คันธมาทน์ (อ่านว่า คันทะมาด) เป็นชื่อภูเขาในป่าหิมพานต์ แปลว่า ภูเขาเป็นที่ยังสัตว์ให้เมาด้วยกลิ่นหอม คือภูเขาหอม
“คันธมาทน์” เป็นชื่อภูเขาสำคัญลูกหนึ่งตามตำนานการสร้างโลกและจักรวาลในคติทางพระพุทธศาสนา เป็น ๑ ใน ๕ ขุนเขาที่ล้อมรอบสระอโนดาตในป่าหิมพานต์ อันได้แก่ สุทัสนกูฏ จิตรกูฏ กาฬกูฏ คันธมาทนกูฏ และไกรลาส แต่ละลูกมีความสูงถึง ๒๐๐ โยชน์
คำ คันธมาทน์ นี้มาจาก คันธ (กลิ่นหอม) + มาทน (ยินดี) คือ ภูเขาที่ให้ชาวโลกยินดีด้วยกลิ่นหอม ความหมายดังกล่าวนี้เป็นคุณลักษณะประการสำคัญของเขาคันธมาทน์ คือเป็นขุนเขาที่พร้อมพรั่งไปด้วยพรรณไม้ที่ส่งกลิ่นหอม ดังในคัมภีร์โลกทีปกสารและไตรภูมิกถาพรรณนาลักษณะเขาคันธมาทน์ไว้ว่า
คันธมาทน์ นัยว่ามีกลิ่นหอมอบอวลอยู่ตลอดเวลา ด้วยเป็นภูเขาที่สะพรั่งด้วยต้นไม้หอมนานาชนิด ดารดาษไปด้วยต้นไม้สมุนไพรนับจำนวนมิได้ ยอดเขาคันธมาทนะนั้น มั่วมูลด้วยกลิ่น ๑๐ ประการเหล่านี้คือ กลิ่นที่รากมีต้นกฤษณาเป็นต้น กลิ่นที่แก่นมีต้นจันทน์เป็นต้น กลิ่นที่กระพี้มีต้นสนเป็นต้น กลิ่นที่เปลือกมีต้นสวังคะเป็นต้น กลิ่นที่สะเก็ดมีมะขวิดเป็นต้น กลิ่นที่ยางมีต้นสัชฌะเป็นต้น กลิ่นที่ใบมีต้นพิมเสน เป็นต้น กลิ่นที่ดอกมีต้นบุนนาคและโกสุมเป็นต้น กลิ่นที่ผลมีต้นชาติผลเป็นต้น กลิ่นที่กลิ่นเพราะเป็นกลิ่นรวมของทุก ๆ กลิ่นเป็นแหล่งรวมแห่งโอสถ เป็นที่อาศัยแห่งหมู่สัตว์ใหญ่น้อย มีถ้ำใหญ่อยู่ ๓ ถ้ำ คือ ถ้ำทอง ถ้ำแก้ว และถ้ำเงิน เป็นที่อยู่ของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายโดยรวมกันอยู่ที่เงื้อมชื่อ (นัยอรรถกถา)
เขาอันชื่อคันธมาทนกูฏนั้นเทียรย่อมแก้วอันชื่อมสาลรัตนะ กลวงในเขานั้นดั่งถั่วสะแตกแลราชมาส พรรณไม้ที่เกิดในเขานั้น ลางต้นรากหอม ลางต้นแก่นหอม ลางต้นยอดหอม ลางต้นเปลือกหอม ลางต้นลำหอม ลางต้นดอกหอม ลางต้นลูกหอม ลางต้นใบหอม ลางต้นยางหอม (ลางต้นหอมทุกอย่าง) แลว่าไม้ในเขานั้นหอม ๑๐ สิ่งดั่งกล่าวนี้แล ไม้ทั้งหลายนั้นเทียรย่อมเป็นยา แลว่าเชือกเขาเถาวัลย์อันมีในเขานั้นเทียรย่อมมีทุกสิ่ง แลเทียรย่อมหอมอยู่ทุกเมื่อบ่มิรู้วายรสเลย จึงเรียกว่าคันธมาทนเพื่อดั่งนั้น
(ไตรภูมิกถา)
ความมหัศจรรย์อีกประการหนึ่งของเขาคันธมาทน์ คือในวันเดือนดับและวันเดือนเพ็ญ ขุนเขาแห่งไม้หอมนี้จะมีแสงสว่างรุ่งโรจน์โชติช่วง ดังในไตรภูมิกถาพรรณนาไว้ว่า “แลเขานั้นเมื่อเดือนดับแลรุ่งเรืองชัชวาลอยู่ดั่งถ่านเพลิง ถ้าเมื่อเดือนเพ็งเรืองอยู่ดั่งไฟไหม้ป่าแลไหม้เมืองแล”
นอกจากนี้เขาคันธมาทน์ยังเป็นที่อยู่ของพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วย ดังในคัมภีร์จักรวาฬทีปนีกล่าวไว้อย่างละเอียดว่า
ภูเขาชื่อคันธมาทน์ล่วงเลยภูเขาทั้งเจ็ด คือ จูฬกาฬบรรพต มหากาฬบรรพต ขุทกบรรพต จันทบรรพต สุริยบรรพต มณีบรรพต และสุวรรณบรรพต ในหิมวันตประเทศ ณ ภูเขาคันธมาทน์นั้นแลมีเงื้อมชื่อนันทมูลกะเป็นที่อยู่ของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย มีถ้ำ๓ ถ้ำ คือ ถ้ำทอง ถ้ำแก้วมณี และถ้ำเงิน ที่ปากถ้ำแก้วมณี มีต้นคำสูงโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง ต้นคำนั้นย่อมผลิดอกบานสะพรั่งไปทั้งต้นโดยทั่วถึงทั้งในน้ำหรือบนบก โดยวิเศษในวันที่พระปัจเจกพุทธเจ้ามา ข้างหน้าต้นคำนั้นเป็นโรงกลมสำเร็จด้วยสรรพรัตนะ ณ โรงกลมนั้น สัมมัชนกวาต (ลมกวาด) กวาดหยากเยื่อทิ้ง สมกรณวาต (ลมเกลี่ย) เกลี่ยทรายซึ่งล้วนแล้วด้วยสรรพรัตนะ ให้เสมอ สิญจนวาต (ลมรด) นำน้ำจากสระอโนดาตมารด สุคันธกรณวาต (ลมกลิ่น) นำกลิ่นของต้นไม้หอมทุกอย่างมาจากป่าหิมพานต์ โอจินกวาต (ลมโปรย) โปรยดอกไม้ สันถรกวาต (ลมลาด) ปูลาดในที่ทุกแห่ง ในโรงกลมนี้มีอาสนะปูไว้ทุกเมื่อ ซึ่งเป็นที่นั่งประชุมของพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกองค์ในวันอุบัติแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้า และในวันอุโบสถพระปัจเจกพุทธเจ้า ครั้นนั่งแล้วย่อมเข้าสมาบัติบางอย่าง แล้วออก (จากสมาบัตินั้น) จากนั้นพระสังฆเถระก็ถามพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์มาใหม่ถึงกรรมฐานว่าท่านได้บรรลุอย่างไร เพื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งปวงจะได้อนุโมทนาในกาลนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์มาใหม่ก็จะกล่าวคาถาพยากรณ์อันเป็นคำอุทานของตนนั้นแล
(จักรวาฬทีปนี)
ในเรื่องมหาเวสสันดรชาดก กล่าวว่า พระเวสสันดรพร้อมทั้งพระมเหสีและพระโอรสพระธิดา ได้เสด็จผนวชในป่าเชิงเขานี้
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
นางสมาภรณ์ ฤทธิ์สกุล นักวรรณศิลป์ ๕ กองศิลปกรรม |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khnthmathn xanwa khnthamad epnchuxphuekhainpahimphant aeplwa phuekhaepnthiyngstwihemadwyklinhxm khuxphuekhahxm khnthmathn epnchuxphuekhasakhylukhnungtamtanankarsrangolkaelackrwalinkhtithangphraphuththsasna epn 1 in 5 khunekhathilxmrxbsraxondatinpahimphant xnidaek suthsnkut citrkut kalkut khnthmathnkut aelaikrlas aetlalukmikhwamsungthung 200 oychn kha khnthmathn nimacak khnth klinhxm mathn yindi khux phuekhathiihchawolkyindidwyklinhxm khwamhmaydngklawniepnkhunlksnaprakarsakhykhxngekhakhnthmathn khuxepnkhunekhathiphrxmphrngipdwyphrrnimthisngklinhxm dnginkhmphirolkthipksaraelaitrphumikthaphrrnnalksnaekhakhnthmathniwwa khnthmathn nywamiklinhxmxbxwlxyutlxdewla dwyepnphuekhathisaphrngdwytnimhxmnanachnid dardasipdwytnimsmuniphrnbcanwnmiid yxdekhakhnthmathnann mwmuldwyklin 10 prakarehlanikhux klinthirakmitnkvsnaepntn klinthiaeknmitncnthnepntn klinthikraphimitnsnepntn klinthiepluxkmitnswngkhaepntn klinthisaekdmimakhwidepntn klinthiyangmitnschchaepntn klinthiibmitnphimesn epntn klinthidxkmitnbunnakhaelaoksumepntn klinthiphlmitnchatiphlepntn klinthiklinephraaepnklinrwmkhxngthuk klinepnaehlngrwmaehngoxsth epnthixasyaehnghmustwihynxy mithaihyxyu 3 tha khux thathxng thaaekw aelathaengin epnthixyukhxngphrapceckphuththecathnghlayodyrwmknxyuthienguxmchuxnnthmulka nyxrrthktha ekhaxnchuxkhnthmathnkutnnethiyryxmaekwxnchuxmsalrtna klwnginekhanndngthwsaaetkaelrachmas phrrnimthiekidinekhann langtnrakhxm langtnaeknhxm langtnyxdhxm langtnepluxkhxm langtnlahxm langtndxkhxm langtnlukhxm langtnibhxm langtnyanghxm langtnhxmthukxyang aelwaiminekhannhxm 10 singdngklawniael imthnghlaynnethiyryxmepnya aelwaechuxkekhaethawlyxnmiinekhannethiyryxmmithuksing aelethiyryxmhxmxyuthukemuxbmiruwayrsely cungeriykwakhnthmathnephuxdngnn itrphumiktha khwammhscrryxikprakarhnungkhxngekhakhnthmathn khuxinwneduxndbaelawneduxnephy khunekhaaehngimhxmnicamiaesngswangrungorcnochtichwng dnginitrphumikthaphrrnnaiwwa aelekhannemuxeduxndbaelrungeruxngchchwalxyudngthanephling thaemuxeduxnephngeruxngxyudngifihmpaaelihmemuxngael nxkcakniekhakhnthmathnyngepnthixyukhxngphrapceckphuththecadwy dnginkhmphirckrwalthipniklawiwxyanglaexiydwa phuekhachuxkhnthmathnlwngelyphuekhathngecd khux culkalbrrpht mhakalbrrpht khuthkbrrpht cnthbrrpht suriybrrpht mnibrrpht aelasuwrrnbrrpht inhimwntpraeths n phuekhakhnthmathnnnaelmienguxmchuxnnthmulkaepnthixyukhxngphrapceckphuththecathnghlay mitha3 tha khux thathxng thaaekwmni aelathaengin thipakthaaekwmni mitnkhasungoychnhnung kwangoychnhnung tnkhannyxmphlidxkbansaphrngipthngtnodythwthungthnginnahruxbnbk odywiessinwnthiphrapceckphuththecama khanghnatnkhannepnorngklmsaercdwysrrphrtna n orngklmnn smmchnkwat lmkwad kwadhyakeyuxthing smkrnwat lmekliy ekliythraysunglwnaelwdwysrrphrtna ihesmx siycnwat lmrd nanacaksraxondatmard sukhnthkrnwat lmklin naklinkhxngtnimhxmthukxyangmacakpahimphant oxcinkwat lmopry oprydxkim snthrkwat lmlad puladinthithukaehng inorngklmnimixasnapuiwthukemux sungepnthinngprachumkhxngphrapceckphuththecathukxngkhinwnxubtiaehngphrapceckphuththeca aelainwnxuobsthphrapceckphuththeca khrnnngaelwyxmekhasmabtibangxyang aelwxxk caksmabtinn caknnphrasngkhethrakthamphrapceckphuththecaxngkhmaihmthungkrrmthanwathanidbrrluxyangir ephuxphrapceckphuththecathngpwngcaidxnuomthnainkalnn phrapceckphuththecaxngkhmaihmkcaklawkhathaphyakrnxnepnkhaxuthankhxngtnnnael ckrwalthipni ineruxngmhaewssndrchadk klawwa phraewssndrphrxmthngphramehsiaelaphraoxrsphrathida idesdcphnwchinpaechingekhanixangxingaekphrathrrmkittiwngs thxngdi suretoch p th 9 rachbnthit phcnanukrmephuxkarsuksaphuththsasn chud khawd wdrachoxrsaram krungethph ph s 2548 nangsmaphrn vththiskul nkwrrnsilp 5 kxngsilpkrrm nbsp bthkhwamniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmul hmayehtu khxaenanaihcdhmwdhmuokhrngihekhakbenuxhakhxngbthkhwam duephimthi wikiphiediy okhrngkarcdhmwdhmuokhrngthiyngimsmburn dkhk ekhathungcak https th wikipedia org w index php title khnthmathn amp oldid 8577617