ปลาอะราไพม่า | |
---|---|
ปลาขนาดใหญ่ | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Osteoglossiformes |
วงศ์: | Arapaimidae |
วงศ์ย่อย: | Heterotidinae |
สกุล: | Arapaima |
สปีชีส์: | A. gigas |
ชื่อทวินาม | |
Arapaima gigas (, 1822) | |
ชื่อพ้อง | |
|
ปลาอะราไพม่า หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาไทยว่า ปลาช่อนยักษ์อเมซอน (อังกฤษ: arapaima; ชื่อวิทยาศาสตร์: Arapaima gigas) ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาอะราไพม่า (Arapaimidae) ในอันดับปลาลิ้นกระดูก (Osteoglossiformes)
ลักษณะ
มีรูปร่างคล้ายปลาช่อน (Channa stiata) มาก เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มาก เกล็ดมีขนาดใหญ่ มีสีดำเงาเป็นมัน ครีบบน ครีบล่าง มีตำแหน่งค่อนไปทางหาง มีแถบสีแดงส้ม ตัดกับพื้นสีดำ มีลำตัวค่อนข้างกลมและเรียวยาว ส่วนหัวมีลักษณะแข็งและมีน้ำหนักมาก ส่วนลำตัวด้านท้ายมีลักษณะแบนกว้าง ในขณะที่ปลายังเล็กพื้นลำตัวจะมีสีเขียวเข้ม และลำตัวส่วนที่ค่อนไปทางหางจะเป็นสีดำ และรูปร่างจะออกไปทางทรงกระบอก เมื่อโตขึ้นบริเวณลำตัวและส่วนที่ค่อนไปทางหาง ครีบ และหาง จะปรากฏสีชมพูปนแดงหรือสีบานเย็นประแต้มกระจายอยู่ทั่วไป เมื่อจวนตัว ปลาอะราไพม่าจะใช้ส่วนหัวที่แข็งพุ่งชนและกระโดดใส่ด้วยความรุนแรงเพื่อป้องกันตัว
ปลาอะราไพม่าไม่มีหนวด ซึ่งแตกต่างจากปลาชนิดอื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน และเป็นปลาที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ไวมาก ภายในเวลาเพียง 1–2 ปี สามารถมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 3–5 เท่าได้ ปลาที่โตเต็มที่เท่าที่มีการบันทึกสถิติไว้คือยาว 4.5 เมตร น้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม
พบในแม่น้ำแอมะซอนและลุ่มน้ำสาขาในทวีปอเมริกาใต้ โดยชาวพื้นเมืองจะเรียกว่า ปีรารูกู (pirarucu) ขณะที่ชาวพื้นเมืองที่ประเทศเปรูจะเรียกว่า ไปเช (paiche) โดยปลาชนิดนี้เป็นปลาที่ชาวพื้นเมืองใช้บริโภคกันในท้องถิ่น ในบางท้องที่มีการเพาะเลี้ยงกันเป็น
ปลาอะราไพม่ากินอาหาร ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร โดยใช้ลิ้นที่แข็งเป็นกระดูกนั้นบดอาหารกับเพดานปาก ในบางครั้งสามารถกินสัตว์เลือดอุ่นขนาดเล็กกว่าที่อยู่บนบก เช่น ลิง สุนัข นก ด้วยการกระโดดงับได้อีกด้วย
ชนิดใหม่
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความเป็นไปได้ว่า ปลาอะราไพม่าชนิดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเอสเซกวีโบที่ห่างไกลในกายอานา อาจจะเป็นชนิดใหม่จากการตรวจสอบทางดีเอ็นเอ
การขยายพันธุ์
จากการศึกษาพบว่า ปลาอะราไพม่าจะถึงวัยเจริญพันธุ์ได้เมื่อมีอายุ 4–5 ปีและจะมีอายุยืน มากกว่า 20 ปี ปลาเพศผู้ เพศเมีย สังเกตดูเพศจากภายนอกได้ยาก แต่ในฤดูผสมพันธุ์ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทวีปอเมริกาใต้ ปลาเพศเมียจะมีไข่ จะเห็นบริเวณท้องจะขยายใหญ่ขึ้นได้ชัดเจน ส่วนเพศผู้หัวและลำตัวจะสีเข้ม และสีแดงอมส้มแถบโคนหางได้ชัดเจน ในฤดูวางไข่ ปลาวัยเจริญพันธุ์จะตีแอ่งสร้างรังใต้น้ำ ในระดับความลึกประมาณ 40–50 เซนติเมตร ในบริเวณพื้นที่เป็นทราย แล้วนำหญ้า หรือพืชน้ำมาสร้างเป็นรัง พ่อแม่ปลาจะช่วยกันสร้างรัง จากนั้นตัวเมียจะวางไข่ แม่ปลา 1 ตัวสามารถมีไข่ได้เป็นหมื่น ๆ ฟอง และจะฟักเป็นตัวในเวลาประมาณ 3–4 วัน แม่ปลาจะฟักไข่หรือดูแลตัวอ่อนไว้ในปาก ส่วนพ่อปลาจะช่วยป้องกันอันตรายจนกว่าลูกปลาจะแข็งแรง และช่วยตัวเองได้ แม่ปลา 1 ตัว (อายุ 4–5 ปี) ที่สมบูรณ์เต็มที่ สามารถวางไข่ได้ถึง 180,000 ฟอง ไข่ของปลาชนิดนี้ มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 1.8–1.4 นิ้ว
ปลาอะราไพม่า เป็นปลาที่ได้รับความนิยมในแง่ของการเป็นปลาสวยงาม ซึ่งมีจุดเด่นคือ ความใหญ่โตในรูปร่าง ซึ่งปลาอะราไพม่าจัดได้ว่าเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดความยาวที่สุดในโลก (ปลาบึก (Pangasianodon gigas) ที่พบในแม่น้ำโขง มีความยาวสั้นกว่า แต่มีน้ำหนักตัวที่มากกว่า) ในประเทศไทยปลาชนิดนี้ถูกนำเข้ามาครั้งแรกราวปี พ.ศ. 2529 และได้รับความนิยมสูงสุดในปี พ.ศ. 2530 ตราบจนปัจจุบัน ซึ่งปลาอะราไพม่าแม้จะมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ดูดุร้ายก็ตาม แต่เมื่อนำมาเลี้ยงในสถานที่เลี้ยงแล้ว แม้ในปลาขนาดใหญ่กลับไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวกับมนุษย์เลย ผู้เลี้ยงสามารถลงไปปล้ำไล่จับปลาเล่นได้ โดยที่ปลาไม่ขัดขืนหรือทำอันตรายใด ๆ
ปัจจุบัน สามารถเพาะขยายพันธุ์ในบ่อดินขนาดใหญ่ได้แล้ว ในประเทศมาเลเซียและไทย และมีคนไทยจำนวนหนึ่งกำลังทดลองเลี้ยงเป็นเพื่อบริโภคขายซึ่งเป็นปลาที่โตเร็วและเนื้อมีราคาแพง อาจนำมาทดแทนเนื้อปลาช่อนทั่วไปได้ ถ้ามีการเลี้ยงขนาดใหญ่ซึ่งให้กำไรมากกว่าและอาจทำให้อนาคตราคาเนื้อถูกลงเพราะเลี้ยงง่ายโตไว คุ้มกว่าการเลี้ยงปลาช่อนธรรมดา
ในตำนานและวัฒนธรรมร่วมสมัย
ปลาอะราไพม่าเป็นปลาที่ปรากฏในความเชื่อของชนพื้นเมืองอเมริกาใต้ โดยมีชื่อเรียกว่า "ปีรารูกู" ปีรารูกูเป็นบุตรชายของหัวหน้าเผ่าอินเดียนแดงที่มีความโหดร้ายและหยิ่งผยอง ปีรารูกูไม่นับถือเทพเจ้า เทพเจ้าสูงสุดจึงพิโรธ แต่ปีรารูกูไม่หวั่นไหว เมื่อปีรารูกูไปตกปลา เทพเจ้าสูงสุดจึงใช้สายฟ้าดึงเขาตกลงไปในแม่น้ำ และสาบให้เขากลายเป็นปลาใหญ่ไป
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย ปลาอะราไพม่าได้ปรากฏอยู่ในเกมสตรีตไฟเตอร์ 2 เป็นเครื่องประดับในฉากของคาร์ลอส บลังกา ร่วมกับงูอนาคอนดา
รูปภาพ
- ส่วนหัว
- ส่วนหลัง
- ในแสตมป์ของ
-
อ้างอิง
- World Conservation Monitoring Centre 1996. Arapaima gigas. In: IUCN 2013. IUCN Red List of Threatened Species. Version 2013.1. <www.iucnredlist.org>. Downloaded on 04 October 2013.
- หนังสือคู่มือเลี้ยงปลาอะโรวาน่า โดย สุรศักดิ์ วงศ์กิตติเวชสกุล (พ.ศ. 2540)
- Amazon Assassins, "River Monsters" สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต. ทางทรูวิชั่นส์: อังคารที่ 22 กรกฎาคม 2557
- Liar of Giant, "River Monsters" สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต. ทางทรูวิชั่นส์: อาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2556
แหล่งข้อมูลอื่น
- รูปและข้อมูลปลาอะราไพม่า
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
plaxaraiphmaplakhnadihysthanakarxnurksimmikhxmul IUCN 2 3 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Actinopterygiixndb Osteoglossiformeswngs Arapaimidaewngsyxy Heterotidinaeskul Arapaimaspichis A gigaschuxthwinamArapaima gigas 1822 chuxphxngArapaema gigas Sudis gigas Sudis pirarucu Vastres agassizii Vastres arapaima Vastres cuvieri Vastres mapae plaxaraiphma hruxthiniymeriykkninphasaithywa plachxnyksxemsxn xngkvs arapaima chuxwithyasastr Arapaima gigas planacudkhnadihychnidhnung inwngsplaxaraiphma Arapaimidae inxndbplalinkraduk Osteoglossiformes lksnamiruprangkhlayplachxn Channa stiata mak epnplathimikhnadihymak ekldmikhnadihy misidaengaepnmn khribbn khriblang mitaaehnngkhxnipthanghang miaethbsiaedngsm tdkbphunsida milatwkhxnkhangklmaelaeriywyaw swnhwmilksnaaekhngaelaminahnkmak swnlatwdanthaymilksnaaebnkwang inkhnathiplayngelkphunlatwcamisiekhiywekhm aelalatwswnthikhxnipthanghangcaepnsida aelaruprangcaxxkipthangthrngkrabxk emuxotkhunbriewnlatwaelaswnthikhxnipthanghang khrib aelahang capraktsichmphupnaednghruxsibaneynpraaetmkracayxyuthwip emuxcwntw plaxaraiphmacaichswnhwthiaekhngphungchnaelakraoddisdwykhwamrunaerngephuxpxngkntw plaxaraiphmaimmihnwd sungaetktangcakplachnidxun inwngsediywkn aelaepnplathimixtrakarecriyetibotthiiwmak phayinewlaephiyng 1 2 pi samarthminahnktwephimkhunthung 3 5 ethaid plathiotetmthiethathimikarbnthuksthitiiwkhuxyaw 4 5 emtr nahnkkwa 400 kiolkrm phbinaemnaaexmasxnaelalumnasakhainthwipxemrikait odychawphunemuxngcaeriykwa piraruku pirarucu khnathichawphunemuxngthipraethseprucaeriykwa ipech paiche odyplachnidniepnplathichawphunemuxngichbriophkhkninthxngthin inbangthxngthimikarephaaeliyngknepn plaxaraiphmakinxahar idaek plaaelastwnakhnadelkepnxahar odyichlinthiaekhngepnkraduknnbdxaharkbephdanpak inbangkhrngsamarthkinstweluxdxunkhnadelkkwathixyubnbk echn ling sunkh nk dwykarkraoddngbidxikdwy chnidihm nxkcakniaelw yngmikhwamepnipidwa plaxaraiphmachnidthixasyxyuinaemnaexseskwiobthihangiklinkayxana xaccaepnchnidihmcakkartrwcsxbthangdiexnexkarkhyayphnthucakkarsuksaphbwa plaxaraiphmacathungwyecriyphnthuidemuxmixayu 4 5 piaelacamixayuyun makkwa 20 pi plaephsphu ephsemiy sngektduephscakphaynxkidyak aetinvduphsmphnthuinchwngeduxnthnwakhmthungeduxnphvsphakhmkhxngthwipxemrikait plaephsemiycamiikh caehnbriewnthxngcakhyayihykhunidchdecn swnephsphuhwaelalatwcasiekhm aelasiaedngxmsmaethbokhnhangidchdecn invduwangikh plawyecriyphnthucatiaexngsrangrngitna inradbkhwamlukpraman 40 50 esntiemtr inbriewnphunthiepnthray aelwnahya hruxphuchnamasrangepnrng phxaemplacachwyknsrangrng caknntwemiycawangikh aempla 1 twsamarthmiikhidepnhmun fxng aelacafkepntwinewlapraman 3 4 wn aemplacafkikhhruxduaeltwxxniwinpak swnphxplacachwypxngknxntraycnkwalukplacaaekhngaerng aelachwytwexngid aempla 1 tw xayu 4 5 pi thismburnetmthi samarthwangikhidthung 180 000 fxng ikhkhxngplachnidni miesnphasunyklangraw 1 8 1 4 niw plaxaraiphma epnplathiidrbkhwamniyminaengkhxngkarepnplaswyngam sungmicudednkhux khwamihyotinruprang sungplaxaraiphmacdidwaepnplanacudthimikhnadkhwamyawthisudinolk plabuk Pangasianodon gigas thiphbinaemnaokhng mikhwamyawsnkwa aetminahnktwthimakkwa inpraethsithyplachnidnithuknaekhamakhrngaerkrawpi ph s 2529 aelaidrbkhwamniymsungsudinpi ph s 2530 trabcnpccubn sungplaxaraiphmaaemcamiphvtikrrmkarkinxaharthidudurayktam aetemuxnamaeliynginsthanthieliyngaelw aeminplakhnadihyklbimmiphvtikrrmkawrawkbmnusyely phueliyngsamarthlngipplailcbplaelnid odythiplaimkhdkhunhruxthaxntrayid pccubn samarthephaakhyayphnthuinbxdinkhnadihyidaelw inpraethsmaelesiyaelaithy aelamikhnithycanwnhnungkalngthdlxngeliyngepnephuxbriophkhkhaysungepnplathioterwaelaenuxmirakhaaephng xacnamathdaethnenuxplachxnthwipid thamikareliyngkhnadihysungihkairmakkwaaelaxacthaihxnakhtrakhaenuxthuklngephraaeliyngngayotiw khumkwakareliyngplachxnthrrmdaintananaelawthnthrrmrwmsmyplaxaraiphmaepnplathipraktinkhwamechuxkhxngchnphunemuxngxemrikait odymichuxeriykwa piraruku pirarukuepnbutrchaykhxnghwhnaephaxinediynaedngthimikhwamohdrayaelahyingphyxng pirarukuimnbthuxethpheca ethphecasungsudcungphiorth aetpirarukuimhwnihw emuxpirarukuiptkpla ethphecasungsudcungichsayfadungekhatklngipinaemna aelasabihekhaklayepnplaihyip inwthnthrrmrwmsmy plaxaraiphmaidpraktxyuinekmstritifetxr 2 epnekhruxngpradbinchakkhxngkharlxs blngka rwmkbnguxnakhxndarupphaphswnhw swnhlng inaestmpkhxng source source source source source source phaphekhluxnihwxangxingWorld Conservation Monitoring Centre 1996 Arapaima gigas In IUCN 2013 IUCN Red List of Threatened Species Version 2013 1 lt www iucnredlist org gt Downloaded on 04 October 2013 hnngsuxkhumuxeliyngplaxaorwana ody surskdi wngskittiewchskul ph s 2540 ISBN 974 86869 5 7 Amazon Assassins River Monsters sarkhdithangxnimxlphlaent thangthruwichns xngkharthi 22 krkdakhm 2557 Liar of Giant River Monsters sarkhdithangxnimxlphlaent thangthruwichns xathitythi 20 mkrakhm 2556 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Arapaima gigasaehlngkhxmulxunrupaelakhxmulplaxaraiphma