(ค.ศ. 1635-1636) โดยแอนโทนี แวน ไดค์ | |
ของเนเธอร์แลนด์และฟลานเดอส์ | |
เนเธอร์แลนด์เริ่มแรก (ค.ศ. 1400-1500) | |
เรอแนซ็องส์แบบดัตช์และเฟลมิช (ค.ศ. 1500-84) | |
ยุคทองของเนเธอร์แลนด์ (ค.ศ. 1584-1702) | |
บารอกแบบเฟลมิช (ค.ศ. 1585-1700) | |
จิตรกรรมบารอกแบบเฟลมิช (อังกฤษ: Flemish Baroque painting) เป็นศิลปะที่รุ่งเรืองในบริเวณเนเธอร์แลนด์ใต้ ระหว่างราว ค.ศ. 1585 เมื่อสาธารณรัฐดัตช์แยกตัวจากบริเวณเนเธอร์แลนด์ของสเปนทางตอนใต้โดยการยึดแอนต์เวิร์ป จนกระทั่งราว ค.ศ. 1700 เมื่อการปกครองของฮับส์บูร์กสิ้นสุดลงเมื่อเสด็จสวรรคต แอนต์เวิร์ปเป็นศูนย์กลางของจิตรกรสำคัญ ๆ เช่นปีเตอร์ พอล รูเบนส์, แอนโทนี แวน ไดค์ และจาค็อป จอร์แดงส์ (เมืองสำคัญอื่น ๆ สำหรับจิตรกรก็ได้แก่ บรัสเซลส์และเกนต์) โดยเฉพาะรูเบนส์ผู้เป็นจิตรกรคนสำคัญผู้มีอิทธิพลต่องานเขียนของจิตรกรคนอื่น ๆ ในคริสต์ศตวรรที่ 17 การเขียนของรูเบนส์เป็นการสร้างลักษณะการเขียนเฉพาะตัวของแอนต์เวิร์ปที่ทำให้กลายมาเป็นเมืองศูนย์กลางทางศิลปะของยุโรป โดยเฉพาะในด้านจิตรกรรมตามแนวการปฏิรูปศาสนาของนิกายโรมันคาทอลิก ส่วนแอนโทนี แวน ไดค์ผู้เป็นลูกศิษย์ของรูเบนส์ก็เป็นผู้ก่อตั้งวิธีการเขียนภาพเหมือนแบบใหม่ในอังกฤษ การวิวัฒนาการของบารอกแบบเฟลมิชคล้ายคลึงการวิวัฒนาการของจิตรกรรมยุคทองของเนเธอร์แลนด์ ของศิลปินที่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนจิตรกรรมประวัติศาสตร์, จิตรกรรมภาพเหมือน, จิตรกรรมภาพชีวิตประจำวัน, จิตรกรรมภูมิทัศน์ และ จิตรกรรมภาพนิ่ง
ลักษณะทั่วไป
"เฟลมิช" ในความหมายนี้และความหมายเกี่ยวกับยุคศิลปะ เช่น "สมัยดั้งเดิมของฟลานเดอส์" มักจะรวมบริเวณที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริเวณฟลานเดอส์สมัยใหม่ รวมทั้งดัชชีบราบันต์ และสังฆมณฑลของสังฆราชแห่งลีแยฌ ภายในคริสต์ศตวรรษที่ 17 แอนต์เวิร์ปก็กลายเป็นศูนย์กลางของศิลปะโดยการนำของรูเบนส์ ส่วนบรัสเซลส์มีความสำคัญในการเป็นที่ตั้งของราชสำนัก ซึ่งเป็นที่ดึงดูดศิลปินเช่นดาวิด เทนิเยร์ส (ผู้ลูก) ในปลายคริสต์ศตวรรษ
ยุคแมนเนอริสม์ตอนปลาย
แม้ว่าภาพที่เขียนในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 จะเป็นศิลปะแบบจริตนิยม และปลายสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ซึ่งเป็นวิธีเขียนทั่วไปในยุโรป ศิลปินเช่นออตโต ฟาน เฟน, (Adam van Noort), (Marten de Vos) และ (Francken) ก็เริ่มมามีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานสำหรับศิลปะบารอก ระหว่าง ค.ศ. 1585 ถึงต้นคริสต์ทศวรรษ 1600 ศิลปินเหล่านี้ก็สร้างฉากแท่นบูชาใหม่แทนที่ฉากที่ถูกทำลายไประหว่างการทำลายรูปเคารพ ในปี ค.ศ. 1566 นอกจากนั้น และยาน บรูเกล (ผู้พ่อ) กลายมามีความสำคัญในการเขียนจิตรกรรมตู้ ที่มักจะเป็นเรื่องจากตำนานเทพและหัวข้อทางประวัติศาสตร์
"สมัยรูเบนส์"
ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ (ค.ศ. 1577–ค.ศ. 1640) เป็นลูกศิษย์ของทั้งอ็อตโต ฟาน วีน และอาดัม ฟาน นูร์ต รูเบนส์ใช้เวลาแปดปีในอิตาลีระหว่าง ค.ศ. 1600 ถึง ค.ศ. 1608 ในการศึกษางานศิลปะของกรีกและโรมัน, งานเขียนของยุค และงานของจิตรกรร่วมสมัยเช่นอาดัม เอลสไฮเมอร์ และคาราวัจโจ หลังจากกลับมาแอนต์เวิร์ปรูเบนส์ก็ตั้งห้องเขียนภาพที่มีอิทธิพลต่อแนวทางการเขียนของศิลปะเฟลมิชเป็นอย่างมาก จิตรกรส่วนใหญ่ระหว่างครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรที่ 17 ล้วนต่างก็ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากรูเบนส์
ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและการทำงานร่วมกัน
จิตรกรรมเฟลมิชมีชื่อเสียงในการเขียนแบบร่วมมือกันระหว่างช่างมีชื่อซึ่งอาจจะมาจากแนวโน้มของศิลปินที่จะมีความชำนาญเฉพาะทาง เช่น (Frans Snyders) เป็นช่างเขียนผู้เชี่ยวชาญในการเขียนภาพสัตว์และยาน บรูเกล (ผู้พ่อ) มีฝีมือในการเขียนภาพภูมิทัศน์และพืชพันธุ์ จิตรกรทั้งสองจะทำงานกับรูเบนส์ผู้ชอบเขียนรูปคนหรือกับจิตรกรอื่นในการสร้างงานร่วมกัน
วิวัฒนาการ
จิตรกรรมภาพนิ่งของดอกไม้ที่วิวัฒนาการขึ้นราว ค.ศ. 1600 โดยจิตรกรเช่นยาน บรูเกล (ผู้พ่อ) เป็นงานที่ริเริ่มขึ้นโดยช่างเขียนเฟลมิชโดยเฉพาะ ที่จะเห็นได้จากงานในสาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์ในสมัยเดียวกันของ (Ambrosius Bosschaert the Elder) แต่ในแอนต์เวิร์ปการเขียนนี้วิวัฒนาการต่อไปเป็นการเขียนเฉพาะสำหรับโรมันคาทอลิกที่เป็นแบบที่เรียกว่า "มาลัยดอกไม้" ภาพเขียนประเภทอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับบารอกของฟลานเดอส์ก็ได้แก่การเขียนฉากล่าสัตว์อันใหญ่โตของรูเบนส์และสไนเดอร์และการเขียนภาพสำหรับระเบียงภาพโดยจิตรกรเช่น (Willem van Haecht) และดาวิด เทนิเยร์ส (ผู้ลูก)
จิตรกรรมประวัติศาสตร์
จิตรกรรมประวัติศาสตร์ ที่รวมทั้งหัวเรื่องจากพระคัมภีร์ไบเบิลและจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะที่สูงส่งที่สุดของ "การจัดลำดับคุณค่าของศิลปะ" (Hierarchy of genres) ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 (Abraham Janssens) เป็นจิตรกรประวัติศาสตร์คนสำคัญของแอนต์เวิร์ประหว่าง ค.ศ. 1600 ถึง ค.ศ. 1620 แต่หลังจาก ค.ศ. 1609 รูเบนส์ก็กลายมาเป็นผู้นำแทนที่ ทั้งแวน ไดค์และจาค็อป จอร์แดงส์ ต่างก็เขียนจิตรกรรมประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ หลังจากการเสียชีวิตของรูเบนส์แล้ว จอร์แดงส์ก็กลายมาเป็นจิตรกรเฟลมิชคนสำคัญที่สุดแทนที่ จิตรกรคนสำคัญอื่นที่เขียนภาพในลักษณะของรูเบนส์ก็ได้แก่ (Gaspar de Crayer) ผู้ทำงานเขียนที่บรัสเซลส์, (Artus Wolffort), (Cornelis de Vos), (Jan Cossiers), (Theodoor van Thulden), (Abraham van Diepenbeeck) และ (Jan Boeckhorst)
ในครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 17 จิตรกรประวัติศาสตร์ก็รวมอิทธิพลของรูเบนส์กับความรู้ทาง และศิลปะบารอกแบบอิตาลีเข้าด้วยกัน ศิลปินในกลุ่มนี้ก็ได้แก่ (Erasmus Quellinus the Younger), (Jan van den Hoecke), (Pieter van Lint), (Cornelis Schut) และ (Thomas Willeboirts Bosschaert) ต่อมาในคริสต์ศตวรรษจิตรกรหลายคนหันไปให้ความสนใจต่อการเขียนของแอนโทนี แวน ไดค์ซึ่งกลายมาเป็นงานที่มีอิทธิพลต่อจิตรกรคนอื่น ๆ เช่น (Pieter Thijs), (Lucas Franchoys the Younger) และศิลปินที่ได้รับอิทธิพลของนาฏกรรมของบารอกสมัยหลังที่ได้แก่ (Theodoor Boeyermans) และ (Jan-Erasmus Quellinus) นอกจากนั้นลักษณะ "การเขียนภาพแบบคาราวัจโจ" แบบเฟลมิชก็ยังแสดงให้เห็นในงานของ (Theodoor Rombouts) และ (Gerard Seghers)
ศิลปะคริสเตียน
รูเบนส์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการวิวัฒนาการของศิลปะบารอกในการสร้างฉากแท่นบูชา งานบานพับภาพ "ชะลอร่างจากกางเขน" สำหรับสมาคมอาชีพผู้สร้างปืนที่เขียนระหว่าง ค.ศ. 1611 ถึง ค.ศ. 1614 ที่มหาวิหารแอนต์เวิร์ป—ที่ปีกข้างเป็นภาพ "การประกาศของพระแม่มารี" และ "" และด้านนอกเป็น "นักบุญคริสโตเฟอร์และฤๅษี"—เป็นงานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นการผสมระหว่างการปรัชญาการแสดงออกของศิลปะของสมัยการปฏิวัติซ้อนทางคริสต์ศาสนา กับความเป็นธรรมชาติที่เหมือนกับว่าจะเคลื่อนไหวได้ และความยิ่งใหญ่ของจิตรกรรมที่สร้างแบบบารอก (Roger de Piles) อธิบายว่า "จิตรกรลงตัวลงใจในการเขียนภาพที่เป็นภาพพจน์ที่ทำให้มีอำนาจในการการะตุ้นให้ผู้เห็นภาพมีความรู้สึกราวกับจะทราบถึงความทรมานของพระทรงเยซูที่ทรงได้รับในการไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์"
จิตรกรรมภาพเหมือน
แม้ว่ารูเบนส์จะมิได้เป็นเป็นจิตรกรภาพเหมือนโดยตรงแต่ก็ยังมีงานเขียนภาพเหมือนจากสมัยแรกเช่น "ภาพเหมือนของบริกิดา สปิโนลา-โดเรีย" (ค.ศ. 1606, หอศิลป์แห่งชาติ, วอชิงตัน ดี.ซี.), ภาพเหมือนของภรรยา ("" (Honeysuckle Bower) และ "Het Pelsken") และภาพเขียนอีกหลายภาพของขุนนางหลายคน และเพื่อน นอกจากนั้นรูเบนส์ก็ยังมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อจิตรกรภาพเหมือนของสมัยบารอก--แอนโทนี แวน ไดค์ผู้เป็นลูกศิษย์และเป็นช่างเขียนประจำราชสำนักของ ต่อมาแวน ไดค์ก็กลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลคนสำคัญของการเขียนภาพเหมือนในอังกฤษ
จิตรกรภาพเหมือนคนสำคัญคนอื่น ๆ ก็ได้แก่ และจาค็อป จอร์แดงส์ แม้ว่าส่วนใหญ่ภาพเหมือนของฟลานเดอส์จะเป็นขนาดเท่าคนจริงหรือใหญ่กว่าแต่ (Gonzales Coques) และ (Gillis van Tilborch) มีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพเหมือนกลุ่มขนาดย่อม
ภาพชีวิตประจำวัน
ภาพชีวิตประจำวันเป็นหัวข้อการวาดภาพที่นิยมกันมากในคริสต์ศตวรรษที่ 17 จิตรกรหลายคนสร้างงานเขียนตามแบบเปียเตอร์ บรูเกล (ผู้พ่อ) ในการเขียนภาพคนชั้นต่ำ แต่บางครั้งก็มีภาพของคนชั้นสูงแต่งตัวดีในงานเต้นรำหรือในสวน อาเดรียน เบราเวอร์ มักจะวาดภาพเล็กของชาวนาหรือชาวบ้านที่ทะเลาะกันหรือดื่มเหล้าซึ่งมีอิทธิพลต่อจิตรกรต่อมา ภาพสตรีทำงานบ้านก็เป็นหัวเรื่องที่นิยมกันทางตอนเหนือของเนเธอร์แลนด์โดย (Pieter de Hooch) และโยฮันส์ เวร์เมร์ แต่ไม่นิยมกันเท่าใดทางตอนใต้ แต่ (Jan Siberechts) ก็เขียนหัวข้อนี้บ้างเหมือนกัน
การเขียนแบบบรูเกล
การเขียนภาพชีวิตประจำวันของฟลานเดอส์เป็นการเขียนที่มีอิทธิพลโดยตรงจากเปียเตอร์ บรูเกล (ผู้พ่อ) และเป็นลักษณะการเขียนที่ทำต่อเนื่องกันมาจนในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยมีงานใหม่ที่เขียนโดยบุตรชายสองคน และยาน บรูเกล (ผู้พ่อ) ภาพหลายภาพเป็นภาพจากงานฉลองของวัดที่เรียกว่า "Kermesse" และชาวบ้านกับงานฉลองอื่น ๆ จากมุมที่สูงขึ้นไป จิตรกรจากสาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์เช่นจิตรกรที่เกิดในฟลานเดอส์เช่น (David Vinckboons) และ (Roelandt Savery) เขียนงานที่คล้ายคลึงกันเป็นภาพชนบทและภาพชีวิตประจำวันที่ใกล้เคียงกับภาพเขียนเนเธอร์แลนด์และเฟลมิช
อาเดรียน เบราเวอร์ และผู้ตาม
อาเดรียน เบราเวอร์ มักจะเขียนภาพชีวิตประจำวันขนาดเล็กของชาวบ้านที่โกโรโกโสที่ทะเลาะกัน, เล่นเกม, ดื่มเหล้าหรือท่าทางหยายคาย เบราเวอร์เกิดทางใต้ของเนเธอร์แลนด์แต่ใช้เวลาระหว่างทศวรรษ 1620 ในอัมสเตอร์ดัม และ ที่ที่ได้รับอิทธิพลจากฟรันส์ ฮาลส์ และ (Dirk Hals) และศิลปินคนอื่นที่เป็นการเขียนแบบ "" (painterly) เมื่อกลับมาแอนต์เวิร์ปราว ค.ศ. 1631 หรือ ค.ศ. 1632 เบราเวอร์ก็นำวิธีการเขียนใหม่ที่มีอิทธิพลมาเผยแพร่ที่เป็นการวาดภายในห้องเขียนภาพแทนที่จะเป็นภาพนอกสถานที่ นอกจากนั้นเบราเวอร์ก็ยังเขียนภาพการศึกษาการแสดงออกของสีหน้าเช่นงาน "คนดื่มเบียร์" ที่เรียกกันว่า "" (Tronie) งานของเบราเวอร์เป็นที่รู้จักกันในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และมีอิทธิพลต่อจิตรกรเฟลมิชเช่นรูเบนส์ผู้ที่เป็นเจ้าของงานของเบราเวอร์มากกว่าผู้ใด และจิตรกรเช่นดาวิด เทนิเยร์ส (ผู้ลูก), (Jan van de Venne), (Joos van Craesbeeck) และ (David Ryckaert III) ก็ยังคงเขียนงานในแบบของเบราเวอร์
ภาพเขียนหรู
ภาพเขียนของคู่ที่มีอันจะกินที่แต่งตัวแบบล่าที่สุดมักจะแฝงด้วยหัวเรื่องของความรักหรือเป็นภาพที่มักจะเขียนโดย, (Louis de Caullery), (Simon de Vos), ดาวิด เทนิเยร์ส (ผู้ลูก) และ (David Ryckaert III) "สวนแห่งความรัก" โดยรูเบนส์ก็เป็นภาพเขียนในกลุ่มนี้ (ราว ค.ศ. 1634–1635; พิพิธภัณฑ์ปราโด)
ภาพชีวิตประจำวันขนาดใหญ่
ขณะที่ภาพเขียนหรูและภาพชีวิตประจำวันของเบราเวอร์มักจะมีขนาดเล็ก แต่จิตรกรบางคนก็หันไปหาคาราวัจโจในการเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนภาพขนาดใหญ่และเป็นนาฏกรรมเช่นภาพ "นักดนตรี" , "คนโกงไพ่" หรือ "หมอดู" ที่มามีอิทธิพลในการวางภาพ ภาพเขียนเหล่านี้และ "การเขียนภาพแบบคาราวัจโจ" จะเป็นการเขียนที่ใช้แสงเงาในการสื่อความรู้สึกของภาพ (Adam de Coster), (Gerard Seghers) และ (Theodoor Rombouts) เป็นผู้นำในการใช้วิธีที่ว่านี้และเป็นวิธีที่นิยมกันในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่มาจากอิทธิพลของผู้เขียนภาพแบบคาราวัจโจเช่น (Bartolomeo Manfredi) และ (Utrecht caravaggism) เช่น (Gerrit van Honthorst) นอกจากนั้นโรมเบาท์สก็ยังได้รับอิทธิพลจากครูผู้รวมการเขียนแบบคาราวัจโจกับการเขียนภาพประวัติศาสตร์ตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1600
จาค็อป จอร์แดงส์
จาคอป จอร์แดงส์ผู้กลายมาเป็นจิตรกรคนสำคัญของแอนต์เวิร์ปหลังจากรูเบนส์เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1640 มีชื่อเสียงในการเขียนภาพชีวิตประจำวันขนาดใหญ่เช่นภาพ "กษัตริย์เสวยน้ำจันฑ์" และ "ผู้ใหญ่ร้องเพลง, เด็กร้องตาม" ภาพเขียนหลายภาพใช้การวางภาพและการใช้สีที่คล้ายคลึงกับการเขียนแบบคาราวัจโจ แต่หัวเรื่องเป็นอิทธิพลที่มาจากศิลปินคนอื่นเช่นยาน สตีน
ภาพยุทธการ
หัวเรื่องอีกหัวเรื่องหนึ่งที่วิวัฒนาการมาจากงานของจิตรกรในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำคือภาพภูมิทัศน์ของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ทั้งที่เกิดขึ้นจริงและที่เขียนจากจินตนาการ รวมทั้งภาพการโจมตีย่อย ๆ และการปล้น (Sebastiaen Vrancx) และลูกศิษย์ (Pieter Snayers) เป็นผู้มีชื่อเสียงในหัวเรื่องชนิดนี้ และลูกศิษย์ของสเนเยอร์ (Adam-Frans van der Meulen) ก็เขียนหัวเรื่องนี้ต่อมาในแอนต์เวิร์ป, บรัสเซลส์ และปารีส จนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17
กลุ่มบัมโบชเชียนติและคลาสสิกอิตาลี
ตามการที่ปฏิบัติกันมาจิตรกรหลายคนจากทางตอนเหนือของยุโรปเดินทางไปศึกษาในอิตาลีระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17 จิตรกรเฟลมิชเช่น (Jan Miel) และ (Michael Sweerts) ไปตั้งหลักแหล่งในกรุงโรมและเขียนภาพแบบจิตรกรเนเธอร์แลนด์ (Pieter van Laer) กลุ่มนักเขียนจากทางเหนือที่ไปตั้งหลักแหล่งในกรุงโรมเรียกกันว่า "" (Bamboccianti) มีความเชี่ยวชาญในการเขียนที่บรรยากาศแบบบ้าน ๆ ของชีวิตประจำวันในโรมและในชนบท ภาพเขียนเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสีใน (Roman Campagna) และการศึกษาประติมากรรมกรีกโรมัน โดยทั่วไปแล้วภาพชีวิตประจำวันไม่เป็นที่นิยมกันในอิตาลีโดยเฉพาะโดยสถาบันที่เป็นทางการเช่น (Academy of St. Luke) ดังนั้นจิตรกรหลายคนจึงไปเป็นสมาชิกของ (Bentvueghels) ที่คล้าย ๆ กับสมาคมอาชีพ (ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นสมาคมที่สมาชิกใช้ชีวิตอย่าง "") ที่เป็นที่พบปะของช่างเขียนเนเธอร์แลนด์และเฟลมิชที่มีความสนใจและธรรมเนียมที่คล้ายคลึงกัน
ภูมิทัศน์และทะเลทัศน์
ภูมิทัศน์สมัยต้น
(Gillis van Coninxloo) เป็นผู้เริ่มการภูมิทัศน์แอนต์เวิร์ปในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าภาพเขียนภูมิทัศน์อย่างที่เคยเขียนกันมาโดยจิตรกรเช่น (Joachim Patiner) กิลเลสมีอิทธิพลเป็นอันมากต่อการเขียนภูมิทัศน์ทางเหนือเมื่อไปพำนักอยู่ที่อัมสเตอร์ดัมอยู่ระยะหนึ่งในฐานะหนึ่งในผู้ก่อตั้ง (Frankenthal School) การเขียนภูมิทัศน์ของป่าและภูเขานิยมเขียนโดย (Abraham Govaerts), (Alexander Keirincx), (Gijsbrecht Leytens), (Tobias Verhaecht) และ (Joos de Momper) (Paul Bril) ผู้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่โรมมีความเชี่ยวชาญในการเป็นจิตรกรภูมิทัศน์เขียนภาพตกแต่งคฤหาสน์โรมันและเขียนจิตรกรรมขนานเล็กที่เรียกว่าจิตรกรรมตู้
รูเบนส์และจิตรกรสมัยต่อมา
(Jan Wildens) และ (Lucas van Uden) เขียนภูมิทัศน์ธรรมชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูเบนส์และมักจะทำงานร่วมกับช่างเขียนรูปคนหรือช่างผู้เชี่ยวชาญการเขียนรูปสัตว์เพื่อเขียนฉากหลัง รูเบนส์หันไปเขียนจิตรกรรมภูมิทัศน์ในคริสต์ทศวรรษ 1630 โดยเน้นการเขียนในบริเวณรอบ ๆ บ้านของตนเอง
การเขียนภาพทะเล
หัวเรื่องการเขียนที่เป็นที่นิยมอีกหัวเรื่องหนึ่งคือการวาดภาพภูมิทัศน์ทะเลเช่นจิตรกร (Bonaventura Peeters) เขียนภาพเรือล่มและบรรยากาศของเรือในทะเล และจินตนาการของเมืองท่าในต่างประเทศ (Hendrik van Minderhout) จากร็อตเตอร์ดัมที่ตั้งถิ่นฐานในแอนต์เวิร์ปเขียนภาพหัวข้อหลังพร้อมกับวิวัฒนาการการเขียนภาพทะเลใน
การเขียนภาพสถาปัตยกรรม
การเขียนภาพภาพในสิ่งก่อสร้างซึ่งมักจะเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาริเริ่มขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในงานของ (Hans Vredeman de Vries) ภาพหลายภาพที่เขียนเป็นสถานที่จริง (Pieter Neeffs I), เป็นต้นเขียนภาพภายใน ส่วน (Hendrik van Steenwijk II) เขียนแบบวเรเดมันคือเขียนภาพจินตนาการของภายในสิ่งก่อสร้าง การเขียนแบบนี้ทำกันต่อมาจนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดย (Anton Ghering) และ (Willem Schubart von Ehrenberg) แต่การเขียนเฟลมิชไม่ใช่ระดับเดียวกับงานที่มีทัศนมิติของจิตรกรเนเธอร์แลนด์เช่น (Pieter Jansz Saenredam) หรือ (Emanuel de Witte)
การเขียนภาพห้องแสดงภาพและงานสะสม
การเขียนภาพห้องแสดงภาพเริ่มปรากฏในแอนต์เวิร์ปราว ค.ศ. 1610 และวิวัฒนาการเช่นเดียวกับภาพในสิ่งก่อสร้างจากงานเขียนของ ผู้เขียนแบบที่ว่านี้คือ ซึ่งเป็นผู้แนะนำการเขียนภาพที่เรียกว่า "ผนังสมบัติ" (Preziosenwand) ในภาพอาจจะแสดงงานพิมพ์, งานจิตรกรรม, งานประติมากรรม, งานวาดเส้น และงานสะสมอื่นจากธรรมชาติเช่นหอยและดอกไม้ที่อยู่ด้านหน้าของภาพกับ "ห้องสารภัณฑ์" (Cabinet of curiosities) ภาพเขียนที่คล้ายคลึงกันที่แสดงความมั่งคั่งในการเป็นเจ้าของศิลปะคือภาพชุดสัมผัสห้าอย่างโดยยาน บรูเกล (ผู้พ่อ) และรูเบนส์ (พิพิธภัณฑ์ปราโด, Madrid) สร้างภาพเขียนอีกแบบหนึ่งที่แสดงภาพเขียนจริงที่ตั้งแสดงในห้องแสดงภาพในจินตนาการขณะที่ผู้รักศิลปะยืนชมอยู่ ต่อมาในคริสต์ศตวรรษเดียวกันดาวิด เทนิเยร์ส (ผู้ลูก) ในฐานะจิตรกรประจำสำนักของบันทึกงานสะสมจิตรกรรมอิตาลีของอาร์คดยุคที่บรัสเซลส์เป็นภาพห้องแสดงภาพและเป็นแคตตาลอก–"Theatrum Pictorium" ห้องภาพของฟลานเดอส์เป็นการแสดงทฤษฎีทัศนศิลป์อย่างหนึ่ง ภาพเขียนชนิดนี้ยังเขียนกันต่อมาในแอนต์เวิร์ปโดย (Gerard Thomas) และ (Balthasar van den Bossche) และเป็นที่มาของการวิวัฒนาการในการเขียน (veduta) ในอิตาลีและในงานเขียนภาพห้องแสดงภาพของ (Giovanni Paolo Pannini)
ภาพนิ่งและจิตรกรรมภาพสัตว์
ภาพนิ่งของดอกไม้
เป็นจิตรกรคนสำคัญที่มีบทบาทในการเขียนภาพนิ่งของดอกไม้ที่เริ่มเขียนกันราว ค.ศ. 1600 ภาพเขียนเหล่านี้เป็นภาพที่เน้นรายละเอียดของสิ่งที่วาดและการจัดภาพ แต่ก็ยังเป็นภาพที่เขียนจากจินตนาการของจิตรกรที่ผสมผสานดอกไม้ที่บานต่างฤดูกาลเข้าในภาพเดียวกัน ภาพนิ่งของดอกไม้เป็นภาพเขียนที่นิยมกันในหมู่ผู้อุปถัมภ์ชั้นเจ้านายทั่วยุโรป และมักจะเป็นภาพที่แฝงความหมายของ (Vanitas) การจัดรูปของบรูเกลมีอิทธิพลต่อจิตรกรเนเธอร์แลนด์ที่เขียนภาพดอกไม้ต่อมา ลูกของบรูเกล และ ก็เป็นจิตรกรภาพดอกไม้เช่นกัน นอกจากนั้นก็ยังมี (Osias Beert) ที่เขียนราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 งานเขียนของบีรตมีลักษณะการเขียนบางอย่างของจิตรกรทางเหนือเช่น
ภาพนิ่งของมาลัย
จิตรกรรมที่มีลักษณะคล้ายจิตรกรรมภาพดอกไม้คือการวาดมาลัยดอกไม้ที่คิดขึ้นโดยยาน บรูเกลร่วมกับคาร์ดินัล (Federico Borromeo) ในมิลาน งานเขียนรุ่นแรกที่เป็นงานเขียนร่วมระหว่างบรูเกลและรูเบนส์ในมิวนิก (, มิวนิก) เป็นภาพพระแม่มารีและพระบุตรล้อมรอบด้วยมาลัยดอกไม้ ซึ่งเป็นภาพที่ตรงต่อการตีความหมายของปรัชญาของการปฏิวัติซ้อนทางคริสต์ศาสนาว่าดดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนของพระแม่มารีและพระบุตร–ซึ่งเป็นภาพที่ถูกทำลายไปมากระหว่างการทำลายรูปเคารพในปี ค.ศ.1566 ลูกศิษย์ของบรูเกลนักบวชเยซูอิด (Daniel Seghers) ก็เขียนภาพประเภทนี้หลายภาพสำหรับลูกค้านานาชาติ
ภาพนิ่งของอาหารเช้าและงานเลี้ยง
"Little breakfast" เป็นภาพนิ่งชนิดหนึ่งที่มีความนิยมกันทั้งทางเหนือและทางใต้ของเนเธอร์แลนด์ที่เป็นภาพที่แสดงภาชนะและอาหารต่าง ๆ เช่นเนยแข็งและขนมปัง , (Clara Peeters), (Cornelis Mahu) และ (Jacob van Es) (ราว ค.ศ. 1596–1666) เป็นจิตรกรที่เขียนภาพชนิดนี้ งานที่หรูกว่าวิวัฒนาการในสาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์และถูกนำมาแอนต์เวิร์ปโดย (Jan Davidsz de Heem) ที่เป็นภาพที่มีขนาดใหญ่ ซับซ้อนและรวมอาหารที่มีราคาและหายากกว่าภาพที่เคยเขียนกันมา นอกจากนั้นก็อาจจะมีผลไม้ที่ปอกแล้ว ภาพเขียนประเภทนี้ก็เช่นเดียวกับภาพดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับการแฝงความหมายของ (Vanitas)
ภาพนิ่งของสัตว์
เขียนภาพนิ่งขนาดใหญ่ที่เน้นสัตว์ที่เป็นอาหารที่ตายแล้ว (game animals) การจัดรูปของสไนเดอร์และจิตรกรประเภทเดียวกัน (Adriaen van Utrecht) หันไปใช้การเขียนภาพในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ของ (Pieter Aertsen) และ (Joachim Beuckelaer) แต่เพิ่มความใหญ่โตมโหฬารของการเขียนแบบบารอกเข้าไปในงานเขียน จิตรกรรุ่นต่อมา (Jan Fyt) และ (Pieter Boel) ก็เพิ่มสัตว์ที่มีชีวิตเข้าไปในภาพกับสัตว์ที่เป็นอาหารที่ตายแล้ว ภาพชนิดหลังใกล้เคียงกับการเขียนฉากการล่าสัตว์ที่เป็นที่นิยมกันในจิตรกรรมเฟลมิชในคริสต์ศตวรรษที่ 17
จิตรกรรมการล่าสัตว์
รูเบนส์เป็นผู้นำในการเขียนภาพการล่าสัตว์ขนาดใหญ่ของจิตรกรรมเฟลมิช ที่เป็นภาพการล่าสัตว์ขนาดใหญ่ที่เท่าเทียมกับภาพยุทธการ ที่รูเบนส์ได้มีโอกาสศึกษาในงานคลาสสิกและในภาพ "" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งเป็นภาพที่แสดงการล่าสัตว์ทั่วไปเช่นภาพ "การล่าหมาป่าและหมาจิ้งจอก" (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน) และการล่าสัตว์ที่แปลกและไม่มีในยุโรปเช่นภาพ "การล่าสิงโต" (, มิวนิก) และ (Paul de Vos) เป็นจิตรกรอีกสองคนที่เขียนภาพขนาดใหญ่ที่ต่างจากการเขียนของรูเบนส์ตรงที่เน้นแต่การเขียนแต่สัตว์โดยไม่มีมนุษย์เกี่ยวข้อง
จิตรกรรมตู้
จิตรกรรมตู้เป็นจิตรกรรมขนาดเล็กที่มักจะเป็นภาพประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนาที่นิยมเขียนกันมากในทางใต้ของเนเธอร์แลนด์ตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 17 ภาพหลายภาพเขียนโดยจิตรกรไม่ทราบนามแต่จิตรกรเช่นยาน บรูเกล (ผู้พ่อ), (Hendrik van Balen), และ (Hendrik de Clerck) ต่างก็เป็นจิตรกรตู้ผู้มีความสำเร็จระหว่างครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 17 จิตรกรเหล่านี้และผู้ที่ตามมาของอาดัม เอลสไฮเมอร์ เช่น (David Teniers the Elder) ยังคงมีลักษณะการบางอย่างที่เป็นของลักษณะการเขียนแบบแมนเนอริสต์ แต่รูเบนส์มีอิทธิพลต่อนักเขียนรุ่นต่อมาที่รวมลักษณะการเขียนของบารอกเข้าไปในการเขียนจิตรกรรมขนาดเล็ก จิตรกรในกลุ่มนี้ก็ได้แก่ (Frans Wouters), (Jan Thomas van Ieperen), , (Pieter van Lint), และ (Willem van Herp) จิตรกรรมตู้เป็นจิตรกรรมที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในยุโรปและผ่านทางสเปนไปยังลาตินอเมริกา
อ้างอิง
- Vleighe, p. 1.
- Vlieghe, pp. 207–212. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "vlieghe207" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - Slive, p. 279.
- Vlieghe, pp. 98–104.
- Belkin, pp. 113–121.
- Martin, Baroque, pp. 20–21.
- Vlieghe, pp. 200–202.
- Vlieghe, p. 202.
- Vlieghe, pp. 202–206.
- Vlieghe, p. 208.
- David Freedberg, "The Origins and Rise of the Flemish Madonnas in Flower Garlands, Decoration and Devotion", Münchener Jahrbuch der bildenden Kunst, xxxii, 1981, pp. 115–150.
- Freedberg (1981), op. cit.
- Vlieghe, p. 209.
- Vlieghe, pp. 211–216.
- Vlieghe, pp. 105–114.
บรรณานุกรม
- Belkin, Kristin Lohse (1998). Rubens. London: .
- Martin, J. R. (1977). Baroque. New York: .
- Slive, S. (1995). Dutch painting 1600-1800. Yale University Press Pelican history of art. New Haven, Conn: .
- Sutton, P. C., & Wieseman, M. E. (1993). The Age of Rubens. Boston: Museum of Fine Arts in association with Ghent.
- Vlieghe, H. (1998). Flemish art and architecture, 1585-1700. Yale University Press Pelican history of art. New Haven: Yale University Press.
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smybarxkaebbeflmich samphraphktrkhxngphraecachalsthi 1 aehngxngkvs kh s 1635 1636 odyaexnothni aewn idkhprawtisastrkhxngcitrkrrm khxngenethxraelndaelaflanedxsenethxraelnderimaerk kh s 1400 1500 erxaensxngsaebbdtchaelaeflmich kh s 1500 84 yukhthxngkhxngenethxraelnd kh s 1584 1702 barxkaebbeflmich kh s 1585 1700 raychuxcitrkrchawdtchraychuxcitrkrchaweflmich citrkrrmbarxkaebbeflmich xngkvs Flemish Baroque painting epnsilpathirungeruxnginbriewnenethxraelndit rahwangraw kh s 1585 emuxsatharnrthdtchaeyktwcakbriewnenethxraelndkhxngsepnthangtxnitodykaryudaexntewirp cnkrathngraw kh s 1700 emuxkarpkkhrxngkhxnghbsburksinsudlngemuxesdcswrrkht aexntewirpepnsunyklangkhxngcitrkrsakhy echnpietxr phxl ruebns aexnothni aewn idkh aelacakhxp cxraedngs emuxngsakhyxun sahrbcitrkrkidaek brseslsaelaeknt odyechphaaruebnsphuepncitrkrkhnsakhyphumixiththiphltxnganekhiynkhxngcitrkrkhnxun inkhriststwrrthi 17 karekhiynkhxngruebnsepnkarsranglksnakarekhiynechphaatwkhxngaexntewirpthithaihklaymaepnemuxngsunyklangthangsilpakhxngyuorp odyechphaaindancitrkrrmtamaenwkarptirupsasnakhxngnikayormnkhathxlik swnaexnothni aewn idkhphuepnluksisykhxngruebnskepnphukxtngwithikarekhiynphaphehmuxnaebbihminxngkvs karwiwthnakarkhxngbarxkaebbeflmichkhlaykhlungkarwiwthnakarkhxngcitrkrrmyukhthxngkhxngenethxraelnd khxngsilpinthimikhwamechiywchayinkarekhiyncitrkrrmprawtisastr citrkrrmphaphehmuxn citrkrrmphaphchiwitpracawn citrkrrmphumithsn aela citrkrrmphaphning ykrangphraeysu odypietxr phxl ruebns raw kh s 1610 1611lksnathwip eflmich inkhwamhmayniaelakhwamhmayekiywkbyukhsilpa echn smydngedimkhxngflanedxs mkcarwmbriewnthiimmiswnekiywkhxngkbbriewnflanedxssmyihm rwmthngdchchibrabnt aelasngkhmnthlkhxngsngkhrachaehngliaeych phayinkhriststwrrsthi 17 aexntewirpkklayepnsunyklangkhxngsilpaodykarnakhxngruebns swnbrseslsmikhwamsakhyinkarepnthitngkhxngrachsank sungepnthidungdudsilpinechndawid ethnieyrs phuluk inplaykhriststwrrs karthalayrupsylksnkhxngklumkhalwinistemuxwnthi 20 singhakhm kh s 1566 odyfrns oheknebirk inpi kh s 1566 phaphekhiynaelasilpathukthalayipepnxnmakaettxmakidphaphekhiyncaksmyaemnenxristaelabarxkmaaethnthiyukhaemnenxrismtxnplay aemwaphaphthiekhiyninplaykhriststwrrsthi 16 caepnsilpaaebbcritniym aelaplaysmyfunfusilpwithya sungepnwithiekhiynthwipinyuorp silpinechnxxtot fan efn Adam van Noort Marten de Vos aela Francken kerimmamibthbathsakhyinkarwangrakthansahrbsilpabarxk rahwang kh s 1585 thungtnkhristthswrrs 1600 silpinehlaniksrangchakaethnbuchaihmaethnthichakthithukthalayiprahwangkarthalayrupekharph inpi kh s 1566 nxkcaknn aelayan bruekl phuphx klaymamikhwamsakhyinkarekhiyncitrkrrmtu thimkcaepneruxngcaktananethphaelahwkhxthangprawtisastr smyruebns pietxr phxl ruebns aela ophrmiethiys odyruebnsaelafrns sinedxr kh s 1611 kh s 1612 phaphniepntwxyangkhxngnganbarxkaebbeflmichthitharwmknrahwangphuthimikhwamechiywchaytangkn sinedxrmikhwamsamarthinkarekhiynphaphstwekhiynehyiywkhnathiruebnsekhiynphaphophrmiethiys pietxr phxl ruebns kh s 1577 kh s 1640 epnluksisykhxngthngxxtot fan win aelaxadm fan nurt ruebnsichewlaaepdpiinxitalirahwang kh s 1600 thung kh s 1608 inkarsuksangansilpakhxngkrikaelaormn nganekhiynkhxngyukh aelangankhxngcitrkrrwmsmyechnxadm exlsihemxr aelakharawcoc hlngcakklbmaaexntewirpruebnsktnghxngekhiynphaphthimixiththiphltxaenwthangkarekhiynkhxngsilpaeflmichepnxyangmak citrkrswnihyrahwangkhrungaerkkhxngkhriststwrrthi 17 lwntangkidrbxiththiphlodytrngcakruebns khwamechiywchayechphaathangaelakarthanganrwmkn citrkrrmeflmichmichuxesiynginkarekhiynaebbrwmmuxknrahwangchangmichuxsungxaccamacakaenwonmkhxngsilpinthicamikhwamchanayechphaathang echn Frans Snyders epnchangekhiynphuechiywchayinkarekhiynphaphstwaelayan bruekl phuphx mifimuxinkarekhiynphaphphumithsnaelaphuchphnthu citrkrthngsxngcathangankbruebnsphuchxbekhiynrupkhnhruxkbcitrkrxuninkarsrangnganrwmkn phnngsmbti Preziosenwand ody kh s 1636 phaphekhiynlksnaniepnlksnaexklksnkhxngflanedxsthiwiwthnakarinkhriststwrrsthi 17wiwthnakar citrkrrmphaphningkhxngdxkimthiwiwthnakarkhunraw kh s 1600 odycitrkrechnyan bruekl phuphx epnnganthirierimkhunodychangekhiyneflmichodyechphaa thicaehnidcaknganinsatharnrthenethxraelndinsmyediywknkhxng Ambrosius Bosschaert the Elder aetinaexntewirpkarekhiynniwiwthnakartxipepnkarekhiynechphaasahrbormnkhathxlikthiepnaebbthieriykwa malydxkim phaphekhiynpraephthxunthiekiywkhxngxyangiklchidkbbarxkkhxngflanedxskidaekkarekhiynchaklastwxnihyotkhxngruebnsaelasinedxraelakarekhiynphaphsahrbraebiyngphaphodycitrkrechn Willem van Haecht aeladawid ethnieyrs phuluk citrkrrmprawtisastrcitrkrrmprawtisastr thirwmthnghweruxngcakphrakhmphiribebilaelacakehtukarninprawtisastridrbkarykyxngwaepnsilpathisungsngthisudkhxng karcdladbkhunkhakhxngsilpa Hierarchy of genres inkhriststwrrsthi 17 Abraham Janssens epncitrkrprawtisastrkhnsakhykhxngaexntewirprahwang kh s 1600 thung kh s 1620 aethlngcak kh s 1609 ruebnskklaymaepnphunaaethnthi thngaewn idkhaelacakhxp cxraedngs tangkekhiyncitrkrrmprawtisastrkhnadihy hlngcakkaresiychiwitkhxngruebnsaelw cxraedngskklaymaepncitrkreflmichkhnsakhythisudaethnthi citrkrkhnsakhyxunthiekhiynphaphinlksnakhxngruebnskidaek Gaspar de Crayer phuthanganekhiynthibrsesls Artus Wolffort Cornelis de Vos Jan Cossiers Theodoor van Thulden Abraham van Diepenbeeck aela Jan Boeckhorst inkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 17 citrkrprawtisastrkrwmxiththiphlkhxngruebnskbkhwamruthang aelasilpabarxkaebbxitaliekhadwykn silpininklumnikidaek Erasmus Quellinus the Younger Jan van den Hoecke Pieter van Lint Cornelis Schut aela Thomas Willeboirts Bosschaert txmainkhriststwrrscitrkrhlaykhnhnipihkhwamsnictxkarekhiynkhxngaexnothni aewn idkhsungklaymaepnnganthimixiththiphltxcitrkrkhnxun echn Pieter Thijs Lucas Franchoys the Younger aelasilpinthiidrbxiththiphlkhxngnatkrrmkhxngbarxksmyhlngthiidaek Theodoor Boeyermans aela Jan Erasmus Quellinus nxkcaknnlksna karekhiynphaphaebbkharawcoc aebbeflmichkyngaesdngihehninngankhxng Theodoor Rombouts aela Gerard Seghers silpakhrisetiyn phaphehmuxnkhxngphraecachalsthi 1 aehngxngkvs ody aexnothni aewn idkh kh s 1635 phiphithphnthlufwr ruebnsmiswnekiywkhxngxyangiklchidkbkarwiwthnakarkhxngsilpabarxkinkarsrangchakaethnbucha nganbanphbphaph chalxrangcakkangekhn sahrbsmakhmxachiphphusrangpunthiekhiynrahwang kh s 1611 thung kh s 1614 thimhawiharaexntewirp thipikkhangepnphaph karprakaskhxngphraaemmari aela aeladannxkepn nkbuykhrisotefxraelavisi epnnganchinsakhythiaesdngihehnkarphsmrahwangkarprchyakaraesdngxxkkhxngsilpakhxngsmykarptiwtisxnthangkhristsasna kbkhwamepnthrrmchatithiehmuxnkbwacaekhluxnihwid aelakhwamyingihykhxngcitrkrrmthisrangaebbbarxk Roger de Piles xthibaywa citrkrlngtwlngicinkarekhiynphaphthiepnphaphphcnthithaihmixanacinkarkaratunihphuehnphaphmikhwamrusukrawkbcathrabthungkhwamthrmankhxngphrathrngeysuthithrngidrbinkarithbapihaekmwlmnusy citrkrrmphaphehmuxnaemwaruebnscamiidepnepncitrkrphaphehmuxnodytrngaetkyngminganekhiynphaphehmuxncaksmyaerkechn phaphehmuxnkhxngbrikida spionla oderiy kh s 1606 hxsilpaehngchati wxchingtn di si phaphehmuxnkhxngphrrya Honeysuckle Bower aela Het Pelsken aelaphaphekhiynxikhlayphaphkhxngkhunnanghlaykhn aelaephuxn nxkcaknnruebnskyngmixiththiphlepnxyangmaktxcitrkrphaphehmuxnkhxngsmybarxk aexnothni aewn idkhphuepnluksisyaelaepnchangekhiynpracarachsankkhxng txmaaewn idkhkklaymaepnphumixiththiphlkhnsakhykhxngkarekhiynphaphehmuxninxngkvs citrkrphaphehmuxnkhnsakhykhnxun kidaek aelacakhxp cxraedngs aemwaswnihyphaphehmuxnkhxngflanedxscaepnkhnadethakhncringhruxihykwaaet Gonzales Coques aela Gillis van Tilborch mikhwamechiywchayinkarekhiynphaphehmuxnklumkhnadyxmphaphchiwitpracawn khndumebiyr odyxaedriyn ebraewxr rawkh s 1630 1640 ebraewxrmkcaekhiynphaphchiwitpracawnkhxngkhnthitkxb phaphchiwitpracawnepnhwkhxkarwadphaphthiniymknmakinkhriststwrrsthi 17 citrkrhlaykhnsrangnganekhiyntamaebbepiyetxr bruekl phuphx inkarekhiynphaphkhnchnta aetbangkhrngkmiphaphkhxngkhnchnsungaetngtwdiinnganetnrahruxinswn xaedriyn ebraewxr mkcawadphaphelkkhxngchawnahruxchawbanthithaelaaknhruxdumehlasungmixiththiphltxcitrkrtxma phaphstrithanganbankepnhweruxngthiniymknthangtxnehnuxkhxngenethxraelndody Pieter de Hooch aelaoyhns ewremr aetimniymknethaidthangtxnit aet Jan Siberechts kekhiynhwkhxnibangehmuxnkn karekhiynaebbbruekl karekhiynphaphchiwitpracawnkhxngflanedxsepnkarekhiynthimixiththiphlodytrngcakepiyetxr bruekl phuphx aelaepnlksnakarekhiynthithatxenuxngknmacninkhriststwrrsthi 17 odyminganihmthiekhiynodybutrchaysxngkhn aelayan bruekl phuphx phaphhlayphaphepnphaphcaknganchlxngkhxngwdthieriykwa Kermesse aelachawbankbnganchlxngxun cakmumthisungkhunip citrkrcaksatharnrthenethxraelndechncitrkrthiekidinflanedxsechn David Vinckboons aela Roelandt Savery ekhiynnganthikhlaykhlungknepnphaphchnbthaelaphaphchiwitpracawnthiiklekhiyngkbphaphekhiynenethxraelndaelaeflmich xaedriyn ebraewxr aelaphutam xaedriyn ebraewxr mkcaekhiynphaphchiwitpracawnkhnadelkkhxngchawbanthiokorokosthithaelaakn elnekm dumehlahruxthathanghyaykhay ebraewxrekidthangitkhxngenethxraelndaetichewlarahwangthswrrs 1620 inxmsetxrdm aela thithiidrbxiththiphlcakfrns hals aela Dirk Hals aelasilpinkhnxunthiepnkarekhiynaebb painterly emuxklbmaaexntewirpraw kh s 1631 hrux kh s 1632 ebraewxrknawithikarekhiynihmthimixiththiphlmaephyaephrthiepnkarwadphayinhxngekhiynphaphaethnthicaepnphaphnxksthanthi nxkcaknnebraewxrkyngekhiynphaphkarsuksakaraesdngxxkkhxngsihnaechnngan khndumebiyr thieriykknwa Tronie ngankhxngebraewxrepnthiruckkninkhnathiyngmichiwitxyuaelamixiththiphltxcitrkreflmichechnruebnsphuthiepnecakhxngngankhxngebraewxrmakkwaphuid aelacitrkrechndawid ethnieyrs phuluk Jan van de Venne Joos van Craesbeeck aela David Ryckaert III kyngkhngekhiynnganinaebbkhxngebraewxr phaphekhiynhru phaphekhiynkhxngkhuthimixncakinthiaetngtwaebblathisudmkcaaefngdwyhweruxngkhxngkhwamrkhruxepnphaphthimkcaekhiynody Louis de Caullery Simon de Vos dawid ethnieyrs phuluk aela David Ryckaert III swnaehngkhwamrk odyruebnskepnphaphekhiyninklumni raw kh s 1634 1635 phiphithphnthpraod phaphchiwitpracawnkhnadihy khnathiphaphekhiynhruaelaphaphchiwitpracawnkhxngebraewxrmkcamikhnadelk aetcitrkrbangkhnkhniphakharawcocinkarepnaerngbndalicinkarekhiynphaphkhnadihyaelaepnnatkrrmechnphaph nkdntri khnokngiph hrux hmxdu thimamixiththiphlinkarwangphaph phaphekhiynehlaniaela karekhiynphaphaebbkharawcoc caepnkarekhiynthiichaesngengainkarsuxkhwamrusukkhxngphaph Adam de Coster Gerard Seghers aela Theodoor Rombouts epnphunainkarichwithithiwaniaelaepnwithithiniymknintnkhriststwrrsthi 17 thimacakxiththiphlkhxngphuekhiynphaphaebbkharawcocechn Bartolomeo Manfredi aela Utrecht caravaggism echn Gerrit van Honthorst nxkcaknnormebathskyngidrbxiththiphlcakkhruphurwmkarekhiynaebbkharawcockbkarekhiynphaphprawtisastrtngaettnkhristthswrrs 1600 cakhxp cxraedngs kstriyeswynacnth ody cakhxp cxraedngsphumichuxesiynginkarekhiynphaphkhnadihythiaefngkhasxnthangcriythrrminphaphchiwitpracawn cakhxp cxraedngsphuklaymaepncitrkrkhnsakhykhxngaexntewirphlngcakruebnsesiychiwitinpi kh s 1640 michuxesiynginkarekhiynphaphchiwitpracawnkhnadihyechnphaph kstriyeswynacnth aela phuihyrxngephlng edkrxngtam phaphekhiynhlayphaphichkarwangphaphaelakarichsithikhlaykhlungkbkarekhiynaebbkharawcoc aethweruxngepnxiththiphlthimacaksilpinkhnxunechnyan stin phaphyuththkar hweruxngxikhweruxnghnungthiwiwthnakarmacakngankhxngcitrkrinklumpraethsaephndintakhuxphaphphumithsnkhxngehtukarninprawtisastrthngthiekidkhuncringaelathiekhiyncakcintnakar rwmthngphaphkarocmtiyxy aelakarpln Sebastiaen Vrancx aelaluksisy Pieter Snayers epnphumichuxesiynginhweruxngchnidni aelaluksisykhxngseneyxr Adam Frans van der Meulen kekhiynhweruxngnitxmainaexntewirp brsesls aelaparis cnplaykhriststwrrsthi 17 klumbmobchechiyntiaelakhlassikxitali mwypla ody kh s 1649 lksnakarekhiynkhxngswirtsmixiththiphlmacakkarichewlainormaelaepnphaphekhiynthirwmhweruxngchnbthkbkarwangrupaebbaebbkhlassikaelakarichsiaebbxitali tamkarthiptibtiknmacitrkrhlaykhncakthangtxnehnuxkhxngyuorpedinthangipsuksainxitalirahwangkhriststwrrsthi 17 citrkreflmichechn Jan Miel aela Michael Sweerts iptnghlkaehlnginkrungormaelaekhiynphaphaebbcitrkrenethxraelnd Pieter van Laer klumnkekhiyncakthangehnuxthiiptnghlkaehlnginkrungormeriykknwa Bamboccianti mikhwamechiywchayinkarekhiynthibrryakasaebbban khxngchiwitpracawninormaelainchnbth phaphekhiynehlaniidrbaerngbndaliccaksiin Roman Campagna aelakarsuksapratimakrrmkrikormn odythwipaelwphaphchiwitpracawnimepnthiniymkninxitaliodyechphaaodysthabnthiepnthangkarechn Academy of St Luke dngnncitrkrhlaykhncungipepnsmachikkhxng Bentvueghels thikhlay kbsmakhmxachiph thimichuxesiyngwaepnsmakhmthismachikichchiwitxyang thiepnthiphbpakhxngchangekhiynenethxraelndaelaeflmichthimikhwamsnicaelathrrmeniymthikhlaykhlungknphumithsnaelathaelthsnphumithsnsmytn Gillis van Coninxloo epnphuerimkarphumithsnaexntewirpinplaykhriststwrrsthi 16 thiepnthrrmchatimakkhunkwaphaphekhiynphumithsnxyangthiekhyekhiynknmaodycitrkrechn Joachim Patiner kilelsmixiththiphlepnxnmaktxkarekhiynphumithsnthangehnuxemuxipphankxyuthixmsetxrdmxyurayahnunginthanahnunginphukxtng Frankenthal School karekhiynphumithsnkhxngpaaelaphuekhaniymekhiynody Abraham Govaerts Alexander Keirincx Gijsbrecht Leytens Tobias Verhaecht aela Joos de Momper Paul Bril phutnghlkaehlngxyuthiormmikhwamechiywchayinkarepncitrkrphumithsnekhiynphaphtkaetngkhvhasnormnaelaekhiyncitrkrrmkhnanelkthieriykwacitrkrrmtu phumithsnkhxngthiwthsn Het Steen ody pietxr phxl ruebns kh s 1636ruebnsaelacitrkrsmytxma Jan Wildens aela Lucas van Uden ekhiynphumithsnthrrmchatithiidrbaerngbndaliccakruebnsaelamkcathanganrwmkbchangekhiynrupkhnhruxchangphuechiywchaykarekhiynrupstwephuxekhiynchakhlng ruebnshnipekhiyncitrkrrmphumithsninkhristthswrrs 1630 odyennkarekhiyninbriewnrxb bankhxngtnexng karekhiynphaphthael hweruxngkarekhiynthiepnthiniymxikhweruxnghnungkhuxkarwadphaphphumithsnthaelechncitrkr Bonaventura Peeters ekhiynphapheruxlmaelabrryakaskhxngeruxinthael aelacintnakarkhxngemuxngthaintangpraeths Hendrik van Minderhout cakrxtetxrdmthitngthinthaninaexntewirpekhiynphaphhwkhxhlngphrxmkbwiwthnakarkarekhiynphaphthaelinkarekhiynphaphsthaptykrrmkarekhiynphaphphaphinsingkxsrangsungmkcaepnsingkxsrangthangsasnarierimkhuninplaykhriststwrrsthi 16 inngankhxng Hans Vredeman de Vries phaphhlayphaphthiekhiynepnsthanthicring Pieter Neeffs I epntnekhiynphaphphayin swn Hendrik van Steenwijk II ekhiynaebbweredmnkhuxekhiynphaphcintnakarkhxngphayinsingkxsrang karekhiynaebbnithakntxmacnplaykhriststwrrsthi 17 ody Anton Ghering aela Willem Schubart von Ehrenberg aetkarekhiyneflmichimichradbediywkbnganthimithsnmitikhxngcitrkrenethxraelndechn Pieter Jansz Saenredam hrux Emanuel de Witte karekhiynphaphhxngaesdngphaphaelangansasm xkhrbathhlwngeloxopldinhxngaesdngphaphinbrsesls dawid ethnieyrs phuluk bnthukngancitrkrrmthisasmodyxkhrbathhlwngkhnathiepnchangekhiynpracarachsankxyuthibrsesls karekhiynphaphhxngaesdngphapherimpraktinaexntewirpraw kh s 1610 aelawiwthnakarechnediywkbphaphinsingkxsrangcaknganekhiynkhxng phuekhiynaebbthiwanikhux sungepnphuaenanakarekhiynphaphthieriykwa phnngsmbti Preziosenwand inphaphxaccaaesdngnganphimph ngancitrkrrm nganpratimakrrm nganwadesn aelangansasmxuncakthrrmchatiechnhxyaeladxkimthixyudanhnakhxngphaphkb hxngsarphnth Cabinet of curiosities phaphekhiynthikhlaykhlungknthiaesdngkhwammngkhnginkarepnecakhxngsilpakhuxphaphchudsmphshaxyangodyyan bruekl phuphx aelaruebns phiphithphnthpraod Madrid srangphaphekhiynxikaebbhnungthiaesdngphaphekhiyncringthitngaesdnginhxngaesdngphaphincintnakarkhnathiphurksilpayunchmxyu txmainkhriststwrrsediywkndawid ethnieyrs phuluk inthanacitrkrpracasankkhxngbnthukngansasmcitrkrrmxitalikhxngxarkhdyukhthibrseslsepnphaphhxngaesdngphaphaelaepnaekhttalxk Theatrum Pictorium hxngphaphkhxngflanedxsepnkaraesdngthvsdithsnsilpxyanghnung phaphekhiynchnidniyngekhiynkntxmainaexntewirpody Gerard Thomas aela Balthasar van den Bossche aelaepnthimakhxngkarwiwthnakarinkarekhiyn veduta inxitaliaelainnganekhiynphaphhxngaesdngphaphkhxng Giovanni Paolo Pannini phaphningaelacitrkrrmphaphstw phaphningkhxngdxkim odyyan bruekl phuphx kh s 1606 7phaphningkhxngdxkim epncitrkrkhnsakhythimibthbathinkarekhiynphaphningkhxngdxkimthierimekhiynknraw kh s 1600 phaphekhiynehlaniepnphaphthiennraylaexiydkhxngsingthiwadaelakarcdphaph aetkyngepnphaphthiekhiyncakcintnakarkhxngcitrkrthiphsmphsandxkimthibantangvdukalekhainphaphediywkn phaphningkhxngdxkimepnphaphekhiynthiniymkninhmuphuxupthmphchnecanaythwyuorp aelamkcaepnphaphthiaefngkhwamhmaykhxng Vanitas karcdrupkhxngbrueklmixiththiphltxcitrkrenethxraelndthiekhiynphaphdxkimtxma lukkhxngbruekl aela kepncitrkrphaphdxkimechnkn nxkcaknnkyngmi Osias Beert thiekhiynrawtnkhriststwrrsthi 17 nganekhiynkhxngbirtmilksnakarekhiynbangxyangkhxngcitrkrthangehnuxechn phaphningkhxngmaly citrkrrmthimilksnakhlaycitrkrrmphaphdxkimkhuxkarwadmalydxkimthikhidkhunodyyan brueklrwmkbkhardinl Federico Borromeo inmilan nganekhiynrunaerkthiepnnganekhiynrwmrahwangbrueklaelaruebnsinmiwnik miwnik epnphaphphraaemmariaelaphrabutrlxmrxbdwymalydxkim sungepnphaphthitrngtxkartikhwamhmaykhxngprchyakhxngkarptiwtisxnthangkhristsasnawaddxkimepnsylksnkhxngkhwamxxnoynkhxngphraaemmariaelaphrabutr sungepnphaphthithukthalayipmakrahwangkarthalayrupekharphinpi kh s 1566 luksisykhxngbrueklnkbwcheysuxid Daniel Seghers kekhiynphaphpraephthnihlayphaphsahrblukkhananachati phaphningkhxnghxynangrm ody rawkh s 1610 epnphaphthimkcaekhiynknemuxtnkhriststwrrsthi 17phaphningkhxngxaharechaaelanganeliyng Little breakfast epnphaphningchnidhnungthimikhwamniymknthngthangehnuxaelathangitkhxngenethxraelndthiepnphaphthiaesdngphachnaaelaxahartang echnenyaekhngaelakhnmpng Clara Peeters Cornelis Mahu aela Jacob van Es raw kh s 1596 1666 epncitrkrthiekhiynphaphchnidni nganthihrukwawiwthnakarinsatharnrthenethxraelndaelathuknamaaexntewirpody Jan Davidsz de Heem thiepnphaphthimikhnadihy sbsxnaelarwmxaharthimirakhaaelahayakkwaphaphthiekhyekhiynknma nxkcaknnkxaccamiphlimthipxkaelw phaphekhiynpraephthnikechnediywkbphaphdxkimthiekiywkhxngkbkaraefngkhwamhmaykhxng Vanitas nganeliyng ody raw kh s 1620phaphningkhxngstw ekhiynphaphningkhnadihythiennstwthiepnxaharthitayaelw game animals karcdrupkhxngsinedxraelacitrkrpraephthediywkn Adriaen van Utrecht hnipichkarekhiynphaphinkhriststwrrsthi 16 khxng Pieter Aertsen aela Joachim Beuckelaer aetephimkhwamihyotmohlarkhxngkarekhiynaebbbarxkekhaipinnganekhiyn citrkrruntxma Jan Fyt aela Pieter Boel kephimstwthimichiwitekhaipinphaphkbstwthiepnxaharthitayaelw phaphchnidhlngiklekhiyngkbkarekhiynchakkarlastwthiepnthiniymknincitrkrrmeflmichinkhriststwrrsthi 17citrkrrmkarlastw laesuxaelasinghot ody pietxr phxl ruebns raw kh s 1617 1618 ruebnsepnphunainkarekhiynphaphkarlastwkhnadihykhxngcitrkrrmeflmich thiepnphaphkarlastwkhnadihythiethaethiymkbphaphyuththkar thiruebnsidmioxkassuksainngankhlassikaelainphaph odyeloxnarod da winchi sungepnphaphthiaesdngkarlastwthwipechnphaph karlahmapaaelahmacingcxk phiphithphnthsilpaemothroplitn aelakarlastwthiaeplkaelaimmiinyuorpechnphaph karlasingot miwnik aela Paul de Vos epncitrkrxiksxngkhnthiekhiynphaphkhnadihythitangcakkarekhiynkhxngruebnstrngthiennaetkarekhiynaetstwodyimmimnusyekiywkhxngcitrkrrmtucitrkrrmtuepncitrkrrmkhnadelkthimkcaepnphaphprawtisastrhruxeruxngrawekiywkbkhristsasnathiniymekhiynknmakinthangitkhxngenethxraelndtlxdkhriststwrrsthi 17 phaphhlayphaphekhiynodycitrkrimthrabnamaetcitrkrechnyan bruekl phuphx Hendrik van Balen aela Hendrik de Clerck tangkepncitrkrtuphumikhwamsaercrahwangkhrungaerkkhxngkhriststwrrsthi 17 citrkrehlaniaelaphuthitammakhxngxadm exlsihemxr echn David Teniers the Elder yngkhngmilksnakarbangxyangthiepnkhxnglksnakarekhiynaebbaemnenxrist aetruebnsmixiththiphltxnkekhiynruntxmathirwmlksnakarekhiynkhxngbarxkekhaipinkarekhiyncitrkrrmkhnadelk citrkrinklumnikidaek Frans Wouters Jan Thomas van Ieperen Pieter van Lint aela Willem van Herp citrkrrmtuepncitrkrrmthiniymknxyangaephrhlayinyuorpaelaphanthangsepnipynglatinxemrikaxangxingVleighe p 1 Vlieghe pp 207 212 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imsmehtusmphl miniyamchux vlieghe207 hlaykhrngdwyenuxhatangkn Slive p 279 Vlieghe pp 98 104 Belkin pp 113 121 Martin Baroque pp 20 21 Vlieghe pp 200 202 Vlieghe p 202 Vlieghe pp 202 206 Vlieghe p 208 David Freedberg The Origins and Rise of the Flemish Madonnas in Flower Garlands Decoration and Devotion Munchener Jahrbuch der bildenden Kunst xxxii 1981 pp 115 150 Freedberg 1981 op cit Vlieghe p 209 Vlieghe pp 211 216 Vlieghe pp 105 114 brrnanukrmBelkin Kristin Lohse 1998 Rubens London ISBN 0 7148 3412 2 Martin J R 1977 Baroque New York ISBN 0 06 435332 X Slive S 1995 Dutch painting 1600 1800 Yale University Press Pelican history of art New Haven Conn ISBN 0 300 06418 7 Sutton P C amp Wieseman M E 1993 The Age of Rubens Boston Museum of Fine Arts in association with Ghent ISBN 0 8109 1935 4 Vlieghe H 1998 Flemish art and architecture 1585 1700 Yale University Press Pelican history of art New Haven Yale University Press ISBN 0 300 07038 1duephimsilpadtch citrkrrmeflmich citrkrrmbarxk