การแข็งตัวขององคชาต (อังกฤษ: erection, ศัพย์การแพทย์: penile erection, penile tumescence) เป็นปรากฏการณ์ทางสรีรภาพของอวัยวะเพศชายในสัตว์หลายสปีชีส์ ที่องคชาตแข็งตัวขึ้น คั่งไปด้วยเลือด และขยายใหญ่ขึ้น เป็นผลของปฏิกิริยาอันสลับซับซ้อนของจิตใจ ระบบประสาท ระบบหลอดเลือด และระบบต่อมไร้ท่อ มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับอารมณ์ทางเพศ แต่จริง ๆ อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ รูปร่าง มุมตั้ง และทิศทางขององคชาตที่แข็งตัวมีความแตกต่างกันอย่างมากแม้ในหมู่มนุษย์
การแข็งตัวขององคชาต (Erection) | |
---|---|
เนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดการแข็งตัวมี 3 ลำ กินเนื้อที่โดยมากในองคชาต ตามลำดับเลขในวงกลม (1) หลอดเลือดในเนื้อเยื่อ 3 ลำขยายตัว ทำให้เนื้อเยื่อเต็มไปด้วยเลือด (2) เนื้อเยื่อขยายออก ทำให้องคชาตแข็งตัว (3) เนื้อเยื่อที่ขยายออกบีบเส้นเลือดดำ (Deep dorsal veins) และเส้นเลือดดำย่อย (Penile venues) เมื่อไม่มี การไหลออกของเลือด (หรือมีน้อย) จึงทำให้การแข็งตัวดำรงอยู่ได้ | |
ตัวระบุ | |
MeSH | D010410 |
Terminologia Embryologica {{{2}}}.html EE1.0.0.0.0.0.8 .{{{2}}}{{{3}}} | |
[แก้ไขบนวิกิสนเทศ] |
โดยสรีรภาพแล้ว กระบวนการแข็งตัวขององคชาตเริ่มจากระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (ส่วนหนึ่งของระบบประสาทอัตโนมัติ) ที่เป็นเหตุให้ระดับก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (เป็นสารขยายหลอดเลือด) สูงขึ้นในหลอดเลือด trabecular และในกล้ามเนื้อเรียบขององคชาต หลอดเลือดนั้นก็จะขยายใหญ่ขึ้นทำให้เนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำที่เรียกว่า corpora cavernosa (ดูรูป) (และ corpus spongiosum แม้ว่าจะน้อยกว่า) เต็มไปด้วยเลือด และในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้กล้ามเนื้อ ischiocavernosus และ bulbospongiosus เข้าไปกดหลอดเลือดดำของเนื้อเยื่อ จำกัดการไหลออกของเลือด (จากเนื้อเยื่อ) และการไหลเวียนของโลหิตที่ไหลเข้าไป (ในเนื้อเยื่อ) การแข็งตัวจะลดลงเมื่อการทำงานในระบบประสาทพาราซิมพาเทติกลดระดับลงไปเป็นปกติ
เพราะว่าเป็นการตอบสนองอัตโนมัติ การแข็งตัวอาจเกิดขึ้นจากสิ่งเร้าหลายอย่างรวมทั้งการเร้าอารมณ์เพศ (sexual stimulation) และอารมณ์ทางเพศ ดังนั้น จึงไม่ได้อยู่ใต้อำนาจจิตใจโดยสิ้นเชิง การแข็งตัวในระหว่างการนอนหลับหรือเมื่อตื่นนอนมีศัพท์ทางแพทย์ภาษาอังกฤษว่าnocturnal penile tumescence และความปราศจากการแข็งตัวในระหว่างการนอนหลับสามารถใช้ในการแยกแยะเหตุที่เป็นไปทางกายภาพหรือทางจิตใจของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศสาเหตุทางร่างกาย (ICD-10 N48.4) หรืออวัยวะเพศไม่ตอบสนอง (เหตุทางใจ ICD-10 F52.2)
องคชาตที่ไม่แข็งตัวเต็มที่มีศัพท์การแพทย์ภาษาอังกฤษว่า partial tumescence
กายภาพ
การแข็งตัวเกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำเป็นลำยาวตลอดองคชาตที่เรียกว่า corpora cavernosa เริ่มเต็มไปด้วยเลือด ซึ่งอาจะเกิดขึ้นจากการเร้าอารมณ์เพศ (sexual stimulation) หรืออารมณ์ทางเพศ
ส่วน corpus spongiosum เป็นเนื้อเยื่อเดี่ยวมีรูปลำเป็นโพรง อยู่ใต้ corpora cavernosa ทั้งสอง และมีท่อปัสสาวะวิ่งผ่าน ซึ่งเป็นทางผ่านของทั้งน้ำปัสสาวะและทั้งน้ำอสุจิ เนื้อเยื่อนี้สามารถอมเลือดได้เช่นกัน แต่ว่าในระดับที่น้อยกว่า corpora cavernosa
การควบคุมจากระบบประสาทอัตโนมัติ
ถ้าเกิดการกระตุ้นทางกาย การแข็งตัวจะเกิดขึ้นจากการสั่งการของระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (ส่วนหนึ่งของระบบประสาทอัตโนมัติ) โดยไม่มีส่วน (หรือมีแค่เล็กน้อย) จากระบบประสาทกลาง เส้นประสาทพาราซิมพาเทติกวิ่งไปจากข่ายประสาท sacral plexus เข้าไปยังหลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปให้เนื้อเยื่อในองคชาต ถ้าเกิดการกระตุ้น เส้นประสาทเหล่านี้จะหลั่งสาร acetylcholine ซึ่งมีผลให้เกิดการหลั่งก๊าซไนโตรเจนออกไซด์จากเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง (endothelial cell) ในหลอดเลือดแดง trabecular ใน corpora cavernosa แล้วก๊าซก็จะกระจายเข้าไปยังกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดแดง (ที่เรียกว่า trabecular smooth muscle) โดยมีฤทธิ์เป็นสารขยายหลอดเลือด ดังนั้น หลอดเลือดก็จะขยายตัวออกทำ corpora spongiosum และ corpora cavernosa ให้เต็มไปด้วยเลือด และกล้ามเนื้อ ischiocavernosus และ bulbospongiosus ก็จะเข้าไปกดหลอดเลือดดำของ corpora cavernosa จำกัดการไหลออกของเลือด
การแข็งตัวจะลดตัวลงเมื่อการกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกยุติลง และสัญญาณกระตุ้นระดับปกติจากระบบประสาทซิมพาเทติกก็จะทำหลอดเลือดแดงในองคชาตให้เล็กลง บีบเลือดออกจากเนื้อเยื่อที่ทำให้องคชาตแข็ง
หลังจากการหลั่งน้ำอสุจิหรือหลังจากการยุติของสิ่งเร้า องคชาตปกติจะอ่อนตัวลง แต่เวลาที่ใช้อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความยาวและความหนาขององคชาต
การควบคุมใต้อำนาจจิตใจและนอกอำนาจจิตใจ
เปลือกสมอง (cerebral cortex) อาจก่อให้เกิดการแข็งตัวได้แม้ปราศจากสิ่งเร้าทางกาย (โดยตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางตา ทางหู ทางจมูก หรือจากจินตนาการ) โดยส่งสัญญาณผ่าน "ศูนย์การแข็งตัว" ที่ไขสันหลังเขต lumbar และ sacral และเปลือกสมองก็สามารถห้ามการแข็งตัวแม้จะมีสิ่งเร้าทางกายได้ด้วย เหมือนกับที่องค์ประกอบอื่น ๆ ทางใจ ทางอารมณ์ความรู้สึก และทางสิ่งแวดล้อมสามารถห้ามได้เช่นกัน
การแข็งตัวเวลากลางคืน
องคชาตอาจแข็งตัวในระหว่างที่หลับ หรือในขณะที่ตื่นขึ้น ซึ่งมีศัพทย์ทางการแพทย์ภาษาอังกฤษว่า nocturnal penile tumescence (หรือศัพท์แสลงว่า "morning wood ท่อนไม้ในยามเช้า" หรือ "morning glory ความสง่างามในยามเช้า")
มุมมองทางเพศ
การแข็งตัวเป็นตัวชี้บอกอารมณ์ทางเพศอย่างหนึ่ง และเป็นสิ่งที่จะต้องมีสำหรับผู้ชายในการร่วมเพศ ถุงอัณฑะอาจจะเกิดการรัดตัว (แต่ไม่แน่นอน) และโดยทั่วไปแล้ว เยื่อหุ้มปลายก็จะค่อย ๆ ร่นลงโดยอัตโนมัติ ทำการเปิดหัวองคชาต แต่ว่าบางคนอาจจะต้องร่นเยื่อหุ้มปลายลงด้วยมือ
เมื่อถึงวัยเริ่มเจริญพันธุ์ (วัยแตกเนื้อหนุ่ม) การแข็งตัวจะเกิดบ่อยขึ้น แต่การแข็งตัวขององคชาตเป็นเรื่องธรรมดาในเด็กและในทารก และเกิดขึ้นก่อนที่จะคลอดด้วยซ้ำ
การแข็งตัวที่เกิดขึ้นเอง
การแข็งตัวแบบเกิดขึ้นเอง หรือไม่อยู่ใต้อำนาจจิตใจ หรือในโอกาสที่ไม่ต้องการ เป็นเรื่องสามัญทางกายภาพของผู้ชาย โดยทางสังคม การแข็งตัวแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องน่าอายโดยเฉพาะถ้าเกิดขึ้นในที่สาธารณะหรือในโอกาสที่ไม่ต้องการ การแข็งตัวอาจเกิดขึ้นเองในเวลาไหนก็ได้ และถ้าใส่เสื้อผ้าอยู่ อาจจะทำให้เกิดรอยนูนขึ้น ซึ่งอาจซ่อนได้ (ถ้าจำเป็น) โดยใส่กางเกงในที่รัดตัว ใส่เสื้อชายยาว หรือใส่เสื้อผ้าที่หลวม ๆ
ขนาดเมื่อแข็งตัว
ความยาวขององคชาตที่อ่อนตัวไม่ได้เป็นตัวชี้บอกความยาวของอวัยวะเมื่อแข็งตัวที่แน่นอน องคชาตอ่อนตัวที่สั้นกว่าอาจจะแข็งตัวเป็นอวัยวะที่ยาวกว่ามาก ในขณะที่องคชาตอ่อนตัวที่ยาวอาจแข็งตัวมีขนาดที่สั้นกว่า โดยทั่ว ๆ ไป หลังจากผ่านวัยเริ่มเจริญพันธุ์แล้ว อวัยวะที่แข็งตัวจะมีขนาดเท่ากันตลอดทั้งชีวิต แต่ก็อาจเพิ่มขึ้นได้โดยอาศัยการผ่าตัด แต่ว่าการขยายขนาดองคชาตจะเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความเห็นหลายหลาก และในการศึกษาหนึ่งพบว่า ชายโดยมากที่ผ่านการขยายขนาดไม่แฮ็ปปี้กับผลที่ได้
ทิศทางการแข็งตัว
แม้ว่าองคชาตมักจะแข็งตัวแล้วชี้ขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องทั่วไปที่เป็นปกติถ้าชี้ขึ้นจนเกือบตั้ง หรือชี้ลงจนเกือบเป็นแนวตั้ง หรือแม้แต่จะชี้เป็นแนวตรงออกไป ขึ้นอยู่กับความตึงของเส้นเอ็นที่รั้งอวัยวะไว้ อวัยวะที่แข็งตัวยังมีรูปร่างต่าง ๆ กันไปอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ลำตรง ๆ หรือลำที่โค้งขึ้น โค้งลง โค้งไปทางซ้าย หรือโค้งไปทางขวา แต่ว่า ระดับความโค้งที่เพิ่มขึ้นสามารถเกิดจากโรค Peyronie's disease ได้ ซึ่งมีผลทางกายภายและทางใจต่อคนไข้ และอาจจะมีอาการเป็นภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศสาเหตุทางร่างกาย และเจ็บเมื่ออวัยวะแข็งตัว การบำบัดมักจะใช้ยาทาน (เช่นยา colchicine) หรือแม้แต่การผ่าตัดซึ่งจะใช้เป็นขั้นสุดท้าย
ตารางต่อไปนี้แสดงมุมต่าง ๆ ขององคชาตที่แข็งตัวสำหรับผู้ยืนอยู่ ในตาราง มุมที่ 0 องศาหมายถึงอวัยวะที่ชี้ขึ้นแนบกับท้อง มุม 90 องศาก็คือชี้ตรงออกไปในแนวนอน และมุมที่ 180 องศาก็คือชี้ตรงไปที่เท้า แต่ในบรรดามุมทั้งหมด การชี้ไปในแนวขึ้นเกิดขึ้นมากที่สุด
องศา (°) | อัตราร้อยละในประชากร |
---|---|
0–30 | 5 |
30–60 | 30 |
60–85 | 31 |
85–95 | 10 |
95–120 | 20 |
120–180 | 5 |
วิธีการแข็งตัว
การแข็งตัวของอวัยวะเพศจะทำให้มีการสร้าง Prostaglandin E1 สารตัวนี้จะมีหน้าที่สองประการคือ ทำให้หลอดเลือดแดงไม่แข็ง ตัวเลือดแดงไปเลี้ยงอวัยวะเพศเพิ่มขึ้น ประการที่สองคือสารนี้จะลดการสร้าง คอลลาเจนซึ่งทำให้เกิดพังผืดในอวัยวะเพศ ทำให้การแข็งตัวไม่ดี ร่างกายของคนเรามีระบบให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศโดยมีการแข็งตัวของอวัยวะเพศในตอนนอนเพื่อให้อวัยวะเพศสร้างสาร Prostaglandin E1
สำหรับวัยรุ่นการแข็งตัวของน้องชาย 3-5 ครั้งต่อคืน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ละครั้งใช้เวลา 20-30 นาที ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบริหาร
แต่สำหรับคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ระดับฮอร์โมนเริ่มลดลง การแข็งตัวก็ลดลงเช่นกัน และไม่นาน จึงมีความจำเป็นต้องบริหารให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัวบ่อยเพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศเพิ่ม และมีการสร้าง Prostaglandin E1
การบริหารอวัยวะเพศจะต้องทำให้อวัยวะเพศมีการแข็งตัว 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ และแข็งแต่ละครั้งนาน 20-30 นาทีเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และป้องกันเส้นเลือดแข็ง
วิธีง่ายสำหรับการบริหารเพื่อคืนความเปล่งปลั่งให้กับน้องชายคือการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพราะเป็นจุดสำคัญที่ควบคุมการหลั่งน้ำอสุจิและปัสสาวะ หากหมั่นบริหารให้แข็งแรงอยู่เสมอ จะช่วยให้น้องชายแข็งตัวดีขึ้น สามารถควบคุมไคลแมกซ์ หรือชะลอการหลั่ง และปฏิบัติกามกิจได้นานขึ้น รวมถึงทำให้มีน้ำเชื้ออสุจิเพิ่มขึ้นและพุ่งแรงขึ้น
ภาวะทางการแพทย์
Erectile dysfunction (ความผิดปกติของการแข็งตัว)
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ICD-10 N48.4, ICD-10 F52.2, อังกฤษ: Erectile dysfunction, หรือ impotence) เป็นความผิดปกติทางเพศ มีอาการเป็นความไม่สามารถที่จะมีหรือรักษาการแข็งตัวไว้ได้ การศึกษาโรคเกี่ยวกับภาวะนี้เป็นสาขาย่อยทางการแพทย์ที่เรียกว่าบุรุษเวชศาสตร์ (andrology) เป็นส่วนของสาขาวิทยาทางเดินปัสสาวะ (urology)
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศอาจเกิดขึ้นเพราะสาเหตุทางกายหรือทางใจ ซึ่งโดยมากสามารถรักษาได้ เหตุกายภาพรวมทั้งโรคเบาหวาน, โรคไต, โรคพิษสุราเรื้อรัง, multiple sclerosis, โรคหลอดเลือดแดงแข็ง, โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด, และโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ซึ่งรวม ๆ กันแล้ว เป็นเหตุประมาณร้อยละ 70 ของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ยาบางประเภทที่ใช้รักษาโรคอื่น เช่น Lithium (ยารักษาโรคจิตมีโรคอารมณ์สองขั้วเป็นต้น) และ paroxetine (ยารักษาโรคจิตมีโรคซึมเศร้าเป็นต้น) อาจมีผลข้างเคียงเป็นภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ถ้าสมรรถภาพทางเพศ เป็นตัวบ่งชี้สถานภาพทางสังคมหรือความเป็นชายของคนไข้ (ซึ่งเป็นแนวความคิดเฉพาะสังคม) ภาวะนี้สามารถส่งผลเป็นความเสียหายทางจิตใจรวมทั้งความรู้สึกอาย ความเศร้าโศก และความรู้สึกบกพร่อง ในบางสังคม จะมีวัฒนธรรมที่จะไม่พูดถึง และทำให้ไม่สามารถพูดถึงเรื่องนี้ แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ชาย 1 ใน 10 จะประสบภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ กันในชีวิตของตน
ภาวะองคชาตแข็งค้าง
ภาวะองคชาตแข็งค้างเป็นภาวะทางกายที่มีผลเป็นความเจ็บปวด เป็นการแข็งตัวขององคชาตเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ช.ม. ที่ไม่ยอมอ่อนตัวลง แม้ว่าจะไม่มีการกระตุ้นใด ๆ ทั้งทางกายและทางใจ
ในสัตว์อื่น
ก่อนที่จะร่วมเพศ องคชาตของสุนัขไม่ได้มี "การแข็งตัว" แต่สามารถร่วมเพศได้ก็เพราะอวัยวะมีกระดูกแคบ ๆ ที่เรียกว่า baculum ซึ่งเป็นลักษณะสามัญของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีรก (eutheria) โดยมาก หลังจากที่สัตว์ตัวผู้สอดอวัยวะเข้าไปแล้ว ก็มักจะรัดสัตว์ตัวเมียแน่นขึ้นแล้วทำการร่วมเพศเร็วขึ้น และก็จะอยู่ในช่วงระยะเวลานี้ที่องคชาตขยายออก โดยไม่เหมือนกับการร่วมเพศในมนุษย์ ที่องคชาตโดยปกติจะแข็งตัวก่อนการสอดเข้าไป การร่วมเพศในสุนัขจะมีการสอดเข้าไปก่อน แล้วการขยายออกของอวัยวะจนถึง "ความแข็งตัว" (erection) ก็จะเกิดขึ้น
องคชาตของช้างเมื่อแข็งตัวเต็มที่มีรูปร่างเป็นรูปตัว S และมีช่องรูปัสสาวะเป็นรูปตัว Y
เนื่องจากว่า มีเนื้อเยื่อที่ทำให้แข็งตัวเพียงเล็กน้อยในองคชาตของวัว เมื่อเกิด "การแข็งตัว" องคชาตจึงขยายออกเพียงแค่เล็กน้อย แต่ปกติองคชาตนั้นก็แข็งอยู่แล้วเมื่อ "อ่อนตัว" และแข็งเพิ่มขึ้นอีกเมื่อแข็งตัว การยื่นออกมาขององคชาตไม่มีผลจากการแข็งตัว แต่มีผลจากการคลายตัวของ retractor penis muscle (กล้ามเนื้อการหดตัวที่องคชาต) และการทำ sigmoid flexure (ส่วนของลำไส้ใหญ่ที่ใกล้ที่สุดต่อและทวารหนัก) ให้ตรง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินเนื้อคล้ายแมวประจำถิ่นอยู่ในเกาะมาดากัสการ์สปีชีส์ Cryptoprocta ferox มีองคชาตแข็งตัวที่ยื่นออกไปจนถึงขาหน้า
เมื่อไม่แข็ง องคชาตของม้าจะอยู่ในหนังหุ้มปลาย โดยมีความยาว 50 ซ.ม. และความหนา 2.5-6 ซ.ม. ที่หัวหนา 15-20 ซ.ม. กล้ามเนื้อ retractor penis muscle จะเกร็งตัวเพื่อดึงองคชาตเข้าไปในฝัก และคลายออกเพื่อให้องคชาตยื่นออกจากฝัก เมื่อแข็งตัว องคชาตจะยาวขึ้นเป็นสองเท่า และความหนาขององคชาตและหัวองคชาตจะขยายเพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า การแข็งตัวและการยื่นตัวออกของอวัยวะค่อย ๆ เป็นไป โดยการขยายออกของเนื้อเยื่อ (corpus cavernosum) ที่คั่งเต็มไปด้วยเลือดมีผลให้อวัยวะแข็ง ม้าตัวผู้โตเต็มที่จะแข็งตัวภายใน 2 นาทีที่มาอยู่ใกล้ๆ ม้าตัวเมียที่พร้อมจะผสมพันธ์ และจะขึ้นคร่อมตัวเมีย 5-10 วินาทีหลังจากนั้น
ส่วนองคชาตของนกมีโครงสร้างแตกต่างจากของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม คือมีการแข็งตัวจากการขยายออกของผนังทวารร่วม (cloaca) และเกิดจากการคั่งด้วยน้ำเหลือง ไม่ใช่เลือด องคชาตแข็งตัวของเป็ดประจำถิ่นทวีปอเมริกาใต้สปีชีส์ Oxyura vittata อาจจะมีความยาวถึงเท่ากับตัว แต่ปกติมักจะยาวประมาณครึ่งหนึ่งของตัวเท่านั้น
ศัพท์ในภาษาอังกฤษ
ในการแพทย์ภาษาอังกฤษ การแข็งตัวขององคชาตบ่อยครั้งเรียกว่า "penile erection" และภาวะที่แข็งตัวหรือกระบวนการแข็งตัวเรียกว่า "tumescence" หรือ "penile tumescence"
ส่วนศัพท์สแลงภาษาอังกฤษใช้คำคุณศัพท์ว่า stiffy, hard-on, boner และ woody มีคำสแลง เสาวพจน์ และคำเหมือนสำหรับภาวะนี้ในภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ ดูรายการคำภาษาอังกฤษอื่นใน WikiSaurus
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถและอ้างอิง
- การเร้าอารมณ์เพศ (sexual stimulation) เป็นตัวกระตุ้นอะไรก็ได้ รวมทั้งสัมผัสทางกาย ที่เพิ่มและรักษาอารมณ์เพศ ซึ่งอาจนำไปสู่การหลั่งน้ำอสุจิและ/หรือจุดสุดยอดทางเพศในที่สุด ถึงแม้ว่าอารมณ์เพศอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยการกระตุ้น แต่จะถึงจุดสุดยอดทางเพศได้ ปกติต้องมีการกระตุ้นทางเพศ
- sacral plexus เป็นข่ายประสาท (nerve plexus) ซึ่งส่งเส้นประสาทสั่งการและรับความรู้สึกไปยังต้นขาด้านหลัง ขาด้านล่างโดยมาก เท้าทั้งหมด และเชิงกรานเป็นบางส่วน เป็นส่วนของข่ายประสาท lumbosacral plexus และออกมากจากไขสันหลังที่ sacral vertebrae (S2-S4)
- acetylcholine เป็นแคตไอออนอินทรีย์มีหลายอะตอมที่มีกัมมันภาพเป็นสารสื่อประสาททั้งในระบบประสาทส่วนปลายและระบบประสาทส่วนกลางในสัตว์จำนวนมากรวมทั้งมนุษย์ด้วย
- wiley.com > Viagra function image Retrieved on Mars 11, 2010
- APDVS > 31. Anatomy and Physiology of Normal Erection 2010-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved on Mars 11, 2010
- Moore, Keith (2007). Essential Clinical Anatomy, Third Edition. Lippincott Williams & Wilkins. p. 265. ISBN .
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - Drake, Richard, Wayne Vogl and Adam Mitchell, Grey's Anatomy for Students. Philadelphia, 2004. ()
- Harris, Robie H. (et al.), It's Perfectly Normal: Changing Bodies, Growing Up, Sex And Sexual Health. Boston, 1994. ()
- Morning Erections: Sizemed retrieved 28 February 2012
- After Prostate Cancer: A What-Comes-Next Guide to a Safe and Informed recovery: p.48
- Listen To Your Hormones, Abraham Harvey Kryger - 2004. p.32
- Janell L. Carroll (29 January 2009). Sexuality Now: Embracing Diversity: Embracing Diversity. Cengage Learning. p. 149. ISBN .
- Lynda Madaras (8 June 2007). What's Happening to My Body? Book for Boys: Revised Edition. Newmarket Press. p. 119. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- erections in babies retrieved 11 February 2012
- Lynda Madaras (8 June 2007). What's Happening to My Body? Book for Boys: Revised Edition. Newmarket Press. p. 145. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- Sarah Attwood (15 May 2008). Making Sense of Sex: A Forthright Guide to Puberty, Sex and Relationships for People with Asperger's Syndrome. Jessica Kingsley Publishers. p. 62. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- "Penis Size FAQ & Bibliography". Kinsey Institute. 2009. สืบค้นเมื่อ 2013-11-07.
- Li CY, Kayes O, Kell PD, Christopher N, Minhas S, Ralph DJ (2006). "Penile suspensory ligament division for penile augmentation: indications and results". Eur. Urol. 49 (4): 729–733. doi:10.1016/j.eururo.2006.01.020. PMID 16473458.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "Most Men Unsatisfied With Penis Enlargement Results". . 2006-02-16. สืบค้นเมื่อ 2008-08-17.
- Sparling J (1997). "Penile erections: shape, angle, and length". Journal of Sex & Marital Therapy. 23 (3): 195–207. doi:10.1080/00926239708403924. PMID 9292834.
- Milsten, Richard (et al.), The Sexual Male. Problems And Solutions. London, 2000. ()
- Sadeghipour H, Ghasemi M, Ebrahimi F, Dehpour AR (2007). "Effect of lithium on endothelium-dependent and neurogenic relaxation of rat corpus cavernosum: role of nitric oxide pathway". Nitric Oxide. 16 (1): 54–63. doi:10.1016/j.niox.2006.05.004. PMID 16828320.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Williams, Warwick, It's Up To You: Overcoming Erection Problems. London, 1989. ()
- Sadeghipour H, Ghasemi M, Nobakht M, Ebrahimi F, Dehpour AR (2007). "Effect of chronic lithium administration on endothelium-dependent relaxation of rat corpus cavernosum: the role of nitric oxide and cyclooxygenase pathways". BJU Int. 99 (1): 177–182. doi:10.1111/j.1464-410X.2006.06530.x. PMID 17034495.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Tanagho, Emil A. (et al.), Smith's General Urology. London, 2000. ()
- NHS Direct – Health encyclopaedia -Erectile dysfunction
- . Arbl.cvmbs.colostate.edu. 2002-09-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-05. สืบค้นเมื่อ 2012-01-29.
- Shoshani, p. 80.
- William O. Reece (4 March 2009). Functional Anatomy and Physiology of Domestic Animals. John Wiley & Sons. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- James R. Gillespie; Frank Bennie Flanders (28 January 2009). Modern Livestock & Poultry Production. Cengage Learning. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- Köhncke, M.; Leonhardt, K. (1986). "Cryptoprocta ferox" (PDF). (254): 1–5. สืบค้นเมื่อ 19 May 2010.
- . University of Wisconsin-Madison. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-16. สืบค้นเมื่อ 7 July 2007.
- James Warren Evans (15 February 1990). The Horse. W. H. Freeman. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- Sarkar, A. (2003). Sexual Behaviour In Animals. Discovery Publishing House. ISBN .
- Juan C. Samper, Ph.D.; Jonathan F. Pycock, Ph.D.; Angus O. McKinnon (2007). Current Therapy in Equine Reproduction. Elsevier Health Sciences. p. 176. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- Juan C. Samper (2009). Equine Breeding Management and Artificial Insemination. Elsevier Health Sciences. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
- Frank B. Gill (6 October 2006). Ornithology. Macmillan. pp. 414–. ISBN . สืบค้นเมื่อ 5 December 2012.
- McCracken, Kevin G. (2000). (PDF). . 117 (3): 820–825. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-12-15. สืบค้นเมื่อ 2014-03-06.
- McCracken, Kevin G.; Wilson, Robert E.; McCracken, Pamela J.; Johnson, Kevin P. (2001). (PDF). Nature. 413: 128. doi:10.1038/35093160. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-12-15. สืบค้นเมื่อ 2014-03-06.
- Gabrielle Morrissey (27 January 2005). Urge: Hot Secrets For Great Sex. HarperCollins Publishers. p. 6. ISBN . สืบค้นเมื่อ 22 July 2013.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karaekhngtwkhxngxngkhchat xngkvs erection sphykaraephthy penile erection penile tumescence epnpraktkarnthangsrirphaphkhxngxwywaephschayinstwhlayspichis thixngkhchataekhngtwkhun khngipdwyeluxd aelakhyayihykhun epnphlkhxngptikiriyaxnslbsbsxnkhxngcitic rabbprasath rabbhlxdeluxd aelarabbtxmirthx mkcaekidkhunphrxmkbxarmnthangephs aetcring xaccaekidkhunemuxirkid ruprang mumtng aelathisthangkhxngxngkhchatthiaekhngtwmikhwamaetktangknxyangmakaeminhmumnusykaraekhngtwkhxngxngkhchat Erection enuxeyuxthithaihekidkaraekhngtwmi 3 la kinenuxthiodymakinxngkhchat tamladbelkhinwngklm 1 hlxdeluxdinenuxeyux 3 lakhyaytw thaihenuxeyuxetmipdwyeluxd 2 enuxeyuxkhyayxxk thaihxngkhchataekhngtw 3 enuxeyuxthikhyayxxkbibesneluxdda Deep dorsal veins aelaesneluxddayxy Penile venues emuximmi karihlxxkkhxngeluxd hruxminxy cungthaihkaraekhngtwdarngxyuidtwrabuMeSHD010410Terminologia Embryologica 2 html EE1 0 0 0 0 0 8 2 3 aekikhbnwikisneths odysrirphaphaelw krabwnkaraekhngtwkhxngxngkhchaterimcakrabbprasathpharasimphaethtik swnhnungkhxngrabbprasathxtonmti thiepnehtuihradbkasinotrecnxxkisd epnsarkhyayhlxdeluxd sungkhuninhlxdeluxd trabecular aelainklamenuxeriybkhxngxngkhchat hlxdeluxdnnkcakhyayihykhunthaihenuxeyuxkhlayfxngnathieriykwa corpora cavernosa durup aela corpus spongiosum aemwacanxykwa etmipdwyeluxd aelainkhnaediywkn kcathaihklamenux ischiocavernosus aela bulbospongiosus ekhaipkdhlxdeluxddakhxngenuxeyux cakdkarihlxxkkhxngeluxd cakenuxeyux aelakarihlewiynkhxngolhitthiihlekhaip inenuxeyux karaekhngtwcaldlngemuxkarthanganinrabbprasathpharasimphaethtikldradblngipepnpkti ephraawaepnkartxbsnxngxtonmti karaekhngtwxacekidkhuncaksingerahlayxyangrwmthngkareraxarmnephs sexual stimulation aelaxarmnthangephs dngnn cungimidxyuitxanacciticodysineching karaekhngtwinrahwangkarnxnhlbhruxemuxtunnxnmisphththangaephthyphasaxngkvswanocturnal penile tumescence aelakhwamprascakkaraekhngtwinrahwangkarnxnhlbsamarthichinkaraeykaeyaehtuthiepnipthangkayphaphhruxthangcitickhxngphawahyxnsmrrthphaphthangephssaehtuthangrangkay ICD 10 N48 4 hruxxwywaephsimtxbsnxng ehtuthangic ICD 10 F52 2 xngkhchatthiimaekhngtwetmthimisphthkaraephthyphasaxngkvswa partial tumescencekayphaphphaphprakxbaesdngladbkaraekhngtwkhxngxngkhchat karaekhngtwekidkhunemuxenuxeyuxkhlayfxngnaepnlayawtlxdxngkhchatthieriykwa corpora cavernosa erimetmipdwyeluxd sungxacaekidkhuncakkareraxarmnephs sexual stimulation hruxxarmnthangephs swn corpus spongiosum epnenuxeyuxediywmiruplaepnophrng xyuit corpora cavernosa thngsxng aelamithxpssawawingphan sungepnthangphankhxngthngnapssawaaelathngnaxsuci enuxeyuxnisamarthxmeluxdidechnkn aetwainradbthinxykwa corpora cavernosa karkhwbkhumcakrabbprasathxtonmti thaekidkarkratunthangkay karaekhngtwcaekidkhuncakkarsngkarkhxngrabbprasathpharasimphaethtik swnhnungkhxngrabbprasathxtonmti odyimmiswn hruxmiaekhelknxy cakrabbprasathklang esnprasathpharasimphaethtikwingipcakkhayprasath sacral plexus ekhaipynghlxdeluxdaedngthisngeluxdipihenuxeyuxinxngkhchat thaekidkarkratun esnprasathehlanicahlngsar acetylcholine sungmiphlihekidkarhlngkasinotrecnxxkisdcakesllenuxeyuxbuophrng endothelial cell inhlxdeluxdaedng trabecular in corpora cavernosa aelwkaskcakracayekhaipyngklamenuxeriybkhxnghlxdeluxdaedng thieriykwa trabecular smooth muscle odymivththiepnsarkhyayhlxdeluxd dngnn hlxdeluxdkcakhyaytwxxktha corpora spongiosum aela corpora cavernosa ihetmipdwyeluxd aelaklamenux ischiocavernosus aela bulbospongiosus kcaekhaipkdhlxdeluxddakhxng corpora cavernosa cakdkarihlxxkkhxngeluxd karaekhngtwcaldtwlngemuxkarkratunrabbprasathpharasimphaethtikyutilng aelasyyankratunradbpkticakrabbprasathsimphaethtikkcathahlxdeluxdaednginxngkhchatihelklng bibeluxdxxkcakenuxeyuxthithaihxngkhchataekhng hlngcakkarhlngnaxsucihruxhlngcakkaryutikhxngsingera xngkhchatpkticaxxntwlng aetewlathiichxaccaaetktangknkhunxyukbkhwamyawaelakhwamhnakhxngxngkhchat karkhwbkhumitxanacciticaelanxkxanaccitic epluxksmxng cerebral cortex xackxihekidkaraekhngtwidaemprascaksingerathangkay odytxbsnxngtxsingerathangta thanghu thangcmuk hruxcakcintnakar odysngsyyanphan sunykaraekhngtw thiikhsnhlngekht lumbar aela sacral aelaepluxksmxngksamarthhamkaraekhngtwaemcamisingerathangkayiddwy ehmuxnkbthixngkhprakxbxun thangic thangxarmnkhwamrusuk aelathangsingaewdlxmsamarthhamidechnkn karaekhngtwewlaklangkhun xngkhchatxacaekhngtwinrahwangthihlb hruxinkhnathitunkhun sungmisphthythangkaraephthyphasaxngkvswa nocturnal penile tumescence hruxsphthaeslngwa morning wood thxniminyamecha hrux morning glory khwamsngangaminyamecha mummxngthangephskaraekhngtwepntwchibxkxarmnthangephsxyanghnung aelaepnsingthicatxngmisahrbphuchayinkarrwmephs thungxnthaxaccaekidkarrdtw aetimaennxn aelaodythwipaelw eyuxhumplaykcakhxy rnlngodyxtonmti thakarepidhwxngkhchat aetwabangkhnxaccatxngrneyuxhumplaylngdwymux emuxthungwyerimecriyphnthu wyaetkenuxhnum karaekhngtwcaekidbxykhun aetkaraekhngtwkhxngxngkhchatepneruxngthrrmdainedkaelainthark aelaekidkhunkxnthicakhlxddwysa karaekhngtwthiekidkhunexng karaekhngtwaebbekidkhunexng hruximxyuitxanaccitic hruxinoxkasthiimtxngkar epneruxngsamythangkayphaphkhxngphuchay odythangsngkhm karaekhngtwaebbnixaccaepneruxngnaxayodyechphaathaekidkhuninthisatharnahruxinoxkasthiimtxngkar karaekhngtwxacekidkhunexnginewlaihnkid aelathaisesuxphaxyu xaccathaihekidrxynunkhun sungxacsxnid thacaepn odyiskangeknginthirdtw isesuxchayyaw hruxisesuxphathihlwm khnademuxaekhngtw khwamyawkhxngxngkhchatthixxntwimidepntwchibxkkhwamyawkhxngxwywaemuxaekhngtwthiaennxn xngkhchatxxntwthisnkwaxaccaaekhngtwepnxwywathiyawkwamak inkhnathixngkhchatxxntwthiyawxacaekhngtwmikhnadthisnkwa odythw ip hlngcakphanwyerimecriyphnthuaelw xwywathiaekhngtwcamikhnadethakntlxdthngchiwit aetkxacephimkhunidodyxasykarphatd aetwakarkhyaykhnadxngkhchatcaepnpraednthithaihekidkhwamehnhlayhlak aelainkarsuksahnungphbwa chayodymakthiphankarkhyaykhnadimaehppikbphlthiid thisthangkaraekhngtw aemwaxngkhchatmkcaaekhngtwaelwchikhun aetkepneruxngthwipthiepnpktithachikhuncnekuxbtng hruxchilngcnekuxbepnaenwtng hruxaemaetcachiepnaenwtrngxxkip khunxyukbkhwamtungkhxngesnexnthirngxwywaiw xwywathiaekhngtwyngmiruprangtang knipxikdwy erimtngaetlatrng hruxlathiokhngkhun okhnglng okhngipthangsay hruxokhngipthangkhwa aetwa radbkhwamokhngthiephimkhunsamarthekidcakorkh Peyronie s disease id sungmiphlthangkayphayaelathangictxkhnikh aelaxaccamixakarepnphawahyxnsmrrthphaphthangephssaehtuthangrangkay aelaecbemuxxwywaaekhngtw karbabdmkcaichyathan echnya colchicine hruxaemaetkarphatdsungcaichepnkhnsudthay tarangtxipniaesdngmumtang khxngxngkhchatthiaekhngtwsahrbphuyunxyu intarang mumthi 0 xngsahmaythungxwywathichikhunaenbkbthxng mum 90 xngsakkhuxchitrngxxkipinaenwnxn aelamumthi 180 xngsakkhuxchitrngipthietha aetinbrrdamumthnghmd karchiipinaenwkhunekidkhunmakthisud mumkhxngxngkhchatthiaekhngtw xngsa xtrarxylainprachakr0 30 530 60 3060 85 3185 95 1095 120 20120 180 5withikaraekhngtw karaekhngtwkhxngxwywaephscathaihmikarsrang Prostaglandin E1 sartwnicamihnathisxngprakarkhux thaihhlxdeluxdaedngimaekhng tweluxdaedngipeliyngxwywaephsephimkhun prakarthisxngkhuxsarnicaldkarsrang khxllaecnsungthaihekidphngphudinxwywaephs thaihkaraekhngtwimdi rangkaykhxngkhneramirabbiheluxdipeliyngxwywaephsodymikaraekhngtwkhxngxwywaephsintxnnxnephuxihxwywaephssrangsar Prostaglandin E1 sahrbwyrunkaraekhngtwkhxngnxngchay 3 5 khrngtxkhun imicheruxngaeplkxair aetlakhrngichewla 20 30 nathi dngnncungimcaepntxngbrihar aetsahrbkhnthixayu 30 pikhunip radbhxromnerimldlng karaekhngtwkldlngechnkn aelaimnan cungmikhwamcaepntxngbriharihxwywaephsmikaraekhngtwbxyephuxihmieluxdipeliyngxwywaephsephim aelamikarsrang Prostaglandin E1 karbriharxwywaephscatxngthaihxwywaephsmikaraekhngtw 3 5 khrngtxspdah aelaaekhngaetlakhrngnan 20 30 nathiephuxiheluxdipeliyngxwywaephs aelapxngknesneluxdaekhng withingaysahrbkarbriharephuxkhunkhwameplngplngihkbnxngchaykhuxkarbriharklamenuxxungechingkran ephraaepncudsakhythikhwbkhumkarhlngnaxsuciaelapssawa hakhmnbriharihaekhngaerngxyuesmx cachwyihnxngchayaekhngtwdikhun samarthkhwbkhumikhlaemks hruxchalxkarhlng aelaptibtikamkicidnankhun rwmthungthaihminaechuxxsuciephimkhunaelaphungaerngkhun 1 phawathangkaraephthyErectile dysfunction khwamphidpktikhxngkaraekhngtw phawahyxnsmrrthphaphthangephs ICD 10 N48 4 ICD 10 F52 2 xngkvs Erectile dysfunction hrux impotence epnkhwamphidpktithangephs mixakarepnkhwamimsamarththicamihruxrksakaraekhngtwiwid karsuksaorkhekiywkbphawaniepnsakhayxythangkaraephthythieriykwaburusewchsastr andrology epnswnkhxngsakhawithyathangedinpssawa urology phawahyxnsmrrthphaphthangephsxacekidkhunephraasaehtuthangkayhruxthangic sungodymaksamarthrksaid ehtukayphaphrwmthngorkhebahwan orkhit orkhphissuraeruxrng multiple sclerosis orkhhlxdeluxdaedngaekhng orkhekiywkbhlxdeluxd aelaorkhekiywkbrabbprasath sungrwm knaelw epnehtupramanrxyla 70 khxngphawahyxnsmrrthphaphthangephs yabangpraephththiichrksaorkhxun echn Lithium yarksaorkhcitmiorkhxarmnsxngkhwepntn aela paroxetine yarksaorkhcitmiorkhsumesraepntn xacmiphlkhangekhiyngepnphawahyxnsmrrthphaphthangephs thasmrrthphaphthangephs epntwbngchisthanphaphthangsngkhmhruxkhwamepnchaykhxngkhnikh sungepnaenwkhwamkhidechphaasngkhm phawanisamarthsngphlepnkhwamesiyhaythangciticrwmthngkhwamrusukxay khwamesraosk aelakhwamrusukbkphrxng inbangsngkhm camiwthnthrrmthicaimphudthung aelathaihimsamarthphudthungeruxngni aetwacring aelw chay 1 in 10 caprasbphawahyxnsmrrthphaphthangephsthiekidkhunsa kninchiwitkhxngtn phawaxngkhchataekhngkhang phawaxngkhchataekhngkhangepnphawathangkaythimiphlepnkhwamecbpwd epnkaraekhngtwkhxngxngkhchatepnewlaxyangnxy 4 ch m thiimyxmxxntwlng aemwacaimmikarkratunid thngthangkayaelathangicinstwxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb karaekhngtwkhxngxngkhchat kxnthicarwmephs xngkhchatkhxngsunkhimidmi karaekhngtw aetsamarthrwmephsidkephraaxwywamikradukaekhb thieriykwa baculum sungepnlksnasamykhxngstweliynglukdwynmmirk eutheria odymak hlngcakthistwtwphusxdxwywaekhaipaelw kmkcardstwtwemiyaennkhunaelwthakarrwmephserwkhun aelakcaxyuinchwngrayaewlanithixngkhchatkhyayxxk odyimehmuxnkbkarrwmephsinmnusy thixngkhchatodypkticaaekhngtwkxnkarsxdekhaip karrwmephsinsunkhcamikarsxdekhaipkxn aelwkarkhyayxxkkhxngxwywacnthung khwamaekhngtw erection kcaekidkhun xngkhchatkhxngchangemuxaekhngtwetmthimiruprangepnruptw S aelamichxngrupssawaepnruptw Y enuxngcakwa mienuxeyuxthithaihaekhngtwephiyngelknxyinxngkhchatkhxngww emuxekid karaekhngtw xngkhchatcungkhyayxxkephiyngaekhelknxy aetpktixngkhchatnnkaekhngxyuaelwemux xxntw aelaaekhngephimkhunxikemuxaekhngtw karyunxxkmakhxngxngkhchatimmiphlcakkaraekhngtw aetmiphlcakkarkhlaytwkhxng retractor penis muscle klamenuxkarhdtwthixngkhchat aelakartha sigmoid flexure swnkhxnglaisihythiiklthisudtxaelathwarhnk ihtrng stweliynglukdwynmkinenuxkhlayaemwpracathinxyuinekaamadakskarspichis Cryptoprocta ferox mixngkhchataekhngtwthiyunxxkipcnthungkhahna emuximaekhng xngkhchatkhxngmacaxyuinhnnghumplay odymikhwamyaw 50 s m aelakhwamhna 2 5 6 s m thihwhna 15 20 s m klamenux retractor penis muscle caekrngtwephuxdungxngkhchatekhaipinfk aelakhlayxxkephuxihxngkhchatyunxxkcakfk emuxaekhngtw xngkhchatcayawkhunepnsxngetha aelakhwamhnakhxngxngkhchataelahwxngkhchatcakhyayephimkhunthung 3 4 etha karaekhngtwaelakaryuntwxxkkhxngxwywakhxy epnip odykarkhyayxxkkhxngenuxeyux corpus cavernosum thikhngetmipdwyeluxdmiphlihxwywaaekhng matwphuotetmthicaaekhngtwphayin 2 nathithimaxyuikl matwemiythiphrxmcaphsmphnth aelacakhunkhrxmtwemiy 5 10 winathihlngcaknn swnxngkhchatkhxngnkmiokhrngsrangaetktangcakkhxngstweliynglukdwynm khuxmikaraekhngtwcakkarkhyayxxkkhxngphnngthwarrwm cloaca aelaekidcakkarkhngdwynaehluxng imicheluxd xngkhchataekhngtwkhxngepdpracathinthwipxemrikaitspichis Oxyura vittata xaccamikhwamyawthungethakbtw aetpktimkcayawpramankhrunghnungkhxngtwethannsphthinphasaxngkvsinkaraephthyphasaxngkvs karaekhngtwkhxngxngkhchatbxykhrngeriykwa penile erection aelaphawathiaekhngtwhruxkrabwnkaraekhngtweriykwa tumescence hrux penile tumescence swnsphthsaelngphasaxngkvsichkhakhunsphthwa stiffy hard on boner aela woody mikhasaelng esawphcn aelakhaehmuxnsahrbphawaniinphasaxngkvsaelaphasaxun duraykarkhaphasaxngkvsxunin WikiSaurusduephimNocturnal penile tumescenceechingxrrthaelaxangxingkareraxarmnephs sexual stimulation epntwkratunxairkid rwmthngsmphsthangkay thiephimaelarksaxarmnephs sungxacnaipsukarhlngnaxsuciaela hruxcudsudyxdthangephsinthisud thungaemwaxarmnephsxacekidkhunidodyimtxngxasykarkratun aetcathungcudsudyxdthangephsid pktitxngmikarkratunthangephs sacral plexus epnkhayprasath nerve plexus sungsngesnprasathsngkaraelarbkhwamrusukipyngtnkhadanhlng khadanlangodymak ethathnghmd aelaechingkranepnbangswn epnswnkhxngkhayprasath lumbosacral plexus aelaxxkmakcakikhsnhlngthi sacral vertebrae S2 S4 acetylcholine epnaekhtixxxnxinthriymihlayxatxmthimikmmnphaphepnsarsuxprasaththnginrabbprasathswnplayaelarabbprasathswnklanginstwcanwnmakrwmthngmnusydwy wiley com gt Viagra function image Retrieved on Mars 11 2010 APDVS gt 31 Anatomy and Physiology of Normal Erection 2010 07 14 thi ewyaebkaemchchin Retrieved on Mars 11 2010 Moore Keith 2007 Essential Clinical Anatomy Third Edition Lippincott Williams amp Wilkins p 265 ISBN 0 7817 6274 X a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help Drake Richard Wayne Vogl and Adam Mitchell Grey s Anatomy for Students Philadelphia 2004 ISBN 0 443 06612 4 Harris Robie H et al It s Perfectly Normal Changing Bodies Growing Up Sex And Sexual Health Boston 1994 ISBN 1 56402 199 8 Morning Erections Sizemed retrieved 28 February 2012 After Prostate Cancer A What Comes Next Guide to a Safe and Informed recovery p 48 Listen To Your Hormones Abraham Harvey Kryger 2004 p 32 Janell L Carroll 29 January 2009 Sexuality Now Embracing Diversity Embracing Diversity Cengage Learning p 149 ISBN 978 0 495 60274 3 Lynda Madaras 8 June 2007 What s Happening to My Body Book for Boys Revised Edition Newmarket Press p 119 ISBN 978 1 55704 769 4 subkhnemux 22 July 2013 erections in babies retrieved 11 February 2012 Lynda Madaras 8 June 2007 What s Happening to My Body Book for Boys Revised Edition Newmarket Press p 145 ISBN 978 1 55704 769 4 subkhnemux 22 July 2013 Sarah Attwood 15 May 2008 Making Sense of Sex A Forthright Guide to Puberty Sex and Relationships for People with Asperger s Syndrome Jessica Kingsley Publishers p 62 ISBN 978 1 84642 797 8 subkhnemux 22 July 2013 Penis Size FAQ amp Bibliography Kinsey Institute 2009 subkhnemux 2013 11 07 Li CY Kayes O Kell PD Christopher N Minhas S Ralph DJ 2006 Penile suspensory ligament division for penile augmentation indications and results Eur Urol 49 4 729 733 doi 10 1016 j eururo 2006 01 020 PMID 16473458 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Most Men Unsatisfied With Penis Enlargement Results 2006 02 16 subkhnemux 2008 08 17 Sparling J 1997 Penile erections shape angle and length Journal of Sex amp Marital Therapy 23 3 195 207 doi 10 1080 00926239708403924 PMID 9292834 Milsten Richard et al The Sexual Male Problems And Solutions London 2000 ISBN 0 393 32127 4 Sadeghipour H Ghasemi M Ebrahimi F Dehpour AR 2007 Effect of lithium on endothelium dependent and neurogenic relaxation of rat corpus cavernosum role of nitric oxide pathway Nitric Oxide 16 1 54 63 doi 10 1016 j niox 2006 05 004 PMID 16828320 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Williams Warwick It s Up To You Overcoming Erection Problems London 1989 ISBN 0 7225 1915 X Sadeghipour H Ghasemi M Nobakht M Ebrahimi F Dehpour AR 2007 Effect of chronic lithium administration on endothelium dependent relaxation of rat corpus cavernosum the role of nitric oxide and cyclooxygenase pathways BJU Int 99 1 177 182 doi 10 1111 j 1464 410X 2006 06530 x PMID 17034495 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Tanagho Emil A et al Smith s General Urology London 2000 ISBN 0 8385 8607 4 NHS Direct Health encyclopaedia Erectile dysfunction Arbl cvmbs colostate edu 2002 09 14 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 02 05 subkhnemux 2012 01 29 Shoshani p 80 William O Reece 4 March 2009 Functional Anatomy and Physiology of Domestic Animals John Wiley amp Sons ISBN 978 0 8138 1451 3 subkhnemux 22 July 2013 James R Gillespie Frank Bennie Flanders 28 January 2009 Modern Livestock amp Poultry Production Cengage Learning ISBN 978 1 4283 1808 3 subkhnemux 22 July 2013 Kohncke M Leonhardt K 1986 Cryptoprocta ferox PDF 254 1 5 subkhnemux 19 May 2010 University of Wisconsin Madison khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 07 16 subkhnemux 7 July 2007 James Warren Evans 15 February 1990 The Horse W H Freeman ISBN 978 0 7167 1811 6 subkhnemux 22 July 2013 Sarkar A 2003 Sexual Behaviour In Animals Discovery Publishing House ISBN 978 81 7141 746 9 Juan C Samper Ph D Jonathan F Pycock Ph D Angus O McKinnon 2007 Current Therapy in Equine Reproduction Elsevier Health Sciences p 176 ISBN 978 0 7216 0252 3 subkhnemux 22 July 2013 Juan C Samper 2009 Equine Breeding Management and Artificial Insemination Elsevier Health Sciences ISBN 978 1 4160 5234 0 subkhnemux 22 July 2013 Frank B Gill 6 October 2006 Ornithology Macmillan pp 414 ISBN 978 0 7167 4983 7 subkhnemux 5 December 2012 McCracken Kevin G 2000 PDF 117 3 820 825 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 12 15 subkhnemux 2014 03 06 McCracken Kevin G Wilson Robert E McCracken Pamela J Johnson Kevin P 2001 PDF Nature 413 128 doi 10 1038 35093160 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 12 15 subkhnemux 2014 03 06 Gabrielle Morrissey 27 January 2005 Urge Hot Secrets For Great Sex HarperCollins Publishers p 6 ISBN 978 0 7304 4527 2 subkhnemux 22 July 2013 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb karaekhngtwkhxngxngkhchat