พญาการเมือง ทรงเป็น กษัตริย์น่าน องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ภูคา ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1898 - พ.ศ. 1905
พญาการเมือง | |
---|---|
กษัตริย์น่าน องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ภูคา | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1898 - พ.ศ. 1905 |
รัชกาล | 7 ปี |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | พญาผากอง |
ประสูติ | ณ เมืองวรนคร |
พิราลัย | พ.ศ. 1905 ณ เมืองภูเพียง |
พระมเหสี | พระนางเทวี |
พระราชบุตร | 1 พระองค์ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ภูคา |
พระบิดา | พญาผานอง |
พระมารดา | นางพญาปัว (อั้วสิม) |
พระราชประวัติ
พญาการเมือง มีพระนามเดิมว่า เจ้าการเมือง ประสูติ ณ เมืองวรนคร ทรงเป็นพระราชโอรสองค์แรกใน พญาผานอง ประสูติแต่พระนางวรนครเทวี และทรงมีพระอนุชาร่วมพระมารดา 6 พระองค์ มีรายพระนามดังนี้
- เจ้าการเมือง ภายหลังเป็น กษัตริย์น่าน องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ภูคา
- เจ้าเล่า
- เจ้ารื่น
- เจ้าบาจาย
- เจ้าควายตม
- เจ้าไส ภายหลังเป็น กษัตริย์น่าน องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์ภูคา
พระกรณียกิจ
ในพงศาวดารเมืองน่าน เล่าว่า ในสมัยเจ้าพระยาการเมือง ครองเมืองน่านอยู่ ก็ได้มี พระยาโสปัตตกันทิ เจ้าเมืองสุโขทัย ได้มาเชิญพระยาการเมือง ไปสร้างวัดหลวงอุทัยถึงสุโขทัย ซึ่งพระยาการเมืองก็ไปช่วย จนเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความดีความชอบ ที่พระยาการเมือง ได้ช่วยพระยาโสปัตกันทิ สร้างวัดหลวงอุทัย ทำให้พระยาโสปัตกันทิ มีความชื่นชอบพระยาการเมืองเป็นอันมาก ก่อนจะกลับเมืองน่าน ก็ได้มอบพระธาตุเจ้า 7 องค์ เพื่อตอบแทนที่พระยาการเมือง ได้มาสร้างคุณงามความดีให้แก่สุโขทัย ดังวรรณพระธาตุเจ้า 7 องค์นั้น คล้ายเมล็ดพรรณผักกาด มีวรรณดังแก้ว 3 องค์ วรรณดังมุก 2 องค์ วรรณะทองเท่าเมล็ดงาดำ 2 องค์ , พร้อมพระพิมพ์ทองคำ 20 องค์ พระพิมพ์เงิน 20 องค์ พระยาการเมืองนั้น เมื่อได้ของวิเศษด้วยความชื่นชมโสมนัส แล้วก็นำกลับมาแสดงแก่มหาเถรเจ้า ที่เมืองปัว ด้วยความชื่นชมโสมนัส แล้วถามพระมหาเจรเจ้าว่า ควรเอาประจุธาตุนี้ไว้ที่ใดเมื่อพระมหาเถรเจ้าพิจารณาดูที่ควรประจุธาตุนั้นแล้ว ก็กล่าวว่า “ ควรเอาไปประจุไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง ตรงที่ระหว่างกลางแม่น้ำเตี๋ยน และแม่น้ำลิง จึงจะเห็นสมควร เพราะภายภาคหน้า แผ่นดินนี้จะเป็นผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแผ่นดินที่เจริญสืบไป” .... เมื่อทราบดังนั้น พระยาการเมือง ก็ประกาศป่าวร้อง พสกนิกร และเหล่าเสนาอำมาตย์ พร้อมนิมนต์มหาเถรเจ้าลงไปด้วย มีการแห่นำเอา พระบรมธาตุเจ้ามาจากเมืองปัว มีดนตรีห้าจำพวกคือ ปี่ ฆ้อง กลองยาว ฉาบ และพิณ แห่เอาพระบรมธาตุเจ้าที่ได้ เดินทางไปตามลำน้ำน่านลงไปที่ภูเพียงแช่แห้ง การเดินทางครั้งนั้น ว่ากันว่า เป็นการเดินทางด้วยทางน้ำ เป็นขบวนแพ ซึ่งในขบวนแพเสด็จครั้งนี้ มีชายหญิงคู่หนึ่ง ชื่อ ปู่คำมา และย่าคำบี้ ทั้งคู่ต่างก็เป็นปฏิภาณกวี ได้ขับซอถ้อง ร้องโต้ตอบกัน สร้างความครึกครื้นให้กับขบวนเสด็จเป็นอันมาก ซึ่งซอครั้งนั้น เกิดจากการซอบรรยายความงดงามของทิวทัศน์ ของลำน้ำน่านขณะล่องแพ จึงกล่าวได้ว่า ปู่คำมาและย่าคำบี้ เป็นผู้ให้กำเนิดการซอเมืองน่าน ที่เรียกว่า “ ซอล่องน่าน” เมื่อมาถึง พระยาการเมืองทรงให้ช่างหล่อเต้าปูนสำริดไว้ 1 ต้น พร้อมกับเอาพระธาตุเจ้า พระพิมพ์เงิน พระพิมพคำ ใส่ลงไปในปูน แล้วปิดฝาทับ พร้อมกับพอกด้วย “ สะตายจีน” (ปูนขาวผสมยางไม้ และทรายละเอียด) ให้เกลี้ยงกลมดีและแข็งดังก้อนหิน พร้อมใช้ไพร่พลแต่งกายเป็นเทวบุตร เทวดา มเหสักข์ทั้งปวง นำพระมหาเถรเจ้าและพระยาการเมือง ไปยังหลุมพร้อมนำเอาพระธาตุเจ้าลงใส่ไปในเต้าปูนนั้น แล้วก็ได้ก่อเจดีย์ขึ้นสูงเหนือแผ่นดิน 1 วา มีการนิมนต์พระภิกษุสังฆะเจ้า กระทำการสมโภช พร้อมมีการสักการบูชา แล้วก็ยกรี้พลกลับเมืองปัว วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน ดังนั้น ครั้งแรกที่มีการสร้างพระธาตุแช่แห้งนั้น ไม่ใช่เจดีย์องค์ใหญ่อย่างที่พวกเราเห็นอยู่ทุกวันนี อยู่มาได้ไม่นานนัก พระยาการเมืองก็มีใจคิดถึงพระธาตุ อยากจะปฏิบัติไหว้สาองค์พระบรมสารีริกธาตุทุกวัน จึงยกรี้พลทั้งหลายเสด็จลงมาตั้งเมืองใกล้พระธาตุ ที่บ้านห้วยไค้ภูเพียง แช่แห้ง ขุดคู กำแพงดินรอบพระธาตุจนเสร็จสิ้น ณ บริเวณพระธาตุแช่แห้ง ให้ชื่อว่า “ เมืองภูเพียงแช่แห้ง”
พงศาวลี
พงศาวลีของพญากานเมือง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช), หน้า 120
ก่อนหน้า | พญากานเมือง | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
กษัตริย์น่าน องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ภูคา (พ.ศ. 1896 - พ.ศ. 1906) | พญาผากอง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phyakaremuxng thrngepn kstriynan xngkhthi 6 aehngrachwngsphukha khrxngrachyrahwangpi ph s 1898 ph s 1905phyakaremuxngkstriynan xngkhthi 6 aehngrachwngsphukhakhrxngrachyph s 1898 ph s 1905rchkal7 pikxnhnathdipphyaphakxngprasutin emuxngwrnkhrphiralyph s 1905 n emuxngphuephiyngphramehsiphranangethwiphrarachbutr1 phraxngkhrachwngsrachwngsphukhaphrabidaphyaphanxngphramardanangphyapw xwsim phrarachprawtiphyakaremuxng miphranamedimwa ecakaremuxng prasuti n emuxngwrnkhr thrngepnphrarachoxrsxngkhaerkin phyaphanxng prasutiaetphranangwrnkhrethwi aelathrngmiphraxnucharwmphramarda 6 phraxngkh mirayphranamdngni ecakaremuxng phayhlngepn kstriynan xngkhthi 6 aehngrachwngsphukha ecaela ecarun ecabacay ecakhwaytm ecais phayhlngepn kstriynan xngkhthi 5 aehngrachwngsphukhaphrakrniykicinphngsawdaremuxngnan elawa insmyecaphrayakaremuxng khrxngemuxngnanxyu kidmi phrayaospttknthi ecaemuxngsuokhthy idmaechiyphrayakaremuxng ipsrangwdhlwngxuthythungsuokhthy sungphrayakaremuxngkipchwy cnesrcsmburn dwykhwamdikhwamchxb thiphrayakaremuxng idchwyphrayaosptknthi srangwdhlwngxuthy thaihphrayaosptknthi mikhwamchunchxbphrayakaremuxngepnxnmak kxncaklbemuxngnan kidmxbphrathatueca 7 xngkh ephuxtxbaethnthiphrayakaremuxng idmasrangkhunngamkhwamdiihaeksuokhthy dngwrrnphrathatueca 7 xngkhnn khlayemldphrrnphkkad miwrrndngaekw 3 xngkh wrrndngmuk 2 xngkh wrrnathxngethaemldngada 2 xngkh phrxmphraphimphthxngkha 20 xngkh phraphimphengin 20 xngkh phrayakaremuxngnn emuxidkhxngwiessdwykhwamchunchmosmns aelwknaklbmaaesdngaekmhaethreca thiemuxngpw dwykhwamchunchmosmns aelwthamphramhaecrecawa khwrexapracuthatuniiwthiidemuxphramhaethrecaphicarnaduthikhwrpracuthatunnaelw kklawwa khwrexaippracuiwthidxyphuephiyngaechaehng trngthirahwangklangaemnaetiyn aelaaemnaling cungcaehnsmkhwr ephraaphayphakhhna aephndinnicaepnphunaephndinthixudmsmburn aelaepnaephndinthiecriysubip emuxthrabdngnn phrayakaremuxng kprakaspawrxng phsknikr aelaehlaesnaxamaty phrxmnimntmhaethrecalngipdwy mikaraehnaexa phrabrmthatuecamacakemuxngpw midntrihacaphwkkhux pi khxng klxngyaw chab aelaphin aehexaphrabrmthatuecathiid edinthangiptamlanananlngipthiphuephiyngaechaehng karedinthangkhrngnn waknwa epnkaredinthangdwythangna epnkhbwnaeph sunginkhbwnaephesdckhrngni michayhyingkhuhnung chux pukhama aelayakhabi thngkhutangkepnptiphankwi idkhbsxthxng rxngottxbkn srangkhwamkhrukkhrunihkbkhbwnesdcepnxnmak sungsxkhrngnn ekidcakkarsxbrryaykhwamngdngamkhxngthiwthsn khxnglananankhnalxngaeph cungklawidwa pukhamaaelayakhabi epnphuihkaenidkarsxemuxngnan thieriykwa sxlxngnan emuxmathung phrayakaremuxngthrngihchanghlxetapunsaridiw 1 tn phrxmkbexaphrathatueca phraphimphengin phraphimphkha islngipinpun aelwpidfathb phrxmkbphxkdwy sataycin punkhawphsmyangim aelathraylaexiyd ihekliyngklmdiaelaaekhngdngkxnhin phrxmichiphrphlaetngkayepnethwbutr ethwda mehskkhthngpwng naphramhaethrecaaelaphrayakaremuxng ipynghlumphrxmnaexaphrathatuecalngisipinetapunnn aelwkidkxecdiykhunsungehnuxaephndin 1 wa mikarnimntphraphiksusngkhaeca krathakarsmophch phrxmmikarskkarbucha aelwkykriphlklbemuxngpw wdphrathatuaechaehng c nan dngnn khrngaerkthimikarsrangphrathatuaechaehngnn imichecdiyxngkhihyxyangthiphwkeraehnxyuthukwnni xyumaidimnannk phrayakaremuxngkmiickhidthungphrathatu xyakcaptibtiihwsaxngkhphrabrmsaririkthatuthukwn cungykriphlthnghlayesdclngmatngemuxngiklphrathatu thibanhwyikhphuephiyng aechaehng khudkhu kaaephngdinrxbphrathatucnesrcsin n briewnphrathatuaechaehng ihchuxwa emuxngphuephiyngaechaehng phngsawliphngsawlikhxngphyakanemuxng 16 phyaphukha 8 phyakhunfxng 17 nangphyacapachaya 4 phyaekaekuxn 2 phyaphakxng 5 phranangkhaaedngethwi 1 phyakanemuxng 3 nangphyapw xwsim xangxingrachwngspkrn phngsawdaremuxngnan chbbphraecasuriyphngsphritedch hna 120 kxnhna phyakanemuxng thdipkstriynan xngkhthi 6 aehngrachwngsphukha ph s 1896 ph s 1906 phyaphakxng