Nepenthes aristolochioides | |
---|---|
หม้อบนของ N. aristolochioides | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Caryophyllales |
วงศ์: | Nepenthaceae |
สกุล: | Nepenthes |
สปีชีส์: | N. aristolochioides |
ชื่อทวินาม | |
Nepenthes aristolochioides & (1997) |
Nepenthes aristolochioides เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงถิ่นเดียวของเกาะสุมาตรา พบที่ระดับความสูง 800-2500 ม.จากระดับน้ำทะเล มีลักษณะหม้อที่ผิดธรรมดา ปากหม้อเกือบจะตั้งตรง ชื่อ aristolochioides เป็นรูปแบบจากสกุลที่ชื่อ Aristolochia และเติมภาษาละตินในตอนท้าย -oides แปลว่า "เหมือน" ซึ่งหมายถึงความคล้ายคลึงของหม้อกับดอกของ Aristolochia
ประวัติทางพฤกษศาสตร์
Nepenthes aristolochioides ถูกเก็บได้ครั้งแรกโดย วิลเลียม เมเจอร์ (Willem Meijer) ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1956 ตัวอย่างต้นแบบแรกที่ชื่อ Meijer 6542 เก็ยได้จากภูเขาตูจุห์ (Tujuh) ในจุมบี (Jambi) ที่ความสูง 2000 ม. มันถูกเก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ในไลเดน แต่อยู่ในสภาพไม่ดีนักตัวอย่างคู่ตัวอย่างต้นแบบเก็บรักษาไว้ที่สวนพฤกษศาสตร์โบกอร์ (Bogor) ในเกาะชวา
แม้ว่ามันจะถูกแปะป้ายเป็น "ชนิดใหม่?" แต่ก็ไม่มีใครสนใจเป็นเวลามากกว่า 30 ปี ในปี ค.ศ. 1988 นักพฤกษศาสตร์ โจชิม เนอร์ซ (Joachim Nerz) ได้สังเกตเห็นเมื่อตอนไปเยี่ยมชมพอพรรณไม้ของมหาวิทยาลัยไลเดน ชื่อ N. aristolochioides ถูกตั้งให้แก่หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ในปี ค.ศ. 1994 ในปีเดียวกันนั้น นักอนุกรมวิธาน เจน สเชลาเลอร์ (Jan Schlauer) ได้เขียนว่าเขาได้ตรวจสอบตัวอย่าง Meijer 7426 และพบว่าแนวยืนตรงปากหม้อดูเหมือนว่าอาจเป็นผลของกระบวนการรักษาตัวอย่างโดยกับดักถูก "บีบอัดตามแนวยาว"
ในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1996 เนอร์ซได้พบกับสเชลาเลอร์และเมเจอร์ในสวนปาล์ม (Palmengarten) ในแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเมเจอร์ได้แสดงรูปถ่ายของหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ให้ดู เนอร์ซและคาทริน ฮินเดอร์โฮเฟอร์ (Katrin Hinderhofer) ได้ไปสุมาตราในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1996 และเขาก็ประสบความสำเร็จในการค้นพบ N. aristolochioides ซ้ำอีกครั้งในป่า
Nepenthes aristolochioides ถูกจำแนกครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1997 โดย แมตทิว จิบบ์ (Matthew Jebb) และ มาร์ติน ชีก (Martin Cheek) รายละเอียดอยู่ในบทความ "" ในวารสารทางพฤกษศาสตร์ที่ชื่อ โจชิม เนอร์ซ เขียนการอนุรักษ์หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้และตีพิมพ์ใน ในปีถัดมา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
N. aristolochioides เป็นไม้เลื้อยไต่ ยาว 8 ม.มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 มม. ปล้องเป็นทรงกระบอกหรือเหลี่ยมทื่อเมื่อตัดขวาง ยาว 15 ซม.
ใบคล้ายแผ่นหนัง ไร้ก้าน แผ่นใบรูปช้อน-รูปใบหอก ยาว 15 ซม.กว้าง 3 ซม. ปลายแหลม สอบเรียวที่ละน้อยไปทางฐาน มีสองถึงห้าเส้นใบตามยาวในแต่ละด้านของเส้นกลางใบ เส้นใบแบบขนนกไม่เด่นชัด สายดิ่งยาว 15 ซม.
หม้อใบกระจุกและหม้อล่างจะถูกสร้างเมื่อเป็นต้นใบกระจุกเล็กๆก่อนที่จะกลายเป็นลำต้นเลื้อยไต่หรือบนตะเกียงที่แทงขึ้นมาจากลำต้น หม้อเป็นรูปกรวยในส่วนล่าง ส่วนบนเป็นทรงกลม สูง 7 ซม.กว้าง 3 ซม. ปากหม้อกลมเฉียงเกือบเป็นแนวตั้ง มีปีกตะเข็บหนึ่งคู่ (ยาว ≤4 มม.) อยู่ตลอดด้านหน้าของหม้อ เพอริสโตมกว้าง โค้งเข้าด้านใน กว้าง 5 มม. ขอบด้านในมีฟันขนาดเล็ก ปลายงอ มีต่อมปกคลุมทั่วผิวด้านในหม้อ ต่อมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.2-0.3 มม. มีความหนาแน่น 200-500 ต่อมต่อตารางเซนติเมตร ฝารูปวงกลม-รูปหัวใจ กว้าง 1.5 ซม. ไม่มีรยางค์ เกือบตั้งฉากกับปาก มีเดือยกิ่งหรือเดือยเดี่ยว (ยาว ≤7 มม.) ที่ฐานฝา
หม้อบนส่วนล่างรูปกรวยส่วนบนคล้ายถุง มีขนาดใหญ่กว่าหม้อล่าง สูง 15 ซม.กว้าง 8 ซม. มีสันแทนที่ปีก ปากเกือบตั้งตรง เพอริสโตม (กว้าง ≤6 มม.) แผ่ออกและโค้งเข้า มีฟันไม่แยก ฝารูปไข่ บ่อยครั้งวางตัวขนานไปตามแนวนอน ต่อมปกคลุมผิวภายในบริเวณด้านล่าง ต่ำกว่าสองในสามของหม้อ ต่อมย่อยอาหารโค้งเล็กน้อย มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.2-0.4 มม. มีความหนาแน่น 200-250 ต่อมต่อตารางเซนติเมตร ส่วนที่เหลือคล้ายกับหม้อล่าง
N. aristolochioides มีช่อดอกแบบกระจะ ก้านช่อดอกและแกนกลางยาว 15 ซม. แม้ว่าแกนกลางจะสันกว่าในเพศเมีย ก้านดอกย่อยมีใบประดับย่อย มีหนึ่งดอก ยาว 12 มม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว 4 มม. ผลยาว 20 มม.กว้าง 4 มม.รูปใบหอก เมล็ดรูปเส้นด้าย
ส่วนมากไม่มีสิ่งปกคลุม ง่าม เส้นกลางใบ และหม้ออาจมีขนสั้นสีขาวปกคลุมบางๆ
ลำต้นและแผ่นใบสีเขียวอ่อน หม้อสีขาวถึงสีแดงเรื่อมีจุดสีน้ำตาลแดง เพอริสโตมสีแดงเข้ม ใต้ฝามีสีแดง บนฝามีสีเหมือนกับหม้อ
มีความหลากหลายเพียงเล็กน้อยที่สังเกตเห็นได้จากประชากรของ N. aristolochioides ไม่มีรูปแบบและความหลากหลายที่ถูกจำแนกไว้
อ้างอิง
- Jebb, M.H.P. & M.R. Cheek 1997. A Skeletal Revision of Nepenthes (Nepenthaceae). Blumea 42(1): 1–106.
- Nerz, J. 1998. Rediscovery of an outstanding Nepenthes: N. aristolochioides (Nepenthaceae). 27(3): 101–114.
- Clarke, C.M. 2001. . Natural History Publications (Borneo), Kota Kinabalu.
- Jebb, M. 1994. NEPENTHES revision for Flora Malesiana. Carnivorous Plant Mailing List, September 9, 1994.
- Schlauer, J. 1994. NEPENTHES comments for Flora Malesiana. Carnivorous Plant Mailing List, September 9, 1994.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Nepenthes aristolochioides in its natural habitat
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
Nepenthes aristolochioideshmxbnkhxng N aristolochioidessthanakarxnurks IUCN 2 3 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaehmwd Magnoliophytachn Magnoliopsidaxndb Caryophyllaleswngs Nepenthaceaeskul Nepenthesspichis N aristolochioideschuxthwinamNepenthes aristolochioides amp 1997 Nepenthes aristolochioides epnhmxkhawhmxaeknglingthinediywkhxngekaasumatra phbthiradbkhwamsung 800 2500 m cakradbnathael milksnahmxthiphidthrrmda pakhmxekuxbcatngtrng chux aristolochioides epnrupaebbcakskulthichux Aristolochia aelaetimphasalatinintxnthay oides aeplwa ehmuxn sunghmaythungkhwamkhlaykhlungkhxnghmxkbdxkkhxng AristolochiaprawtithangphvkssastrNepenthes aristolochioides thukekbidkhrngaerkody wileliym emecxr Willem Meijer inwnthi 5 singhakhm kh s 1956 twxyangtnaebbaerkthichux Meijer 6542 ekyidcakphuekhatucuh Tujuh incumbi Jambi thikhwamsung 2000 m mnthukekbrksaiwthihxphrrnimaehngchatienethxraelndiniledn aetxyuinsphaphimdinktwxyangkhutwxyangtnaebbekbrksaiwthiswnphvkssastrobkxr Bogor inekaachwa aemwamncathukaepapayepn chnidihm aetkimmiikhrsnicepnewlamakkwa 30 pi inpi kh s 1988 nkphvkssastr occhim enxrs Joachim Nerz idsngektehnemuxtxnipeyiymchmphxphrrnimkhxngmhawithyalyiledn chux N aristolochioides thuktngihaekhmxkhawhmxaeknglingchnidniinpi kh s 1994 inpiediywknnn nkxnukrmwithan ecn sechlaelxr Jan Schlauer idekhiynwaekhaidtrwcsxbtwxyang Meijer 7426 aelaphbwaaenwyuntrngpakhmxduehmuxnwaxacepnphlkhxngkrabwnkarrksatwxyangodykbdkthuk bibxdtamaenwyaw invdurxnkhxngpi kh s 1996 enxrsidphbkbsechlaelxraelaemecxrinswnpalm Palmengarten inaefrngkefirt sungemecxridaesdngrupthaykhxnghmxkhawhmxaeknglingchnidniihdu enxrsaelakhathrin hinedxrohefxr Katrin Hinderhofer idipsumatraineduxnmithunayn kh s 1996 aelaekhakprasbkhwamsaercinkarkhnphb N aristolochioides saxikkhrnginpa Nepenthes aristolochioides thukcaaenkkhrngsudthayinpi kh s 1997 ody aemtthiw cibb Matthew Jebb aela martin chik Martin Cheek raylaexiydxyuinbthkhwam inwarsarthangphvkssastrthichux occhim enxrs ekhiynkarxnurkshmxkhawhmxaeknglingchnidniaelatiphimphin inpithdmalksnathangphvkssastrN aristolochioides epnimeluxyit yaw 8 m miesnphasunyklang 5 mm plxngepnthrngkrabxkhruxehliymthuxemuxtdkhwang yaw 15 sm ibkhlayaephnhnng irkan aephnibrupchxn rupibhxk yaw 15 sm kwang 3 sm playaehlm sxberiywthilanxyipthangthan misxngthunghaesnibtamyawinaetladankhxngesnklangib esnibaebbkhnnkimednchd saydingyaw 15 sm taekiyngthiaethngkhunmacaklatneka hmxibkracukaelahmxlangcathuksrangemuxepntnibkracukelkkxnthicaklayepnlatneluxyithruxbntaekiyngthiaethngkhunmacaklatn hmxepnrupkrwyinswnlang swnbnepnthrngklm sung 7 sm kwang 3 sm pakhmxklmechiyngekuxbepnaenwtng mipiktaekhbhnungkhu yaw 4 mm xyutlxddanhnakhxnghmx ephxrisotmkwang okhngekhadanin kwang 5 mm khxbdaninmifnkhnadelk playngx mitxmpkkhlumthwphiwdaninhmx txmmiesnphasunyklang 0 2 0 3 mm mikhwamhnaaenn 200 500 txmtxtarangesntiemtr farupwngklm ruphwic kwang 1 5 sm immiryangkh ekuxbtngchakkbpak mieduxykinghruxeduxyediyw yaw 7 mm thithanfa hmxbnswnlangrupkrwyswnbnkhlaythung mikhnadihykwahmxlang sung 15 sm kwang 8 sm misnaethnthipik pakekuxbtngtrng ephxrisotm kwang 6 mm aephxxkaelaokhngekha mifnimaeyk farupikh bxykhrngwangtwkhnaniptamaenwnxn txmpkkhlumphiwphayinbriewndanlang takwasxnginsamkhxnghmx txmyxyxaharokhngelknxy miesnphasunyklang 0 2 0 4 mm mikhwamhnaaenn 200 250 txmtxtarangesntiemtr swnthiehluxkhlaykbhmxlang N aristolochioides michxdxkaebbkraca kanchxdxkaelaaeknklangyaw 15 sm aemwaaeknklangcasnkwainephsemiy kandxkyxymiibpradbyxy mihnungdxk yaw 12 mm klibeliyngrupikh yaw 4 mm phlyaw 20 mm kwang 4 mm rupibhxk emldrupesnday swnmakimmisingpkkhlum ngam esnklangib aelahmxxacmikhnsnsikhawpkkhlumbang latnaelaaephnibsiekhiywxxn hmxsikhawthungsiaedngeruxmicudsinatalaedng ephxrisotmsiaedngekhm itfamisiaedng bnfamisiehmuxnkbhmx hmxbnthiyngimepidfa mikhwamhlakhlayephiyngelknxythisngektehnidcakprachakrkhxng N aristolochioides immirupaebbaelakhwamhlakhlaythithukcaaenkiwxangxingJebb M H P amp M R Cheek 1997 A Skeletal Revision of Nepenthes Nepenthaceae Blumea 42 1 1 106 Nerz J 1998 Rediscovery of an outstanding Nepenthes N aristolochioides Nepenthaceae 27 3 101 114 Clarke C M 2001 Natural History Publications Borneo Kota Kinabalu Jebb M 1994 NEPENTHES revision for Flora Malesiana Carnivorous Plant Mailing List September 9 1994 Schlauer J 1994 NEPENTHES comments for Flora Malesiana Carnivorous Plant Mailing List September 9 1994 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Nepenthes aristolochioides Nepenthes aristolochioides in its natural habitat