บทความนี้ไม่มีจาก |
เจ้าชายกะนอง (พม่า: ကနောင်မင်းသား; 31 มกราคม 1820 – 2 สิงหาคม 1866) หรือ กะนอง มินธะ พระราชโอรสของ พระเจ้าแสรกแมง กษัตริย์องค์ที่ 8 แห่ง ราชวงศ์โก้นบอง และเป็นพระราชอนุชาของ พระเจ้ามินดง กษัตริย์องค์ที่ 10 ภายหลังจากจบ สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สอง เจ้าชายกะนองและ เจ้าชายมินดง ได้ทำการโค่นล้มราชบัลลังก์พระเชษฐาต่างพระมารดา พระเจ้าพุกามแมง กษัตริย์องค์ที่ 9 เจ้าชายมินดงขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็นพระเจ้ามินดงส่วนเจ้าชายกะนองได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง
กะนองมี่นต้า | |
---|---|
อุปราชแห่งพม่า เจ้าชายแห่งกะนอง | |
ดำรงพระยศ | 18 กุมภาพันธ์ 1853 – 2 สิงหาคม 1866 |
อุปราชาภิเษก | 11 มิถุนายน ค.ศ. 1853 |
ก่อนหน้า | พุกาม |
ถัดไป | สีป่อ |
ประสูติ | 31 มกราคม ค.ศ. 1820 อมรปุระ |
สวรรคต | 2 สิงหาคม ค.ศ. 1866 (46 ปี 183 วัน) มัณฑะเลย์ |
ชายา | 18 พระองค์ |
พระราชบุตร | พระโอรส 20 พระองค์, พระธิดา 15 พระองค์ |
ราชวงศ์ | โก้นบอง |
พระราชบิดา | แสรกแมง |
พระราชมารดา | พระนางเมนู |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
เจ้าชายกะนองได้รับพระสมัญญาว่า เจ้าชายแห่งสงคราม รวมถึงได้รับความนิยมจากประชาชนเนื่องจากพระองค์ได้นำวิวัฒนาการสมัยใหม่ของตะวันตกเข้าสู่พม่ารวมถึงส่งเหล่าบัณฑิตไปยังประเทศในทวีปยุโรปและโปรดให้ตั้งโรงสรรพาวุธขึ้น
เจ้าชายกะนองสิ้นพระชนม์พร้อมกับพระโอรสอีก 3 พระองค์เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1866 ที่ ลุตตอ หรือที่ประชุมสภาขุนนางระหว่างการก่อกบฏภายใต้การนำของ เจ้าชายมยิ่นกุน และ เจ้าชายมยิ่นกุนเดง พระราชโอรสของพระเจ้ามินดงที่ประสูติแต่ พระสนมเอกตองชเวเยที่ 1
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir ecachaykanxng phma ကန င မင သ 31 mkrakhm 1820 2 singhakhm 1866 hrux kanxng mintha phrarachoxrskhxng phraecaaesrkaemng kstriyxngkhthi 8 aehng rachwngsoknbxng aelaepnphrarachxnuchakhxng phraecamindng kstriyxngkhthi 10 phayhlngcakcb sngkhramxngkvs phmakhrngthisxng ecachaykanxngaela ecachaymindng idthakarokhnlmrachbllngkphraechsthatangphramarda phraecaphukamaemng kstriyxngkhthi 9 ecachaymindngkhunsubrachbllngkepnphraecamindngswnecachaykanxngidrbkarsthapnaepnrchthayathphumisiththiodytrngkanxngmintaxuprachaehngphma ecachayaehngkanxngdarngphrays18 kumphaphnth 1853 2 singhakhm 1866xuprachaphiesk11 mithunayn kh s 1853kxnhnaphukamthdipsipxprasuti31 mkrakhm kh s 1820 xmrpuraswrrkht2 singhakhm kh s 1866 46 pi 183 wn mnthaelychaya18 phraxngkhphrarachbutrphraoxrs 20 phraxngkh phrathida 15 phraxngkhrachwngsoknbxngphrarachbidaaesrkaemngphrarachmardaphranangemnusasnaphuththethrwathbthkhwamnimixksrphma hakxupkrnkhxngkhunimsamarthernedxrxksrniid khunxacehnekhruxnghmaykhatham xksrphiess klxng hruxsylksnxun aethnthixksrphma ecachaykanxngidrbphrasmyyawa ecachayaehngsngkhram rwmthungidrbkhwamniymcakprachachnenuxngcakphraxngkhidnawiwthnakarsmyihmkhxngtawntkekhasuphmarwmthungsngehlabnthitipyngpraethsinthwipyuorpaelaoprdihtngorngsrrphawuthkhun ecachaykanxngsinphrachnmphrxmkbphraoxrsxik 3 phraxngkhemuxwnthi 2 singhakhm kh s 1866 thi luttx hruxthiprachumsphakhunnangrahwangkarkxkbtphayitkarnakhxng ecachaymyinkun aela ecachaymyinkunedng phrarachoxrskhxngphraecamindngthiprasutiaet phrasnmexktxngcheweythi 1