พระศรีนครเตาท้าวเธอ หรือที่ชาวอำเภอรัตนบุรีเรียกว่า "เจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอ" เป็นเจ้าเมืองรัตนบุรีคนแรก มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 2252–2338 รัชสมัยราชอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีผลงานสำคัญต่อราชสำนักอยุธยาในการจับพระยาช้างเผือกคืนสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ปกครองบ้านเมืองเตา ณ ปัจจุบันคือ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
พระศรีนครเตาท้าวเธอ | |
---|---|
เกิด | พ.ศ. 2252 อัตปือ-แสนแป ราชอาณาจักรล้านช้าง |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2338 (86 ปี) บ้านไพรขลา อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) |
ประวัติ
พระศรีนครเตาท้าวเธอ เดิมชื่อ สี หรือเชียงสี (ในภาษากูยเรียก ตากะอาม) เดิมเป็นชาวอัตปือ-แสนแปราชอาณาจักรล้านช้าง มีอาชีพเป็นนักรบใต้บังคับบัญชาหน้าเผ่าลาว ชื่อขุนเจือง มีความชำนาญในการคล้องช้าง และใช้ช้างในการศึกสงคราม ต่อมาหัวหน้าเผ่าลาวได้สิ้นชีวิต อำนาจกูยแถบบริเวณนั้นเสื่อมอำนาจลง เชียงสีและพวก จึงได้ย้ายถิ่นฐานเข้าสู่ดินแดนอาณาจักรอยุธยา ในปี 2199–2231 โดยมุ่งหน้าสู่ฝั่งขวาแม่นํ้าโขง บริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนที่จะเข้าสู่บริเวณอีสานใต้ในปัจจุบัน และได้แบ่งพวกออกเป็นหลายกลุ่มเพื่อตั้งถิ่นฐาน ดังนี้
- พวกที่ 1 มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านเมืองที (บ้านเมืองที ตำบลเมืองที อำเภอเมืองสุรินทร์) หัวหน้ากลุ่มชื่อ “เชียงปุม”
- พวกที่ 2 มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านกุดหวาย (ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี) หัวหน้ากลุ่มชื่อ “เชียงสี”
- พวกที่ 3 มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านเมืองลีง (เขตอำเภอจอมพระ) หัวหน้ากลุ่มชื่อ “เชียงสง”
- พวกที่ 4 มาตั้งถื่นฐานที่บ้านโคกลำดวน (เขตอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ) หัวหน้ากลุ่มชื่อ “เชียงขัน หรือ ตากะจะ”
- พวกที่ 5 มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านอัจจะปะนึง หรือ “โคกอัจจะ” (เขตอำเภอสังขะ) หัวหน้ากลุ่มชื่อ “เชียงฆะ”
- พวกที่ 6 มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านกุดปะไท (บ้านจาระพัตร อำเภอศีขรภูมิ) หัวหน้ากลุ่มชื่อ “เชียงชัย”
พ.ศ. 2302 สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลของสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) เกิดช้างเผือกแตกโรงออกจากเมืองหลวง เข้าไปทางทิศตะวันออก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้เจ้าสองพี่น้อง (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและ เจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิราช)กับไพร่พล 30 นาย ออกติดตามมาถึงเมืองพิมายและได้ทราบจากเจ้าเมืองพิมายว่า ในดงริมเขามีส่วยซึ่งชำนาญในการจับช้างและเลี้ยงช้างอยู่ หากสืบหาจากพวกส่วยนี้จะทราบเรื่อง เจ้าสองพี่น้องกับไพร่พลจึงติดตามไป และได้พบกับเชียงสี หัวหน้าบ้านกุดหวาย เจ้าสองพี่น้องจึงขอร้องให้ช่วยจับพระยาช้างคืนราชสำนักอยุธยา เชียงสีเมื่อได้ทราบเช่นนั้นแล้วจึงรับปากที่จะช่วยเหลือ และได้พาไปเข้าพบกับพวกทั้ง4 คือ เชียงปุ้ม เชียงฆะ เชียงขัน
เมื่อพบหัวหน้าทั้งหมดแล้ว เชียงฆะได้แจ้งแก่เจ้าสองพี่น้องและคณะว่า พบช้างพลายที่งา มีเครื่องประดับนำช้างมาเล่นน้ำที่หนองโชคในตอนบ่ายๆ ทุกวัน ทั้งหมดจึงไปที่หนองโชค เมื่อไปถึงก็คอยดูโขลงช้างที่จะมาเล่นน้ำ เมื่อถึงเวลา โขลงช้างประมาณ 50–60 เชือก ก็พากันมาลงเล่นน้ำ ทีแรกไม่ทราบว่าเครื่องไหนเป็นช้างเผือก เพราะช้างเล่นคลุกโคลนตมดำเต็มตัว จึงเหมือนกันหมดโขลง พอช้างลงเล่นน้ำ ช้างเผือก 2 เชือกก็ปรากฏทันที เชียงสีกับพวกจึงใช้พิธีกรรมทางไสยศาสตร์จับช้าง
เมื่อเจ้าสองพี่น้องและคณะจับช้างได้แล้ว ได้พากันมาที่บ้านเชียงไชย ได้เวลาสมควรก็อำลากลับ ก่อนกลับได้สั่งพวกทั้งหกว่า ขอให้ไปเยี่ยมบ้างในฐานะเพื่อนฝูงกัน เราจะกราบทูลพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงทราบ เพื่อจะได้โปรดฯ พระราชทานความชอบให้ ทั้งหกรับคำและลาจากกัน โดยมีเชียงสีตามส่งจนพ้นเขตแดนเมืองพิมายตามลำดับ ต่อมาเชียงสีและพวกจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นหัวหน้าปกครองหมู่บ้านของตน โดยทำราชการขึ้นตรงต่อเมืองพิมาย มีดังนี้
- เชียงสีได้เป็น หลวงศรีนครเตาท้าวเธอ
- เชียงฆะ ได้เป็น หลวงสังฆะบุรีศรีอจจะ
- เชียงปุม ได้เป็น หลวงสุรินทร์เสน่หา (ภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาสุรินทร์ภัคดี)
- เชียงชัย ได้เป็น ขุนชัยสุริยวงศ์
ด้วยความจงรักภักดีต่อบ้านเมืองช่วยราชการงานศึกสงคราม มีความดีความชอบและได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์เป็น "พระศรีนครเตาท้าวเธอ" ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองรัตนบุรี จนถึงวาระสุดท้าย พระศรีนครเตาท้าวเธอปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุข ร่มเย็นมาโดยตลอด และเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีที่ได้ทำให้แก่ชาติบ้านเมือง ชาวอำเภอรัตนบุรี จึงรวมใจสร้างอนุสาวรีย์ของพระศรีนครเตาท้าวเธอ ณ สวนสาธารณะศรีนครเตาท้าวเธอ ถนนศรีนคร อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ และจัดให้มีงานสมโภชน์ สักการะทุกๆปี
ลุเข้ามาเมื่อใดมิทราบได้ ในช่วงรัชกาลที่ 1 ได้มีพระราชสาส์นเกี่ยวกับการศึก ผ่านเข้ามายังเมืองศรีนครเตา(ขณะนั้นยังไม่เปลี่ยนชื่อนามเมือง) ในขณะนั้นพระศรีนครเตาไม่อยู่ในเมืองไปทำธุระข้างนอก เเต่ภรรยาพระศรีนครเตาเป็นผู้รับหนังสือพระราชสาสน์เเทน มีบางกระเเสว่าภรรยาเป็นผู้เปิดอ่านเองโดยไม่ได้ตั้งใจ เเต่ก็มีบางกระเเสที่ว่า อุปราชเมืองรัตนบุรีเป็นผู้เปิดอ่านเองเเล้วโยนความผิดให้เจ้าเมือง ส่งผลให้พระศรีนครเตาท้าวเธอโดนอาญาเเผ่นดิน ถูกประหารโดยการเอาขวานผ่าอกจนตาย ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2356 ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ท้าวโอ๊ะ หลานของเจ้าแก้วมงคลแห่งเมืองท่ง (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองสุวรรณภูมิ ปัจจุบันคือ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด) ได้กล่าวโทษเจ้าเมืองสุวรรณภูมิว่า เจ้าเมืองสุวรรณภูมิ เบียดเบียนข่มเหงประชาชน และบังคับเอาลูกเมียคนอื่น มาเป็นภรรยาของตน ราชสำนักกรุงเทพฯ ได้สอบสวนเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ (ท้าวอ่อน) พบว่ามีความผิดจริง จึงโปรดฯ ให้ถอดออกจากเจ้าเมือง และทรงตั้งให้ท้าวโอ๊ะเป็นเจ้าเมืองสุวรรณภูมิมีบรรดาศักดิ์เป็น “พระรัตนวงศา” อันเป็นปีเดียวกันที่ฝ่ายเจ้าเมืองศรีนครเตา (คนต่อมา) ได้นำความกราบบังคมทูลโดยมีใบบอกไปยังราชสำนักด้วย จึงโปรดฯ ให้เปลี่ยนนามเมืองศรีนครเตาเป็น “เมืองรัตนบุรี” และนามเจ้าเมืองจาก “พระศรีนครเตา” เป็น พระศรีนครชัย” ซึ่งหมายถึงชัยชนะ อาจเป็นไปได้ว่า พระศรีนครชัยเป็นเชื้อสายของเจ้าแก้วมงคล คือเป็นลูกหลานของเจ้าแก้วมงคลอีกท่านหนึ่ง เจ้าเมืองรัตนบุรีที่ได้เปลี่ยนนามเป็น “พระศรีนครชัย” มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับเจ้าแก้วมงคลในชั้นหลาน ชาวลาวในเขตเมืองสุวรรณภูมิจึงได้เข้ามาอยู่ในเขตเมืองรัตนบุรีมากขึ้น สังคมและวัฒนธรรมของชาวเมืองสุวรรณภูมิจึงไหลบ่า เข้าสู่เมืองรัตนบุรีและกลายเป็นเมืองของชาวไทยลาวในที่สุด
บรรดาศักดิ์
- หลวงศรีนครเตาท้าวเธอ (เชียงสี หรือตากะอาม)
- พระศรีนครเตาท้าวเธอ (เชียงสี หรือตากะอาม)
พงศาวดารเอกสารประวัติศาสตร์
ในพงศาวดารภาคอีสานของพระยาขัติยวงษา (เหลา ณ ร้อยเอ็จ) แก้ไข ในพงศาวดารภาคอีสาน ฉะบับของพระยาขัติยวงษา (เหลา ณ ร้อยเอ็จ) พิมพ์ในงานปลงศพนางศรีสุภา (โต เอี่ยมศิริ) ณเชิงบรมบรรพต วัดสระเกส เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๓๒ กล่าวว่า
...ครั้นครบพรรษาหนึ่ง พระเจ้าเวียงจันทน์ จึงพร้อมพระครูทั้งหลายฮดภิกษุบวชใหม่ให้นามว่า พระครูโพนเสม็ดบ้าง บางคนก็เรียกว่าพระครูสีดาตามนามเดิม ท่านพระครูรักษาศีลบริสุทธิ์ ไม่ช้านานเท่าใด ก็ได้อภิญญา ๕ อัฐฐสมาบัติ ๘ ประการ สำเร็จไปด้วยฌาน จะว่าสิ่งใดก็แม่นยำโดยบารมีธรรม โปรดสำเร็จดังมโนนึกความปรารถนา น้ำมูตรและอาจมก็หอม พระเจ้าเวียงจันทน์จัดให้มีโยมอุปฐากรักษา ท่านพระครูเอานายแก้ว นายหวดมาเลี้ยงไว้ นายแก้ว นายหวด เรียนศิลปวิชชาความรู้มากฉลาดเฉลียว ครั้นอายุครบ ๒๑ ปี ก็บวชเป็นภิกษุให้ทั้ง ๒ คน ครั้นอยู่มาพระเจ้าเวียงจันทน์ มีโอรสองค์หนึ่ง เรียกว่าเจ้าองค์หล่อ อายุได้ ๓ ปี พระมเหสีมีครรภ์อยู่อีกได้ ๖ เดือน จุลศักราช ๑๐๕๑ ปี พระเจ้าเวียงจันทน์ถึงแก่พิราลัย พระยาเมืองแสนชิงเอาราชสมบัติได้ เจ้าองค์หล่อกับบ่าวไพร่ที่สนิทหนีเข้าไปพึ่งญวน ก็ได้เป็นใหญ่อยู่เมืองญวน แต่มเหสีนั้นเมื่อพระยาเมืองแสนจะรับไปอยู่ด้วย นางไม่ยอม จึงหนีเข้าไปพึ่งอยู่กับพระครูโพนเสม็ดๆ กลัวความนินทา จึงส่งนางไปไว้บ้านซ่อง่อหอคำ ครั้นคำรบ ๑๐ เดือน นางประสูติพระโอรสออกมาเป็นชาย มารดาญาติพี่น้องถวายนามว่า เจ้าหน่อกษัตริย์ ท่านพระยาเมือแสน จึงดำริว่า พระครูมีบุญมาก คนนิยมนับถือกลัวจะชิงเอาราชสมบัติ จึงคิดเป็นความลับจะทำอันตรายแก่ท่านพระครูๆ ก็ล่วงรู้ในความคิดพระยาเมืองแสน ท่านจึงว่ามีมารมาประจญแล้ว จะอยู่มิได้ ต้องหลีกหนีให้พ้นมาร ท่านพระครูจึงใช้ให้คนไปรับเอามารดากับเจ้าหน่อกษัตริย์มาแต่ซ่อง่อหอคำ แล้วจึงปฤกษากับญาติโยมคนอุปฐากพร้อมกันแล้ว รวมได้ชายหญิงใหญ่น้อย ๓๓๓๓ คน พาภิกษุแก้ว ภิกษุหวด อุปยกจากเวียงจันทน์ มาถึงงิ้วพลานลำสมสนุก
...ท่านพระครูกลัวญาติโยมจะได้ความเดือดร้อน จึงพาครอบครัวหนีขึ้นมาตามลำแม่น้ำโขง แล้วก็เดิรเลยต่อๆ ถึงนครกาลจำบากนาคบุรีศรี ขณะนั้นนางเพาแม่นางแพงบุตร กับพระยาคำยาด พระยาสองฮาด ไปนิมนต์พระครูให้อยู่รักษาพระศาสนาให้รุ่งเรืองถาวร อนุญาตทั้งพุทธจักร์อาณาจักร์ให้แก่ท่านพระครูปกครองรักษา ต่อๆ มาประชาชนพลเมืองมีน้ำใจวิหิงสาบังเบียดแลลักทรัพย์สิ่งของ ช้าง ม้า โค กระบือ เนืองๆ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ครั้นท่านพระครูจะจับตัวมาลงโทษจำขังเฆี่ยนตี ก็จะผิดบาลีสิกขาบท มีความมัวหมองแก่ท่านพระครูต่อไป ท่านพระครูจึงพร้อมกันปรึกษาเสนากรมการ เห็นว่าเจ้าหน่อกษัตริย์สมควรจะครอบครองบ้านเมืองได้ จึงแต่งให้จารแก้ว ท้าวเพี้ยไพร่พลขึ้นไปอัญเชิญรับเอาเจ้าหน่อกษัตริย์กับพระมารดาลงมาถึงนครกาลจำบากนาคบุรีศรี ในจุลศักราช ๑๐๗๕ ปีมะเส็งเบ็ญจศก อัญเชิญขึ้นครองเมือง ถวายพระนามว่า เจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธกุล เป็นเจ้าเอกราช ครองราชสมบัติณกรุงกาลจำบากนาคบุรีศรี ตามราชประเพณีกษัตริย์มาลาประเทศแต่กาลปางก่อน จึงผลัดนามเมืองใหม่ว่านครจำปาศักดิ์นาคบุรีศรี ท่านพระครูและเจ้าสร้อยศรีสมุทรฯ จัดแจงตั้งแต่งบ้านเมือง คือให้ตั้งบ้านโขงเป็นเมืองโขง จารหวดเป็นเจ้าเมือง ยกบ้านหางโขงขึ้นเป็นเมืองเชียงแตง ให้พ่อเชียงแปลงเป็นเจ้าเมือง แล้วจัดให้ จารเสียงสางไปเป็นเจ้าเมืองศรีคอนเตา เรียกว่าเจ้าเมืองรัตนบุรี ให้จารแก้วเป็นเจ้าเมืองทุ่ง เรียกว่าเมืองสุวรรณภูมิบัดนี้ ปันอาณาเขตต์ให้ปกครองรักษาฝ่ายเหนือ ตั้งแต่ยางสามต้น อ้นสามขวย หลักทอดยอดยัง ข้างตะวันออกถึงเขาประทัด ต่อแดนกับอ้ายญวน ข้างตะวันตกถึงลำน้ำพังชู ทิศใต้ถึงห้วยลำคันยุงเป็นแดน จารแก้วออกจากนครจำปาศักดิ์มาตั้งเมืองในระหว่างจุลศักราช ๑๐๘๐ ปี มีไพร่พลชายหญิงใหญ่น้อยประมาณ ๓๐๐๐ คนเศษ จารแก้วเจ้าเมืองทุ่ง มีบุตรชาย ๓ คน คนที่ ๑ ชื่อท้าวมืด คนที่ ๒ ชื่อท้าวทน คนที่ ๓ ชื่อท้าวเพ จารแก้วครองเมืองทุ่งได้ ๑๖ ปี ระหว่างจุลศักราช ๑๐๙๖ ปี จารแก้วถึงแก่กรรม ท้าวมืดผู้พี่ได้ครองเมืองแทนบิดา ท้าวทนเป็นอุปฮาด ตั้งแข็งเมืองเป็นเอกราช ไม่ได้ขึ้นแก่นครจำปาศักดิ์ เพราะเหตุว่านครจำปาศักดิ์พี่กับน้องเกิดวิวาทยาดชิงสมบัติแก่กัน จึงหาได้ติดตามมาว่ากล่าวเอาส่วยสาอากรไม่
สถานที่รำลึกถึง
- ศาลเจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธออำเภอรัตนบุรี
- อนุสาวรีย์พระศรีนครเตาท้าวเธอ ณ สวนสาธารณะศรีนครเตาอำเภอรัตนบุรี
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-11-08. สืบค้นเมื่อ 2020-11-10.
- ประวัติเมืองรัตนบุรี
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-24. สืบค้นเมื่อ 2020-11-10.
- ประวัติศาสตร์อำเภอรัตนบุรี
- ช้างเผือกหาย กลับได้ขยายดินแดน! ผลงานของ ๒ พี่น้องผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์!!
- ประวัติเมืองรัตนบุรี ประวัติหลวงศรีนครเตา ประวัติพระศรีนครเตาท้าวเธอ เจ้าเมืองรัตนบุรีคนแรก แผนที่เก่ารัตนบุรี
- ประวัติหลวงศรีนครเตา เจ้าเมืองรัตนบุรีคนแรก
- "ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(3)". baanjomyut.com. สืบค้นเมื่อ 2023-05-25
- "เขมรป่าดง ทุ่งกุลาร้องไห้ และเจ้าพ่อศรีนครเตา ตอนที่ 3 เมืองรัตนบุรี 2". baanmaha.com. สืบค้นเมื่อ 2023-05-25
- https://www.finearts.go.th/surinmuseum/view/22299-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C
- สถานที่ ศาลเจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอ
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-25. สืบค้นเมื่อ 2022-07-25.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrasrinkhretathawethx hruxthichawxaephxrtnburieriykwa ecaphxsrinkhretathawethx epnecaemuxngrtnburikhnaerk michiwitxyuinchwngpi 2252 2338 rchsmyrachxanackrkrungsrixyuthyatxnplay miphlngansakhytxrachsankxyuthyainkarcbphrayachangephuxkkhunsmedcphrathinngsuriyasnxmrinthr cungidrbphrarachthanbrrdaskdiihpkkhrxngbanemuxngeta n pccubnkhux xaephxrtnburi cnghwdsurinthrphrasrinkhretathawethxekidph s 2252 xtpux aesnaep rachxanackrlanchangesiychiwitph s 2338 86 pi baniphrkhla xanackrrtnoksinthr smysmburnayasiththirachy prawtiphrasrinkhretathawethx edimchux si hruxechiyngsi inphasakuyeriyk takaxam edimepnchawxtpux aesnaeprachxanackrlanchang mixachiphepnnkrbitbngkhbbychahnaephalaw chuxkhunecuxng mikhwamchanayinkarkhlxngchang aelaichchanginkarsuksngkhram txmahwhnaephalawidsinchiwit xanackuyaethbbriewnnnesuxmxanaclng echiyngsiaelaphwk cungidyaythinthanekhasudinaednxanackrxyuthya inpi 2199 2231 odymunghnasufngkhwaaemnaokhng briewnxaephxokhngeciym cnghwdxublrachthani kxnthicaekhasubriewnxisanitinpccubn aelaidaebngphwkxxkepnhlayklumephuxtngthinthan dngni phwkthi 1 matngthinthanthibanemuxngthi banemuxngthi tablemuxngthi xaephxemuxngsurinthr hwhnaklumchux echiyngpum phwkthi 2 matngthinthanthibankudhway tablrtnburi xaephxrtnburi hwhnaklumchux echiyngsi phwkthi 3 matngthinthanthibanemuxngling ekhtxaephxcxmphra hwhnaklumchux echiyngsng phwkthi 4 matngthunthanthibanokhkladwn ekhtxaephxkhukhnth cnghwdsrisaeks hwhnaklumchux echiyngkhn hrux takaca phwkthi 5 matngthinthanthibanxccapanung hrux okhkxcca ekhtxaephxsngkha hwhnaklumchux echiyngkha phwkthi 6 matngthinthanthibankudpaith bancaraphtr xaephxsikhrphumi hwhnaklumchux echiyngchy ph s 2302 smykrungsrixyuthya inrchkalkhxngsmedcphrathinngsuriyasnxmrinthr phraecaexkthsn ekidchangephuxkaetkorngxxkcakemuxnghlwng ekhaipthangthistawnxxk smedcphraecaxyuhwthrngoprd ihecasxngphinxng phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachaela ecaphrayasursihphisnuwathirach kbiphrphl 30 nay xxktidtammathungemuxngphimayaelaidthrabcakecaemuxngphimaywa indngrimekhamiswysungchanayinkarcbchangaelaeliyngchangxyu haksubhacakphwkswynicathraberuxng ecasxngphinxngkbiphrphlcungtidtamip aelaidphbkbechiyngsi hwhnabankudhway ecasxngphinxngcungkhxrxngihchwycbphrayachangkhunrachsankxyuthya echiyngsiemuxidthrabechnnnaelwcungrbpakthicachwyehlux aelaidphaipekhaphbkbphwkthng4 khux echiyngpum echiyngkha echiyngkhn emuxphbhwhnathnghmdaelw echiyngkhaidaecngaekecasxngphinxngaelakhnawa phbchangphlaythinga miekhruxngpradbnachangmaelnnathihnxngochkhintxnbay thukwn thnghmdcungipthihnxngochkh emuxipthungkkhxyduokhlngchangthicamaelnna emuxthungewla okhlngchangpraman 50 60 echuxk kphaknmalngelnna thiaerkimthrabwaekhruxngihnepnchangephuxk ephraachangelnkhlukokhlntmdaetmtw cungehmuxnknhmdokhlng phxchanglngelnna changephuxk 2 echuxkkpraktthnthi echiyngsikbphwkcungichphithikrrmthangisysastrcbchang emuxecasxngphinxngaelakhnacbchangidaelw idphaknmathibanechiyngichy idewlasmkhwrkxalaklb kxnklbidsngphwkthnghkwa khxihipeyiymbanginthanaephuxnfungkn eracakrabthulphraecaxyuhwihthrngthrab ephuxcaidoprd phrarachthankhwamchxbih thnghkrbkhaaelalacakkn odymiechiyngsitamsngcnphnekhtaednemuxngphimaytamladb txmaechiyngsiaelaphwkcungidrbphramhakrunathikhuncaksmedcphrathinngsuriyasnxmrinthr sungthrngphrakrunaoprdekla phrarachthanbrrdaskdiihepnhwhnapkkhrxnghmubankhxngtn odytharachkarkhuntrngtxemuxngphimay midngni echiyngsiidepn hlwngsrinkhretathawethx echiyngkha idepn hlwngsngkhaburisrixcca echiyngpum idepn hlwngsurinthresnha phayhlngidrbphrarachthanbrrdaskdiepnphrayasurinthrphkhdi echiyngchy idepn khunchysuriywngs dwykhwamcngrkphkditxbanemuxngchwyrachkarngansuksngkhram mikhwamdikhwamchxbaelaidrbphramhakrunathikhunoprdekla eluxnysthabrrdaskdiepn phrasrinkhretathawethx darngtaaehnngecaemuxngrtnburi cnthungwarasudthay phrasrinkhretathawethxpkkhrxngbanemuxngxyangsngbsukh rmeynmaodytlxd aelaephuxralukthungkhunngamkhwamdithiidthaihaekchatibanemuxng chawxaephxrtnburi cungrwmicsrangxnusawriykhxngphrasrinkhretathawethx n swnsatharnasrinkhretathawethx thnnsrinkhr xaephxrtnburi cnghwdsurinthr aelacdihmingansmophchn skkarathukpi luekhamaemuxidmithrabid inchwngrchkalthi 1 idmiphrarachsasnekiywkbkarsuk phanekhamayngemuxngsrinkhreta khnannyngimepliynchuxnamemuxng inkhnannphrasrinkhretaimxyuinemuxngipthathurakhangnxk eetphrryaphrasrinkhretaepnphurbhnngsuxphrarachsasneethn mibangkraeeswaphrryaepnphuepidxanexngodyimidtngic eetkmibangkraeesthiwa xuprachemuxngrtnburiepnphuepidxanexngeelwoynkhwamphidihecaemuxng sngphlihphrasrinkhretathawethxodnxayaeephndin thukpraharodykarexakhwanphaxkcntay thngthiimichkhwamphidkhxngtwexng txmainpi ph s 2356 inchwngewlathiileliykn thawoxa hlankhxngecaaekwmngkhlaehngemuxngthng txmaidepliynchuxepnemuxngsuwrrnphumi pccubnkhux xaephxsuwrrnphumi cnghwdrxyexd idklawothsecaemuxngsuwrrnphumiwa ecaemuxngsuwrrnphumi ebiydebiynkhmehngprachachn aelabngkhbexalukemiykhnxun maepnphrryakhxngtn rachsankkrungethph idsxbswnecaemuxngsuwrrnphumi thawxxn phbwamikhwamphidcring cungoprd ihthxdxxkcakecaemuxng aelathrngtngihthawoxaepnecaemuxngsuwrrnphumimibrrdaskdiepn phrartnwngsa xnepnpiediywknthifayecaemuxngsrinkhreta khntxma idnakhwamkrabbngkhmthulodymiibbxkipyngrachsankdwy cungoprd ihepliynnamemuxngsrinkhretaepn emuxngrtnburi aelanamecaemuxngcak phrasrinkhreta epn phrasrinkhrchy sunghmaythungchychna xacepnipidwa phrasrinkhrchyepnechuxsaykhxngecaaekwmngkhl khuxepnlukhlankhxngecaaekwmngkhlxikthanhnung ecaemuxngrtnburithiidepliynnamepn phrasrinkhrchy mikhwamsmphnththangekhruxyatikbecaaekwmngkhlinchnhlan chawlawinekhtemuxngsuwrrnphumicungidekhamaxyuinekhtemuxngrtnburimakkhun sngkhmaelawthnthrrmkhxngchawemuxngsuwrrnphumicungihlba ekhasuemuxngrtnburiaelaklayepnemuxngkhxngchawithylawinthisudbrrdaskdihlwngsrinkhretathawethx echiyngsi hruxtakaxam phrasrinkhretathawethx echiyngsi hruxtakaxam phngsawdarexksarprawtisastrinphngsawdarphakhxisankhxngphrayakhtiywngsa ehla n rxyexc aekikh inphngsawdarphakhxisan chabbkhxngphrayakhtiywngsa ehla n rxyexc phimphinnganplngsphnangsrisupha ot exiymsiri nechingbrmbrrpht wdsraeks emuxpimaesng ph s 2432 klawwa khrnkhrbphrrsahnung phraecaewiyngcnthn cungphrxmphrakhruthnghlayhdphiksubwchihmihnamwa phrakhruophnesmdbang bangkhnkeriykwaphrakhrusidatamnamedim thanphrakhrurksasilbrisuththi imchananethaid kidxphiyya 5 xththsmabti 8 prakar saercipdwychan cawasingidkaemnyaodybarmithrrm oprdsaercdngmonnukkhwamprarthna namutraelaxacmkhxm phraecaewiyngcnthncdihmioymxupthakrksa thanphrakhruexanayaekw nayhwdmaeliyngiw nayaekw nayhwd eriynsilpwichchakhwamrumakchladechliyw khrnxayukhrb 21 pi kbwchepnphiksuihthng 2 khn khrnxyumaphraecaewiyngcnthn mioxrsxngkhhnung eriykwaecaxngkhhlx xayuid 3 pi phramehsimikhrrphxyuxikid 6 eduxn culskrach 1051 pi phraecaewiyngcnthnthungaekphiraly phrayaemuxngaesnchingexarachsmbtiid ecaxngkhhlxkbbawiphrthisnithhniekhaipphungywn kidepnihyxyuemuxngywn aetmehsinnemuxphrayaemuxngaesncarbipxyudwy nangimyxm cunghniekhaipphungxyukbphrakhruophnesmd klwkhwamnintha cungsngnangipiwbansxngxhxkha khrnkharb 10 eduxn nangprasutiphraoxrsxxkmaepnchay mardayatiphinxngthwaynamwa ecahnxkstriy thanphrayaemuxaesn cungdariwa phrakhrumibuymak khnniymnbthuxklwcachingexarachsmbti cungkhidepnkhwamlbcathaxntrayaekthanphrakhru klwngruinkhwamkhidphrayaemuxngaesn thancungwamimarmapracyaelw caxyumiid txnghlikhniihphnmar thanphrakhrucungichihkhniprbexamardakbecahnxkstriymaaetsxngxhxkha aelwcungpvksakbyatioymkhnxupthakphrxmknaelw rwmidchayhyingihynxy 3333 khn phaphiksuaekw phiksuhwd xupykcakewiyngcnthn mathungngiwphlanlasmsnuk thanphrakhruklwyatioymcaidkhwameduxdrxn cungphakhrxbkhrwhnikhunmatamlaaemnaokhng aelwkedirelytx thungnkhrkalcabaknakhburisri khnannnangephaaemnangaephngbutr kbphrayakhayad phrayasxnghad ipnimntphrakhruihxyurksaphrasasnaihrungeruxngthawr xnuyatthngphuththckrxanackrihaekthanphrakhrupkkhrxngrksa tx maprachachnphlemuxngminaicwihingsabngebiydaellkthrphysingkhxng chang ma okh krabux enuxng rasdridrbkhwameduxdrxn khrnthanphrakhrucacbtwmalngothscakhngekhiynti kcaphidbalisikkhabth mikhwammwhmxngaekthanphrakhrutxip thanphrakhrucungphrxmknpruksaesnakrmkar ehnwaecahnxkstriysmkhwrcakhrxbkhrxngbanemuxngid cungaetngihcaraekw thawephiyiphrphlkhunipxyechiyrbexaecahnxkstriykbphramardalngmathungnkhrkalcabaknakhburisri inculskrach 1075 pimaesngebycsk xyechiykhunkhrxngemuxng thwayphranamwa ecasrxysrismuthrphuththkul epnecaexkrach khrxngrachsmbtinkrungkalcabaknakhburisri tamrachpraephnikstriymalapraethsaetkalpangkxn cungphldnamemuxngihmwankhrcapaskdinakhburisri thanphrakhruaelaecasrxysrismuthr cdaecngtngaetngbanemuxng khuxihtngbanokhngepnemuxngokhng carhwdepnecaemuxng ykbanhangokhngkhunepnemuxngechiyngaetng ihphxechiyngaeplngepnecaemuxng aelwcdih caresiyngsangipepnecaemuxngsrikhxneta eriykwaecaemuxngrtnburi ihcaraekwepnecaemuxngthung eriykwaemuxngsuwrrnphumibdni pnxanaekhttihpkkhrxngrksafayehnux tngaetyangsamtn xnsamkhwy hlkthxdyxdyng khangtawnxxkthungekhaprathd txaednkbxayywn khangtawntkthunglanaphngchu thisitthunghwylakhnyungepnaedn caraekwxxkcaknkhrcapaskdimatngemuxnginrahwangculskrach 1080 pi miiphrphlchayhyingihynxypraman 3000 khness caraekwecaemuxngthung mibutrchay 3 khn khnthi 1 chuxthawmud khnthi 2 chuxthawthn khnthi 3 chuxthaweph caraekwkhrxngemuxngthungid 16 pi rahwangculskrach 1096 pi caraekwthungaekkrrm thawmudphuphiidkhrxngemuxngaethnbida thawthnepnxuphad tngaekhngemuxngepnexkrach imidkhunaeknkhrcapaskdi ephraaehtuwankhrcapaskdiphikbnxngekidwiwathyadchingsmbtiaekkn cunghaidtidtammawaklawexaswysaxakrim aephnphngkhxngphrasrinkhretathawethx thiekiywkhxngkblanchangcapaskdisthanthiralukthungsalecaphxsrinkhretathawethxxaephxrtnburi xnusawriyphrasrinkhretathawethx n swnsatharnasrinkhretaxaephxrtnburixangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 11 08 subkhnemux 2020 11 10 prawtiemuxngrtnburi khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 01 24 subkhnemux 2020 11 10 prawtisastrxaephxrtnburi changephuxkhay klbidkhyaydinaedn phlngankhxng 2 phinxngphusthapnakrungrtnoksinthr prawtiemuxngrtnburi prawtihlwngsrinkhreta prawtiphrasrinkhretathawethx ecaemuxngrtnburikhnaerk aephnthiekartnburi prawtihlwngsrinkhreta ecaemuxngrtnburikhnaerk prawtisastr khwamepnma phakhtawnxxkechiyngehnux 3 baanjomyut com subkhnemux 2023 05 25 ekhmrpadng thungkularxngih aelaecaphxsrinkhreta txnthi 3 emuxngrtnburi 2 baanmaha com subkhnemux 2023 05 25 https www finearts go th surinmuseum view 22299 E0 B8 9B E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B8 A7 E0 B8 B1 E0 B8 95 E0 B8 B4 E0 B8 A8 E0 B8 B2 E0 B8 AA E0 B8 95 E0 B8 A3 E0 B9 8C E0 B9 80 E0 B8 A1 E0 B8 B7 E0 B8 AD E0 B8 87 E0 B8 AA E0 B8 B8 E0 B8 A3 E0 B8 B4 E0 B8 99 E0 B8 97 E0 B8 A3 E0 B9 8C sthanthi salecaphxsrinkhretathawethx khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 07 25 subkhnemux 2022 07 25