขุนพลกำปาลายและนายเคน คำศรี พร้อมชาวบ้านอีก 6–7 ครอบครัวได้อพยพมาจากเมืองมหาชัยกองแก้ว (ปัจจุบันอยู่ในประเทศลาว) มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านทุ่งมั่ง (ปัจจุบันคือบ้านธาตุดุม) และก็มีผู้อพยพมาเพิ่มขึ้น ชาวบ้านมีฝีมือในการทำเครื่องปั้นดินเผามาก่อน ประกอบกับบริเวณทุ่งมั่งมีดินเหนียวซึ่งใช้ในการปั้นดินเผา เมื่อนำไปเผา ปรากฏว่าเครื่องปั้นดินเผาแตก ใช้การไม่ได้ จึงได้อพยพขึ้นมาทางเหนือของหมู่บ้านเรื่อยมาเพื่อเสาะแสวงหาแหล่งดินเหนียวจนมาถึงลำห้วยลาก และได้พบดินเหนียวบริเวณริมห้วย จึงพากันขุดดินขึ้นมาปั้น และเมื่อนำเอาไปเผา ปรากฏว่าไม่แตก จึงได้ตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่บริเวณลำห้วยลากเป็นที่ทำมาหากินเรื่อยมา ต่อมามีคนอพยพมาอยู่มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงตั้งเป็นหมู่บ้าน เรียกว่า "บ้านเชียงเครือ" โดยมีที่มาว่า "อาจจะเคยบวชเรียนมาก่อน เมื่อสึกออกมาแล้ว คนลาวอีสานจะเรียกว่า "เชียง" และในบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านในสมัยก่อนนั้น มักจะมีเครือไม้เป็นจำนวนมาก จึงนำคำทั้งสองมาเชื่อมต่อกันเป็นชื่อ "เชียงเครือ""
โดยเริ่มแรกมีการจัดตั้งสภาตำบลเชียงเครือขึ้นในพื้นที่เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 ต่อมาได้รับการจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงเครือเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2539 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล
จนกระทั่งท้องที่มีจำนวนหนาแน่นเพิ่มขึ้น จึงมีประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อ พ.ศ. 2551 จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงเครือเป็นเทศบาลตำบลเชียงเครือจนปัจจุบัน
ที่ตั้งและอาณาเขต
ตำบลเชียงเครือตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอ มีอาณาเขตติดต่อกับตำบลข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหนองลาดและตำบลอุ่มจาน (อำเภอกุสุมาลย์)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลนาแก้ว (อำเภอโพนนาแก้ว) และตำบลท่าแร่
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลฮางโฮง
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลขมิ้นและตำบลหนองลาด
การแบ่งเขตการปกครอง
ตำบลเชียงเครือแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 หมู่บ้าน ได้แก่
- หมู่ที่ 1 บ้านเชียงเครือ
- หมู่ที่ 2 บ้านโพนสว่าง
- หมู่ที่ 3 บ้านดอนเชียงบาล
- หมู่ที่ 4 บ้านหนองหอย
- หมู่ที่ 5 บ้านดอนเชียงคูน
- หมู่ที่ 6 บ้านหนองสนม
- หมู่ที่ 7 บ้านป่าหว้าน
- หมู่ที่ 8 บ้านทุ่งมน
- หมู่ที่ 9 บ้านโคกสว่าง
- หมู่ที่ 10 บ้านนาคำไฮ
- หมู่ที่ 11 บ้านโนนเบ็ญ
- หมู่ที่ 12 บ้านโนนศาลา
- หมู่ที่ 13 บ้านดอนเชียงบาลใหญ่
- หมู่ที่ 14 บ้านเชียงเครือวัดใหญ่
- หมู่ที่ 15 บ้านทุ่งมนพัฒนา
- หมู่ที่ 16 บ้านป่าหว้านทุ่งพัฒนา
- หมู่ที่ 17 บ้านหนองหอยใหญ่หรือบ้านหนองหอยใหม่
อ้างอิง
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดตั้งสภาตำบลตามประกาศคณะปฏิวัติ...2515.PDF ราชกิจจานุเบกษา 90 (108):53. 24 สิงหาคม 2516
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล.PDF 2012-01-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนราชกิจจานุเบกษา 113 (9 ง):167. 30 มกราคม 2539
- เทศบาลตำบลเชียงเครือ จังหวัดสกลนคร. "ประวัติและสัญลักษณ์" [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://110.164.210.137:809[]2559. สืบค้น 26 กันยายน 2560.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
echiyngekhrux epntablhnunginxaephxemuxngsklnkhr cnghwdsklnkhr epnthitngkhxngmhawithyalyekstrsastr withyaekhtechlimphraekiyrti cnghwdsklnkhrtablechiyngekhruxtablkarthxdesiyngxksrormn xksrormnTambon Chiang Khrueakhakhwy tablechiyngekhruxnaxyu mungsukhunphaphchiwitthidi sngesrimwthnthrrmpraephnithxngthin yudaenwthangesrsthkicphxephiyngpraethsithycnghwdsklnkhrxaephxemuxngsklnkhrphunthi thnghmd85 77 tr km 33 12 tr iml prachakr 2562 thnghmd17 623 khn khwamhnaaenn205 47 khn tr km 532 2 khn tr iml rhsiprsniy 47000rhsphumisastr470106swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyethsbaltablechiyngekhruxethsbaltabltratht echiyngekhruxthitngsanknganethsbaltablechiyngekhruxincnghwdsklnkhrphikd 17 15 42 N 104 07 12 E 17 261780 N 104 120120 E 17 261780 104 120120praeths ithycnghwdsklnkhrxaephxemuxngsklnkhrkarpkkhrxng naykethsmntripraews ichyhadrhs xpth 05470106thixyu sanknganelkhthi 109 hmuthi 4 tablechiyngekhrux xaephxemuxngsklnkhr cnghwdsklnkhr 47000othrsphth0 4275 4021ewbistwww wbr chkr wbr go wbr thswnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtisnnisthanwaaerkerimedimthimikhunphlkapalayaelanayekhn khasri phrxmchawbanxik 6 7 khrxbkhrwidxphyphmacakemuxngmhachykxngaekw pccubnxyuinpraethslaw matngthinthanthibanthungmng pccubnkhuxbanthatudum aelakmiphuxphyphmaephimkhun chawbanmifimuxinkarthaekhruxngpndinephamakxn prakxbkbbriewnthungmngmidinehniywsungichinkarpndinepha emuxnaipepha praktwaekhruxngpndinephaaetk ichkarimid cungidxphyphkhunmathangehnuxkhxnghmubaneruxymaephuxesaaaeswnghaaehlngdinehniywcnmathunglahwylak aelaidphbdinehniywbriewnrimhwy cungphaknkhuddinkhunmapn aelaemuxnaexaipepha praktwaimaetk cungidtngrkrakthinthanxyubriewnlahwylakepnthithamahakineruxyma txmamikhnxphyphmaxyumakkhuneruxy cungtngepnhmuban eriykwa banechiyngekhrux odymithimawa xaccaekhybwcheriynmakxn emuxsukxxkmaaelw khnlawxisancaeriykwa echiyng aelainbriewnthitngkhxnghmubaninsmykxnnn mkcamiekhruximepncanwnmak cungnakhathngsxngmaechuxmtxknepnchux echiyngekhrux odyerimaerkmikarcdtngsphatablechiyngekhruxkhuninphunthiemuxwnthi 5 krkdakhm ph s 2516 txmaidrbkarcdtngepnxngkhkarbriharswntablechiyngekhruxemuxwnthi 19 mkrakhm 2539 tamprakaskrathrwngmhadithy eruxng karcdtngxngkhkarbriharswntabl cnkrathngthxngthimicanwnhnaaennephimkhun cungmiprakaskrathrwngmhadithy emux ph s 2551 cdtngxngkhkarbriharswntablechiyngekhruxepnethsbaltablechiyngekhruxcnpccubnthitngaelaxanaekhttablechiyngekhruxtngxyuthangthisehnuxkhxngxaephx mixanaekhttidtxkbtablkhangekhiyngdngtxipni thisehnux tidtxkbtablhnxngladaelatablxumcan xaephxkusumaly thistawnxxk tidtxkbtablnaaekw xaephxophnnaaekw aelatablthaaer thisit tidtxkbtablhangohng thistawntk tidtxkbtablkhminaelatablhnxngladkaraebngekhtkarpkkhrxngtablechiyngekhruxaebngekhtkarpkkhrxngxxkepn 17 hmuban idaek hmuthi 1 banechiyngekhrux hmuthi 2 banophnswang hmuthi 3 bandxnechiyngbal hmuthi 4 banhnxnghxy hmuthi 5 bandxnechiyngkhun hmuthi 6 banhnxngsnm hmuthi 7 banpahwan hmuthi 8 banthungmn hmuthi 9 banokhkswang hmuthi 10 bannakhaih hmuthi 11 banonneby hmuthi 12 banonnsala hmuthi 13 bandxnechiyngbalihy hmuthi 14 banechiyngekhruxwdihy hmuthi 15 banthungmnphthna hmuthi 16 banpahwanthungphthna hmuthi 17 banhnxnghxyihyhruxbanhnxnghxyihmxangxing prakaskrathrwngmhadithy eruxng karcdtngsphatabltamprakaskhnaptiwti 2515 PDF rachkiccanuebksa 90 108 53 24 singhakhm 2516 prakaskrathrwngmhadithy eruxngcdtngxngkhkarbriharswntabl PDF 2012 01 25 thi ewyaebkaemchchinrachkiccanuebksa 113 9 ng 167 30 mkrakhm 2539 ethsbaltablechiyngekhrux cnghwdsklnkhr prawtiaelasylksn xxniln ekhathungidcak http 110 164 210 137 809 lingkesiy 2559 subkhn 26 knyayn 2560