ศาสตราจารย์เกียรติคุณอุดม อรุณรัตน์ (27 มีนาคม พ.ศ. 2478 – 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549)
อุดม อรุณรัตน์ | |
---|---|
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | อุดม อรุณรัตน์ |
เกิด | 27 มีนาคม พ.ศ. 2478 |
ที่เกิด | เมืองกรุงเก่า ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 (70 ปี) |
แนวเพลง | นาฏศิลป์ |
อาชีพ | นักดนตรี, โปรดิวเซอร์เพลง, นักแต่งเพลง |
ช่วงปี | พ.ศ. 2489 - 2549 |
ประวัติ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณอุดม อรุณรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2478 ที่ตำบลศาลาลอย อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อจำปี มารดาชื่อแถม มีพี่น้องร่วมบิดามารดาสองคน คือ สมบัติ อรุณรัตน์ และสมนึก โพธิ์สามต้น
ศาสตราจารย์เกียรติคุณอุดมสมรสกับพนิดา อรุณรัตน์ (สกุลเดิม สนั่นนาม) มีบุตรธิดาสามคน คือ ปองประภา อรุณรัตน์, สนั่นนาม อรุณรัตน์ และศาสตราจารย์พงษ์ศิลป์ อรุณรัตน์ (อาจารย์ประจำภาควิชานาฎยสังคีต คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณอุดมเริ่มรับราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 โดยเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนสุวรรณพลับพลาพิทยาคม โรงเรียนวัดปากน้ำพิทยาคม และโรงเรียนวัดราชาธิวาส โดยทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษสอนดนตรีไทยให้กับคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรควบคู่ไปด้วย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2519 ได้โอนย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำภาคคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ร่วมกับรองศาสตราจารย์เด่นดวง พุ่มศิริก่อตั้งภาควิชานาฎยสังคีตขึ้นในปี พ.ศ. 2522 และสร้างผลงานทางวิชาการไว้มากมาย จนได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ในวิชาสังคีตศิลป์ไทย เมื่อปี พ.ศ. 2537 นับเป็นคนแรกของทบวงมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์พิเศษดนตรีไทยให้กับชมรมดนตรีไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างปี พ.ศ. 2510-2517 ชมรมดนตรีไทยที่โรงเรียนพณิชยการพระนครระหว่างปี พ.ศ. 2523-2527 และชมรมดนตรีไทยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เขตปทุมวัน ระหว่างปี พ.ศ. 2519-2523
ศาสตราจารย์เกียรติคุณอุดมเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2538 ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางดนตรีไทยประจำวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำหน้าที่สอนวิชาดนตรีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติให้แก่นักศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาบัณฑิตจนถึงระดับดุษฎีบัณฑิต ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาผลงานวิชาการของหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนการเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษเกี่ยวกับดนตรีตามสถาบันต่าง ๆ และยังคงศึกษาค้นคว้าทางวิชาการเพื่อใช้สำหรับการศึกษาแก่อนุชนรุ่นหลังอีกหลายเรื่อง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณอุดมเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ และมีความสันทัดจัดเจนอย่างสูง ในด้านฝีมือทางซอสามสาย เป็นที่ประจักษ์และยอมรับกันในวงการดนตรีไทย พ.ศ. 2527 เดินทางไปเป็นวิทยากรสาธิตซอสามสาย ณ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน โดยได้บันทึกเพลงตับมโหรีของเก่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บันทึกเสียงเพื่ออนุรักษ์และเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2529 ใน พ.ศ. 2534 เป็นวิทยากรรับเชิญไปบรรยายและสาธิตซอสามสาย ณ สภาบันภาษาและวัฒนธรรมตะวันออกแห่งชาติ (INALCO) กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เป็นเวลา 3 เดือน และ พ.ศ. 2537 เป็นศาสตราจารย์รับเชิญไปสอนดนตรีไทยแก่นักศึกษาระดับปริญญาโท ณ (Monash University) ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา และร่วมงานกับวงดนตรีฟองน้ำ ในระหว่างปี พ.ศ. 2531-2535 ทั้งด้านงานบันทึกเสียงและงานเผยแพร่ต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงค์โปร์ และฝรั่งเศส
การศึกษาด้านดนตรี
- เริ่มเรียนดนตรีจากบิดาซึ่งมีความสันทัดจัดเจนในทางเป่าขลุ่ย ต่อมาได้เรียนจะเข้กับครูเรือง เกษมสุข (ไม่ทราบปีเกิดและปีที่ถึงแก่กรรม) ในช่วงพ.ศ. ๒๔๘๙-๒๔๙๙ ซึ่งเป็นครูเครื่องสายที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสามารถเรียนจนจะเข้จนแตกฉาน สามารถบรรเลงเพลงเดี่ยวกราวในซึ่งเป็นเพลงสูงสุดในกระบวนเพลงเดี่ยว
- ศึกษาซอสามสายจากพระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตตเสวี) (พ.ศ. ๒๔๓๗-๒๕๑๙) ผู้เชี่ยวชาญซอสามสายตามแบบราชสำนัก ซึ่งเป็นทางซอสามสายที่เก่าแก่สามารถสืบค้นตัวบุคคลที่ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ โดยท่านได้เป็นศิษย์เอกของพระยาภูมีเสวินได้รับการถ่ายทอดทางซอสามสายทั้งเพลงและเทคนิคการบรรเลงไว้จนหมด
- ศึกษาทฤษฎีและดนตรีไทยวิเคราะห์จากอาจารย์ภาวาส บุนนาค(พ.ศ. ๒๔๖๗-๒๕๓๗) อดีตรองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ จนได้แนวความคิดมาสำหรับในการวิจัยกะโหลกซอสามสายด้วยกะลาดัดจนเป็นผลสำเร็จ เหมือนกับของโบราณที่ได้ทำไว้ รวมทั้งได้รับการถ่ายทอดทางเดี่ยวซอสามสายของครูเทวาประสิทธ์ พาทยโกศล ซึ่งเป็นทางซอสามสายที่ได้รับการสืบทอดมาจากพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร)
- ศึกษาภาษาบาลีสันสกฤตกับนาวาอากาศเอกแย้ม ประพัฒน์ทอง (พ.ศ. ๒๔๕๓-๒๕๒๙) จนสามารถเขียนตำราเรื่องดุริยางคดนตรีจากพระพุทธศาสนา
- ศึกษาวิธีการดีดพิณน้ำเต้ากับอาจารย์กมล เกตุศิริ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2537 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2528 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
อ้างอิง
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๑๖, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๔๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๗
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๐๓ ตอนที่ ๕๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๓๔, ๑๔ เมษายน ๒๕๒๙
- ศาสตราจารย์อุดม อรุณรัตน์ 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ฐานหนังสือเก่า
- สัมภาษณ์ครูอุดม อรุณรัตน์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sastracaryekiyrtikhunxudm xrunrtn 27 minakhm ph s 2478 12 kumphaphnth ph s 2549 xudm xrunrtnkhxmulphunthanchuxekidxudm xrunrtnekid27 minakhm ph s 2478thiekidemuxngkrungeka praethssyamesiychiwit12 kumphaphnth ph s 2549 70 pi aenwephlngnatsilpxachiphnkdntri oprdiwesxrephlng nkaetngephlngchwngpiph s 2489 2549prawtisastracaryekiyrtikhunxudm xrunrtn ekidemuxwnthi 27 minakhm ph s 2478 thitablsalalxy xaephxthaerux cnghwdphrankhrsrixyuthya bidachuxcapi mardachuxaethm miphinxngrwmbidamardasxngkhn khux smbti xrunrtn aelasmnuk ophthisamtn sastracaryekiyrtikhunxudmsmrskbphnida xrunrtn skuledim snnnam mibutrthidasamkhn khux pxngprapha xrunrtn snnnam xrunrtn aelasastracaryphngssilp xrunrtn xacarypracaphakhwichanadysngkhit khnaxksrsastr mhawithyalysilpakr sastracaryekiyrtikhunxudmerimrbrachkarkhrusngkdkrmsamysuksa krathrwngsuksathikar tngaetpi ph s 2504 odyepnkhrusxnwichawithyasastraelakhnitsastrthiorngeriynsuwrrnphlbphlaphithyakhm orngeriynwdpaknaphithyakhm aelaorngeriynwdrachathiwas odythahnathiepnxacaryphiesssxndntriithyihkbkhnaxksrsastr mhawithyalysilpakrkhwbkhuipdwy cnkrathngpi ph s 2519 idoxnyaymaepnxacarypracaphakhkhnaxksrsastr mhawithyalysilpakr idrwmkbrxngsastracaryedndwng phumsirikxtngphakhwichanadysngkhitkhuninpi ph s 2522 aelasrangphlnganthangwichakariwmakmay cnidrboprdekla aetngtngihepnsastracaryinwichasngkhitsilpithy emuxpi ph s 2537 nbepnkhnaerkkhxngthbwngmhawithyaly nxkcakniyngepnxacaryphiessdntriithyihkbchmrmdntriithy mhawithyalyekstrsastr rahwangpi ph s 2510 2517 chmrmdntriithythiorngeriynphnichykarphrankhrrahwangpi ph s 2523 2527 aelachmrmdntriithymhawithyalysrinkhrinthrwiorth ekhtpthumwn rahwangpi ph s 2519 2523 sastracaryekiyrtikhunxudmeksiynxayurachkarinpi ph s 2538 intaaehnngphuechiywchayphiessthangdntriithypracawithyalyduriyangkhsilp mhawithyalymhidl thahnathisxnwichadntrithngphakhthvsdiaelaptibtiihaeknksuksatngaetradbpriyyabnthitcnthungradbdusdibnthit idrbaetngtngepnphuthrngkhunwuthiphicarnaphlnganwichakarkhxnghnwyngantang tlxdcnkarepnwithyakrbrryayphiessekiywkbdntritamsthabntang aelayngkhngsuksakhnkhwathangwichakarephuxichsahrbkarsuksaaekxnuchnrunhlngxikhlayeruxng sastracaryekiyrtikhunxudmepnphuthrngkhunwuthi aelamikhwamsnthdcdecnxyangsung indanfimuxthangsxsamsay epnthipracksaelayxmrbkninwngkardntriithy ph s 2527 edinthangipepnwithyakrsathitsxsamsay n mhawithyalypkking praethscin odyidbnthukephlngtbmohrikhxngeka thrngphrakrunaoprdekla ihbnthukesiyngephuxxnurksaelaephyaephrinpi ph s 2529 in ph s 2534 epnwithyakrrbechiyipbrryayaelasathitsxsamsay n sphabnphasaaelawthnthrrmtawnxxkaehngchati INALCO krungparispraethsfrngess epnewla 3 eduxn aela ph s 2537 epnsastracaryrbechiyipsxndntriithyaeknksuksaradbpriyyaoth n Monash University praethsxxsetreliy epnewla 1 phakhkarsuksa aelarwmngankbwngdntrifxngna inrahwangpi ph s 2531 2535 thngdannganbnthukesiyngaelanganephyaephrtangpraeths echn hxngkng singkhopr aelafrngesskarsuksadandntrierimeriyndntricakbidasungmikhwamsnthdcdecninthangepakhluy txmaideriyncaekhkbkhrueruxng eksmsukh imthrabpiekidaelapithithungaekkrrm inchwngph s 2489 2499 sungepnkhruekhruxngsaythimichuxesiyngkhxngcnghwdphrankhrsrixyuthya odysamartheriyncncaekhcnaetkchan samarthbrrelngephlngediywkrawinsungepnephlngsungsudinkrabwnephlngediyw suksasxsamsaycakphrayaphumieswin citr citteswi ph s 2437 2519 phuechiywchaysxsamsaytamaebbrachsank sungepnthangsxsamsaythiekaaeksamarthsubkhntwbukhkhlthithaythxdknmatngaetrchkalthi 3 odythanidepnsisyexkkhxngphrayaphumieswinidrbkarthaythxdthangsxsamsaythngephlngaelaethkhnikhkarbrrelngiwcnhmd suksathvsdiaeladntriithywiekhraahcakxacaryphawas bunnakh ph s 2467 2537 xditrxngrachelkhathikar sankrachelkhathikar cnidaenwkhwamkhidmasahrbinkarwicykaohlksxsamsaydwykaladdcnepnphlsaerc ehmuxnkbkhxngobranthiidthaiw rwmthngidrbkarthaythxdthangediywsxsamsaykhxngkhruethwaprasithth phathyoksl sungepnthangsxsamsaythiidrbkarsubthxdmacakphrapradisthipheraa mi duriyangkur suksaphasabalisnskvtkbnawaxakasexkaeym praphthnthxng ph s 2453 2529 cnsamarthekhiyntaraeruxngduriyangkhdntricakphraphuththsasna suksawithikardidphinnaetakbxacarykml ektusiriekhruxngrachxisriyaphrnph s 2539 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnsungsud mhawchirmngkud m w m ph s 2537 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 1 prathmaphrnchangephuxk p ch ph s 2528 ehriyyckrphrrdimala r c ph xangxingrachkiccanuebksa prakassanknaykrthmntri eruxng phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn elm 113 txnthi 22 kh hna 16 4 thnwakhm 2539 rachkiccanuebksa prakassanknaykrthmntri eruxng phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn elm 111 txnthi 21 kh hna 44 3 thnwakhm 2537 rachkiccanuebksa aecngkhwamsanknaykrthmntri eruxng phrarachthanehriyyckrmalaaelaehriyyckrphrrdimala elm 103 txnthi 58 ng chbbphiess hna 334 14 emsayn 2529 sastracaryxudm xrunrtn 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchin thanhnngsuxeka smphasnkhruxudm xrunrtn