บทความเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนี้ เนื่องจากไม่มีชื่อสามัญเป็นภาษาไทย |
Bangana lippus เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) มีชื่อสามัญว่า "ปลาเพ้า" ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมกับปลาบางชนิดในสกุลเดียวกัน เช่น B. sinkleri เป็นต้น
Bangana lippus | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | ปลาที่มีก้านครีบ |
อันดับ: | อันดับปลาตะเพียน |
วงศ์: | วงศ์ปลาตะเพียน |
วงศ์ย่อย: | วงศ์ย่อยปลาเลียหิน |
สกุล: | ปลาหว้า (, 1936) |
สปีชีส์: | Bangana lippus |
ชื่อทวินาม | |
Bangana lippus (, 1936) | |
ชื่อพ้อง | |
|
ถิ่นที่อยู่
ปลาชนิด B. lippus อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีน้ำไหลแรงและมีเป็นกรวดขนาดใหญ่ เช่น ลำห้วยในพื้นที่สูง แก่งหิน เป็นต้น โดยพบกระจายพันธุ์ในลุ่มน้ำโขงของจีน พม่า และลาว ส่วนในไทย มีรายงานการพบเฉพาะที่แม่น้ำเหืองและแม่น้ำเลยซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง
ลักษณะ
เนื่องจากปลาชนิด B. lippus ดำรงชีพด้วยการอาศัยบริเวณพื้นท้องน้ำ จึงมีลักษณะลำตัวเป็นทรงกระบอกที่แบนลงด้านท้อง ครีบอกและครีบท้องกางออกด้านข้าง ช่วยให้ปลาสามารถทรงตัวเพื่อหากินในบริเวณที่น้ำไหลแรงได้ดียิ่งขึ้น ลักษณะรูปร่างดังกล่าวยังมีประโยชน์มากในซึ่งปลาจะรวมกันเป็นฝูงในบริเวณที่น้ำไหลถ่ายเทและมีระดับน้ำตื้นจนลำตัวปลาส่วนหลังพ้นน้ำ แต่ปลาก็สามารถใช้ครีบและลำตัวเคลื่อนที่ไปได้อย่างดี
ปลาวัยอ่อนและปลาขนาดเล็กมีลำตัวและครีบเป็นสีเงินอมเขียว เมื่อโตขึ้นสีของลำตัวจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมะกอก ด้านในเกล็ดมีจุดสีส้ม ขอบครีบหางและครีบก้นมีสีแดงเรื่อ ๆ ครีบหลังและครีบก้นในปลาขนาดใหญ่มีปลายโค้งสวยงาม ครีบหางเว้าลึก ริมฝีปากเป็นชั้นหนา (ตัวผู้จะมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นประปรายเหนือจะงอยปาก) กระดูกขากรรไกรคม เหมาะแก่การแทะเล็มตะไคร่น้ำ สาหร่าย หรืออื่น ๆ ที่เกาะอยู่บนแผ่นหินหรือวัตถุใต้น้ำ (ร่องรอยการครูดตะไคร่น้ำก้อนหินเป็นร่องรอยสำคัญที่ชาวบ้านใช้ในการเสาะหาแหล่งหลบซ่อนของปลาเพื่อวางเครื่องมือประมงดักจับ) ขนาดเมื่อโตเต็มวัยยาวได้ถึงประมาณ 28 เซนติเมตร
การใช้ประโยชน์
ปลาชนิด B. lippus เป็นปลาที่มีรสชาติดี เป็นที่นิยมบริโภคของคนในท้องถิ่น แต่สภาพแวดล้อมรวมทั้งลักษณะการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำและป่าไม้ของมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ส่งผลให้ปลามีจำนวนลดน้อยลง ในขณะเดียวกันก็ยังขาดข้อมูลเชิงวิชาการที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ นิเวศวิทยา ศัตรู และจำนวนประชากรที่แท้จริงของปลาชนิดนี้ หน่วยงานต่าง ๆ จึงยังไม่สามารถบริหารจัดการและเพาะขยายพันธุ์ปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง
- Rainboth, W. 2011. Bangana lippa. The IUCN Red List of Threatened Species 2011: e.T187976A8639645. https://dx.doi.org/10.2305/IUCN.UK.2011-1.RLTS.T187976A8639645.en. Downloaded on 31 March 2018.
- Froese, Rainer and Pauly, Daniel, eds. (2016). "Bangana lippus" in . November 2016 version.
- รายงานการประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ครั้งที่ 5/2558. เลย, 2558, หน้า 12.
- รายงานการประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ครั้งที่ 5/2558. เลย, 2558, หน้า 13.
- Zhang, E., P. Yue and J. Chen, 2000. Cyprinidae: Laleoninae. p. 171-272. In P. Yue et al. (eds) Fauna Sinica. Osteichthyes. Cypriniformes III. Science Press. Beijing. 1-661.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamekiywkbsingmichiwitnimichuxbthkhwamepnchuxwithyasastr enuxngcakimmichuxsamyepnphasaithy Bangana lippus epnplanacudchnidhnunginwngsplataephiyn Cyprinidae michuxsamywa plaepha sungepnchuxeriykrwmkbplabangchnidinskulediywkn echn B sinkleri epntnBangana lippussthanakarxnurksimmikhxmul IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn plathimikankhribxndb xndbplataephiynwngs wngsplataephiynwngsyxy wngsyxyplaeliyhinskul plahwa 1936 spichis Bangana lippuschuxthwinamBangana lippus 1936 chuxphxngBangana lippa Labeo lippusthinthixyuplachnid B lippus xasyxyuinbriewnthiminaihlaerngaelamiepnkrwdkhnadihy echn lahwyinphunthisung aeknghin epntn odyphbkracayphnthuinlumnaokhngkhxngcin phma aelalaw swninithy mirayngankarphbechphaathiaemnaehuxngaelaaemnaelysungepnlanasakhakhxngaemnaokhnglksnaenuxngcakplachnid B lippus darngchiphdwykarxasybriewnphunthxngna cungmilksnalatwepnthrngkrabxkthiaebnlngdanthxng khribxkaelakhribthxngkangxxkdankhang chwyihplasamarththrngtwephuxhakininbriewnthinaihlaerngiddiyingkhun lksnaruprangdngklawyngmipraoychnmakinsungplacarwmknepnfunginbriewnthinaihlthayethaelamiradbnatuncnlatwplaswnhlngphnna aetplaksamarthichkhribaelalatwekhluxnthiipidxyangdi plawyxxnaelaplakhnadelkmilatwaelakhribepnsienginxmekhiyw emuxotkhunsikhxnglatwcaepliynepnsiekhiywmakxk daninekldmicudsism khxbkhribhangaelakhribknmisiaedngerux khribhlngaelakhribkninplakhnadihymiplayokhngswyngam khribhangewaluk rimfipakepnchnhna twphucamitumelk khunpraprayehnuxcangxypak kradukkhakrrikrkhm ehmaaaekkaraethaelmtaikhrna sahray hruxxun thiekaaxyubnaephnhinhruxwtthuitna rxngrxykarkhrudtaikhrnakxnhinepnrxngrxysakhythichawbanichinkaresaahaaehlnghlbsxnkhxngplaephuxwangekhruxngmuxpramngdkcb khnademuxotetmwyyawidthungpraman 28 esntiemtrkarichpraoychnplachnid B lippus epnplathimirschatidi epnthiniymbriophkhkhxngkhninthxngthin aetsphaphaewdlxmrwmthnglksnakarichpraoychncakthrphyakrnaaelapaimkhxngmnusyidepliynaeplngipcakxdit sngphlihplamicanwnldnxylng inkhnaediywknkyngkhadkhxmulechingwichakarthiluksungekiywkbaehlngxasytamthrrmchati niewswithya stru aelacanwnprachakrthiaethcringkhxngplachnidni hnwyngantang cungyngimsamarthbriharcdkaraelaephaakhyayphnthuplaidxyangmiprasiththiphaphxangxingRainboth W 2011 Bangana lippa The IUCN Red List of Threatened Species 2011 e T187976A8639645 https dx doi org 10 2305 IUCN UK 2011 1 RLTS T187976A8639645 en Downloaded on 31 March 2018 Froese Rainer and Pauly Daniel eds 2016 Bangana lippus in November 2016 version rayngankarprachumkhnakrmkarcnghwd hwhnaswnrachkar hnwynganrthwisahkic nayxaephx khrngthi 5 2558 ely 2558 hna 12 rayngankarprachumkhnakrmkarcnghwd hwhnaswnrachkar hnwynganrthwisahkic nayxaephx khrngthi 5 2558 ely 2558 hna 13 Zhang E P Yue and J Chen 2000 Cyprinidae Laleoninae p 171 272 In P Yue et al eds Fauna Sinica Osteichthyes Cypriniformes III Science Press Beijing 1 661