ปริซึมไดโครอิก (dichroic prism) เป็นปริซึมชนิดหนึ่งที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแยกลำแสง ซึ่งแยกลำแสงออกเป็น 2 ลำขึ้นไป ที่มี ความยาวคลื่น (สี) ต่างกัน ประกอบด้วยปริซึมตั้งแต่ 1 อันขึ้นไป ซึ่งมีสมบัติไดโครอิกหรือเกิดการสะท้อนหรือหักเหของวัสดุเคลือบเชิงแสง ทำให้สามารถแยกความยาวคลื่นที่ต้องการออกมาตามลำดับ ด้วยเหตุนี้ พื้นผิวบางส่วนภายในปริซึมจึงถูกทำเป็นตัวกรองไดโครอิก ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแยกลำแสงในอุปกรณ์ทางแสงหลายชนิด
ประโยชน์ใช้งานอย่างหนึ่งของปริซึมไดโครอิกคือใช้สำหรับการถ่ายภาพดิจิทัลคุณภาพสูงหรือใช้เป็นกล้องถ่ายวิดีโอ ปริซึมไดโครอิก 3 สีชนิดหนึ่งประกอบด้วยชุดปริซึมไดโครอิก 2 สี ซึ่งสามารถแยกเป็น สีแดง สีเขียว และ สีน้ำเงิน ดังนั้นจึงสามารถใช้เป็น CCD ได้
ภาพประกอบแสดงให้เห็นการกำหนดค่าโดยทั่วไปของปริซึมไดโครอิก โดยลำแสงเข้าสู่ปริซึมก้อนแรก (A) และองค์ประกอบสีน้ำเงินของลำแสงจะสะท้อนโดยชั้นเคลือบของ (F1) แสงสีน้ำเงินคือแสงความถี่สูงที่มีความยาวคลื่นสั้น ในขณะที่แสงความถี่ต่ำที่มีความยาวคลื่นยาวกว่าจะสามารถทะลุผ่านไปได้ หลังจากที่แสงสีน้ำเงินเกิดการสะท้อนกลับทั้งหมดไปยังด้านหนึ่งแล้ว จะถูกปล่อยออกมาจากปริซึม A ส่วนแสงส่วนที่เหลือจะเข้าสู่ปริซึม (B) และถูกแยกออกโดยชั้นเคลือบที่ 2 (F2) ซึ่งแสงสีแดงจะสะท้อนออกมาในขณะที่แสงที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าสามารถผ่านไปได้ แสงสีแดงยังถูกสะท้อนด้วยช่องว่างอากาศเล็ก ๆ ระหว่าง A และ B จากนั้นองค์ประกอบสีเขียวที่เหลืออยู่ของแสงจะเข้าสู่ปริซึม C
ปริซึมประกอบ 3 สีเช่นนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่นในเครื่องฉายภาพยนตร์ โดยผสมสีแดง เขียว และน้ำเงินเพื่อสร้างภาพสีขึ้นมา
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
prisumidokhrxik dichroic prism epnprisumchnidhnungthisamarththahnathiepntwaeyklaaesng sungaeyklaaesngxxkepn 2 lakhunip thimi khwamyawkhlun si tangkn prakxbdwyprisumtngaet 1 xnkhunip sungmismbtiidokhrxikhruxekidkarsathxnhruxhkehkhxngwsduekhluxbechingaesng thaihsamarthaeykkhwamyawkhlunthitxngkarxxkmatamladb dwyehtuni phunphiwbangswnphayinprisumcungthukthaepntwkrxngidokhrxik sungthahnathiepntwaeyklaaesnginxupkrnthangaesnghlaychnidesnthangedinaesngsitang phayinprisumidokhrxikprisumidokhrxik praoychnichnganxyanghnungkhxngprisumidokhrxikkhuxichsahrbkarthayphaphdicithlkhunphaphsunghruxichepnklxngthaywidiox prisumidokhrxik 3 sichnidhnungprakxbdwychudprisumidokhrxik 2 si sungsamarthaeykepn siaedng siekhiyw aela sinaengin dngnncungsamarthichepn CCD id phaphprakxbaesdngihehnkarkahndkhaodythwipkhxngprisumidokhrxik odylaaesngekhasuprisumkxnaerk A aelaxngkhprakxbsinaenginkhxnglaaesngcasathxnodychnekhluxbkhxng F1 aesngsinaenginkhuxaesngkhwamthisungthimikhwamyawkhlunsn inkhnathiaesngkhwamthitathimikhwamyawkhlunyawkwacasamarththaluphanipid hlngcakthiaesngsinaenginekidkarsathxnklbthnghmdipyngdanhnungaelw cathukplxyxxkmacakprisum A swnaesngswnthiehluxcaekhasuprisum B aelathukaeykxxkodychnekhluxbthi 2 F2 sungaesngsiaedngcasathxnxxkmainkhnathiaesngthimikhwamyawkhlunsnkwasamarthphanipid aesngsiaedngyngthuksathxndwychxngwangxakaselk rahwang A aela B caknnxngkhprakxbsiekhiywthiehluxxyukhxngaesngcaekhasuprisum C prisumprakxb 3 siechnnisamarthnamaichpraoychnhlayxyang echninekhruxngchayphaphyntr odyphsmsiaedng ekhiyw aelanaenginephuxsrangphaphsikhunma