วัดท่าขนุน เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ใน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่ 59 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา
วัดท่าขนุน | |
---|---|
ที่ตั้ง | อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
เจ้าอาวาส | ครูวิลาศกาญจนธรรม (เล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
วัดท่าขนุนตั้งชื่อตามท่าเรือ เป็นที่หมายสำคัญคือมีต้นขนุนอยู่หลายต้นจึงเรียกกันว่า "ท่าขนุน" ในนิราศท่าดินแดง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2329 ได้กล่าวถึงจังหวัดกาญจนบุรีในนามเดิมว่า เมืองปากแพรก ทรงยกทัพเรือขึ้นไปถึง เมืองไทรโยค แล้วจึงเปลี่ยนเป็นทัพบก ยกไปตั้งค่ายที่ ด่านท่าขนุน แล้วบุกโจมตีกองทัพพม่าที่ท่าดินแดง เห็นได้ว่ามีท่าขนุนก็เป็นเมืองหน้าด่านอยู่แล้ว จึงสันนิษฐานว่ามีวัดท่าขนุนตั้งอยู่แล้ว แต่หลักฐานปรากฏชัดโดยได้กล่าวถึงวัดท่าขนุนเมื่อครั้งที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา สองพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับเจ้าจอมมารดาอ่อน เสด็จมาประพาสป่าทองผาภูมิ ในการเสด็จครั้งหลังนี้ ทั้งสองพระองค์ได้ทูลขอพระราชทานพระพุทธรูปรัชกาล ขนาดหน้าตักประมาณ 1 ศอก 2 องค์ และธรรมาสน์ทรงบุษบกฝีมือช่างหลวง ถอดประกอบได้ทุกชิ้น จากในหลวงรัชกาลที่ 7 มาถวายแก่หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เมื่อ พ.ศ. 2472
ถึงกระนั้นกรมการศาสนาระบุว่า วัดท่าขนุนตั้งเมื่อ พ.ศ. 2473 ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลวงพ่อสาย เดิมเป็นที่ดินของตระกูลนกเล็กได้ถวายแก่หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล เพื่อสร้างวัด ต่อมาพระอาจารย์ไตแนมซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยง เป็นเจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดโดยการสร้างมณฑปพระพุทธบาท ผู้ให้ความอุปถัมภ์คือ ผู้ใหญ่บ้านทม หงสาวดี เมื่อพระอาจารย์ไตแนมมรณภาพลง วัดท่าขนุนได้กลายเป็นวัดร้างไปชั่วระยะหนึ่ง จนกระทั่งหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) เดินธุดงค์มาจากจังหวัดนครสวรรค์ และปักกลดพักที่วัดร้าง ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสจึงได้นิมนต์ท่านอยู่จำพรรษา และพัฒนาวัดสร้างเสนาสนะเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นวัดประจำอำเภอทองผาภูมิมาจนทุกวันนี้
ต่อมา พ.ศ. 2535 หลวงปู่สาย อคฺควํโส ได้มรณภาพลง ทำให้เสนาสนะทั้งหลายได้ทรุดโทรมลง จนถึง พ.ศ. 2545 พระราชธรรมโสภณรักษาการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีในขณะนั้น ได้มีบัญชาให้พระครูวิลาศกาญจนธรรมมาพัฒนาวัดท่าขนุน จนมีเสนาสนะที่สมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง
อาคารเสนาสนะ
อาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถสร้างเมื่อ พ.ศ. 2497 กว้าง 3 วา ยาว 9 วา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 พระพุทธเจติยคีรี เป็นพระเจดีย์ศิลปะพม่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2534 ตั้งอยู่บนยอดเขาภายในพื้นที่วัด พระเจดีย์ 80 พรรษา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2536
ปูชนียวัตถุมีธรรมาสน์ทรงบุษบก สร้างจากไม้แกะสลักทั้งองค์ ถอดประกอบได้ทุกชิ้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุของกรมศิลปากร พระพุทธรูปรัชกาล 2 องค์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนปลาย ขนาดหน้าตัก 1 ศอก จำนวน 2 องค์ พระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง ขนาดหน้าตัก 1 ศอก ไม่ทราบที่มา และรอยพระพุทธบาทจำลอง หล่อจากสัมฤทธิ์ ขนาดกว้าง 1 ศอก ยาว 3 ศอก ไม่ทราบที่มา
แหล่งโบราณคดี
บริเวณวัดยังเป็นแหล่งโบราณคดี มีลักษณะเป็นเนินดินขนาดใหญ่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย สันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งทัพของฝ่ายไทยในสงครามรบพม่าที่ท่าดินแดง (พ.ศ. 2329) เพราะมีปราการทางธรรมชาติคือ แม่น้ำแควน้อยไหลผ่านทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้มีภูเขาล้อมรอบ พบหลักฐานทางโบราณคดีที่เกี่ยวกับเครื่องถ้วยจีนที่มักจะใช้ในกองทัพของบรรดาแม่ทัพนายกอง โดยเฉพาะกษัตริย์
โบราณวัตถุที่พบ คือ เศษภาชนะดินเผาเนื้อหยาบ เผาด้วยอุณหภูมิต่ำ เศษภาชนะดินเผาเนื้อแกร่ง เผาด้วยอุณหภูมิสูงชนิดเคลือบสีน้ำตาลทั้งด้านนอกและด้านใน และเครื่องถ้วยจีน สมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง
รายนามเจ้าอาวาส
- หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล (พ.ศ. 2473–2485)
- หลวงปู่ไตแนม (พ.ศ. 2485–2498)
- พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ (พ.ศ. 2498–2535)
- พระอธิการสมเด็จ วราสโย (พ.ศ. 2535–2541)
- พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต (พ.ศ. 2541–2551)
- พระครูวิลาศกาญจนธรรม (เล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (พ.ศ. 2551–ปัจจุบัน)
อ้างอิง
- "ประวัติวัดท่าขนุน".
- "วัดท่าขนุน". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม.
- "74 กาญจนบุรี".
- "วัดท่าขนุน". ระบบภูมิสารสนเทศ แหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdthakhnun epnwdrasdrsngkdkhnasngkhfaymhanikay tngxyuin xaephxthxngphaphumi cnghwdkaycnburi miphunthi 59 ir 2 ngan 30 tarangwawdthakhnunthitngxaephxthxngphaphumi cnghwdkaycnburipraephthwdrasdrnikaymhanikayecaxawaskhruwilaskaycnthrrm elk suthm mpy oy swnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtiwdthakhnuntngchuxtamthaerux epnthihmaysakhykhuxmitnkhnunxyuhlaytncungeriykknwa thakhnun innirasthadinaedng sungphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach thrngphrarachniphnthkhunemux ph s 2329 idklawthungcnghwdkaycnburiinnamedimwa emuxngpakaephrk thrngykthpheruxkhunipthung emuxngithroykh aelwcungepliynepnthphbk ykiptngkhaythi danthakhnun aelwbukocmtikxngthphphmathithadinaedng ehnidwamithakhnunkepnemuxnghnadanxyuaelw cungsnnisthanwamiwdthakhnuntngxyuaelw aethlkthanpraktchdodyidklawthungwdthakhnunemuxkhrngthiphraecabrmwngsethx phraxngkhecaxrpraphnthraiph aelaphraecabrmwngsethx phraxngkhecaxdisysuriyapha sxngphrarachthidainphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwkbecacxmmardaxxn esdcmapraphaspathxngphaphumi inkaresdckhrnghlngni thngsxngphraxngkhidthulkhxphrarachthanphraphuththruprchkal khnadhnatkpraman 1 sxk 2 xngkh aelathrrmasnthrngbusbkfimuxchanghlwng thxdprakxbidthukchin cakinhlwngrchkalthi 7 mathwayaekhlwngpuphuk xut tmpaol xditecaxawaswdthakhnun emux ph s 2472 thungkrannkrmkarsasnarabuwa wdthakhnuntngemux ph s 2473 chawbaneriykwa wdhlwngphxsay edimepnthidinkhxngtrakulnkelkidthwayaekhlwngpuphuk xut tmpaol ephuxsrangwd txmaphraxacaryitaenmsungepnchawkaehriyng epnecaxawasaelaidphthnawdodykarsrangmnthpphraphuththbath phuihkhwamxupthmphkhux phuihybanthm hngsawdi emuxphraxacaryitaenmmrnphaphlng wdthakhnunidklayepnwdrangipchwrayahnung cnkrathnghlwngpusay xkh khwos phrakhrusuwrrneslaphrn edinthudngkhmacakcnghwdnkhrswrrkh aelapkkldphkthiwdrang chawbanekidkhwameluxmiscungidnimntthanxyucaphrrsa aelaphthnawdsrangesnasnaephimkhun cnklayepnwdpracaxaephxthxngphaphumimacnthukwnni txma ph s 2535 hlwngpusay xkh khwos idmrnphaphlng thaihesnasnathnghlayidthrudothrmlng cnthung ph s 2545 phrarachthrrmosphnrksakarecakhnacnghwdkaycnburiinkhnann idmibychaihphrakhruwilaskaycnthrrmmaphthnawdthakhnun cnmiesnasnathismburnkhunxikkhrngxakharesnasnaphraphuththrupsmedcxngkhpthm xakharesnasnathisakhy idaek xuobsthsrangemux ph s 2497 kwang 3 wa yaw 9 wa idrbphrarachthanwisungkhamsima emuxwnthi 24 kumphaphnth ph s 2498 phraphuththectiykhiri epnphraecdiysilpaphma srangemux ph s 2534 tngxyubnyxdekhaphayinphunthiwd phraecdiy 80 phrrsa srangemux ph s 2536 puchniywtthumithrrmasnthrngbusbk srangcakimaekaslkthngxngkh thxdprakxbidthukchin idrbkarkhunthaebiynepnobranwtthukhxngkrmsilpakr phraphuththruprchkal 2 xngkh silpartnoksinthrtxnplay khnadhnatk 1 sxk canwn 2 xngkh phraphuththrupsilpalanchang khnadhnatk 1 sxk imthrabthima aelarxyphraphuththbathcalxng hlxcaksmvththi khnadkwang 1 sxk yaw 3 sxk imthrabthimaaehlngobrankhdibriewnwdyngepnaehlngobrankhdi milksnaepnenindinkhnadihyxyurimaemnaaekhwnxy snnisthanwaepnthitngthphkhxngfayithyinsngkhramrbphmathithadinaedng ph s 2329 ephraamiprakarthangthrrmchatikhux aemnaaekhwnxyihlphanthangdantawntkechiyngehnux swnthangdanthistawnxxkaelathisitmiphuekhalxmrxb phbhlkthanthangobrankhdithiekiywkbekhruxngthwycinthimkcaichinkxngthphkhxngbrrdaaemthphnaykxng odyechphaakstriy obranwtthuthiphb khux essphachnadinephaenuxhyab ephadwyxunhphumita essphachnadinephaenuxaekrng ephadwyxunhphumisungchnidekhluxbsinatalthngdannxkaeladanin aelaekhruxngthwycin smyrachwngshmingaelarachwngschingraynamecaxawashlwngpuphuk xut tmpaol ph s 2473 2485 hlwngpuitaenm ph s 2485 2498 phrakhrusuwrrneslaphrn ph s 2498 2535 phraxthikarsmedc wrasoy ph s 2535 2541 phrasmuhsmphngs ekhmcit ot ph s 2541 2551 phrakhruwilaskaycnthrrm elk suthm mpy oy ph s 2551 pccubn xangxing prawtiwdthakhnun wdthakhnun sunykhxmulklangthangwthnthrrm 74 kaycnburi wdthakhnun rabbphumisarsneths aehlngmrdkthangsilpwthnthrrm wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wdthakhnun