สิงโตอินเดีย | |
---|---|
สิงโตอินเดียตัวผู้ (♂) ในอุทยานแห่งชาติป่ากีร์ | |
สิงโตอินเดียตัวเมีย (♀) ในอุทยานแห่งชาติป่ากีร์ | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Carnivora |
วงศ์: | Felidae |
สกุล: | Panthera |
สปีชีส์: | P. leo |
สปีชีส์ย่อย: | P. l. persica |
Panthera leo persica (, 1826) | |
แผนที่แสดงที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติป่ากีร์ (สีเขียว) แหล่งที่อาศัยแหล่งสุดท้ายในธรรมชาติของสิงโตอินเดียในปัจจุบัน | |
ชื่อพ้อง | |
|
สิงโตอินเดีย หรือ สิงโตเอเชีย หรือ สิงโตเปอร์เซีย (อาหรับ: أسد آسيوي; อังกฤษ: Indian lion, Asiatic lion, Persian lion; ชื่อวิทยาศาสตร์: Panthera leo persica) เป็นชนิดย่อยของสิงโตที่ยังหลงเหลือในปัจจุบัน
มีรูปร่างทั่วไปคล้ายสิงโตที่พบในทวีปแอฟริกา แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยตัวผู้เมื่อโตเต็มมีน้ำหนักประมาณ 160-190 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 110–120 กิโลกรัม ความยาวหัวถึงหางของตัวผู้ 2.92 เมตร ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของสิงโตอินเดีย คือ มีแผงคอทั้งตัวผู้และตัวเมีย และแผงคอของตัวผู้ไม่หนาและใหญ่เหมือนสิงโตในทวีปแอฟริกา มองเห็นใบหูเห็นชัดเจน ดังนั้นตัวผู้และตัวเมียจึงมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกันมาก นอกจากนี้แล้วยังมีหนังทอดยาวตลอดใต้ลำตัวซึ่งไม่พบในสิงโตในทวีปแอฟริกา ทั้งนี้เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกันเนื่องจากสิงโตอินเดียอาศัยอยู่ในป่าทึบไม่เหมือนกับสิงโตในแอฟริกาที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าโล่งกว้าง และทำให้สิงโตอินเดียเป็นสัตว์ที่แฝงตัวได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติรอบตัวในศรีลังกามีสิงโตอีกสายพันธ์คือ แต่สูญพันธ์เมื่อ32,000ปีก่อนไปพร้อมกับ มีซากฟอสซิลบางส่วนในพิพิธภัณฑ์ในศรีลังกา
ในอดีต มีการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง, เปอร์เซีย, อิรัก, ซีเรีย, อัฟกานิสถาน, ปากีสถานไปจนถึงมาซิโดเนียในกรีซ และ ศรีลังกา ด้วยแต่ปัจจุบันพบเหลือเพียงแห่งเดียวในธรรมชาติ คือ อุทยานแห่งชาติป่ากีร์ ในรัฐคุชราตทางตอนเหนือของอินเดียเท่านั้น และอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ แต่ได้เพิ่มจำนวนขึ้นจากเมื่อประมาณ 30 ปี ก่อนที่เหลือเพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้น เป็น 530 ตัวในปัจจุบัน และอยู่ในอัตราที่เพิ่มขึ้น
พฤติกรรมการรวมฝูงของสิงโตอินเดีย แตกต่างไปจากสิงโตในทวีปแอฟริกา กล่าวคือ มีขนาดฝูงที่เล็กกว่า โดยมีจำนวนอย่างมากที่สุดเพียง 5 ตัวเท่านั้น และอาจมีตัวเมียเพียง 2 ตัว และอาจมีตัวผู้เป็นจ่าฝูง 2 ตัวก็เป็นได้ โดยเป็นลักษณะร่วมปกครอง ขณะที่ตัวผู้จะเข้าร่วมฝูงก็ต่อเนื่องจะล่าเหยื่อหรือในการผสมพันธุ์เท่านั้น
ในวัฒนธรรมของอินเดีย มีสิงโตอยู่มากมาย เช่น หัวเสาหินสลักในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชที่เป็นรูปสิงโตอินเดีย รวมถึงปรัมปราในศาสนาฮินดูที่เป็นศาสนาพื้นเมืองของอินเดีย ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิงโตอยู่มาก ในความเชื่อของชาวอินเดีย สิงโตยังเป็นพาหนะของเทพเจ้าในศาสนาฮินดูอีกด้วย เช่น พระแม่อุมาเทวีหรือพระแม่ทุรคา
หรือแม้กระทั่งในประวัติศาสตร์ยุโรปเอง ก็มีภาพโมเสกของอเล็กซานเดอร์มหาราชทรงร่วมล่าสิงโตกับพระสหาย ซึ่งเชื่อว่าเป็นแม่ทัพชื่อ เฮฟฟาฮิสเตียน เชื่อว่าสิงโตชนิดนั้นก็คือ สิงโตอินเดีย นั่นเอง
ทางวัฒนธรรมจีน มีการละเล่น ซึ่งในประเทศจีนเองไม่มีสิงโตเป็นสัตว์พื้นเมือง เชื่อว่าเป็นการรับมาจากเปอร์เซีย ด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันผ่านเส้นทางสายไหม
สิงโตอินเดียตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 4 ปี ซึ่งมากกว่าสิงโตในทวีปแอฟริกา และจะออกลูกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายน และมีอายุขัยโดยเฉลี่ย 16–18 ปี ในตัวผู้ และตัวเมีย 17–18 ปี พบมากที่สุดคือ 21 ปี ถือว่ามากกว่าสิงโตทวีปแอฟริกา
รูปภาพ
- ภาพโมเสก อเล็กซานเดอร์มหาราชล่าสิงโตกับพระสหาย
- หัวเสาพระเจ้าอโศกมหาราชรูปสิงโตอินเดีย 4 ตัวหันหลังชนกัน ในปัจจุบันทางอินเดียถือเป็นตราแผ่นดิน
- หัวสิงโตในการเชิดสิงโตของจีน ซึ่งได้ต้นแบบมาจากสิงโตอินเดีย
- คู่สิงโตอินเดียตัวผู้และตัวเมีย ที่สวนสัตว์นูเรมเบิร์ก
อ้างอิง
- Breitenmoser, U., Mallon, D. P., Ahmad Khan, J. and Driscoll, C. (2008). "Panthera leo ssp. persica". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2012.2.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Wozencraft, W. C. (2005). "Order Carnivora". In Wilson, D. E.; Reeder, D. M. Mammal Species of the World (3rd ed.). Johns Hopkins University Press. p. 546. . OCLC 62265494.
- . ช่องนาว. 10 June 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-15. สืบค้นเมื่อ 19 June 2016.
- "ประวัติสิงโตเชิด ตอนที่1". my.dek-d.com/. 15 July 2012. สืบค้นเมื่อ 10 June 2014.
- ชีววิทยาของสิงโต[]
อ่านเพิ่ม
- (1856). A Narrative of a journey from Heraut to Khiva, Moscow and St. Petersburgh. Vol. 1. Khiva: James Madden. p. 26.
- Kaushik, H. (2005). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-22.
- Nair, S. M. (1999). Endangered Animals of India and their conservation. แปลโดย O. Henry Francis (English ed.). National Book Trust.
- Walker, S. (1994). . Zoo's Print: 2–22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-25.
- Schnitzler, A.; Hermann, L. (2019). "Chronological distribution of the tiger Panthera tigris and the Asiatic lion Panthera leo persica in their common range in Asia". . 49 (4): 340–353. doi:10.1111/mam.12166. S2CID 202040786.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์สิงโตอินเดีย (อังกฤษ)
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Panthera leo persica ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
singotxinediysingotxinediytwphu inxuthyanaehngchatipakirsingotxinediytwemiy inxuthyanaehngchatipakirsthanakarxnurksiklsuyphnthu IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Mammaliaxndb Carnivorawngs Felidaeskul Pantheraspichis P leospichisyxy P l persicaPanthera leo persica 1826 aephnthiaesdngthitngkhxngxuthyanaehngchatipakir siekhiyw aehlngthixasyaehlngsudthayinthrrmchatikhxngsingotxinediyinpccubnchuxphxngLeo leo goojratensis xinediy Leo leo persicus epxresiy source source source source source source source singotxinediyphsmphnthu singotxinediy hrux singotexechiy hrux singotepxresiy xahrb أسد آسيوي xngkvs Indian lion Asiatic lion Persian lion chuxwithyasastr Panthera leo persica epnchnidyxykhxngsingotthiynghlngehluxinpccubn miruprangthwipkhlaysingotthiphbinthwipaexfrika aetmikhnadelkkwa odytwphuemuxotetmminahnkpraman 160 190 kiolkrm twemiyhnkpraman 110 120 kiolkrm khwamyawhwthunghangkhxngtwphu 2 92 emtr lksnaednxikprakarhnungkhxngsingotxinediy khux miaephngkhxthngtwphuaelatwemiy aelaaephngkhxkhxngtwphuimhnaaelaihyehmuxnsingotinthwipaexfrika mxngehnibhuehnchdecn dngnntwphuaelatwemiycungmiruplksnthikhlayknmak nxkcakniaelwyngmihnngthxdyawtlxditlatwsungimphbinsingotinthwipaexfrika thngnienuxngcaksphaphaewdlxmthitangknenuxngcaksingotxinediyxasyxyuinpathubimehmuxnkbsingotinaexfrikathixasyxyuinthunghyaolngkwang aelathaihsingotxinediyepnstwthiaefngtwidxyangklmklunkbthrrmchatirxbtwinsrilngkamisingotxiksayphnthkhux aetsuyphnthemux32 000pikxnipphrxmkb misakfxssilbangswninphiphithphnthinsrilngka inxdit mikarkracayphnthuinphumiphakhtawnxxkklang epxresiy xirk sieriy xfkanisthan pakisthanipcnthungmasiodeniyinkris aela srilngka dwyaetpccubnphbehluxephiyngaehngediywinthrrmchati khux xuthyanaehngchatipakir inrthkhuchratthangtxnehnuxkhxngxinediyethann aelaxyuinsthanaiklsuyphnthu aetidephimcanwnkhuncakemuxpraman 30 pi kxnthiehluxephiyngimkisibtwethann epn 530 twinpccubn aelaxyuinxtrathiephimkhun phvtikrrmkarrwmfungkhxngsingotxinediy aetktangipcaksingotinthwipaexfrika klawkhux mikhnadfungthielkkwa odymicanwnxyangmakthisudephiyng 5 twethann aelaxacmitwemiyephiyng 2 tw aelaxacmitwphuepncafung 2 twkepnid odyepnlksnarwmpkkhrxng khnathitwphucaekharwmfungktxenuxngcalaehyuxhruxinkarphsmphnthuethann inwthnthrrmkhxngxinediy misingotxyumakmay echn hwesahinslkinsmyphraecaxoskmharachthiepnrupsingotxinediy rwmthungprmprainsasnahinduthiepnsasnaphunemuxngkhxngxinediy kmieruxngelaekiywkbsingotxyumak inkhwamechuxkhxngchawxinediy singotyngepnphahnakhxngethphecainsasnahinduxikdwy echn phraaemxumaethwihruxphraaemthurkha hruxaemkrathnginprawtisastryuorpexng kmiphaphomeskkhxngxelksanedxrmharachthrngrwmlasingotkbphrashay sungechuxwaepnaemthphchux ehffahisetiyn echuxwasingotchnidnnkkhux singotxinediy nnexng thangwthnthrrmcin mikarlaeln sunginpraethscinexngimmisingotepnstwphunemuxng echuxwaepnkarrbmacakepxresiy dwykaraelkepliynwthnthrrmknphanesnthangsayihm singotxinediytwemiyekhasuwyecriyphnthuemuxxayuid 4 pi sungmakkwasingotinthwipaexfrika aelacaxxklukinchwngeduxnkumphaphnththungtneduxnemsayn aelamixayukhyodyechliy 16 18 pi intwphu aelatwemiy 17 18 pi phbmakthisudkhux 21 pi thuxwamakkwasingotthwipaexfrikarupphaphphaphomesk xelksanedxrmharachlasingotkbphrashay hwesaphraecaxoskmharachrupsingotxinediy 4 twhnhlngchnkn inpccubnthangxinediythuxepntraaephndin hwsingotinkarechidsingotkhxngcin sungidtnaebbmacaksingotxinediy khusingotxinediytwphuaelatwemiy thiswnstwnuermebirkxangxingBreitenmoser U Mallon D P Ahmad Khan J and Driscoll C 2008 Panthera leo ssp persica IUCN Red List of Threatened Species Version 2012 2 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint multiple names authors list lingk Wozencraft W C 2005 Order Carnivora In Wilson D E Reeder D M Mammal Species of the World 3rd ed Johns Hopkins University Press p 546 ISBN 978 0 8018 8221 0 OCLC 62265494 chxngnaw 10 June 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 06 15 subkhnemux 19 June 2016 prawtisingotechid txnthi1 my dek d com 15 July 2012 subkhnemux 10 June 2014 chiwwithyakhxngsingot lingkesiy xanephim 1856 A Narrative of a journey from Heraut to Khiva Moscow and St Petersburgh Vol 1 Khiva James Madden p 26 Kaushik H 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 09 22 Nair S M 1999 Endangered Animals of India and their conservation aeplody O Henry Francis English ed National Book Trust Walker S 1994 Zoo s Print 2 22 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 08 25 Schnitzler A Hermann L 2019 Chronological distribution of the tiger Panthera tigris and the Asiatic lion Panthera leo persica in their common range in Asia 49 4 340 353 doi 10 1111 mam 12166 S2CID 202040786 aehlngkhxmulxunewbistsingotxinediy xngkvs wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb singotxinediy khxmulthiekiywkhxngkb Panthera leo persica thiwikispichis