บทความนี้ไม่มีจาก |
วัดพระธาตุหนองสามหมื่น ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ชัยภูมิ วัดราษฎร์ เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญและน่าสนใจมากแห่งหนึ่งของชัยภูมิ ตั้งอยู่ที่บ้านแก้ง จากตัวเมืองชัยภูมิเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูเขียวไปจนถึงบ้านหนองสองห้องระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2055 อีก 9 กิโลเมตรถึงบ้านแก้งและแยกซ้ายไปวัดพระธาตุหนองสามหมื่นอีกประมาณ 5 กิโลเมตร พระธาตุหนองสามหมื่น เรียกชื่อตาม ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัด เป็นพระธาตุที่มีลักษณะสวยงาม และสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่ง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใดแต่จากลักษณะทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่ปรากฏ เกิดจากการผสมผสานกันระหว่าง ล้านช้าง และอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 ในสมัยพระไชยเชษฐาธิราชแห่งราชอาณาจักรลาว
พระธาตุหนองสามหมื่นมีลักษณะเป็น ตั้งอยู่บนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความสูงประมาณ 45 เมตร มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน เหนือฐานเขียงเป็นรองรับองค์พระธาตุ ซึ่งมีทั้งสี่ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง และปางลีลา ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รูปแบบดังกล่าวอาจเปรียบเทียบได้กับพระธาตุอื่นๆ ทั้งในนครเวียงจันทน์และในเขตไทย เช่น จังหวัดหนองคาย นครเวียงจันทน์ เป็นต้น
จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าบริเวณนี้เคยเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่สมัยทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-16 ปรากฏร่องรอยของ คันดิน และโบราณสถานหลายแห่ง โบราณวัตถุสำคัญที่พบทั้งในและนอกเขตคูเมืองหลายชิ้นได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด เช่น กลุ่ม บางแผ่นก็มีจารึกอักษรปัลลวะภาษาสันสกฤต อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 และมีแผ่นหนึ่งนำไปตั้งเป็นหลักเมืองประจำอำเภอภูเขียวด้วย นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมรูปเคารพอีก 2 ชิ้น สภาพชำรุดชิ้นหนึ่งคล้ายเศียรในศิลปะขอมแบบบายน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18
พระธาตุหนองสามหมื่น เป็นพระธาตุที่มีลักษณะสวยงามและสมบูรณ์ ที่สุดองค์หนึ่ง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่จาก ลักษณะสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างล้านนา ล้านช้างและอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้าง ขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ - ๒๒ ในสมัยพระไชยเชษฐาธิราชแห่งราชอาณาจักรลาว นอกจากนี้ บริเวณ ที่ตั้งพระธาตุหนองสามหมื่นแต่เดิม เคยเป็นเมืองโบราณสมัยทวาราวดีที่มีขนาดใหญ่เมืองหนึ่ง อายุราว พุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๖ เนื่องจากปรากฏร่องรอยของคูน้ำคันดิน และโคกเนินโบราณสถานหลายแห่ง รวมทั้งโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น กลุ่มใบเสมาหินทราย สันนิษฐานว่าเป็นเมืองขนาดใหญ่ ปรากฏในตำนานอุรังคนิทาน ว่ามีเมืองหนึ่ง อยู่ด้านทิศตะวันตกของเมืองหนองหาร ชื่อว่า อโยธยา หรือกุรุนทนคร โดยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าจะเป็นแถบจังหวัดนครปฐม เพราะความหมายกำกวม ในที่นี้อาจจะเป็นเป็นเมืองกรุนทนคร ขึ้นตรงกับอาณาจักรทวารวดี (อโยธยา) ก็อาจเป็นได้
ประเพณีรำผีฟ้า เป็นการรำบวงสรวงเป็นกลุ่มๆ ที่ภูพระ ซึ่งมีพระเจ้าองค์ตื้อ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักหินทราย สูงประมาณ 2 เมตร ชาวบ้านเชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธิ์มาก การรำบวงสรวงนี้ จะมีขึ้นในระหว่างวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 5 คือเดือนเมษายน และในวันเข้าพรรษา วันออกพรรษา ซึ่งจะมีประชาชนไปทำบุญเป็นจำนวนมาก
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir wdphrathatuhnxngsamhmun tngxyuthi hmu 1 chyphumi wdrasdr epnobransthanthimikhwamsakhyaelanasnicmakaehnghnungkhxngchyphumi tngxyuthibanaekng caktwemuxngchyphumiedinthangiptamthanghlwnghmayelkh 201 phanxaephxphuekhiywipcnthungbanhnxngsxnghxngrayathangpraman 80 kiolemtr eliywsayekhathanghlwnghmayelkh 2055 xik 9 kiolemtrthungbanaekngaelaaeyksayipwdphrathatuhnxngsamhmunxikpraman 5 kiolemtr phrathatuhnxngsamhmun eriykchuxtam sungxyuhangxxkipthangthistawntkechiyngehnuxkhxngwd epnphrathatuthimilksnaswyngam aelasmburnthisudxngkhhnung imprakthlkthanwasrangkhunemuxidaetcaklksnathangdansthaptykrrmaelasilpkrrmthiprakt ekidcakkarphsmphsanknrahwang lanchang aelaxyuthya snnisthanwasrangkhunrawphuththstwrrsthi 21 22 insmyphraichyechsthathirachaehngrachxanackrlaw phrathatuhnxngsamhmunmilksnaepn tngxyubnrupsiehliymcturs mikhwamsungpraman 45 emtr mibnidthangkhunthngsidan ehnuxthanekhiyngepnrxngrbxngkhphrathatu sungmithngsithis pradisthanphraphuththruppangraphung aelapanglila phayinxngkhphrathatubrrcuphrabrmsaririkthatukhxngphraphuththeca rupaebbdngklawxacepriybethiybidkbphrathatuxun thnginnkhrewiyngcnthnaelainekhtithy echn cnghwdhnxngkhay nkhrewiyngcnthn epntn cakhlkthanthangobrankhdiphbwabriewnniekhyepnemuxngobrankhnadihysmythwarwdi xayurawphuththstwrrsthi 12 16 praktrxngrxykhxng khndin aelaobransthanhlayaehng obranwtthusakhythiphbthnginaelanxkekhtkhuemuxnghlaychinidnamaekbrksaiwthiwd echn klum bangaephnkmicarukxksrpllwaphasasnskvt xayurawphuththstwrrsthi 12 14 aelamiaephnhnungnaiptngepnhlkemuxngpracaxaephxphuekhiywdwy nxkcakniyngmipratimakrrmrupekharphxik 2 chin sphaphcharudchinhnungkhlayesiyrinsilpakhxmaebbbayn xayurawphuththstwrrsthi 18 phrathatuhnxngsamhmun epnphrathatuthimilksnaswyngamaelasmburn thisudxngkhhnung imprakthlkthanwasrangkhunemuxid aetcak lksnasthaptykrrmaelasilpkrrmthiphsmphsanknrahwanglanna lanchangaelaxyuthya snnisthanwasrang khuninrawphuththstwrrsthi 21 22 insmyphraichyechsthathirachaehngrachxanackrlaw nxkcakni briewn thitngphrathatuhnxngsamhmunaetedim ekhyepnemuxngobransmythwarawdithimikhnadihyemuxnghnung xayuraw phuththstwrrsthi 12 16 enuxngcakpraktrxngrxykhxngkhunakhndin aelaokhkeninobransthanhlayaehng rwmthngobranwtthuhlaychin echn klumibesmahinthray snnisthanwaepnemuxngkhnadihy praktintananxurngkhnithan wamiemuxnghnung xyudanthistawntkkhxngemuxnghnxnghar chuxwa xoythya hruxkurunthnkhr odyswnihycaekhaicwacaepnaethbcnghwdnkhrpthm ephraakhwamhmaykakwm inthinixaccaepnepnemuxngkrunthnkhr khuntrngkbxanackrthwarwdi xoythya kxacepnid praephniraphifa epnkarrabwngsrwngepnklum thiphuphra sungmiphraecaxngkhtux epnphraphuththrupaekaslkhinthray sungpraman 2 emtr chawbanechuxwa mikhwamskdisiththimak karrabwngsrwngni camikhuninrahwangwnkhun 13 15 kha eduxn 5 khuxeduxnemsayn aelainwnekhaphrrsa wnxxkphrrsa sungcamiprachachnipthabuyepncanwnmak bthkhwamxakhar hrux sthanthisakhyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk