อันดับนกแก้ว ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 50–0Ma อีโอซีนยุคต้น – ปัจจุบัน | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
ชั้นฐาน: | |
อันดับ: | Psittaciformes , 1830 |
วงศ์ใหญ่และวงศ์ | |
| |
แผนที่การกระจายพันธุ์ |
นกแก้ว หรือ นกปากขอ (ภาษาไทยถิ่นเหนือ: นกแล) เป็นอันดับของนกอันดับหนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psittaciformes
เป็นนกที่มีความแตกต่างกันมากทางสรีระ คือมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงใหญ่ (19-100 เซนติเมตร) มีหัวกลมโต ลำตัวมีขนอุยปกคลุมหนาแน่น ขนมีแกนขนรอง ต่อมน้ำมันมีลักษณะเป็นพุ่มขน ผิวหนังค่อนข้างหนา มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากนกอันดับอื่น ๆ คือ จะงอยปากที่สั้นหนา และทรวดทรงงอเป็นตะขอหุ้มปากล่าง มีความคมและแข็งแรง อันเป็นที่ของชื่อสามัญ ใช้สำหรับกัดแทะอาหารและช่วยในการปีนป่าย เช่นเดียวกับกรงเล็บ รูจมูกไม่ทะลุถึงกัน สันปากบนหนาหยาบและแข็งทื่อ ขนปลายปีกมี 10 เส้น ขนกลางปีกมี 8-14 เส้น ไม่มีขนกลางปีกเส้นที่ 5 ขนหางมี 12-14 เส้น หน้าแข้งสั้นกว่าความยาวของนิ้วที่ยาวที่สุด แข้งปกคลุมด้วยเกล็ดชนิดเกล็ดร่างแห นิ้วมีการจัดเรียงแบบนิ้วคู่สลับกัน คือ เหยียดไปข้างหน้า 2 นิ้ว (นิ้วที่ 2 และ 3) และเหยียดไปข้างหลัง 2 นิ้ว (นิ้วที่ 1 และนิ้วที่ 4) ซึ่งนิ้วที่ 4 สามารถหมุนไปข้างหน้าได้
เป็นนกที่อาศัยและหากินบนต้นไม้ กินผลไม้และ บินได้ดีและบินได้เร็ว พบอาศัยอยู่เป็นคู่หรือเป็นฝูง ทำรังตามโพรงต้นไม้ ไข่สีขาว ลักษณะทรงกลม วางไข่ครั้งละ 2-6 ฟอง ลูกนกแรกเกิดมีสภาพเป็นลูกอ่อนเดินไม่ได้ พบกระจายพันธุ์ตามเขตร้อนทั่วโลก ในบางชนิดมีอายุยืนได้ถึง 50 ปี โดยเฉพาะนกแก้วชนิดที่มีขนาดใหญ่ และจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์พบว่า นกแก้วขนาดใหญ่มีความเฉลียวฉลาดเทียบเท่ากับเด็กอายุ 4 ขวบ
เป็นนกที่มนุษย์รู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องด้วยนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถฝึกหัดให้เลียนเสียงตามแบบภาษามนุษย์ในภาษาต่าง ๆ ได้ ประกอบกับมีสีสันต่าง ๆ สวยงามตามชนิด ซึ่งนกแก้วไม่มีกล่องเสียง แต่การส่งเสียงมาจากกล้ามเนื้อถุงลมและแผ่นเนื้อเยื่อ เมื่ออวัยวะส่วนนี้เกิดการสั่นสะเทือน จึงเปล่งเสียงออกมาได้ แบ่งออกได้ราว 360 ชนิด ใน 80 สกุล
ในประเทศไทยพบเพียงวงศ์เดียว คือ หรือนกแก้วแท้ พบทั้งหมด 7 ชนิด ใน 3 สกุล อาทิ นกแขกเต้า (Psittacula alexandri), นกแก้วโม่ง (P. eupatria) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีนกเพียงชนิดเดียวในอันดับนี้ที่บินไม่ได้ และหากินในเวลากลางคืนด้วย คือ นกแก้วคาคาโป (Strigops habroptila) ที่พบเฉพาะบนเกาะนิวซีแลนด์เท่านั้น โดยเป็นนกรูปร่างใหญ่ บินไม่ได้ นอกจากจะหากินในเวลากลางคืนแล้ว ยังมีเสียงร้องประหลาดที่คล้ายกบหรืออึ่งอ่างอีกด้วย ปัจจุบันมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์มากแล้ว
อ้างอิง
- Waterhouse, David M. (2006). "Parrots in a nutshell: The fossil record of Psittaciformes (Aves)". Historical Biology. 18 (2): 223–234. doi:10.1080/08912960600641224.
- Pets 101 : Pet Guide, สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต ทางทรูวิชั่นส์: พฤหัสบดีที่ 3 มกราคม 2556
- อนุกรมวิธานและสถานภาพของนกในประเทศไทย
- Psittaciformes (Parrots)
- แดนสนธยา, สารคดี. ดินแดนสวรรค์แปซิฟิกตอนใต้ ตอน 14: ช่อง 9 18 พฤศจิกายน 2552
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์นกแก้ว (อังกฤษ)
- เว็บไซต์นกแก้ว (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xndbnkaekw chwngewlathimichiwitxyu 50 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N xioxsinyukhtn pccubnkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Aveschnthan xndb Psittaciformes 1830wngsihyaelawngsCacatuoidea nkkhxkkhathu Cacatuidae nkaekwaeth nkaekwniwsiaelnd Strigopidaeaephnthikarkracayphnthu nkaekw hrux nkpakkhx phasaithythinehnux nkael epnxndbkhxngnkxndbhnung ichchuxwithyasastrwa Psittaciformes epnnkthimikhwamaetktangknmakthangsrira khuxmitngaetkhnadelkcnthungihy 19 100 esntiemtr mihwklmot latwmikhnxuypkkhlumhnaaenn khnmiaeknkhnrxng txmnamnmilksnaepnphumkhn phiwhnngkhxnkhanghna milksnaednthiaetktangcaknkxndbxun khux cangxypakthisnhna aelathrwdthrngngxepntakhxhumpaklang mikhwamkhmaelaaekhngaerng xnepnthikhxngchuxsamy ichsahrbkdaethaxaharaelachwyinkarpinpay echnediywkbkrngelb rucmukimthaluthungkn snpakbnhnahyabaelaaekhngthux khnplaypikmi 10 esn khnklangpikmi 8 14 esn immikhnklangpikesnthi 5 khnhangmi 12 14 esn hnaaekhngsnkwakhwamyawkhxngniwthiyawthisud aekhngpkkhlumdwyekldchnidekldrangaeh niwmikarcderiyngaebbniwkhuslbkn khux ehyiydipkhanghna 2 niw niwthi 2 aela 3 aelaehyiydipkhanghlng 2 niw niwthi 1 aelaniwthi 4 sungniwthi 4 samarthhmunipkhanghnaid epnnkthixasyaelahakinbntnim kinphlimaela biniddiaelabiniderw phbxasyxyuepnkhuhruxepnfung tharngtamophrngtnim ikhsikhaw lksnathrngklm wangikhkhrngla 2 6 fxng luknkaerkekidmisphaphepnlukxxnedinimid phbkracayphnthutamekhtrxnthwolk inbangchnidmixayuyunidthung 50 pi odyechphaankaekwchnidthimikhnadihy aelacakkarsuksakhxngnkwithyasastrphbwa nkaekwkhnadihymikhwamechliywchladethiybethakbedkxayu 4 khwb epnnkthimnusyruckknepnxyangdi enuxngdwyniymeliyngepnstweliyngthisamarthfukhdiheliynesiyngtamaebbphasamnusyinphasatang id prakxbkbmisisntang swyngamtamchnid sungnkaekwimmiklxngesiyng aetkarsngesiyngmacakklamenuxthunglmaelaaephnenuxeyux emuxxwywaswnniekidkarsnsaethuxn cungeplngesiyngxxkmaid aebngxxkidraw 360 chnid in 80 skul inpraethsithyphbephiyngwngsediyw khux hruxnkaekwaeth phbthnghmd 7 chnid in 3 skul xathi nkaekhketa Psittacula alexandri nkaekwomng P eupatria epntn xyangirktam minkephiyngchnidediywinxndbnithibinimid aelahakininewlaklangkhundwy khux nkaekwkhakhaop Strigops habroptila thiphbechphaabnekaaniwsiaelndethann odyepnnkruprangihy binimid nxkcakcahakininewlaklangkhunaelw yngmiesiyngrxngprahladthikhlaykbhruxxungxangxikdwy pccubnmisthanphaphiklsuyphnthumakaelwxangxingWaterhouse David M 2006 Parrots in a nutshell The fossil record of Psittaciformes Aves Historical Biology 18 2 223 234 doi 10 1080 08912960600641224 Pets 101 Pet Guide sarkhdithangxnimxlphlaent thangthruwichns phvhsbdithi 3 mkrakhm 2556 xnukrmwithanaelasthanphaphkhxngnkinpraethsithy Psittaciformes Parrots aednsnthya sarkhdi dinaednswrrkhaepsifiktxnit txn 14 chxng 9 18 phvscikayn 2552aehlngkhxmulxunwikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Psittaciformes ewbistnkaekw xngkvs ewbistnkaekw xngkvs wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb xndbnkaekw