หวง เฟย์หง (สำเนียงจีนกลาง) หรือ หว่อง เฟ้ย์ห่ง (ภาษากวางตุ้ง: Wong4 Fei1-hung4) หรือ อึ่ง ปวยฮ้ง (สำเนียงแต้จิ๋ว) (จีนตัวเต็ม: 黃飛鴻; จีนตัวย่อ: 黄飞鸿; พินอิน: Huáng Fēihóng; : Wòhng Fēihùhng; อังกฤษ: Wong Fei Hung, Hwang Fei Hung; 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1847 — 17 เมษายน ค.ศ. 1925) เป็นปรมาจารย์กังฟูที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์จีน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้และภาพยนตร์กำลังภายใน ในฐานะที่เป็นวีรบุรุษต่อสู้เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีชาวจีนจากการคุกคามของชาวตะวันตกในยุคล่าอาณานิคม เช่นเดียวกับ หง ซีกวน และ ฮั่ว หยวนเจี๋ย
หวง เฟย์หง | |
---|---|
เกิด | 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1847 ฝัวชาน มณฑลกวางตุ้ง จีน |
เสียชีวิต | 17 เมษายน ค.ศ. 1925 กวางโจว มณฑลกวางตุ้ง จีน | (79 ปี)
ที่อยู่ | ฝัวชาน มณฑลกวางตุ้ง จีน กวางโจว มณฑลกวางตุ้ง จีน |
รูปแบบ | กังฟู หงฉวน |
ครูผู้สอน | |
อันดับ | |
อาชีพ | นักกังฟู, แพทย์, นักปฏิวัติ |
คู่สมรส | สตรี (สมรส ค.ศ. 1871) สตรีแซ่หม่า (สมรส ค.ศ. 1896) สตรี (สมรส ค.ศ. 1902) (สมรส ค.ศ. 1915) |
นักเรียนเด่น | เหลิง ฟุน Ling Wan-kai |
ปฐมวัย
หวง เฟย์หง เกิดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1847 ตรงกับปีที่ 25 ในรัชสมัยฮ่องเต้เต้ากวง แห่งราชวงศ์ชิง (บางข้อมูลบอกว่า เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1856 ตรงกับปีที่ 6 ในรัชสมัยฮ่องเต้เสียนเฟิง) ที่หมู่บ้านหลูเจ้า ใกล้ภูเขาสีเฉียว เมืองฝัวชาน มณฑลกวางตุ้ง เป็นบุตรของ (黃麒英, หว่อง เข่ยฺ เย้ง ในสำเนียงกวางตุ้ง) ซึ่งเป็นปรมาจารย์กังฟูผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม "10 พยัคฆ์กวางตุ้ง" (伏虎拳) ที่มีชื่อเสียงเช่นกัน
ถึงแม้จะเป็นบุตรของปรมาจารย์กังฟู แต่ หวง ฉีอิง ก็มิได้ถ่ายทอดวิทยายุทธให้แก่บุตรชาย ด้วยเหตุผลที่ไม่แน่ชัดนัก หวง เฟย์หง ได้มีอาจารย์สอนวิชากำลังภายในให้คือ ลู่ อาไฉ (陸阿采) ผู้เป็นสหายร่วมสำนักเส้าหลินกับ หง ซีกวน (洪熙官) วีรบุรุษกังฟูที่มีชื่อเสียงอีกคน ถ่ายทอดวิชามวย "หงฉวน" (洪拳) โดยมีกระบวนท่าที่มีชื่ออย่าง "หมัดพยัคฆ์ดำ-กะเรียนขาว" (黑虎拳, 白鶴拳) ให้
นอกจากได้ ลู่ อาไฉเป็นอาจารย์แล้ว ในวัยเยาว์ หวง เฟย์หง ยังได้ร่ำเรียนวิชาหงฉวนเพิ่มเติมจาก หล่ำ ฟกซิง (Lín Shìróng, 林世榮) จากนั้นก็ได้รับการสั่งสอนเพิ่มเติมจาก หวง ฉีอิง ผู้เป็นบิดา ในวัยเด็กครอบครัวของ หวง เฟย์หง มีฐานะยากจน ต้องตระเวนรอนแรมไปเปิดทำการแสดงวิชาฝีมือและขายยาตามท้องถนน โดยสรุปแล้วชีวิตในช่วงวัยเยาว์และวัยหนุ่มของ หวง เฟย์หง เป็นระยะเวลาของการฝึกฝนวิชาฝีมือต่อสู้ป้องกันตัว และการรับมรดกสืบทอดวิชาแพทย์จากบิดา ซึ่งเป็นแพทย์แผนโบราณที่ได้รับการยกย่องนับถือ
สร้างชื่อ
จากนั้น หวง เฟย์หงได้สร้างวีรกรรมอันลือชื่อขึ้นมา 2 เหตุการณ์ที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อ หวง เฟย์หง มีอายุ 16 ปี มีชาวตะวันตกกลุ่มหนึ่งคิดค้นกิจกรรมสร้างความบันเทิง โดยฝึกฝนสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด จนดุร้ายกระหายเลือด จากนั้นก็เปิดเวทีท้าประลองให้ชาวจีนสู้กับสุนัข ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลมูลค่าสูง แต่หากพลาดพลั้งบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็ถือเป็นคราวเคราะห์ที่ไม่มีผู้ใดรับผิดชอบ กิจกรรมนี้กลายเป็นเรื่องโจษจันเกรียวกราวไปทั่ว ผู้คนจำนวนมากที่เข้าประลองล้วนแล้วแต่พ่ายแพ้ บ้างโชคดีก็แค่บาดเจ็บ แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไร้เปล่า
เมื่อ หวง เฟย์หง ล่วงรู้เรื่องดังกล่าว จึงเข้าประลองเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีให้แก่ชาวจีน และเป็นฝ่ายชนะอย่างง่ายดาย ด้วยกระบวนท่าที่เรียกว่า "ฝ่าเท้าไร้เงา" ซึ่งเป็นไม้ตายประจำตัวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากสุดของเขา เหตุการณ์ต่อมาคือ เมื่อครั้งที่ท่าเรือฮ่องกงเพิ่งเปิดทำการ หวง เฟย์หงในวัย 21 ปี ไม่อาจทนเห็นผู้อ่อนแอโดนนักเลงท้องถิ่นจำนวนมากรุมรังแก จึงยื่นมือเข้าขัดขวาง ด้วยการใช้กระบองไม้ไผ่เป็นอาวุธบุกเดี่ยวเข้าสู้กับฝ่ายตรงข้ามจำนวนหลายสิบคน กลายเป็นศึกตะลุมบอนอันลือลั่น (บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว ปัจจุบันคือสวนสาธารณะที่ บนเกาะฮ่องกง)
ผลการต่อสู้ หวง เฟย์หง สามารถหลบหนีไปได้ และทำร้ายบรรดานักเลงอันธพาลบาดเจ็บไปหลายคน แต่การปะทะครั้งนั้น ก็ส่งผลให้ หวง เฟย์หงไม่อาจพำนักอยู่ในฮ่องกงได้อีกต่อไป และต้องเดินทางกลับไปยังกวางเจา ช่วงชีวิตของหวง เฟย์หง ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากสุด โดยผ่านการบอกเล่าของภาพยนตร์ต่าง ๆ มากมาย ในยุคปัจจุบัน คือ ช่วงวัยอายุประมาณ 30 ปี หวง เฟย์หง กลายเป็นปรมาจารย์กังฟูมีชื่อเสียง พร้อม ๆ กันนั้นเขาก็ได้เปิดร้านขายยาและสถานพยาบาล ชื่อ "เป่าจือหลิน" (โปจี๋หลำ, 寶芝林)
เป่าจือหลินกลายเป็นร้านขายยาที่โด่งดังเป็นตำนานเช่นเดียวกับชื่อเสียงของ หวง เฟย์หง (บริเวณที่ตั้งของร้านเป่าจือหลิน สันนิษฐานว่าอยู่ที่ตรอกหยั่นออน ถนนสายที่ 13 เขตกวางเจาตะวันตกในปัจจุบัน) ด้วยเหตุที่ให้การรักษาผู้เจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับผู้ยากไร้ บ่อยครั้งยังเป็นการเยียวยาพยาบาลโดยไม่คิดเงิน วิชาแพทย์ของหวง เฟย์หง ได้รับการยกย่องไม่น้อยหน้าวิชาการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อกระดูก ตำรับยาเฉพาะประจำตระกูล หรือการรักษาโดยวิธีการ
ในปี ค.ศ. 1888 นายพล (เหลา หวิงฟก, 劉永福) ผู้บัญชาการกองธงดำประสบอุบัติเหตุขาหัก และได้รับการรักษาโดย หวง เฟย์หง จนกระทั่งหายดี นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพระหว่างทั้งสอง หลิว หยงฟู่ ชักชวน หวง เฟย์หง ให้เป็นหมอประจำกองทัพ และต่อมาทั้งคู่ก็ได้เข้าร่วมสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่นที่รุกรานไต้หวัน
หวง เฟย์หง ผ่านการแต่งงานทั้งหมด 4 ครั้ง มีลูกทั้งหมด 10 คน ภรรยาสามคนแรกล้วนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งผลให้เขานึกโทษตนเองว่าเป็นต้นเหตุแห่งเคราะห์ร้ายแก่คนที่ตนรัก และตัดสินใจว่าจะไม่ยอมแต่งงานอีก แต่แล้วในปี ค.ศ. 1903 เขาได้พบกับหญิงสาววัย 16 ปีชื่อ "มอก ไกวหลาน" (ม่อกุ้ยหลาน, 莫桂蘭) และตกหลุมรักซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การแต่งงานในที่สุด
บั้นปลายชีวิต
เดือนมีนาคมปี ค.ศ. 1924 (บางข้อมูลระบุว่าเป็นวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1924) เกิดเหตุจลาจลในย่านการค้าของกวางเจา ห้างร้านจำนวนมากถูกทำลายเสียหายยับเยิน รวมทั้งร้านเป่าจือหลินของ หวง เฟย์หง ที่ถูกเผาจนราบคาบ ถัดจากนั้นไม่นาน หว่อง ฮอนซัม (หวง หันเซิน; Huáng Hànsēn, 黃漢森) บุตรชายคนโตของหวง เฟย์หง ก็เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาทกับ แก๊งค้ายาเสพติด (ข้อมูลบางแหล่งแย้งต่างกันมาก แต่ที่น่าจะถูกต้องที่สุดคือ เหตุดังกล่าวเกิดในปี ค.ศ. 1890) การสูญเสียบุตรชาย ทำให้หวง เฟย์หง ประกาศไม่ถ่ายทอดวิชาฝีมือให้แก่ลูกหลานของตน จะสอนเฉพาะกับลูกศิษย์เท่านั้น
หวง เฟย์หง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1924 สิริอายุได้ 76 ปี หลังจากนั้น มอก ไกวหลานพร้อมด้วยลูกศิษย์ 2 คนของหวง เฟย์หง คือ หลิน ซื่อหรง (หลำ ไซหวิ่ง) และ ตั่ง เซาขิ่ง (Deng Shiqiong, 鄧世瓊;) ก็ได้พากันอพยพไปยังฮ่องกง
ตลอดชีวิตหวง เฟย์หงมีลูกศิษย์ทั้งหมด 18 คน (ตั่ง เซาขิ่งเป็นคนเดียวที่เป็นผู้หญิง) ว่ากันว่าคนที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาในทุก ๆ ด้าน (ทั้งวิชากำลังภายใน, วิชาแพทย์ และการ) คือ เหลิง ฟุน (เหลียง ควน; Liáng Kuān, 梁寬) แต่โชคร้ายที่ศิษย์เอกรายนี้ เสียชีวิตตั้งแต่อายุเพียง 20 ต้น ๆ
ในบรรดาศิษย์ทั้งหมดของหวง เฟย์หง คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากสุดคือ (Lam Sai-wing; Lín Shìróng; 林世榮) ซึ่งต่อมาได้เปิดสำนักขึ้นที่ฮ่องกง และเขียนตำราหมัดมวยที่สำคัญเอาไว้หลายต่อหลายเล่ม รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทในการถ่ายทอดเผยแพร่วีรกรรมของอาจารย์
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
หลังจากหวง เฟย์หงเสียชีวิต เรื่องราวของเขาก็ได้รับการนำมาถ่ายทอดเป็นนวนิยาย ตีพิมพ์ตามหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ และเป็นที่นิยมในวงกว้าง มีการแต่งเติมสีสันเพิ่มจินตนาการต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งเรื่องราวของหวง เฟย์หงกลายเป็นตำนานพิสดารในวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างในปัจจุบัน จนถึงปัจจุบัน เรื่องราวของ หวง เฟย์หง ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีส์มาแล้วนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างในภาพยนตร์ชุด Once Upon a Time in China ที่มีอยู่ด้วยถึง 6 ภาค ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991-ค.ศ. 1997 ซึ่งนักแสดงผู้รับบท หวง เฟย์หง คือ หลี่ เหลียนเจี๋ย และ จ้าว เหวินจั๋ว นักแสดงผู้รับบท หวง เฟย์หง ในภาคที่ 4 และภาคที่ 5 และในแบบซีรีส์
อ้างอิง
- On Hung Gar: History and Practice pg.79 Paperback: 310 pages Publisher: CreateSpace (April 13, 2009) Language: English
- หวงเฟย์หง
- หวงเฟย์หง บรมคนพิทักษ์ชาติ[]
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hwng efyhng saeniyngcinklang hrux hwxng efyhng phasakwangtung Wong4 Fei1 hung4 hrux xung pwyhng saeniyngaetciw cintwetm 黃飛鴻 cintwyx 黄飞鸿 phinxin Huang Feihong Wohng Feihuhng xngkvs Wong Fei Hung Hwang Fei Hung 9 krkdakhm kh s 1847 17 emsayn kh s 1925 epnprmacarykngfuthimitwtncringinprawtisastrcin michuxesiyngepnthiruckknepnxyangdicakphaphyntrsilpakartxsuaelaphaphyntrkalngphayin inthanathiepnwirburustxsuephuxkxbkuskdisrichawcincakkarkhukkhamkhxngchawtawntkinyukhlaxananikhm echnediywkb hng sikwn aela hw hywneciyhwng efyhngekid9 krkdakhm kh s 1847 1847 07 09 fwchan mnthlkwangtung cinesiychiwit17 emsayn kh s 1925 1925 04 17 79 pi kwangocw mnthlkwangtung cinthixyufwchan mnthlkwangtung cin kwangocw mnthlkwangtung cinrupaebbkngfu hngchwnkhruphusxnxndbxachiphnkkngfu aephthy nkptiwtikhusmrsstri smrs kh s 1871 striaeshma smrs kh s 1896 stri smrs kh s 1902 smrs kh s 1915 nkeriynednehling fun Ling Wan kaipthmwyhwng efyhng ekidemuxwnthi 9 krkdakhm kh s 1847 trngkbpithi 25 inrchsmyhxngetetakwng aehngrachwngsching bangkhxmulbxkwa ekidemuxpi kh s 1856 trngkbpithi 6 inrchsmyhxngetesiynefing thihmubanhlueca iklphuekhasiechiyw emuxngfwchan mnthlkwangtung epnbutrkhxng 黃麒英 hwxng ekhy eyng insaeniyngkwangtung sungepnprmacarykngfuphumichuxesiyngodngdng aelaepnhnunginsmachikkhxngklum 10 phykhkhkwangtung 伏虎拳 thimichuxesiyngechnkn thungaemcaepnbutrkhxngprmacarykngfu aet hwng chixing kmiidthaythxdwithyayuththihaekbutrchay dwyehtuphlthiimaenchdnk hwng efyhng idmixacarysxnwichakalngphayinihkhux lu xaich 陸阿采 phuepnshayrwmsankesahlinkb hng sikwn 洪熙官 wirburuskngfuthimichuxesiyngxikkhn thaythxdwichamwy hngchwn 洪拳 odymikrabwnthathimichuxxyang hmdphykhkhda kaeriynkhaw 黑虎拳 白鶴拳 ih nxkcakid lu xaichepnxacaryaelw inwyeyaw hwng efyhng yngidraeriynwichahngchwnephimetimcak hla fksing Lin Shirong 林世榮 caknnkidrbkarsngsxnephimetimcak hwng chixing phuepnbida inwyedkkhrxbkhrwkhxng hwng efyhng mithanayakcn txngtraewnrxnaermipepidthakaraesdngwichafimuxaelakhayyatamthxngthnn odysrupaelwchiwitinchwngwyeyawaelawyhnumkhxng hwng efyhng epnrayaewlakhxngkarfukfnwichafimuxtxsupxngkntw aelakarrbmrdksubthxdwichaaephthycakbida sungepnaephthyaephnobranthiidrbkarykyxngnbthuxsrangchuxhwng hnsi cintwyx 黄汉熙 cintwetm 黃漢熙 phinxin Huang Hanxi butrchaykhnhnungkhxnghwng efyhng sungekidcakphrryakhnthi 3 caknn hwng efyhngidsrangwirkrrmxnluxchuxkhunma 2 ehtukarnthiepneruxngthiekidkhuncring ehtukarnaerkekidkhunemux hwng efyhng mixayu 16 pi michawtawntkklumhnungkhidkhnkickrrmsrangkhwambnething odyfukfnsunkhphnthueyxrmnechphephird cnduraykrahayeluxd caknnkepidewthithapralxngihchawcinsukbsunkh phuchnacaidrbenginrangwlmulkhasung aethakphladphlngbadecbhruxesiychiwit kthuxepnkhrawekhraahthiimmiphuidrbphidchxb kickrrmniklayepneruxngocscnekriywkrawipthw phukhncanwnmakthiekhapralxnglwnaelwaetphayaeph bangochkhdikaekhbadecb aetmicanwnimnxythitxngesiychiwitipxyangirepla emux hwng efyhng lwngrueruxngdngklaw cungekhapralxngephuxkxbkuskdisriihaekchawcin aelaepnfaychnaxyangngayday dwykrabwnthathieriykwa faethairenga sungepnimtaypracatwthimichuxesiyngodngdngmaksudkhxngekha ehtukarntxmakhux emuxkhrngthithaeruxhxngkngephingepidthakar hwng efyhnginwy 21 pi imxacthnehnphuxxnaexodnnkelngthxngthincanwnmakrumrngaek cungyunmuxekhakhdkhwang dwykarichkrabxngimiphepnxawuthbukediywekhasukbfaytrngkhamcanwnhlaysibkhn klayepnsuktalumbxnxnluxln briewnthiekidehtudngklaw pccubnkhuxswnsatharnathi bnekaahxngkng phlkartxsu hwng efyhng samarthhlbhniipid aelatharaybrrdankelngxnthphalbadecbiphlaykhn aetkarpathakhrngnn ksngphlih hwng efyhngimxacphankxyuinhxngkngidxiktxip aelatxngedinthangklbipyngkwangeca chwngchiwitkhxnghwng efyhng sungepnthiruckaephrhlaymaksud odyphankarbxkelakhxngphaphyntrtang makmay inyukhpccubn khux chwngwyxayupraman 30 pi hwng efyhng klayepnprmacarykngfumichuxesiyng phrxm knnnekhakidepidrankhayyaaelasthanphyabal chux epacuxhlin opcihla 寶芝林 epacuxhlinklayepnrankhayyathiodngdngepntananechnediywkbchuxesiyngkhxng hwng efyhng briewnthitngkhxngranepacuxhlin snnisthanwaxyuthitrxkhynxxn thnnsaythi 13 ekhtkwangecatawntkinpccubn dwyehtuthiihkarrksaphuecbpwyidxyangmiprasiththiphaph aelasahrbphuyakir bxykhrngyngepnkareyiywyaphyabalodyimkhidengin wichaaephthykhxnghwng efyhng idrbkarykyxngimnxyhnawichakartxsu imwacaepnkartxkraduk tarbyaechphaapracatrakul hruxkarrksaodywithikar inpi kh s 1888 nayphl ehla hwingfk 劉永福 phubychakarkxngthngdaprasbxubtiehtukhahk aelaidrbkarrksaody hwng efyhng cnkrathnghaydi nnepncuderimtnkhxngmitrphaphrahwangthngsxng hliw hyngfu chkchwn hwng efyhng ihepnhmxpracakxngthph aelatxmathngkhukidekharwmsurbkbkxngthphyipunthirukranithwn hwng efyhng phankaraetngnganthnghmd 4 khrng milukthnghmd 10 khn phrryasamkhnaerklwnesiychiwittngaetxayuyngnxy sngphlihekhanukothstnexngwaepntnehtuaehngekhraahrayaekkhnthitnrk aelatdsinicwacaimyxmaetngnganxik aetaelwinpi kh s 1903 ekhaidphbkbhyingsawwy 16 pichux mxk ikwhlan mxkuyhlan 莫桂蘭 aelatkhlumrksungknaelakn cnnaipsukaraetngnganinthisudbnplaychiwit hla ishwing luksisyphumibthbathsakhyinkarephyaephrwirkrrmkhxnghwng efyhng eduxnminakhmpi kh s 1924 bangkhxmulrabuwaepnwnthi 15 tulakhm kh s 1924 ekidehtuclaclinyankarkhakhxngkwangeca hangrancanwnmakthukthalayesiyhayybeyin rwmthngranepacuxhlinkhxng hwng efyhng thithukephacnrabkhab thdcaknnimnan hwxng hxnsm hwng hnesin Huang Hansen 黃漢森 butrchaykhnotkhxnghwng efyhng kesiychiwitcakkarthaelaawiwathkb aekngkhayaesphtid khxmulbangaehlngaeyngtangknmak aetthinacathuktxngthisudkhux ehtudngklawekidinpi kh s 1890 karsuyesiybutrchay thaihhwng efyhng prakasimthaythxdwichafimuxihaeklukhlankhxngtn casxnechphaakbluksisyethann hwng efyhng esiychiwitemuxwnthi 25 minakhm kh s 1924 sirixayuid 76 pi hlngcaknn mxk ikwhlanphrxmdwyluksisy 2 khnkhxnghwng efyhng khux hlin suxhrng hla ishwing aela tng esakhing Deng Shiqiong 鄧世瓊 kidphaknxphyphipynghxngkng tlxdchiwithwng efyhngmiluksisythnghmd 18 khn tng esakhingepnkhnediywthiepnphuhying waknwakhnthiidrbkarthaythxdwichainthuk dan thngwichakalngphayin wichaaephthy aelakar khux ehling fun ehliyng khwn Liang Kuan 梁寬 aetochkhraythisisyexkrayni esiychiwittngaetxayuephiyng 20 tn inbrrdasisythnghmdkhxnghwng efyhng khnthimichuxesiyngodngdngmaksudkhux Lam Sai wing Lin Shirong 林世榮 sungtxmaidepidsankkhunthihxngkng aelaekhiyntarahmdmwythisakhyexaiwhlaytxhlayelm rwmthngepnphumibthbathinkarthaythxdephyaephrwirkrrmkhxngxacaryinwthnthrrmrwmsmyphiphithphnthhwng efyhng inemuxngfwchan sungkhuxbankhxngekhaexng inpccubn hlngcakhwng efyhngesiychiwit eruxngrawkhxngekhakidrbkarnamathaythxdepnnwniyay tiphimphtamhnngsuxphimphraywnhlaychbb aelaepnthiniyminwngkwang mikaraetngetimsisnephimcintnakartang makmay cnkrathngeruxngrawkhxnghwng efyhngklayepntananphisdarinwthnthrrmrwmsmyxyanginpccubn cnthungpccubn eruxngrawkhxng hwng efyhng thuksrangepnphaphyntraelasirismaaelwnbimthwn odyechphaaxyanginphaphyntrchud Once Upon a Time in China thimixyudwythung 6 phakh tngaetpi kh s 1991 kh s 1997 sungnkaesdngphurbbth hwng efyhng khux hli ehliyneciy aela caw ehwincw nkaesdngphurbbth hwng efyhng inphakhthi 4 aelaphakhthi 5 aelainaebbsirisxangxingsthaniyxypraethscinsthaniyxyprawtisastrOn Hung Gar History and Practice pg 79 Paperback 310 pages Publisher CreateSpace April 13 2009 Language English ISBN 978 1 4421 3747 9 hwngefyhng hwngefyhng brmkhnphithkschati lingkesiy aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb hwng efyhng ewbistxyangepnthangkar xngkvs