ไท่ผิงเทียนกั๋ว (จีนตัวย่อ: 太平天囯; จีนตัวเต็ม: 太平天國; พินอิน: Tàipíng Tiānguó; "กรุงเทพมหาสันติ") เป็นชื่อรัฐซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลราชวงศ์ชิงตั้งแต่ ค.ศ. 1851 ถึง 1864 มีเมืองหลวงอยู่ที่ (天京) หรือปัจจุบันคือหนานจิง (南京) สนับสนุนปฏิบัติการของหง ซิ่วเฉฺวียน (洪秀全) และพรรคพวกซึ่งเรียกตนเองว่า ลัทธิป้ายช่างตี้ (拜上帝教; "ลัทธิบูชามหาเทพ") ในการโค่นล้มราชวงศ์ชิง จนเกิดเป็นสงครามกลางเมืองที่เรียกว่า กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว
ไท่ผิงเทียนกั๋ว 太平囯 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1851–ค.ศ. 1864 | |||||||||
ธงที่ใช้ในเมือง ตราพระราชลัญจกร | |||||||||
อาณาเขต | |||||||||
สถานะ | ราชอาณาจักร | ||||||||
เมืองหลวง | |||||||||
ภาษาทั่วไป | จีน | ||||||||
ศาสนา | ทางการ: การบูชาเทวดา ไม่เป็นทางการ: | ||||||||
การปกครอง | การผสานความเชื่อศาสนาคริสต์-เฉินโดยเทวาธิปไตย สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||
เทียนหวัง (เจ้าฟ้า) | |||||||||
• ค.ศ. 1851–1864 | หง ซิ่วเฉฺวียน | ||||||||
• ค.ศ. 1864 | |||||||||
เจ้าชั้นรอง | |||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ราชวงศ์ชิง | ||||||||
• | 11 มกราคม ค.ศ. 1851 | ||||||||
• การยึดหนานจิง | มีนาคม ค.ศ. 1853 | ||||||||
• | ค.ศ. 1856 | ||||||||
• การเสียชีวิตของ | 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1864 | ||||||||
สกุลเงิน | เชิ่งเป๋า | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | จีน |
หง ซิ่วเฉฺวียน เข้ารีตเป็นคริสต์ศาสนิกด้วยตนเอง แล้วประกาศตนเป็นโอรสองค์ที่สองของและเป็นอนุชาของพระเยซู ก่อนนำทัพยึดภาคส่วนสำคัญในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนได้ผู้เข้าร่วมเกือบ 30 ล้านคน ฝ่ายกบฏประกาศจะปฏิรูปสังคม และจะแทนที่ลัทธิขงจื๊อ ศาสนาพุทธ และศาสนาพื้นเมืองจีน ด้วยศาสนาคริสต์ที่มีการบูชาเทวดา แต่ภายหลัง กองทัพรัฐบาลจีนยึดพื้นที่คืนได้เกือบหมด แล้วได้กองทัพฝรั่งเศสกับบริเตนมาช่วยปราบกบฏจนราบคาบ
ภูมิหลัง
กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประเทศจีนภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิงประสบปัญหาหลายประการเนื่องจากภัยทางธรรมชาติ ข้าวยากหมากแพง และพ่ายสงครามกับ โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ยับเยินต่อบริเตนในสงครามฝิ่นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1842 สงครามยังทำให้การขนส่งสินค้าปั่นป่วนและผู้คนมากมายตกงาน ผู้ได้รับผลกระทบจากสภาวะดังกล่าวจึงหันเข้าหาหง ซิ่วเฉฺวียน ชายผู้ขายฝันและมากบารมี
หง ซิ่วเฉฺวียน เป็นบัณฑิตซึ่งสอบตกหลายครั้ง เขามักบอกญาติสนิทมิตรสหายว่า ในความฝัน มีชายผมทองหนวดทองคนหนึ่งมามอบดาบให้แก่เขา และมีชายอีกคนซึ่งอ่อนวัยกว่าคนแรกมาหาเขา และเขาเรียกชายคนหลังนี้ว่า "พี่ชาย" ต่อมาในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1830 เขาได้อ่านหนังสือหนา 500 หน้าเรื่อง (勸世良言; "พระวจนะแนะโลก") ของ (梁發) ชายจีนซึ่งเข้ารีตเป็นโปรเตสแตนต์ จึงเอาความฝันตีความเข้ากับสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ที่อ่านพบ แล้วเข้าใจว่า ชายผมทองหนวดทองที่มาหาคือพระเทพบิดร ส่วนชายอีกคนคือพระเยซู และความฝันของตนหมายความว่า ตนเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า และเป็นน้องชายของพระเยซู โดยทั้งสองพระองค์เสด็จมาชี้แนะให้เขากำจัด "มาร" (ซึ่งเขาตีความว่า หมายถึง ชาวแมนจู) ให้หมดไปจากโลก เขาจึงเห็นเป็นหน้าที่ของตนในอันที่จะเผยแผ่และโค่นล้มราชวงศ์ชิง
ภายหลัง เขาได้คนสำคัญมาร่วมขบวนการ คือ
- (楊秀清) ซึ่งเดิมขายฟืนขายถ่านอยู่ในกว่างซี (广西) และมักอ้างว่า ตนเป็นปากเสียงของพระผู้เป็นเจ้า
- (馮雲山) ซึ่งก่อตั้งสมาคมลับ เรียก ลัทธิป้ายช่างตี้ ขึ้นในกว่างซี หลังจากเดินทางลงพื้นที่ไปเผยแพร่แนวคิดของหง ซิ่วเฉฺวียน เมื่อ ค.ศ. 1844
หง ซิ่วเฉฺวียน ตั้งตนเป็นประมุขลัทธิป้ายช่างตี้ใน ค.ศ. 1847 ลัทธิของเขาขยายตัวมากในปลายคริสต์ทศวรรษ 1840 แนวความคิดของเขา "พัฒนาขึ้นเป็นศาสนาจีนแบบใหม่ซึ่งมีพลวัตมาก...เรียกว่า ศาสนาคริสต์แบบไท่ผิง" เขานำเสนอศาสนาใหม่นี้ว่า เป็นการรื้อฟื้นศาสนาโบราณแบบ (上帝) ที่ถูกลัทธิขงจื๊อและระบอบกษัตริย์บดบังมานาน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเห็นว่า ลัทธิของเขาเป็นภัย จึงปราบปราม ส่งผลให้ขบวนการของเขามุ่งเป้ามาที่การล้มล้างรัฐบาล และนำไปสู่สงครามกลางเมือง
ประวัติ
การก่อตั้งรัฐ
หง ซิ่วเฉฺวียน เริ่มออกหน้าต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่กว่างซีเมื่อ ค.ศ. 1850 ต่อมา หง ซิ่วเฉฺวียน ประกาศตั้งประเทศใหม่ เรียกว่า "ไท่ผิงเทียนกั๋ว" ในวันที่ 11 เดือน 1 (ตรงกับวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 1851) อันเป็นวันคล้ายวันเกิดของตน โดยตั้งตนเป็นกษัตริย์แห่งประเทศดังกล่าว เรียกว่า "เทียนหวัง" (天王; "เจ้าฟ้า") เขาตั้งเฝิง ยฺหวินชาน เป็นที่ปรึกษาในการกบฏ และเป็นผู้บริหารไท่ผิงเทียนกั๋ว แต่ไม่นาน เฝิง ยฺหวินชาน ก็เสียชีวิตใน ค.ศ. 1852
หลังปะทะกับฝ่ายบ้านเมืองหลายครั้ง ความรุนแรงทวีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1851 เกิดเป็น (金田起義) ซึ่งกองทัพราชวงศ์ชิงที่มีกำลังน้อยถูกฝ่ายกบฏของหง ซิ่วเฉฺวียน ที่มีกำลังถึง 10,000 คน โจมตีแตกพ่าย ครั้น ค.ศ. 1853 กองทัพกบฏไท่ผิงเทียนกั๋วยึดหนานจิง ("เมืองใต้") ได้ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น "เทียนจิง" ("เมืองฟ้า") หง ซิ่วเฉฺวียน เอาจวนผู้ว่าราชการมาทำเป็นที่อยู่ของตน เรียก "" (天王宮; "วังเจ้าฟ้า") แล้วสั่งฆ่าชาวแมนจูให้สิ้น ครั้งนั้น มีชาวแมนจูกว่า 40,000 คนถูกสังหารในหนานจิง เริ่มแรก กบฏไท่ผิงเทียนกั๋วประหารแต่ชายชาวแมนจู แล้วบังคับให้หญิงชาวแมนจูไปใช้แรงงานนอกเมืองหนานจิง แต่ภายหลังก็เผาหญิงตายทั้งเป็นตามไปด้วย
หง ซิ่วเฉฺวียน ประสบความสำเร็จในการขยายขอบเขตของไท่ผิงเทียนกั๋วไปทั่วจีนตอนใต้ โดยมีศูนย์กลางอยู่ในหุบผาแม่น้ำแยงซีอันอุดมสมบูรณ์ จากนั้น ฝ่ายกบฏส่งทหารขึ้นเหนือไปยึดเป่ย์จิง เมืองหลวงของราชวงศ์ชิง แต่ล้มเหลว
ความขัดแย้งภายใน
ใน ค.ศ. 1853 หง ซิ่วเฉฺวียน ถอนตัวจากการควบคุมนโยบายบริหารไท่ผิงเทียนกั๋ว เอาแต่ออกประกาศที่เขียนด้วยภาษาแบบศาสนา เพราะขัดแย้งกับหยาง ซิ่วชิง ในประเด็นทางนโยบาย และสงสัยหยาง ซิ่วชิง ที่มีทีท่าทะเยอทะยาน วางสายลับไว้ทั่ว และมักออกแถลงการณ์โดยอ้างว่า เป็นรับสั่งของพระเจ้า ฝ่ายผู้สนับสนุนหง ซิ่วเฉฺวียน จับหยาง ซิ่วชิง และพรรคพวก ประหารทั้งตระกูลใน ค.ศ. 1856
เมื่อผู้นำมีปัญหากันเอง สมาชิกหลักในลัทธิของหง ซิ่วเฉฺวียน ก็พากันขยายฐานผู้สนับสนุนของตนไปทางชนชั้นกลางของจีน บ้างก็ไปทางมหาอำนาจยุโรป แต่ไม่สำเร็จทั้งสองทาง เพราะชนชั้นกลางไม่ชอบใจที่ลัทธินี้ต่อต้านประเพณีจีนและคุณธรรมแบบขงจื๊อ ขณะที่ยุโรปก็ตัดสินใจจะเป็นกลาง
ใน ค.ศ. 1859 (洪仁玕) ญาติของหง ซิ่วเฉฺวียน มาเข้าร่วมขบวนการของหง ซิ่วเฉฺวียน และได้รับมอบอำนาจมากมาย หง เหรินกาน วางแผนจะขยายอาณาเขตไท่ผิงเทียนกั๋ว ครั้น ค.ศ. 1860 กบฏไท่ผิงเทียนกั๋วยึดซูโจว (苏州) กับหางโจว (杭州) ทางตะวันออกได้ใน แต่ยึดช่างไห่ (上海) ในไม่สำเร็จ ทำให้รัฐไท่ผิงเทียนกั๋วเริ่มเสื่อมอำนาจ
การล่มสลาย
ยุทธการที่ช่างไห่ดังกล่าวเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1860 แรกเริ่มดูจะไปได้ดี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพราชวงศ์ชิงที่ได้ความช่วยเหลือจากทหารยุโรปของนายพล (Frederick Townsend Ward) ก็ล้มไม่เป็นท่า
กองทัพราชวงศ์ชิงได้รับการปรับปรุงใหม่ภายใต้การบริหารของเจิง กั๋วฟาน (曾國藩) กับหลี่ หงจาง (李鴻章) ทำให้ยึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกบฏได้เกือบหมดในต้น ค.ศ. 1864
เมื่อกองทัพราชวงศ์ชิงมาล้อมหนานจิงใน ค.ศ. 1864 หง ซิ่วเฉฺวียน ประกาศต่อผู้คนว่า พระเป็นเจ้าจะอยู่ข้างพวกเขา แต่ในเดือนมิถุนายน ปีนั้น หง ซิ่วเฉฺวียน เก็บผักป่ามากิน เพราะอาหารในเมืองขาดแคลน การกินผักป่าทำให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษจนเขาล้มป่วยลงถึง 20 วันและเสียชีวิต ไม่กี่วันให้หลัง กองทัพราชวงศ์ชิงยึดหนานจิงได้ เจิง กั๋วฟาน ให้ขุดศพเขาขึ้นมาตรวจสอบแล้วเผาทิ้งไป เถ้ากระดูกที่เหลือให้ยิงออกจากปืนใหญ่กระจายไปทั่วสารทิศ เพื่อที่ร่างเขาจะได้ไม่มีที่พักวิญญาณเป็นหลักแหล่ง เป็นการลงโทษที่ก่อการกำเริบ
สี่เดือนก่อนที่ราชวงศ์ชิงจะยึดหนานจิงได้ หง ซิ่วเฉฺวียน สละตำแหน่งกษัตริย์ให้แก่บุตรชายคนโตวัย 15 ปีของตนชื่อ (洪天貴福) แต่เมื่อบิดาตายและหนานจิงถูกยึด หง เทียนกุ้ยฝู ไม่รู้ที่จะทำประการใดให้รัฐไท่ผิงเทียนกั๋วกลับคืนมาได้ บรรดาญาติพี่น้องของหง ซิ่วเฉฺวียน ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นหวัง (王; "เจ้า") ก็ถูกประหารชีวิตในตำบลจินหลิง (金陵城) ของเมืองหนานจิงนั้น
แม้การยึดหนานจิงใน ค.ศ. 1864 จะเป็นจุดสิ้นสุดของไท่ผิงเทียนกั๋ว แต่การรบรายังไม่ยุติ ทหารกบฏที่เหลืออยู่นับพันยังต่อสู้ต่อต้านรัฐบาลต่อไป ราชวงศ์ชิงต้องใช้เวลาอีก 7 ปีเพื่อปราบกบฏจนราบคาบ ทหารกบฏกลุ่มสุดท้ายที่มี (李福忠) เป็นหัวหน้า ถูกปราบปรามในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1871 ในภูมิภาคชายแดนเมืองกว่างซี, กุ้ยโจว (贵州), และหูหนาน (湖南)
การปกครอง
ผู้ปกครองสูงสุด
"เทียนหวัง" (天王; "เจ้าฟ้า") เป็นตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดในประเทศ ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ได้แก่
- หง ซิ่วเฉฺวียน (洪秀全) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1851 ถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1864 ใช้ชื่อรัชศกว่า "ยฺเหวียนเหนียน" (元年; "ปีต้น")
- (洪天貴福) บุตรชายหัวปีของหง ซิ่วเฉฺวียน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1864 ถึงเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน ไม่ทันได้ตั้งรัชศก
ผู้ปกครองชั้นรอง
ตำแหน่งรองลงจากเทียนหวัง คือ ผู้ปกครองแว่นแคว้น ซึ่งมอบให้แก่สาวกคนสำคัญของหง ซิ่วเฉฺวียน ได้แก่
- "หนานหวัง" (南王; "เจ้าทักษิณ") ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (馮雲山) ซึ่งถูกสังหารในสงครามเมื่อ ค.ศ. 1852
- "ตงหวัง" (東王; "เจ้าบูรพา) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (楊秀清) ซึ่งถูกเจ้าอุดรฆ่าในการรัฐประหารเมื่อ ค.ศ. 1856
- "ซีหวัง" (西王; "เจ้าประจิม) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (蕭朝貴) ซึ่งถูกสังหารในสงครามเมื่อ ค.ศ. 1852
- "อี้หวัง" (翼王; "เจ้าภาค") ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (石達開) ซึ่งถูกราชวงศ์ชิงจับกุมและประหารใน ค.ศ. 1863
- "เป่ย์หวัง" (北王; "เจ้าอุดร") ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (韋昌輝) ซึ่งถูกสังหารใน ค.ศ. 1856
อื่น ๆ
หง ซิ่วเฉฺวียน ยังตั้งพวกพ้องเป็น "หวัง" (王; "เจ้า") อีกหลายคน ได้แก่
- "ก่านหวัง" (干王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (洪仁玕) ญาติของหง ซิ่วเฉฺวียน อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ ค.ศ. 1822 จนถูกราชวงศ์ชิงจับกุมและประหารชีวิตใน ค.ศ. 1864
- "จงหวัง" (忠王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (李秀成) ตั้งแต่ ค.ศ. 1823 จนถูกราชวงศ์ชิงจับกุมและประหารใน ค.ศ. 1864
- "จุนหวัง" (遵王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (賴文光) ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ค.ศ. 1827 จนถึง ค.ศ. 1868
- "ฝูหวัง" (福王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ
- (洪仁達) พี่ชายคนที่สองของหง ซิ่วเฉฺวียน ถูกราชวงศ์ชิงจับตัวได้และประหารเสียใน ค.ศ. 1864
- (洪仁富) ญาติของหง ซิ่วเฉฺวียน
- "หย่งหวัง" (勇王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (洪仁貴) ญาติของหง ซิ่วเฉฺวียน
- "อานหวัง" (安王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (洪仁發) พี่ชายคนโตสุดของหง ซิ่วเฉฺวียน
- "อิงหวัง" (英王) ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (陳玉成) ตั้งแต่ ค.ศ. 1837 จนถึง ค.ศ. 1862
- ตำแหน่งไม่ทราบ ผู้ดำรงตำแหน่ง คือ (田貴) ถูกราชวงศ์ชิงจับกุมและประหารใน ค.ศ. 1864
เงินตรา
ในปีแรกที่ก่อตั้ง ไท่ผิงเทียนกั๋วผลิตเหรียญกระษาปณ์ เส้นผ่านศูนย์กลาง 23–26 มิลลิเมตร หนักราว 4.1 กรัม ด้านหลังจารึกข้อความว่า "เชิ่งเป่า" (聖寶; "ศักดิ์สิทธิ์และสูงค่า") นอกจากนี้ ยังออกธนบัตรของตนเอง
อ้างอิง
- Spence (1990), p. p. 171.
- "Feng Yunshan (Chinese rebel leader) - Britannica Online Encyclopedia". Britannica.com. สืบค้นเมื่อ 2013-03-08.
- "Taiping Rebellion (Chinese history) - Britannica Online Encyclopedia". Britannica.com. สืบค้นเมื่อ 2013-03-08.
- Reilly (2004), p. 4.
- China: A New History, John King Fairbank and Merle Goldman. Harvard, 2006.
- Spence (1996)
- (2011). Atrocities: The 100 Deadliest Episodes in Human History. W. W. Norton. p. 289. ISBN .
- Reilly (2004), p. 139.
- Spence 1996, p. 243
- "Money of the Kingdom of Heavenly Peace". The Currency Collector. สืบค้นเมื่อ 24 March 2016.
บรรณานุกรม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ithphingethiynkw cintwyx 太平天囯 cintwetm 太平天國 phinxin Taiping Tianguo krungethphmhasnti epnchuxrthsungkxtngkhunephuxtxtanrthbalrachwngschingtngaet kh s 1851 thung 1864 miemuxnghlwngxyuthi 天京 hruxpccubnkhuxhnancing 南京 snbsnunptibtikarkhxnghng siwech wiyn 洪秀全 aelaphrrkhphwksungeriyktnexngwa lththipaychangti 拜上帝教 lththibuchamhaethph inkarokhnlmrachwngsching cnekidepnsngkhramklangemuxngthieriykwa kbtithphingethiynkwithphingethiynkw 太平 囯kh s 1851 kh s 1864thngthiichinemuxng traphrarachlyckrxanaekhtsthanarachxanackremuxnghlwngphasathwipcinsasnathangkar karbuchaethwda imepnthangkar sasnachawbancin lththieta sasnaphuthth sasnathxngthinxun karpkkhrxngkarphsankhwamechuxsasnakhrist echinodyethwathipity smburnayasiththirachyethiynhwng ecafa kh s 1851 1864hng siwech wiyn kh s 1864ecachnrxng yukhprawtisastrrachwngsching 11 mkrakhm kh s 1851 karyudhnancingminakhm kh s 1853 kh s 1856 karesiychiwitkhxng18 phvscikayn kh s 1864skulenginechingepakxnhna thdiprachwngsching rachwngschingpccubnepnswnhnungkhxng cin hng siwech wiyn ekharitepnkhristsasnikdwytnexng aelwprakastnepnoxrsxngkhthisxngkhxngaelaepnxnuchakhxngphraeysu kxnnathphyudphakhswnsakhyinchwngklangkhriststwrrsthi 19 cnidphuekharwmekuxb 30 lankhn faykbtprakascaptirupsngkhm aelacaaethnthilththikhngcux sasnaphuthth aelasasnaphunemuxngcin dwysasnakhristthimikarbuchaethwda aetphayhlng kxngthphrthbalcinyudphunthikhunidekuxbhmd aelwidkxngthphfrngesskbbrietnmachwyprabkbtcnrabkhabphumihlngklangkhriststwrrsthi 19 praethscinphayitkarpkkhrxngkhxngrachwngschingprasbpyhahlayprakarenuxngcakphythangthrrmchati khawyakhmakaephng aelaphaysngkhramkb odyechphaakhwamphayaephybeyintxbrietninsngkhramfinkhrngaerkemux kh s 1842 sngkhramyngthaihkarkhnsngsinkhapnpwnaelaphukhnmakmaytkngan phuidrbphlkrathbcaksphawadngklawcunghnekhahahng siwech wiyn chayphukhayfnaelamakbarmi hng siwech wiyn epnbnthitsungsxbtkhlaykhrng ekhamkbxkyatisnithmitrshaywa inkhwamfn michayphmthxnghnwdthxngkhnhnungmamxbdabihaekekha aelamichayxikkhnsungxxnwykwakhnaerkmahaekha aelaekhaeriykchaykhnhlngniwa phichay txmainchwngklangkhristthswrrs 1830 ekhaidxanhnngsuxhna 500 hnaeruxng 勸世良言 phrawcnaaenaolk khxng 梁發 chaycinsungekharitepnopretsaetnt cungexakhwamfntikhwamekhakbsylksnkhxngsasnakhristthixanphb aelwekhaicwa chayphmthxnghnwdthxngthimahakhuxphraethphbidr swnchayxikkhnkhuxphraeysu aelakhwamfnkhxngtnhmaykhwamwa tnepnbutrkhxngphraepneca aelaepnnxngchaykhxngphraeysu odythngsxngphraxngkhesdcmachiaenaihekhakacd mar sungekhatikhwamwa hmaythung chawaemncu ihhmdipcakolk ekhacungehnepnhnathikhxngtninxnthicaephyaephaelaokhnlmrachwngsching phayhlng ekhaidkhnsakhymarwmkhbwnkar khux 楊秀清 sungedimkhayfunkhaythanxyuinkwangsi 广西 aelamkxangwa tnepnpakesiyngkhxngphraphuepneca 馮雲山 sungkxtngsmakhmlb eriyk lththipaychangti khuninkwangsi hlngcakedinthanglngphunthiipephyaephraenwkhidkhxnghng siwech wiyn emux kh s 1844 hng siwech wiyn tngtnepnpramukhlththipaychangtiin kh s 1847 lththikhxngekhakhyaytwmakinplaykhristthswrrs 1840 aenwkhwamkhidkhxngekha phthnakhunepnsasnacinaebbihmsungmiphlwtmak eriykwa sasnakhristaebbithphing ekhanaesnxsasnaihmniwa epnkarruxfunsasnaobranaebb 上帝 thithuklththikhngcuxaelarabxbkstriybdbngmanan ecahnathibanemuxngehnwa lththikhxngekhaepnphy cungprabpram sngphlihkhbwnkarkhxngekhamungepamathikarlmlangrthbal aelanaipsusngkhramklangemuxngprawtikarkxtngrth hng siwech wiyn erimxxkhnatxtanrthbalinphunthikwangsiemux kh s 1850 txma hng siwech wiyn prakastngpraethsihm eriykwa ithphingethiynkw inwnthi 11 eduxn 1 trngkbwnthi 11 mkrakhm kh s 1851 xnepnwnkhlaywnekidkhxngtn odytngtnepnkstriyaehngpraethsdngklaw eriykwa ethiynhwng 天王 ecafa ekhatngefing y hwinchan epnthipruksainkarkbt aelaepnphubriharithphingethiynkw aetimnan efing y hwinchan kesiychiwitin kh s 1852 hlngpathakbfaybanemuxnghlaykhrng khwamrunaerngthwikhunineduxnkumphaphnth kh s 1851 ekidepn 金田起義 sungkxngthphrachwngschingthimikalngnxythukfaykbtkhxnghng siwech wiyn thimikalngthung 10 000 khn ocmtiaetkphay khrn kh s 1853 kxngthphkbtithphingethiynkwyudhnancing emuxngit id aelwepliynchuxepn ethiyncing emuxngfa hng siwech wiyn exacwnphuwarachkarmathaepnthixyukhxngtn eriyk 天王宮 wngecafa aelwsngkhachawaemncuihsin khrngnn michawaemncukwa 40 000 khnthuksngharinhnancing erimaerk kbtithphingethiynkwpraharaetchaychawaemncu aelwbngkhbihhyingchawaemncuipichaerngngannxkemuxnghnancing aetphayhlngkephahyingtaythngepntamipdwy hng siwech wiyn prasbkhwamsaercinkarkhyaykhxbekhtkhxngithphingethiynkwipthwcintxnit odymisunyklangxyuinhubphaaemnaaeyngsixnxudmsmburn caknn faykbtsngthharkhunehnuxipyudepycing emuxnghlwngkhxngrachwngsching aetlmehlw khwamkhdaeyngphayin in kh s 1853 hng siwech wiyn thxntwcakkarkhwbkhumnoybaybriharithphingethiynkw exaaetxxkprakasthiekhiyndwyphasaaebbsasna ephraakhdaeyngkbhyang siwching inpraednthangnoybay aelasngsyhyang siwching thimithithathaeyxthayan wangsaylbiwthw aelamkxxkaethlngkarnodyxangwa epnrbsngkhxngphraeca fayphusnbsnunhng siwech wiyn cbhyang siwching aelaphrrkhphwk praharthngtrakulin kh s 1856 emuxphunamipyhaknexng smachikhlkinlththikhxnghng siwech wiyn kphaknkhyaythanphusnbsnunkhxngtnipthangchnchnklangkhxngcin bangkipthangmhaxanacyuorp aetimsaercthngsxngthang ephraachnchnklangimchxbicthilththinitxtanpraephnicinaelakhunthrrmaebbkhngcux khnathiyuorpktdsiniccaepnklang in kh s 1859 洪仁玕 yatikhxnghng siwech wiyn maekharwmkhbwnkarkhxnghng siwech wiyn aelaidrbmxbxanacmakmay hng ehrinkan wangaephncakhyayxanaekhtithphingethiynkw khrn kh s 1860 kbtithphingethiynkwyudsuocw 苏州 kbhangocw 杭州 thangtawnxxkidin aetyudchangih 上海 inimsaerc thaihrthithphingethiynkwerimesuxmxanac karlmslay yuththkarthichangihdngklawerimkhunineduxnsinghakhm kh s 1860 aerkerimducaipiddi aetemuxephchiyhnakbkxngthphrachwngschingthiidkhwamchwyehluxcakthharyuorpkhxngnayphl Frederick Townsend Ward klmimepntha kxngthphrachwngschingidrbkarprbprungihmphayitkarbriharkhxngecing kwfan 曾國藩 kbhli hngcang 李鴻章 thaihyudphunthikhuncakfaykbtidekuxbhmdintn kh s 1864 emuxkxngthphrachwngschingmalxmhnancingin kh s 1864 hng siwech wiyn prakastxphukhnwa phraepnecacaxyukhangphwkekha aetineduxnmithunayn pinn hng siwech wiyn ekbphkpamakin ephraaxaharinemuxngkhadaekhln karkinphkpathaihekidphawaxaharepnphiscnekhalmpwylngthung 20 wnaelaesiychiwit imkiwnihhlng kxngthphrachwngschingyudhnancingid ecing kwfan ihkhudsphekhakhunmatrwcsxbaelwephathingip ethakradukthiehluxihyingxxkcakpunihykracayipthwsarthis ephuxthirangekhacaidimmithiphkwiyyanepnhlkaehlng epnkarlngothsthikxkarkaerib sieduxnkxnthirachwngschingcayudhnancingid hng siwech wiyn slataaehnngkstriyihaekbutrchaykhnotwy 15 pikhxngtnchux 洪天貴福 aetemuxbidatayaelahnancingthukyud hng ethiynkuyfu imruthicathaprakaridihrthithphingethiynkwklbkhunmaid brrdayatiphinxngkhxnghng siwech wiyn thiidrbaetngtngepnhwng 王 eca kthukpraharchiwitintablcinhling 金陵城 khxngemuxnghnancingnn aemkaryudhnancingin kh s 1864 caepncudsinsudkhxngithphingethiynkw aetkarrbrayngimyuti thharkbtthiehluxxyunbphnyngtxsutxtanrthbaltxip rachwngschingtxngichewlaxik 7 piephuxprabkbtcnrabkhab thharkbtklumsudthaythimi 李福忠 epnhwhna thukprabpramineduxnsinghakhm kh s 1871 inphumiphakhchayaednemuxngkwangsi kuyocw 贵州 aelahuhnan 湖南 karpkkhrxngphupkkhrxngsungsud ethiynhwng 天王 ecafa epntaaehnngphupkkhrxngsungsudinpraeths phudarngtaaehnngniidaek hng siwech wiyn 洪秀全 tngaeteduxnsinghakhm kh s 1851 thungeduxnphvsphakhm kh s 1864 ichchuxrchskwa y ehwiynehniyn 元年 pitn 洪天貴福 butrchayhwpikhxnghng siwech wiyn tngaeteduxnphvsphakhm kh s 1864 thungeduxnsinghakhm piediywkn imthnidtngrchskphupkkhrxngchnrxng taaehnngrxnglngcakethiynhwng khux phupkkhrxngaewnaekhwn sungmxbihaeksawkkhnsakhykhxnghng siwech wiyn idaek hnanhwng 南王 ecathksin phudarngtaaehnng khux 馮雲山 sungthuksngharinsngkhramemux kh s 1852 tnghwng 東王 ecaburpha phudarngtaaehnng khux 楊秀清 sungthukecaxudrkhainkarrthpraharemux kh s 1856 sihwng 西王 ecapracim phudarngtaaehnng khux 蕭朝貴 sungthuksngharinsngkhramemux kh s 1852 xihwng 翼王 ecaphakh phudarngtaaehnng khux 石達開 sungthukrachwngschingcbkumaelapraharin kh s 1863 epyhwng 北王 ecaxudr phudarngtaaehnng khux 韋昌輝 sungthuksngharin kh s 1856xun hng siwech wiyn yngtngphwkphxngepn hwng 王 eca xikhlaykhn idaek kanhwng 干王 phudarngtaaehnng khux 洪仁玕 yatikhxnghng siwech wiyn xyuintaaehnngtngaet kh s 1822 cnthukrachwngschingcbkumaelapraharchiwitin kh s 1864 cnghwng 忠王 phudarngtaaehnng khux 李秀成 tngaet kh s 1823 cnthukrachwngschingcbkumaelapraharin kh s 1864 cunhwng 遵王 phudarngtaaehnng khux 賴文光 darngtaaehnngtngaet kh s 1827 cnthung kh s 1868 fuhwng 福王 phudarngtaaehnng khux 洪仁達 phichaykhnthisxngkhxnghng siwech wiyn thukrachwngschingcbtwidaelapraharesiyin kh s 1864 洪仁富 yatikhxnghng siwech wiyn hynghwng 勇王 phudarngtaaehnng khux 洪仁貴 yatikhxnghng siwech wiyn xanhwng 安王 phudarngtaaehnng khux 洪仁發 phichaykhnotsudkhxnghng siwech wiyn xinghwng 英王 phudarngtaaehnng khux 陳玉成 tngaet kh s 1837 cnthung kh s 1862 taaehnngimthrab phudarngtaaehnng khux 田貴 thukrachwngschingcbkumaelapraharin kh s 1864engintrainpiaerkthikxtng ithphingethiynkwphlitehriyykrasapn esnphansunyklang 23 26 milliemtr hnkraw 4 1 krm danhlngcarukkhxkhwamwa echingepa 聖寶 skdisiththiaelasungkha nxkcakni yngxxkthnbtrkhxngtnexngxangxingSpence 1990 p p 171 Feng Yunshan Chinese rebel leader Britannica Online Encyclopedia Britannica com subkhnemux 2013 03 08 Taiping Rebellion Chinese history Britannica Online Encyclopedia Britannica com subkhnemux 2013 03 08 Reilly 2004 p 4 China A New History John King Fairbank and Merle Goldman Harvard 2006 Spence 1996 2011 Atrocities The 100 Deadliest Episodes in Human History W W Norton p 289 ISBN 978 0 393 08192 3 Reilly 2004 p 139 Spence 1996 p 243 Money of the Kingdom of Heavenly Peace The Currency Collector subkhnemux 24 March 2016 brrnanukrmphlnganthixangthungReilly Thomas H 2004 The Taiping Heavenly Kingdom Rebellion and the Blasphemy of Empire Seattle University of Washington Press ISBN 0295984309 1996 God s Chinese Son The Taiping Heavenly Kingdom of Hong Xiuquan New York Norton ISBN 0 393 03844 0 1990 New York Norton