บทความนี้ต้องการการจัดหน้า หรือ ให้ คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้เพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ตาลชุม (คำเมือง: ) เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัวอำเภอบนสองฝั่งแม่น้ำน่าน และลำน้ำสาย
ตำบลตาลชุม | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Tan Chum |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | น่าน |
อำเภอ | อำเภอท่าวังผา |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 104.48 ตร.กม. (40.34 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2553) | |
• ทั้งหมด | 6,520 คน |
• ความหนาแน่น | 62.40 คน/ตร.กม. (161.6 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 55140 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 550603 |
ประวัติ
ตำบลตาลชุม เดิมชื่อ “ไชยพรม” หรือ "ศรีพรม" มีพระราชกิจจา เป็นผู้ปกครอง เริ่มมีการก่อตั้งชุมชน ตั้งแต่ พ.ศ. 2310 พื้นที่นี้แต่เดิมในอดีตก่อนจะมีการก่อตั้งเป็นเมืองไชยพรม สันนิษฐานว่ามีชาวกาว ชาวลวัะ อาศัยอยู่ตั้งแต่สมัยพญาภูคา มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน แล้วถูกม่าน(พม่า)เข้ามายึดครอง ภายหลังได้ถูกทิ้งร้าง เพราะปรากฏซากปลักหักพัง ของวัดวาอาราม มีพระธาตุ โบสถ์ วิหาร กำแพงหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ในพื้นที่ บ้านสบสาย บ้านสบหนอง บ้านป่าเมี่ยง บ้านตาลชุม ราษฎรส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานมาจาก เมืองเชียงแสน และ เมืองเชียงของ(จังหวัดเชียงราย)เมืองไชยพรมมีอาณาเขตกว้างขวาง ทิศเหนือจรดเมืองริม ทิศตะวันออกจรดเมืองยม เมืองอวน เมืองพงษ์ ทิศใต้จรดเมืองน่าน ทิศตะวันตกจรด เมืองควร เมืองปง มีผู้ปกครองมาโดยตลอดโดยได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าผู้ครองนครน่าน
พ.ศ. 2440 นครน่านแบ่งเขตเมืองไชยพรมให้อยู่ในการปกครอง ของแขวงนครน่าน มีที่ว่าการแขวงอยู่ที่เมืองน่าน มีพื้นที่ปกครองตั้งแต่บ้านผาขวาง บ้านดอนแก่ง บ้านปง บ้านตาลชุม บ้านป่าเมี้ยง บ้านสบหนอง บ้านดอนตัน บ้านนาไฮ-ขอน บ้านดอนมูล บ้านม่วง บ้านหนองม่วง บ้านสบย่าง บ้านก้นต้าง(ฝ่ายมูล) บ้านควัะ บ้านดอนแก้ว บ้านหนองบัว-ต้นฮ่าง ซึ่งครอบคุมใน3ตำบลของอำเภอท่าวังผาในปัจจุบัน ได้แก่ตำบลตาลชุม ตำบลศรีภูมิ และตำบลป่าคร
พ.ศ. 2457 ราชการได้แบ่งแยกอาณาเขตเป็นตำบลศรีพรม อำเภอเมืองน่าน โดยเมืองน่านแต่งตั้ง เจ้าหมวกคำ ณ น่าน มาปกครอง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นตำบลตาลชุม อำเภอเมืองน่าน
22 มีนาคม พ.ศ. 2481 ได้โอนตำบลดอนมูล และตำบลตาลชุม อำเภอเมืองน่าน ไปขึ้นกับ อำเภอปัว และโอนบ้านผาขวาง หมู่ที่ 9 ตำบลตาลชุม อำเภอเมืองน่าน ไปขึ้นกับตำบลบ่อ อำเภอเมืองน่าน ในสมัยนั้นมีขุนวิเชษฐ์ตาลชุม เป็นกำนัน
หลังจากนั้นได้โอนตำบลดอนมูล และตำบลตาลชุม ไปรวมกับตำบลป่าคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน (เดี๋ยวหาข้อมูลเพิ่มเติม ในประกาศราชกิจานุเบกษาก่อนครับว่าวันไหน)
11 มิถุนายน 2490 แยกตำบลตาลชุม จากตำบลป่าคา จำนวน 13 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านผาขวาง บ้านดอนแก่ง บ้านปง บ้านตาลชุม บ้านป่าเมี้ยง บ้านสบหนอง บ้านสบสาย บ้านดอนตัน บ้านดอนมูล บ้านนาไฮ บ้านดอนมูล บ้านควัะ บ้านม่วง
21 กันยายน พ.ศ. 2505 แบ่งท้องที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน ตั้งเป็นกิ่งอำเภอ 1 แห่ง เรียกชื่อว่า “กิ่งอำเภอท่าวังผา” มีเขตการปกครอง รวม 4 ตำบล คือ ตำบลริม ตำบลป่าคา ตำบลตาลชุม และตำบลยม ให้ขึ้นกับอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอปัว จังหวัดน่าน
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 ยกฐานะกิ่งอำเภอท่าวังผา อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
17 เมษายน พ.ศ. 2517 ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ตั้งตำบลศรีภูมิ โดยการโอนบ้านม่วง หมู่ที่1, บ้านดอนมูล หมู่ที่2, บ้านห้วยเดื่อ หมู่ที่3, บ้านดอนตัน หมู่ที่4, บ้านนาไฮ (นาอุดม) หมู่ที่ 5, บ้านควัะ หมู่ที่6, บ้านดอยติ้ว หมู่ที่13, บ้านห้วยม่วง หมู่ที่14 ของตำบลตาลชุม รวม7หมู่บ้านแยกไปอยู่ในเขตการปกครองตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
โดยมีหมู่บ้านส่วนใหญ่อยู่บริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำน่าน ในช่วงฤดูฝนจะเกิดอุทกภัย มีการคมนาคมไม่สะดวก ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ราษฎรส่วนใหญ่ได้อพยพ ถิ่นฐานขึ้นมาตั้งบ้านเรือนอยู่บนที่ดอนทางทิศตะวันออกของพื้นที่ตำบลคือ 2 ข้างทาง ถนนสายน่าน – ทุ่งช้าง ได้แก่บ้านดอนแก่ง บ้านปง บ้านตาลชุม บ้านป่าเมี่ยง บ้านสบหนองใหม่(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านห้วยแขม)
หมู่บ้าน
ตำบลตาลชุมแต่เดิมมี 26 หมู่บ้าน ปี พ.ศ. 2517 ได้แยกออกเป็นตำบลศรีภูมิ จึงเหลือ 14 หมู่บ้าน ได้แก่
- หมู่ที่ 1 บ้านสบหนอง 1
- หมู่ที่ 2 บ้านป่าเมี่ยง
- หมู่ที่ 3 บ้านตาลชุม 1
- หมู่ที่ 4 บ้านสบสาย
- หมู่ที่ 5 บ้านปง 1
- หมู่ที่ 6 บ้านดอนแก่ง
- หมู่ที่ 7 บ้านน้ำป้าก
- หมู่ที่ 8 บ้านห้วยโป่ง
- หมู่ที่ 9 บ้านห้วยธนู
- หมู่ที่ 10 บ้านห้วยแขม
- หมู่ที่ 11 บ้านปง 2
- หมู่ที่ 12 บ้านสบหนอง 2
- หมู่ที่ 13 บ้านปงพัฒนา
- หมูที่ 14 บ้านตาลชุม 2
ศาสนสถาน
มีวัด 7 แห่ง ได้แก่
- วัดสบหนอง
- วัดตาลชุม
- วัดจักรวรรณ(ป่าเมี่ยง)
- วัดดอนชัย (สบสาย)
- วัดสุคันธาราม(ปง)
- วัดดอนแก่ง
- วัดห้วยแขม
สำนักสงฆ์ 3 แห่ง ได้แก่
- สำนักสงฆ์กิตติคุณ(ห้วยโป่ง)
- สำนักสงฆ์ห้วยธนู
- สำนักสงฆ์น้ำป้าก
ที่ตั้งและอาณาเขต
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่ทางทิศตะวันตกของตำบล และเป็นที่ราบสูงทางทิศตะวันออก มีพื้นที่ทั้งหมด 63,125 ไร่
- ทิศเหนือ ติดกับ , ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน
- ทิศตะวันออก ติดกับ ต.ยม, อ.ท่าวังผา จ.น่าน
- ทิศใต้ ติดกับ ต.บ่อ อ.เมืองน่าน จ.น่าน
- ทิศตะวันตก ติดกับ ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน
ระยะทางห่างจาก อำเภอท่าวังผา ถึง อบต.ตาลชุม 8 กิโลเมตร ระยะทางห่างจาก อำเภอเมืองน่าน ถึง อบต.ตาลชุม 34 กิโลเมตร
เนื้อที่ทางกายภาพ รวมทั้งหมด 104.48 ตารางกิโลเมตร (64,149 ไร่)
ประชากร
จำนวนหมู่บ้านในเขตพื้นที่ตำบลตาลชุม จำนวน 14 หมู่บ้าน ประชากรทั้งสิ้น 6,422 คน แยกเป็นชาย 3,221 คน หญิง 3,201 คน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2555)
อาชีพ อาชีพหลัก ทำนา ทำสวน ทำไร่ อาชีพเสริม หัตถกรรมในครัวเรือน
แหล่งท่องเที่ยว
- พระธาตุฉิมพลี วัดสบหนอง
- แหล่งน้ำสาธารณะ หนองหลวง บ้านสบหนอง
- อนุสาวรีย์เจ้าเมืองไชยพรม อารักษ์ผีเสี้ยวเมือง (ดงหอ) ถนนคึกฤทธิ์ บ้านสบหนอง-ห้วยแขม
- อนุเสาวรีย์เจ้าหลวงพญาแก้ว บ้านสบสาย
- พระพุทธมหาสุวรรณมงคลศรีศากยมุนี (หลวงพ่อทอง) วัดดอนชัย (สบสาย)
- ฝายเก็บน้ำสาย บ้านสบสาย
- โครงการปิดทองหลังพระตามแนวพระราชดำริ บ้านน้ำป้าก
- พระเพชรตาลชุม วัดตาลชุม
- พระธาตุตาลชุมศรีไชยพรม วัดตาลชุม
- อนุเสาวรีย์เจ้าหลวงดงมะแหละ บ้านตาลชุม
ลำน้ำสายสำคัญ
- แม่น้ำน่าน
- ลำน้ำสาย
- ลำน้ำยาว
- ลำห้วยธนู
- ลำห้วยป้าก
- ลำห้วยก้าบ
- หนองหลวง
- ลำห้วยแขม
- ลำห้วยโป่ง
- ลำห้วยคี่
- ลำห้วยเยี่ยว
- ลำห้วยม่วง
- ล้ำห้วยกึม
- ลำห้วยเสี้ยว
อ้างอิง
- กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน รายจังหวัด รายอำเภอ และรายตำบล ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2553
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxng talchum khaemuxng epntablhnunginxaephxthawngpha cnghwdnan tngxyuthangthisitkhxngtwxaephxbnsxngfngaemnanan aelalanasaytabltalchumtablkarthxdesiyngxksrormn xksrormnTambon Tan Chumpraethsithycnghwdnanxaephxxaephxthawngphaphunthi thnghmd104 48 tr km 40 34 tr iml prachakr 2553 thnghmd6 520 khn khwamhnaaenn62 40 khn tr km 161 6 khn tr iml rhsiprsniy 55140rhsphumisastr550603swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtitabltalchum edimchux ichyphrm hrux sriphrm miphrarachkicca epnphupkkhrxng erimmikarkxtngchumchn tngaet ph s 2310 phunthiniaetediminxditkxncamikarkxtngepnemuxngichyphrm snnisthanwamichawkaw chawlwa xasyxyutngaetsmyphyaphukha mikhwamecriyrungeruxngmakxn aelwthukman phma ekhamayudkhrxng phayhlngidthukthingrang ephraapraktsakplkhkphng khxngwdwaxaram miphrathatu obsth wihar kaaephnghlngehluxihehninpccubn inphunthi bansbsay bansbhnxng banpaemiyng bantalchum rasdrswnihyyaythinthanmacak emuxngechiyngaesn aela emuxngechiyngkhxng cnghwdechiyngray emuxngichyphrmmixanaekhtkwangkhwang thisehnuxcrdemuxngrim thistawnxxkcrdemuxngym emuxngxwn emuxngphngs thisitcrdemuxngnan thistawntkcrd emuxngkhwr emuxngpng miphupkkhrxngmaodytlxdodyidrbkaraetngtngcakecaphukhrxngnkhrnan ph s 2440 nkhrnanaebngekhtemuxngichyphrmihxyuinkarpkkhrxng khxngaekhwngnkhrnan mithiwakaraekhwngxyuthiemuxngnan miphunthipkkhrxngtngaetbanphakhwang bandxnaekng banpng bantalchum banpaemiyng bansbhnxng bandxntn bannaih khxn bandxnmul banmwng banhnxngmwng bansbyang bankntang faymul bankhwa bandxnaekw banhnxngbw tnhang sungkhrxbkhumin3tablkhxngxaephxthawngphainpccubn idaektabltalchum tablsriphumi aelatablpakhr ph s 2457 rachkaridaebngaeykxanaekhtepntablsriphrm xaephxemuxngnan odyemuxngnanaetngtng ecahmwkkha n nan mapkkhrxng idepliynchuxepntabltalchum xaephxemuxngnan 22 minakhm ph s 2481 idoxntabldxnmul aelatabltalchum xaephxemuxngnan ipkhunkb xaephxpw aelaoxnbanphakhwang hmuthi 9 tabltalchum xaephxemuxngnan ipkhunkbtablbx xaephxemuxngnan insmynnmikhunwiechsthtalchum epnkann hlngcaknnidoxntabldxnmul aelatabltalchum iprwmkbtablpakha xaephxpw cnghwdnan ediywhakhxmulephimetim inprakasrachkicanuebksakxnkhrbwawnihn 11 mithunayn 2490 aeyktabltalchum caktablpakha canwn 13 hmuban idaek banphakhwang bandxnaekng banpng bantalchum banpaemiyng bansbhnxng bansbsay bandxntn bandxnmul bannaih bandxnmul bankhwa banmwng 21 knyayn ph s 2505 aebngthxngthixaephxpw cnghwdnan tngepnkingxaephx 1 aehng eriykchuxwa kingxaephxthawngpha miekhtkarpkkhrxng rwm 4 tabl khux tablrim tablpakha tabltalchum aelatablym ihkhunkbxyuinekhtkarpkkhrxngkhxngxaephxpw cnghwdnan 28 krkdakhm ph s 2508 ykthanakingxaephxthawngpha xaephxpw cnghwdnan epnxaephxthawngpha cnghwdnan 17 emsayn ph s 2517 tngaelaepliynaeplngekhttablinthxngthixaephxthawngpha cnghwdnan tngtablsriphumi odykaroxnbanmwng hmuthi1 bandxnmul hmuthi2 banhwyedux hmuthi3 bandxntn hmuthi4 bannaih naxudm hmuthi 5 bankhwa hmuthi6 bandxytiw hmuthi13 banhwymwng hmuthi14 khxngtabltalchum rwm7hmubanaeykipxyuinekhtkarpkkhrxngtablsriphumi xaephxthawngpha cnghwdnan odymihmubanswnihyxyubriewnrimsxngfngaemnanan inchwngvdufncaekidxuthkphy mikarkhmnakhmimsadwk txmainpi ph s 2518 rasdrswnihyidxphyph thinthankhunmatngbaneruxnxyubnthidxnthangthistawnxxkkhxngphunthitablkhux 2 khangthang thnnsaynan thungchang idaekbandxnaekng banpng bantalchum banpaemiyng bansbhnxngihm pccubnepliynchuxepnbanhwyaekhm hmubanaephnthitabltalchum tabltalchumaetedimmi 26 hmuban pi ph s 2517 idaeykxxkepntablsriphumi cungehlux 14 hmuban idaek hmuthi 1 bansbhnxng 1 hmuthi 2 banpaemiyng hmuthi 3 bantalchum 1 hmuthi 4 bansbsay hmuthi 5 banpng 1 hmuthi 6 bandxnaekng hmuthi 7 bannapak hmuthi 8 banhwyopng hmuthi 9 banhwythnu hmuthi 10 banhwyaekhm hmuthi 11 banpng 2 hmuthi 12 bansbhnxng 2 hmuthi 13 banpngphthna hmuthi 14 bantalchum 2sasnsthanmiwd 7 aehng idaek wdsbhnxng wdtalchum wdckrwrrn paemiyng wddxnchy sbsay wdsukhntharam png wddxnaekng wdhwyaekhm sanksngkh 3 aehng idaek sanksngkhkittikhun hwyopng sanksngkhhwythnu sanksngkhnapakthitngaelaxanaekhtphunthiswnihyepnphunthirablumxyuthangthistawntkkhxngtabl aelaepnthirabsungthangthistawnxxk miphunthithnghmd 63 125 ir thisehnux tidkb t pakha x thawngpha c nan thistawnxxk tidkb t ym x thawngpha c nan thisit tidkb t bx x emuxngnan c nan thistawntk tidkb t sriphumi x thawngpha c nan rayathanghangcak xaephxthawngpha thung xbt talchum 8 kiolemtr rayathanghangcak xaephxemuxngnan thung xbt talchum 34 kiolemtr enuxthithangkayphaph rwmthnghmd 104 48 tarangkiolemtr 64 149 ir prachakrcanwnhmubaninekhtphunthitabltalchum canwn 14 hmuban prachakrthngsin 6 422 khn aeykepnchay 3 221 khn hying 3 201 khn khxmuleduxnthnwakhm 2555 xachiph xachiphhlk thana thaswn thair xachiphesrim htthkrrminkhrweruxnaehlngthxngethiywphrathatuchimphli wdsbhnxng aehlngnasatharna hnxnghlwng bansbhnxng xnusawriyecaemuxngichyphrm xarksphiesiywemuxng dnghx thnnkhukvththi bansbhnxng hwyaekhm xnuesawriyecahlwngphyaaekw bansbsay phraphuththmhasuwrrnmngkhlsrisakymuni hlwngphxthxng wddxnchy sbsay fayekbnasay bansbsay okhrngkarpidthxnghlngphratamaenwphrarachdari bannapak phraephchrtalchum wdtalchum phrathatutalchumsriichyphrm wdtalchum xnuesawriyecahlwngdngmaaehla bantalchumlanasaysakhyaemnanan lanasay lanayaw lahwythnu lahwypak lahwykab hnxnghlwng lahwyaekhm lahwyopng lahwykhi lahwyeyiyw lahwymwng lahwykum lahwyesiywxangxingkrmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy rayngansthiticanwnprachakraelaban raycnghwd rayxaephx aelaraytabl n eduxn thnwakhm ph s 2553 rachkiccanuebksa prakaskrathrwngmhadithy eruxng karkahndekhttablinthxngthixaephxthawngpha cnghwdnan bthkhwamekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk