ตะพาบม่านลาย (อังกฤษ: Narrow headed softshell turtles) เป็นสกุลของสัตว์เลื้อยคลานจำพวกตะพาบ 3 ชนิด ใช้ชื่อสกุลว่า Chitra (/ชิ-ตร้า/)
ตะพาบม่านลาย | |
---|---|
ตะพาบม่านลายอินเดีย (C. indica) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์เลื้อยคลาน |
อันดับ: | เต่า |
อันดับย่อย: | อันดับย่อยเต่า |
วงศ์: | วงศ์ตะพาบ |
วงศ์ย่อย: | วงศ์ย่อยตะพาบ |
สกุล: | Chitra , 1844 |
มีรูปร่างโดยรวมคือ เป็นตะพาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หัวและตามีขนาดเล็ก เมื่อโตเต็มที่ ขนาดกระดองยาวได้ถึงเมตรเศษ น้ำหนักกว่า 120–200 กิโลกรัม กระดองแบนเรียบสีครีมหรือสีเนื้อ มีจุดเด่นที่เป็นลักษณะสำคัญ คือ มีลายสีน้ำตาลแลดูสวยงาม ที่ขนาดและลักษณะแตกต่างออกไปในช่วงวัยและชนิดพันธุ์ หัวเล็ก เท้าเป็นแผ่นผังผืด มีเล็บใหญ่แข็งแรง กรามแข็งแรงใช้สำหรับขบกัดสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งและสัตว์มีกระดูกสันหลังบางประเภท เช่น กบหรือเขียด เป็นอาหารได้เป็นอย่างดี
พบกระจายพันธุ์เฉพาะแม่น้ำขนาดใหญ่บางสายเท่านั้น ในอนุทวีปอินเดียและภูมิภาคอินโดจีน เช่น ไทย, พม่า, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ปัจจุบันจำแนกออกได้ 3 ชนิด คือ
- ตะพาบม่านลายไทย (Chitra chitra)
- ตะพาบม่านลายอินเดีย (Chitra indica)
- ตะพาบม่านลายพม่า (Chitra vandijki)
มีพฤติกรรม คือ เป็นตะพาบที่ชอบซุ่มซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทรายที่มีน้ำไหลเพื่อรอดักเหยื่อ โดยจะไม่ขึ้นมาบกบนเลย นอกจากเพื่อวางไข่เท่านั้น โดยจะขุดหลุมวางไข่บนหาดทรายริมแม่น้ำเหมือนกับเต่าน้ำและตะพาบชนิดอื่น ออกไข่ครั้งโดยเฉลี่ยครั้งละ 60–100 ฟอง ใช้เวลาฟักเป็นตัวนาน 65 วัน
เป็นตะพาบที่มีขนาดใหญ่และลวดลายที่สวยงาม จึงทำให้ตะพาบม่านลายทุกชนิดกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ เพราะถูกจับมาขายเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในชนิด C. chitra ที่พบได้ในภาคกลางของไทย ที่ไม่มีรายงานการพบในธรรมชาติมานานกว่า 30 ปีแล้ว
แต่ในปัจจุบัน สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้วในที่เลี้ยงในทุกชนิด แต่ก็มีสนนราคาขายที่แพงมาก
รูปภาพ
- โครงกระดูกของตะพาบม่านลายอินเดีย
- ภาพวาดตะพาบม่านลายไทย
-
อ้างอิง
- Rhodin 2010, p. 000.126
- . หมูหินดอตคอม. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-24. สืบค้นเมื่อ 2015-12-26.
- "ตะพาบม่านลาย". กรมประมง.
- บรรณานุกรม
- (1844). Catalogue of the Tortoises, Crocodiles, and Amphisbænians, in the Collection of the British Museum. London: Trustees of the British Museum. (Edward Newman, printer). viii + 80 pp. (Chitra, new genus, p. 49).
- Rhodin, Anders G.J.; van Dijk, Peter Paul; Iverson, John B.; Shaffer, H. Bradley (2010-12-14). (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-17. สืบค้นเมื่อ 2010-12-15.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
taphabmanlay xngkvs Narrow headed softshell turtles epnskulkhxngstweluxykhlancaphwktaphab 3 chnid ichchuxskulwa Chitra chi tra taphabmanlaytaphabmanlayxinediy C indica karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stweluxykhlanxndb etaxndbyxy xndbyxyetawngs wngstaphabwngsyxy wngsyxytaphabskul Chitra 1844 miruprangodyrwmkhux epntaphabthimikhnadihythisudinolk hwaelatamikhnadelk emuxotetmthi khnadkradxngyawidthungemtress nahnkkwa 120 200 kiolkrm kradxngaebneriybsikhrimhruxsienux micudednthiepnlksnasakhy khux milaysinatalaelduswyngam thikhnadaelalksnaaetktangxxkipinchwngwyaelachnidphnthu hwelk ethaepnaephnphngphud mielbihyaekhngaerng kramaekhngaerngichsahrbkhbkdstwnathimiepluxkaekhngaelastwmikraduksnhlngbangpraephth echn kbhruxekhiyd epnxaharidepnxyangdi phbkracayphnthuechphaaaemnakhnadihybangsayethann inxnuthwipxinediyaelaphumiphakhxinodcin echn ithy phma maelesiy aelaxinodniesiy pccubncaaenkxxkid 3 chnid khux taphabmanlayithy Chitra chitra taphabmanlayxinediy Chitra indica taphabmanlayphma Chitra vandijki miphvtikrrm khux epntaphabthichxbsumsxntwxyuitphunthraythiminaihlephuxrxdkehyux odycaimkhunmabkbnely nxkcakephuxwangikhethann odycakhudhlumwangikhbnhadthrayrimaemnaehmuxnkbetanaaelataphabchnidxun xxkikhkhrngodyechliykhrngla 60 100 fxng ichewlafkepntwnan 65 wn epntaphabthimikhnadihyaelalwdlaythiswyngam cungthaihtaphabmanlaythukchnidklayepnstwthiiklsuyphnthuinthrrmchati ephraathukcbmakhayephuxepnstweliyng odyechphaainchnid C chitra thiphbidinphakhklangkhxngithy thiimmirayngankarphbinthrrmchatimanankwa 30 piaelw aetinpccubn samarthephaakhyayphnthuidaelwinthieliynginthukchnid aetkmisnnrakhakhaythiaephngmakrupphaphokhrngkradukkhxngtaphabmanlayxinediy phaphwadtaphabmanlayithy kradxngkhxngtaphabmanlayimthrabchnid inphiphithphnth thikrungebxrlinxangxingRhodin 2010 p 000 126 hmuhindxtkhxm khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 02 24 subkhnemux 2015 12 26 taphabmanlay krmpramng brrnanukrm 1844 Catalogue of the Tortoises Crocodiles and Amphisbaenians in the Collection of the British Museum London Trustees of the British Museum Edward Newman printer viii 80 pp Chitra new genus p 49 Rhodin Anders G J van Dijk Peter Paul Iverson John B Shaffer H Bradley 2010 12 14 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 17 subkhnemux 2010 12 15