ดีร์ก เบาตส์ (ดัตช์: Dirk Bouts; ราว ค.ศ. 1410/ค.ศ. 1420 - ค.ศ. 1475) เป็นจิตรกรสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาคนสำคัญของจิตรกรรมเนเธอร์แลนด์เริ่มแรกของประเทศเนเธอร์แลนด์ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนภาพสีน้ำมันและการเขียนบานพับภาพ
ดีร์ก เบาตส์ |
---|
จากหนังสือ Het Schilderboeck (ค.ศ. 1604) โดย (Karel van Mander) เบาตส์เกิดที่เมืองฮาร์เลมและทำงานส่วนใหญ่ที่เมืองเลอเฟิน มันเดอร์เขียนชีวประวัติของจิตรกรสองคน "ดีร์กแห่งฮาร์เลม" และ "ดีร์กแห่งเลอเฟิน" ซึ่งเป็นคนคนเดียวกัน ชีวิตเบื้องต้นไม่มีหลักฐานเท่าใดนัก แต่ดีร์ก เบาตส์ได้รับอิทธิพลจากยัน ฟัน ไอก์ และโรเคียร์ ฟัน เดอร์ไวเดิน ซึ่งอาจจะเป็นผู้ที่ดีร์กศึกษาด้วย หลักฐานครั้งแรกเกี่ยวกับดีร์กพบครั้งแรกที่เลอเฟินเมื่อปี ค.ศ. 1457 และบ่งว่าดีร์กทำงานที่นั่นจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1475
ดีร์ก เบาตส์เป็นจิตรกรคนแรกทางตอนเหนือของยุโรปที่ใช้จุดลับตาจุดเดียวเช่นในงานเขียน "พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" งานของดีร์กจะลักษณะแข็งแต่เต็มไปด้วยการแสดงออกทางอารมณ์ และการวางองค์ประกอบที่ดีและมีสีสันสวยงาม
งานเขียน (ก่อน ค.ศ. 1464)
งานเขียนชิ้นแรก ๆ ของดีร์ก เบาตส์ ก็ได้แก่งาน "บานพับภาพพระบุตร" (Infancy Triptych) ที่เขียนราวปี ค.ศ. 1445 ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ปราโดที่มาดริด ประเทศสเปน, งานฉากแท่นบูชา "ชะลอร่างจากกางเขน" ที่กรานาดาก็เขียนในระยะเวลาเดียวกันราวระหว่างปี ค.ศ. 1450 ถึงปี ค.ศ. 1460 และงานฉากแท่นบูชาที่ถูกแบ่งเป็นชิ้น ๆ ที่ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติที่บรัสเซลส์[1] 2007-09-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ที่ลอสแอนเจลิส[2], พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ลอนดอน[3], พิพิธภัณฑ์นอร์ตันไซมอนที่[4] และที่เป็นของเจ้าของส่วนบุคคลซึ่งเป็นงานที่มีขนาดเดียวกับ "Altarpiece of the Holy Sacrament" อาจเป็นงานจากยุคนี้ ส่วนภาพ "ปีเอตา"[5] อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปารีส
งานที่มีหลักฐาน : "ฉากแท่นบูชาศีลศักดิ์สิทธิ์" (ค.ศ. 1464-1468) และ "ความยุติธรรม" (ค.ศ. 1470-1475)
"พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" เป็นแผงกลางของ "" ในที่เลอเฟิน ที่จ้างโดยสมาคมภราดรภาพแห่งศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งเลอเฟินในปี ค.ศ. 1464 เส้นเชิงตั้งฉาก (orthogonal line) ทุกเส้นในห้องกลางมุ่งไปสู่จุดอันตรธานจุดเดียวที่เตาผิงเหนือพระเศียรของพระเยซู แต่ห้องเล็กด้านข้างมีจุดอันตรธานต่างหาก และทั้งห้องเล็กและจุดอันตรธานของห้องหลักตรงกับเส้นขอบฟ้าของภูมิทัศน์ที่มองเห็นจากหน้าต่าง ภาพ "พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" เป็นงานชิ้นที่สองที่ลงวันที่ (หลังจากภาพ "พระแม่มารีและพระบุตรบนบัลลังก์กับนักบุญเจอโรมและนักบุญฟรานซิส" โดยเปตรึส คริสตึส ที่แฟรงก์เฟิร์ต ใน ค.ศ. 1457) ที่แสดงความเข้าใจในการเขียนภาพที่ใช้ทัศนมิติของอิตาลี
นอกจากนั้นนักวิชาการยังตั้งข้อสังเกตว่างาน "พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" เป็นงานจิตรกรรมแผงของ ที่เขียนหัวเรื่องพระกระยาหารมื้อสุดท้าย แต่แผงกลางของเบาตส์มิได้เน้นเหตุการณ์ตามคำบรรยายในคัมภีร์ไบเบิลแต่แสดงภาพพระเยซูในบทของนักบวชผู้ทำพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ในพิธีมิสซา ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากภาพพระกระยาหารมื้อสุดท้ายอื่น ๆ ที่เขียนกันมาที่มักจะเน้นความทรยศของนักบุญจูดาส์ หรือการที่พระเยซูปลอบนักบุญจอห์น นอกจากนั้นเบาตส์ก็ยังเพิ่มความซับซ้อนในภาพโดยเพิ่มผู้รับใช้อีกสี่คน (สองคนที่โผล่หน้าต่างอีกสองคนยืนอยู่ในห้อง) ทั้งหมดแต่งตัวแบบเฟลมิช ที่เคยกล่าวกันว่าเป็นภาพเหมือนของเบาตส์เองและลูกชายสองคน แต่อันที่จริงแล้วผู้รับใช้ทั้งสี่น่าจะเป็นสมาชิกของสมาคมภราดรภาพผู้จ้างให้เบาตส์วาดภาพมากกว่า
นอกไปจากแผงกลาง "ฉากแท่นบูชาศีลศักดิ์สิทธิ์" แล้วฉากแท่นบูชาเดิมก็ยังมีแผงข้างประกบอีกข้างละสองแผง แต่เพราะแผงอื่นเป็นของพิพิธภัณฑ์ในเบอร์ลินและมิวนิกในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ฉะนั้นการพยายามสร้างบานพับภาพทั้งแผงตามแบบฉบับเดิมจึงเป็นการยากที่จะทำได้ ในปัจจุบันเชื่อกันว่าแผงที่มีภาพเอบราฮัมและ (Melchizedek) อยู่เหนือภาพการฉลองปัสกา (Passover Feast) ทางด้านซ้าย และแผงการเตรียมอาหารอยู่เหนืออีไลจาห์และเทวดาทางปีกขวา แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น
หลังจากที่ได้รับตำแหน่งจิตรกรประจำเมืองเลอเฟินในปี ค.ศ. 1468 แล้ว เบาตส์ก็ได้รับงานเขียนภาพอีกสองภาพจากสำนักงานเทศบาลเมือง ชิ้นแรกเป็นการเขียนภาพ "พระกระยาหารมื้อสุดท้าย" ระหว่างปี ค.ศ. 1468-1470 ซึ่งมีเพียงแผงปีสองแผงที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน "ถนนสู่สวรรค์" และ "Fall of the Damned" ในที่เมืองลีล (Lille) ในประเทศฝรั่งเศส และอีกชิ้นหนึ่ง "ภาพครึ่งตัวของพระเยซู 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน" จากแผงกลางที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่กรุงสต็อกโฮล์ม หลังจากนั้นเบาตส์ก็เขียนงานชิ้นใหญ่สำหรับงานเขียนจิตรกรรมแผง "ความยุติธรรม" (Justice Panels) [6][7] ระหว่างปี ค.ศ. 1470-1475 ซึ่งเป็นงานที่เขียนจนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1475 เบาตส์เขียนแผงหนึ่งเสร็จและเริ่มเขียนแผงที่สอง ทั้งสองแผงเป็นภาพชีวิตของจักรพรรดิออทโทที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่มีชีวิตอยู่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันทั้งสองแผงตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ที่บรัสเซลส์ แต่อีกสองแผงที่ตั้งใจจะเขียนเขียนไม่เสร็จ
จิตรกรรมศาสนาและภาพเหมือน
งานหลายชิ้นของเบาตส์เป็นงานจิตรกรรมแผงชิ้นเล็กที่มักจะเป็นภาพพระแม่มารีและพระบุตร เช่นภาพ "พระแม่มารีและพระบุตรเดวิส"[8] ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน นครนิวยอร์ก ที่การวางองค์ประกอบทำตามสูตรของภาพไอคอนของน็อทร์-ดาม-เด-กราส (Notre-Dame-des-Grâces) ที่ตั้งอยู่ที่ในประเทศฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1454 และ "พระแม่มารีและพระบุตรซอลติง"[9] ที่หอศิลป์แห่งชาติ ลอนดอน ที่ถือกันว่าเป็นงานชิ้นที่ดีที่สุดในบรรดางานวาดพระแม่มารีที่เบาตส์เขียน
ในการเขียนภาพเหมือน เบาตส์ขยายลักษณะการเขียนจากวิธีการเขียนภาพเหมือนที่ก่อตั้งโดยโรเบิร์ต กัมปิน, ยัน ฟัน ไอก์, โรเคียร์ ฟัน เดอร์ไวเดิน และเปตรึส คริสตึส ภาพ "ภาพเหมือนชาย"[10] ที่เขียนในปี ค.ศ. 1462 ที่หอศิลป์แห่งชาติ ลอนดอน เป็นภาพแรกที่ผู้เป็นแบบแสดงหน้าสามในสี่และฉากหลังที่เป็นทิวทัศน์ที่มองเห็นจากหน้าต่าง งานอีกชิ้นหนึ่งที่น่าจะเป็นงานของเบาตส์คือ "ภาพเหมือนชาย" ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน ซึ่งใบหน้าคล้ายกับตัวแบบบางคนในจิตรกรรมแผง "ความยุติธรรม" ที่เขียนระหว่างปี ค.ศ. 1470-1475 ภาพเหมือนอื่นที่เกี่ยวข้องกับเบาตส์ก็เช่นงานที่หอศิลป์แห่งชาติในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และที่แอนต์เวิร์ป แต่ก็ยังเป็นงานที่ยังเป็นปัญหาในการสันนิษฐาน
งานเขียนที่เป็นปัญหาที่มิวนิก
งานสองชิ้นของเบาตส์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก่าในมิวนิกยังสร้างความกังขาให้กับนักประวัติศาสตร์ งานชิ้นแรกจากสองชิ้นที่ว่านี้คือบานพับภาพ "ไข่มุกแห่งบราแบนต์"[11] ที่นักเขียนหลายคนพยายามแยกออกจากงานเขียนที่แท้จริงของเบาตส์มาตั้งแต่ ค.ศ. 1902 แต่จากการค้นคว้าเมื่อไม่นานมานี้ไม่สนับสนุนข้อเสนอนี้ อีกชิ้นหนึ่งเป็นแผงคู่ภาพทุกขกิริยาของพระเยซูที่ประกอบด้วย "การทรยศต่อพระเยซู" และ "พระเยซูคืนชีพ" ซึ่งเดิมเชื่อกันเป็นเวลานานว่าเป็นงานสมัยแรกของเบาตส์ แต่จากการตรวจสอบวงแหวนของไม้ก็พบว่างานชิ้นนี้สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1475 ใกล้ ๆ กับเวลาที่เบาตส์เสียชีวิต แต่งานเขียน "Master of the Munich Betrayal" ของโชเนอในปี ค.ศ. 1938 ตั้งข้อสันนิษฐานที่น่าเชื่อถือมากกว่า
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ดีร์ก เบาตส์
- ภาพเขียนของดีร์ก เบาตส์ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเว็บ
ระเบียงภาพ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
dirk ebats dtch Dirk Bouts raw kh s 1410 kh s 1420 kh s 1475 epncitrkrsmyfunfusilpwithyakhnsakhykhxngcitrkrrmenethxraelnderimaerkkhxngpraethsenethxraelndinkhriststwrrsthi 15 mikhwamechiywchaythangkarekhiynphaphsinamnaelakarekhiynbanphbphaphdirk ebats cakhnngsux Het Schilderboeck kh s 1604 ody Karel van Mander ebatsekidthiemuxngharelmaelathanganswnihythiemuxngelxefin mnedxrekhiynchiwprawtikhxngcitrkrsxngkhn dirkaehngharelm aela dirkaehngelxefin sungepnkhnkhnediywkn chiwitebuxngtnimmihlkthanethaidnk aetdirk ebatsidrbxiththiphlcakyn fn ixk aelaorekhiyr fn edxriwedin sungxaccaepnphuthidirksuksadwy hlkthankhrngaerkekiywkbdirkphbkhrngaerkthielxefinemuxpi kh s 1457 aelabngwadirkthanganthinncnkrathngesiychiwitemuxpi kh s 1475 dirk ebatsepncitrkrkhnaerkthangtxnehnuxkhxngyuorpthiichcudlbtacudediywechninnganekhiyn phrakrayaharmuxsudthay ngankhxngdirkcalksnaaekhngaetetmipdwykaraesdngxxkthangxarmn aelakarwangxngkhprakxbthidiaelamisisnswyngamnganekhiyn kxn kh s 1464 nganekhiynchinaerk khxngdirk ebats kidaekngan banphbphaphphrabutr Infancy Triptych thiekhiynrawpi kh s 1445 pccubntngaesdngxyuthiphiphithphnthpraodthimadrid praethssepn nganchakaethnbucha chalxrangcakkangekhn thikranadakekhiyninrayaewlaediywknrawrahwangpi kh s 1450 thungpi kh s 1460 aelanganchakaethnbuchathithukaebngepnchin thitngaesdngxyuthiphiphithphnthtang idaek phiphithphnthwicitrsilpaehngchatithibrsesls 1 2007 09 26 thi ewyaebkaemchchin thilxsaexneclis 2 phiphithphnthsthanaehngchatithilxndxn 3 phiphithphnthnxrtnismxnthi 4 aelathiepnkhxngecakhxngswnbukhkhlsungepnnganthimikhnadediywkb Altarpiece of the Holy Sacrament xacepnngancakyukhni swnphaph piexta 5 xyuthiphiphithphnthlufwrinparisnganthimihlkthan chakaethnbuchasilskdisiththi kh s 1464 1468 aela khwamyutithrrm kh s 1470 1475 phrakrayaharmuxsudthay kh s 1464 1467 phrakrayaharmuxsudthay epnaephngklangkhxng inthielxefin thicangodysmakhmphradrphaphaehngsilskdisiththiaehngelxefininpi kh s 1464 esnechingtngchak orthogonal line thukesninhxngklangmungipsucudxntrthancudediywthietaphingehnuxphraesiyrkhxngphraeysu aethxngelkdankhangmicudxntrthantanghak aelathnghxngelkaelacudxntrthankhxnghxnghlktrngkbesnkhxbfakhxngphumithsnthimxngehncakhnatang phaph phrakrayaharmuxsudthay epnnganchinthisxngthilngwnthi hlngcakphaph phraaemmariaelaphrabutrbnbllngkkbnkbuyecxormaelankbuyfransis odyeptrus khristus thiaefrngkefirt in kh s 1457 thiaesdngkhwamekhaicinkarekhiynphaphthiichthsnmitikhxngxitali nxkcaknnnkwichakaryngtngkhxsngektwangan phrakrayaharmuxsudthay epnngancitrkrrmaephngkhxng thiekhiynhweruxngphrakrayaharmuxsudthay aetaephngklangkhxngebatsmiidennehtukarntamkhabrryayinkhmphiribebilaetaesdngphaphphraeysuinbthkhxngnkbwchphuthaphithisilskdisiththiinphithimissa sungaetktangxyangmakcakphaphphrakrayaharmuxsudthayxun thiekhiynknmathimkcaennkhwamthryskhxngnkbuycudas hruxkarthiphraeysuplxbnkbuycxhn nxkcaknnebatskyngephimkhwamsbsxninphaphodyephimphurbichxiksikhn sxngkhnthiophlhnatangxiksxngkhnyunxyuinhxng thnghmdaetngtwaebbeflmich thiekhyklawknwaepnphaphehmuxnkhxngebatsexngaelalukchaysxngkhn aetxnthicringaelwphurbichthngsinacaepnsmachikkhxngsmakhmphradrphaphphucangihebatswadphaphmakkwa nxkipcakaephngklang chakaethnbuchasilskdisiththi aelwchakaethnbuchaedimkyngmiaephngkhangprakbxikkhanglasxngaephng aetephraaaephngxunepnkhxngphiphithphnthinebxrlinaelamiwnikinkhriststwrrsthi 19 channkarphyayamsrangbanphbphaphthngaephngtamaebbchbbedimcungepnkaryakthicathaid inpccubnechuxknwaaephngthimiphaphexbrahmaela Melchizedek xyuehnuxphaphkarchlxngpska Passover Feast thangdansay aelaaephngkaretriymxaharxyuehnuxxiilcahaelaethwdathangpikkhwa aetthnghmdnikepnephiyngkhxsnnisthanethann hlngcakthiidrbtaaehnngcitrkrpracaemuxngelxefininpi kh s 1468 aelw ebatskidrbnganekhiynphaphxiksxngphaphcaksanknganethsbalemuxng chinaerkepnkarekhiynphaph phrakrayaharmuxsudthay rahwangpi kh s 1468 1470 sungmiephiyngaephngpisxngaephngthiyngkhngxyuinpccubn thnnsuswrrkh aela Fall of the Damned inthiemuxnglil Lille inpraethsfrngess aelaxikchinhnung phaphkhrungtwkhxngphraeysu 2007 09 27 thi ewyaebkaemchchin cakaephngklangthixyuthiphiphithphnthaehngchatithikrungstxkohlm hlngcaknnebatskekhiynnganchinihysahrbnganekhiyncitrkrrmaephng khwamyutithrrm Justice Panels 6 7 rahwangpi kh s 1470 1475 sungepnnganthiekhiyncnkrathngesiychiwitinpi kh s 1475 ebatsekhiynaephnghnungesrcaelaerimekhiynaephngthisxng thngsxngaephngepnphaphchiwitkhxngckrphrrdixxthoththi 3 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththi thimichiwitxyurawkhriststwrrsthi 11 pccubnthngsxngaephngtngaesdngxyuthiphiphithphnththibrsesls aetxiksxngaephngthitngiccaekhiynekhiynimesrccitrkrrmsasnaaelaphaphehmuxn phraaemmariaelaphrabutr kh s 1460 1465 nganhlaychinkhxngebatsepnngancitrkrrmaephngchinelkthimkcaepnphaphphraaemmariaelaphrabutr echnphaph phraaemmariaelaphrabutredwis 8 thiphiphithphnthemothroplitn nkhrniwyxrk thikarwangxngkhprakxbthatamsutrkhxngphaphixkhxnkhxngnxthr dam ed kras Notre Dame des Graces thitngxyuthiinpraethsfrngessinpi kh s 1454 aela phraaemmariaelaphrabutrsxlting 9 thihxsilpaehngchati lxndxn thithuxknwaepnnganchinthidithisudinbrrdanganwadphraaemmarithiebatsekhiyn inkarekhiynphaphehmuxn ebatskhyaylksnakarekhiyncakwithikarekhiynphaphehmuxnthikxtngodyorebirt kmpin yn fn ixk orekhiyr fn edxriwedin aelaeptrus khristus phaph phaphehmuxnchay 10 thiekhiyninpi kh s 1462 thihxsilpaehngchati lxndxn epnphaphaerkthiphuepnaebbaesdnghnasaminsiaelachakhlngthiepnthiwthsnthimxngehncakhnatang nganxikchinhnungthinacaepnngankhxngebatskhux phaphehmuxnchay thiphiphithphnthemothroplitn sungibhnakhlaykbtwaebbbangkhnincitrkrrmaephng khwamyutithrrm thiekhiynrahwangpi kh s 1470 1475 phaphehmuxnxunthiekiywkhxngkbebatskechnnganthihxsilpaehngchatiinkrungwxchingtn di si aelathiaexntewirp aetkyngepnnganthiyngepnpyhainkarsnnisthannganekhiynthiepnpyhathimiwnikngansxngchinkhxngebatsthiphiphithphnthsilpaekainmiwnikyngsrangkhwamkngkhaihkbnkprawtisastr nganchinaerkcaksxngchinthiwanikhuxbanphbphaph ikhmukaehngbraaebnt 11 thinkekhiynhlaykhnphyayamaeykxxkcaknganekhiynthiaethcringkhxngebatsmatngaet kh s 1902 aetcakkarkhnkhwaemuximnanmaniimsnbsnunkhxesnxni xikchinhnungepnaephngkhuphaphthukkhkiriyakhxngphraeysuthiprakxbdwy karthrystxphraeysu aela phraeysukhunchiph sungedimechuxknepnewlananwaepnngansmyaerkkhxngebats aetcakkartrwcsxbwngaehwnkhxngimkphbwanganchinnisrangkhunpramanpi kh s 1475 ikl kbewlathiebatsesiychiwit aetnganekhiyn Master of the Munich Betrayal khxngochenxinpi kh s 1938 tngkhxsnnisthanthinaechuxthuxmakkwaduephimcitrkrrmaephng banphbphaph silpakhrisetiyn smyfunfusilpwithyaaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb dirk ebats phaphekhiynkhxngdirk ebats thiphiphithphnthsilpaewbraebiyngphaphbanphaphphb ikhmukaehngbraaebnt karnmskarkhxngohracary raw kh s 1455 phiphithphnthsilpaeka miwnik banphaphphbsilskdisiththi raw kh s 1464 1467 obsthnkbuypietxr elxefin ebleyiym raw kh s 1450 1460 phiphithphnthnxrtnismxn aephsadina shrthxemrika phraeysuprakttwepnkhrngthi 3 khwamyutithrrm karkhaekhantphubrisuththi raw kh s 1460 khwamyutithrrm thrmanif raw kh s 1460 phraaemmariedwis raw kh s 1455 60 phraaemmarisxlting raw kh s 1465 phaphehmuxnphuchay kh s 1462 phaphehmuxnphuchay raw kh s 1460 1470