Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
เจมส์ กอร์ดอน บราวน์ (อังกฤษ: James Gordon Brown; 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494) เป็นชาวสกอตแลนด์ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรและควบตำแหน่ง, รัฐมนตรีการสวัสดิการสังคม และหัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในฐานะหัวหน้าพรรคแรงงานเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550 โดยก่อนหน้านั้นเขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังในรัฐบาลของนายโทนี แบลร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 - พ.ศ. 2550 และดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาแห่งเขตเคิร์คแคลดีและเขตคาวเดินบีธมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527
กอร์ดอน บราวน์ | |
|---|---|
 | |
| นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร | |
| ดำรงตำแหน่ง 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 (2 ปี 318 วัน) | |
| กษัตริย์ | เอลิซาเบทที่ 2 |
| ก่อนหน้า | โทนี แบลร์ |
| ถัดไป | เดวิด คาเมรอน |
| รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | |
| ดำรงตำแหน่ง 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 – 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 | |
| ก่อนหน้า | เคนเนท คลาร์ก |
| ถัดไป | อลิสแตร์ ดาร์ลิง |
| หัวหน้าพรรคแรงงาน | |
| ดำรงตำแหน่ง 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 | |
| ก่อนหน้า | โทนี แบลร์ |
| ถัดไป | แฮเรียต ฮาร์แมน |
| ข้อมูลส่วนบุคคล | |
| เกิด | 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 เรนฟริวเชอร์, สกอตแลนด์ |
| ศาสนา | |
| พรรคการเมือง | พรรคแรงงาน |
| คู่สมรส | |
ชีวิตในช่วงต้น
นายบราวน์เกิดที่เขต, สกอตแลนด์ โดยบิดาชื่อนายจอห์น อีเบเนเซอร์ บราวน์ ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาคริสต์นิกายเชิร์ชออฟสกอตแลนด์ เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อนายบราวน์ ในปี พ.ศ. 2541 บิดาของนายบราวน์เสียชีวิตลงด้วยวัย 84 ปี ส่วนมารดาของเขาน์มีชื่อว่าเจสซี อลิซาเบธ ซูเตอร์ เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2547 ด้วยวัย 86 ปี บราวน์ได้รับการเลี้ยงดูร่วมกับพี่น้องคือจอห์น บราวน์ และแอนดรูว์ บราวน์ โดยอาศัยอยู่ในบ้านสำหรับพระสอนศาสนาในเมืองเคิร์กคาลดี ซึ่งบ่อยครั้งทำให้เขาถูกกล่าวถึงในฐานะ "บุตรชายแห่งเคหาสน์พระ" (son of the manse) บราวน์เริ่มต้นรับการศึกษาที่โรงเรียนประถมเคิร์คแคลดีดีตะวันตก ที่ซึ่งเขาได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนหลักสูตรเรียนเร่งรัดแบบทดลอง นั่นทำให้เขาสามารถเข้าศึกษาที่โรงเรียนมัธยมเคิร์คแคลดีได้เร็วกว่ากำหนด 2 ปี เมื่อมีอายุได้ 16 ปี เขาเขียนไว้ว่าเขารังเกียจและขุ่นเคืองการทดลองอัน "น่าหัวเราะ" ต่อเยาวชนเช่นนี้
ช่วงอายุ 16 ปี มหาวิทยาลัยเอดินบะระรับเขาเข้าศึกษาด้านประวัติศาสตร์ แต่เขาต้องทรมานจากอาการ (Retinal Detachment) หลังจากถูกเตะที่ศีรษะระหว่างแข่งขันรักบี้ปลายเทอมนัดหนึ่งเมื่อครั้งศึกษาที่โรงเรียนเก่า ถึงแม้จะรับการรักษาตั้งแต่การผ่าตัดหลายครั้งไปจนถึงการนอนในห้องมืดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่ท้ายที่สุดตาซ้ายของเขาก็บอดในเวลาต่อมา ส่งผลให้ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงต้องใส่ลูกตาเทียมแทน เมื่อเข้าศึกษาที่เอดินบะระ ขณะกำลังเล่นเทนนิสเขาสังเกตถึงอาการลักษณะเดียวกันกับตาข้างขวา เขาจึงเข้ารับการศัลยกรรมที่โรงพยายาลหลวงแห่งเอดินบะระ (Edinburgh Royal Infirmary) ซึ่งทำให้สามารถรักษาตาข้างขวาไว้ได้ทัน
บราวน์สำเร็จการศึกษาปริญญามหาบัณฑิตศิลปศาสตร์เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระเมื่อปี พ.ศ. 2506 และอยู่ศึกษาต่อจนได้รับปริญญาเอกในปี พ.ศ. 2515 จากวิทยานิพนธ์หัวข้อ พรรคแรงงานและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสก็อตแลนด์ปี พ.ศ. 2461-2472 (The Labour Party and Political Change in Scotland 1918-1929) เดิมทีบราวน์ตั้งใจให้วิทยานิพนธ์ครอบคลุมตั้งแต่พัฒนาการของคณะแรงงานตั้งแต่ครสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นไป แต่ต่อมาได้ลดลงเหลือเพียงการอธิบายถึง "การดิ้นรนของพรรคแรงงานเพื่อตั้งมั่นตนเองเป็นตัวเลือกแทนพรรคอนุรักษนิยมในตอนต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20"
ในปี พ.ศ. 2515 ถึงแม้จะยังเป็นเพียงนักศึกษา บราวน์ก็ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยและดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี พ.ศ. 2518 ในช่วงนั้นเขายังเป็นบรรณาธิการหนังสือ เดอะเรดเพเพอร์ออนสกอตแลนด์ (The Red Paper on Scotland) เขาทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายวิชาชั่วคราวที่เอดินบะระ แต่ถูกปฏิเสธที่จะให้ทำหน้าที่เป็นการถาวรเนื่องจากความเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง เขาได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้บรรยายวิชาสาขารัฐศาสตร์ที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ถึง พ.ศ. 2523 หลังจากนั้นเขาก็เข้าทำงานเป็นนักข่าวประจำสถานีโทรทัศน์แห่งสกอตแลนด์ และได้เป็นบรรณาธิการข่าวสังคมและการเมืองจวบจนได้รับการเลือกตั้งเข้ารัฐสภาในปี พ.ศ. 2526
ในการเลือกตั้งทั่วไปในสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2522 นายบราวน์เป็นตัวแทนลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตเอดินบะระใต้ แต่พ่ายแพ้ผู้ลงสมัครจากพรรคอนุรักษนิยม นาย
รัฐสภาและตำแหน่งในฝ่ายค้าน
นายบราวน์ได้รับการเลือกตั้งเข้ารัฐสภาในการลงสมัครครั้งที่ 2 ในฐานะตัวแทนลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคแรงงานเขตดันเฟิร์มไลน์ตะวันออก ในการเลือกตั้งทั่วไปในสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2526 และรับตำแหน่งโฆษกฝ่ายค้านด้านการพาณิชย์และอุตสาหกรรมในปี พ.ศ. 2528 ถัดมาหนึ่งปีในปี พ.ศ. 2529 นายบราวน์ตีพิมพ์ชีวประวัติของนักการเมืองพรรคแรงงานอิสระ นายเจมส์ แม็กซ์ตัน ซึ่งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา และดำรงตำแหน่งเลขาธิการเงาเอกสภาการคลังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2532 ซึ่งต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีเงากระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมก่อนจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีเงากระทรวงการคลังในปี พ.ศ. 2535
หลังจากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนายจอห์น สมิธ ผู้นำพรรคแรงงานในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2537 บราวน์ถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้นำพรรคคนต่อไป แต่ในท้ายที่สุดเขาไม่ได้ลงสมัครเป็นหัวหน้าจนกระทั่งนายโทนี แบลร์ กลายมาเป็นที่ชื่นชอบของสมาชิกพรรค นอกจากนี้ยังมีข่าวลือมานานแล้วว่านายแบลร์และนายบราวน์ได้มีการทำข้อตกลงกันที่ภัตตาคารแกรนิตาในเขตอิสลิงตัน, ลอนดอน โดยตกลงกันว่าจะให้นายบราวน์ได้ควบคุมนโยบายเศรษฐกิจเป็นการตอบแทนที่บราวน์ไม่ลงสมัครแข่งขันกับนายแบลร์ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของความรุ่งโรจน์ของ พรรคแรงงานโฉมใหม่ และส่วนใหญ่แล้วทั้งสองยังคงดูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต่อหน้าสาธารณชน แม้จะมีข่าวลือถึงความขัดแย้งส่วนตัวที่รุนแรงก็ตาม
ในฐานะรัฐมนตรีเงา นายบราวน์ทำงานเพื่อนำเสนอตนเองในฐานะผู้มีความสามารถพอจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจและชนชั้นกลางว่าพรรคแรงงานเป็นที่ไว้วางใจได้ในการบริหารเศรษฐกิจโดยไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป, อัตราการว่างงานสูงขึ้น หรือการใช้จ่ายเกินตัวของภาครัฐ อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคริสต์ทศวรรษที่ 1970 (พ.ศ. 2513 - พ.ศ. 2522) เขาให้คำมั่นสัญญาอย่างเปิดเผยว่าจะดำเนินตามแผนการใช้จ่ายของพรรคอนุรักษนิยมในช่วง 2 ปีแรกของการเข้ารับตำแหน่ง ต่อมาหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้งในสกอตแลนด์ เขาก็ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาเขตเคิร์คแคลดีและเขตคาวเดินบีธในปี พ.ศ. 2548
บทบาทในฐานะรัฐมนตรี
ช่วงเวลา 10 ปี 2 เดือน ของเขาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้สร้างสถิติใหม่ ๆ ขึ้นหลายอย่างเช่น เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่มาจากพรรคแรงงานซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเวลายาวนานที่สุดและเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับแต่นิโคลัส แวนซิตทาร์ต ซึ่งเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2355 - พ.ศ. 2366 อย่างไรก็ตามวิลเลียม แกลดสโตน คือรัฐมนตรีที่มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรวมนานที่สุดคือ 12 ปี 4 เดือน จากการดำรงตำแหน่ง 4 วาระระหว่างปี พ.ศ. 2395 - พ.ศ. 2425
เว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรียกย่องความสำเร็จ 3 อย่างเป็นพิเศษในช่วงเวลา 10 ปีของการดำรงตำแหน่งของนายบราวน์คือ
- การนำพาเศรษฐกิจจน "เติบโตยาวนานเป็นประวัติการณ์"
- แปลงสภาพเป็นหน่วยงานอิสระ
- นำเสนอข้อตกลงด้านความอดยากและภาวะฤดูกาลแปรปรวน ณ ในปี พ.ศ. 2548
อ้างอิง
- Brown, Gordon (2007). Britain's Everyday Heroes. Mainstream Publishing. .
- [1][]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ecms kxrdxn brawn xngkvs James Gordon Brown 20 kumphaphnth ph s 2494 epnchawskxtaelndphudarngtaaehnngnaykrthmntriaehngshrachxanackraelakhwbtaaehnng rthmntrikarswsdikarsngkhm aelahwhnaphrrkhaerngngan sungekharbtaaehnnginthanahwhnaphrrkhaerngnganemuxwnthi 24 mithunayn ph s 2550 odykxnhnannekhadarngtaaehnngrthmntrikrathrwngkarkhlnginrthbalkhxngnayothni aeblrtngaetpi ph s 2540 ph s 2550 aeladarngtaaehnngsmachikrthsphaaehngekhtekhirkhaekhldiaelaekhtkhawedinbithmatngaetpi ph s 2527edxairtxxnaraebilkxrdxn brawnnaykrthmntriaehngshrachxanackrdarngtaaehnng 27 mithunayn ph s 2550 11 phvsphakhm ph s 2553 2 pi 318 wn kstriyexlisaebththi 2kxnhnaothni aeblrthdipedwid khaemrxnrthmntriwakarkrathrwngkarkhlngdarngtaaehnng 2 phvsphakhm ph s 2540 27 mithunayn ph s 2550kxnhnaekhnenth khlarkthdipxlisaetr darlinghwhnaphrrkhaerngngandarngtaaehnng 24 mithunayn ph s 2550 11 phvsphakhm ph s 2553kxnhnaothni aeblrthdipaeheriyt haraemnkhxmulswnbukhkhlekid20 kumphaphnth ph s 2494 73 pi ernfriwechxr skxtaelndsasnaphrrkhkaremuxngphrrkhaerngngankhusmrschiwitinchwngtnnaybrawnekidthiekht skxtaelnd odybidachuxnaycxhn xiebenesxr brawn sungepnphunasasnakhristnikayechirchxxfskxtaelnd epnphumixiththiphlxyangmaktxnaybrawn inpi ph s 2541 bidakhxngnaybrawnesiychiwitlngdwywy 84 pi swnmardakhxngekhanmichuxwaecssi xlisaebth suetxr esiychiwitemuxpi ph s 2547 dwywy 86 pi brawnidrbkareliyngdurwmkbphinxngkhuxcxhn brawn aelaaexndruw brawn odyxasyxyuinbansahrbphrasxnsasnainemuxngekhirkkhaldi sungbxykhrngthaihekhathukklawthunginthana butrchayaehngekhhasnphra son of the manse brawnerimtnrbkarsuksathiorngeriynprathmekhirkhaekhldiditawntk thisungekhaidrbkarkhdeluxkekhaeriynhlksutreriynerngrdaebbthdlxng nnthaihekhasamarthekhasuksathiorngeriynmthymekhirkhaekhldiiderwkwakahnd 2 pi emuxmixayuid 16 pi ekhaekhiyniwwaekharngekiycaelakhunekhuxngkarthdlxngxn nahweraa txeyawchnechnni chwngxayu 16 pi mhawithyalyexdinbararbekhaekhasuksadanprawtisastr aetekhatxngthrmancakxakar Retinal Detachment hlngcakthuketathisirsarahwangaekhngkhnrkbiplayethxmndhnungemuxkhrngsuksathiorngeriyneka thungaemcarbkarrksatngaetkarphatdhlaykhrngipcnthungkarnxninhxngmudepnewlahlayspdah aetthaythisudtasaykhxngekhakbxdinewlatxma sngphlihtngaetnnmaekhacungtxngisluktaethiymaethn emuxekhasuksathiexdinbara khnakalngelnethnnisekhasngektthungxakarlksnaediywknkbtakhangkhwa ekhacungekharbkarslykrrmthiorngphyayalhlwngaehngexdinbara Edinburgh Royal Infirmary sungthaihsamarthrksatakhangkhwaiwidthn brawnsaerckarsuksapriyyamhabnthitsilpsastrekiyrtiniymxndbhnungcakmhawithyalyexdinbaraemuxpi ph s 2506 aelaxyusuksatxcnidrbpriyyaexkinpi ph s 2515 cakwithyaniphnthhwkhx phrrkhaerngnganaelakarepliynaeplngthangkaremuxnginskxtaelndpi ph s 2461 2472 The Labour Party and Political Change in Scotland 1918 1929 edimthibrawntngicihwithyaniphnthkhrxbkhlumtngaetphthnakarkhxngkhnaaerngngantngaetkhrststwrrsthi 17 epntnip aettxmaidldlngehluxephiyngkarxthibaythung kardinrnkhxngphrrkhaerngnganephuxtngmntnexngepntweluxkaethnphrrkhxnurksniymintxntnkhxngkhriststwrrsthi 20 inpi ph s 2515 thungaemcayngepnephiyngnksuksa brawnkidrbkareluxkihdarngtaaehnngepnphuekharwmprachumkbkhnakrrmkarbriharmhawithyalyaeladarngtaaehnngnicnthungpi ph s 2518 inchwngnnekhayngepnbrrnathikarhnngsux edxaerdephephxrxxnskxtaelnd The Red Paper on Scotland ekhathahnathiepnphubrryaywichachwkhrawthiexdinbara aetthukptiesththicaihthahnathiepnkarthawrenuxngcakkhwamepnnkkickrrmthangkaremuxng ekhaidrbkarwacangihepnphubrryaywichasakharthsastrthi tngaetpi ph s 2519 thung ph s 2523 hlngcaknnekhakekhathanganepnnkkhawpracasthaniothrthsnaehngskxtaelnd aelaidepnbrrnathikarkhawsngkhmaelakaremuxngcwbcnidrbkareluxktngekharthsphainpi ph s 2526 inkareluxktngthwipinshrachxanackr ph s 2522 naybrawnepntwaethnlngsmkhrsmachiksphaphuaethnrasdrekhtexdinbarait aetphayaephphulngsmkhrcakphrrkhxnurksniym nayrthsphaaelataaehnnginfaykhannaybrawnidrbkareluxktngekharthsphainkarlngsmkhrkhrngthi 2 inthanatwaethnlngsmkhrsmachiksphaphuaethnrasdrkhxngphrrkhaerngnganekhtdnefirmilntawnxxk inkareluxktngthwipinshrachxanackr ph s 2526 aelarbtaaehnngokhskfaykhandankarphanichyaelaxutsahkrrminpi ph s 2528 thdmahnungpiinpi ph s 2529 naybrawntiphimphchiwprawtikhxngnkkaremuxngphrrkhaerngnganxisra nayecms aemkstn sungepnhwkhxwithyaniphnthpriyyaexkkhxngekha aeladarngtaaehnngelkhathikarengaexksphakarkhlngtngaetpi ph s 2530 ph s 2532 sungtxmaidepnrthmntriengakrathrwngphanichyaelaxutsahkrrmkxncaidrbtaaehnngrthmntriengakrathrwngkarkhlnginpi ph s 2535 hlngcakkaresiychiwitxyangkathnhnkhxngnaycxhn smith phunaphrrkhaerngnganineduxnphvsphakhm ph s 2537 brawnthukkhadhmaywacaepnphunaphrrkhkhntxip aetinthaythisudekhaimidlngsmkhrepnhwhnacnkrathngnayothni aeblr klaymaepnthichunchxbkhxngsmachikphrrkh nxkcakniyngmikhawluxmananaelwwanayaeblraelanaybrawnidmikarthakhxtklngknthiphttakharaekrnitainekhtxislingtn lxndxn odytklngknwacaihnaybrawnidkhwbkhumnoybayesrsthkicepnkartxbaethnthibrawnimlngsmkhraekhngkhnkbnayaeblrinkareluxktnghwhnaphrrkh imwaeruxngnicaepnkhwamcringhruxim aetkhwamsmphnthrahwangthngsxngkhnthuxidwaepnpccysakhythisudkhxngkhwamrungorcnkhxng phrrkhaerngnganochmihm aelaswnihyaelwthngsxngyngkhngdumikhwamsmphnththiditxkntxhnasatharnchn aemcamikhawluxthungkhwamkhdaeyngswntwthirunaerngktam inthanarthmntrienga naybrawnthanganephuxnaesnxtnexnginthanaphumikhwamsamarthphxcaepnrthmntriwakarkrathrwngkarkhlnginxnakht ephuxsrangkhwammnicihaekphakhthurkicaelachnchnklangwaphrrkhaerngnganepnthiiwwangicidinkarbriharesrsthkicodyimthaihxtraenginefxsungekinip xtrakarwangngansungkhun hruxkarichcayekintwkhxngphakhrth xyangthiekidkhunemuxkhristthswrrsthi 1970 ph s 2513 ph s 2522 ekhaihkhamnsyyaxyangepidephywacadaenintamaephnkarichcaykhxngphrrkhxnurksniyminchwng 2 piaerkkhxngkarekharbtaaehnng txmahlngcakmikarepliynaeplngkaraebngekhteluxktnginskxtaelnd ekhakidepnsmachikrthsphaekhtekhirkhaekhldiaelaekhtkhawedinbithinpi ph s 2548bthbathinthanarthmntrichwngewla 10 pi 2 eduxn khxngekhainthanarthmntriwakarkrathrwngkarkhlngidsrangsthitiihm khunhlayxyangechn ekhaepnrthmntriwakarkrathrwngkarkhlngthimacakphrrkhaerngngansungdarngtaaehnngepnewlayawnanthisudaelaepnphudarngtaaehnngniepnewlatxenuxngyawnanthisudnbaetniokhls aewnsitthart sungepnrthmntritngaetpi ph s 2355 ph s 2366 xyangirktamwileliym aekldsotn khuxrthmntrithimirayaewlakardarngtaaehnngrwmnanthisudkhux 12 pi 4 eduxn cakkardarngtaaehnng 4 wararahwangpi ph s 2395 ph s 2425 ewbistkhxngsanknaykrthmntriykyxngkhwamsaerc 3 xyangepnphiessinchwngewla 10 pikhxngkardarngtaaehnngkhxngnaybrawnkhux karnaphaesrsthkiccn etibotyawnanepnprawtikarn aeplngsphaphepnhnwynganxisra naesnxkhxtklngdankhwamxdyakaelaphawavdukalaeprprwn n inpi ph s 2548xangxingBrown Gordon 2007 Britain s Everyday Heroes Mainstream Publishing ISBN 978 1 8459 6307 1 1 lingkesiy