ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
กิ้งก่า ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ไทรแอสซิก-ปัจจุบัน 199–0Ma | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้นใหญ่: | Tetrapoda |
ชั้น: | Sauropsida |
อันดับ: | Squamata |
อันดับย่อย: | Lacertilia , 1867 |
วงศ์ | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง | |
|
กิ้งก่า (ภาษาไทยถิ่นเหนือ: จั๊กก่า; ภาษาไทยถิ่นอีสาน: กะปอม) เป็นสัตว์เลื้อยคลานในอันดับย่อย Lacertilia หรือ Sauria ในอันดับใหญ่ Squamata หรือ อันดับกิ้งก่าและงู โดยสัตว์ในอันดับนี้รวมถึงงูที่อยู่ในอันดับย่อย Serpentes ด้วย เหตุที่จัดอยู่ในอันดับเดียวกันเพราะมีลักษณะร่วมบางประการมากถึง 70 อย่าง
คำว่า "Lacertilia" มาจากภาษาละตินคำว่า "lacerta" ในความหมายเดียวกัน
โดยทั่วไปแล้วกิ้งก่ามี 4 ขา มีเกล็ดปกคลุมลำตัว แต่บางสกุลหรือบางชนิดก็ไม่มีขาหรือมีแต่ก็เล็กมากจนสังเกตได้ยาก เช่น จิ้งเหลนด้วง ในวงศ์จิ้งเหลน (Scincidae) หรือในวงศ์
กิ้งก่าโดยมากแล้วเป็นสัตว์กินเนื้อ โดยจะกินแมลงและสัตว์ขาปล้องเป็นหลัก แต่สำหรับในวงศ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น วงศ์เหี้ย (Varanidae) จะกินสัตว์มีกระดูกสันหลังด้วย แต่ขณะที่บางชนิด เช่น (Iguana iguana) ที่พบในอเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ กินพืชและผักเป็นอาหารหลัก
กิ้งก่าพบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วทุกมุมโลก ยกเว้นในบริเวณอาร์กติก แถบขั้วโลกเหนือและทวีปแอนตาร์กติกา แถบขั้วโลกใต้ มีขนาดแตกต่างกันมากตั้งแต่เพียงไม่กี่เซนติเมตร จนถึงเกือบ 3 เมตร ในมังกรโคโมโด (Varanus komodoensis) ที่หนักได้ถึงเกือบ 100 กิโลกรัม ซึ่งนับเป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในอันดับย่อยนี้
ปัจจุบันมีการอนุกรมวิธานไว้แล้วกว่า 19 วงศ์ ประมาณ 555 สกุล รวมทั้งหมดราว 4,184 ชนิด ซึ่งจำนวนนี้ไม่แน่นอน เพราะมีการสำรวจค้นพบชนิดใหม่ ๆ ขึ้นทุกปี
โดยวงศ์ที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด คือ Scincidae ที่มีประมาณ 1,000 ชนิด รองลงไป คือ Gekkonidae หรือ ตุ๊กแกกับจิ้งจก มีประมาณ 900 ชนิด ส่วนในวงศ์ Agamidae ก็มีประมาณเกือบ 500 ชนิด
ชนิดของกิ้งก่า
กิ้งก่าเป็นสัตว์เลื่อยคลายที่กลุ่ใหญ่ที่สุด มีประมาน 3700 ขนิด อาศัยเกือบทุกสภาพแวดล้อมยกเว้น มหาสมุทร และดินแดนที่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ตัวอย่างชนิดของกิ้งก่า 10 ชนิดดังนี้
1. เป็นกิ้งก่าที่พบใน อิหร่าน ทางเหนือของอัฟกานิสถาน
2. พบได้เพียงแหล่งเดียวในโลกที่ บริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ มาดากาสการ์ ( Madagascar )
3. Phrynosoma อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งของประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก
4. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แห้งแล้ง
5. จิ้งจก sailfin ฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณข้างน้ำ
6. Amblyrhynchus cristatus เป็นกิ้งก่าชนิดเดียวที่อาศัยทะเลเป็นแหล่งอาหาร หลายชนิดที่อาศัยอยู่ร่วมกันบนเกาะ
7. ในประเทศไทย พบเฉพาะในป่าดงดิบชื้นในชายแดนภาคตะวันตกติดกับพม่าและภาคใต้ติดกับมาเลเซียเท่านั้น
8. Heloderma suspectum พบในเขตทะเลทรายอริโซน่าทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา
9. พบกระจายตั้งแต่อเมริกาใต้ ฟลอริดา ทางตอนใต้ของยุโรป ทวีปอาฟริกาทางตอนเหนือ และตะวันออกกลาง (ยังไม่มีรายงานพบในประเทศ ไทย)
10.Varanus komodoensis เป็นสัตว์ที่พบได้เฉพาะบนเกาะโคโมโดและหมู่เกาะใกล้เคียงเท่านั้น
ปัจจัยการเปลี่ยนสีของกิ้งก่า
กิ้งก่า สามารถเปลี่ยนสีเพื่ออำพรางตัว ซึ่งเป็นความเข้าใจแบบผิดๆ แต่ความจริงแล้วปัจจัยที่ทำให้กิ้งก่าเปลี่ยนสีนั่นคือ การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เนื่องจาก กิ้งก่าไม่สามารถสร้างความร้อนในร่างกายได้ และอีกปัจจัยหนึ่งคือด้านอารมณ์ อย่างเช่นในภาวะปกติผิวหนังของ กิ้งก่าคามิเลี่ยน จะแสดงสีเขียว ในขณะที่โกรธจะแสดงสีเหลือง สดใส
ผิวหนังของกิ้งก่า
ผิวของกิ้งก่าเกือบทั้งหมดมีองค์ประกอบโปรตีน (เคราติน) และ lipids (ไขมัน) เกล็ดจะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์และปกคลุมส่วนใหญ่ของ ร่างกายและแขนขา มันอาจประกอบด้วยส่วนที่เหมือนกัน ประกอบด้วยส่วนที่ต่างชนิดกัน (Bradypodion spp.), ลักษณะเป็นปุ่มคล้ายลูกปัด (Chamaeleo chamaeleon), ลักษณะหยาบ (หลากหลายสายพันธุ์ของกิ้งก่า Chameleons หางสั้น), หรือนิ่มลื่น (Furcifer willsii) หน้าที่เบื้องต้นของผิวหนัง ของกิ้งก่า คือการรักษาความสมบูรณ์มั่นคงของร่างกายมันเป็นแนวกั้น ในการปกป้องอวัยวะภายในและรักษา homeostasis (ความสมดุลของสารเคมีและอุณหภูมิร่างกายภายในที่เหมาะสม) มันยังถูกใช้เป็นสิ่งปิดบังพฤติกรรมซ่อนเร้นและเป็นอวัยวะหนึ่งที่ใช้ในการสื่อสารอีกด้วย(เซลล์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนสี) นั้นไวและทำปฏิกิริยากับรังสี อินฟราเรด, UV, และบางส่วนของแถบคลื่นแสงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า, แต่บทบาทการปกป้องของ integument (หนังส่วนนอกของกิ้งก่า) มีความจำกัดต่อการรักษาน้ำภายในและการควบคุมอุณหภูมิ, ตามที่พวกมันไม่มีต่อม ผลิตไขมันที่สร้าง sebum (สารประกอบทางเคมีหนึ่งที่มีแบคทีเรียค่า pH ต่ำและเป็น ตัวป้องกันน้ำ)
กิ้งก่า ลอกคราบออกเป็นหลายชิ้น การลอกคราบมักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงเวลาการเจริญเติบโตว่ารวดเร็วหรือช้า กิ้งก่าคาร์เมเลี่ยนที่ลอกคราบผิวหนังชั้นนอกจะหลุดออกตามรอยต่อ ระหว่างเกล็ดหรือสะเก็ดหนังกำพร้า (squama) แล้วจึงแยกตัวออกจากผิวหนังที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ ใต้ชิ้นหนังเดิมจะแห้งลงและแข็งขึ้นหลังจากนั้นก็จะหลุดออก ในการลอกคราบอาจใช้เวลาสองสามวันถึงจะเสร็จสิ้น แต่เมื่อบางส่วนของผิวหนังลอกออกไม่หมด กิ้งก่าจะถูออกโดยการใช้กิ่งไม้ และเพราะว่าการลอกผิวหนังบน เปลือกตาและจมูกอาจทำให้การมองเห็นมีปัญหา มันจึงพยายามลอกทิ้งอยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กิ้งก่า ชอบที่จะลอกผิวหนังเพราะพวกมันมักจะกินคราบของตัวเองหรือตัวอื่น
เส้นประสาทรับความรู้สึกพบได้ในผิวหนังของกิ้งก่านอกจากความสามารถรับรู้ทางแสงและความร้อนแล้ว ผิวหนังชั้นนอกของพวกมันยังไวต่อการสัมผัสอีกด้วยสามารถเปลี่ยนสีผิวตามอารมณ์นั้น ๆ ได้ ก็เนื่องมาจากลักษณะพิเศษของชั้นผิวหนัง และเม็ดสี ผิวหนังชั้นนอกเหล่านี้ตอบสนองต่อแสงและความร้อน ส่วนผิวหนังชั้นในจะตอบสนองต่อสารเคมี เป็นสาเหตุทำให้เซลล์มีการหดและขยายตัว อย่างเช่นในภาวะปกติผิวหนังของ คามิเลี่ยน จะแสดงสีเขียว ในขณะที่โกรธจะแสดงสีเหลือง
อ้างอิง
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หน้า 373-397 (พ.ศ. 2552)
- https://en.wikipedia.org/wiki/Phrynocephalus
- https://en.wikipedia.org/wiki/Brookesia_minima
- https://en.wikipedia.org/wiki/Horned_lizard
- https://en.wikipedia.org/wiki/Thorny_dragon
- https://en.wikipedia.org/wiki/Philippine_sailfin_lizard
- https://en.wikipedia.org/wiki/Marine_iguana
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ptychozoon
- https://en.wikipedia.org/wiki/Gila_monster
- https://en.wikipedia.org/wiki/Mexican_mole_lizard
- https://en.wikipedia.org/wiki/Komodo_dragon
- (1)http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=558&id=3315[]
- https://tar5112032.wordpress.com/2014/03/10/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2
- http://www.petinthai.com/view_breeds.php?id=27
- http://www.wired.com/2014/04/how-do-chameleons-change-colors/
- http://vet.kku.ac.th/physio/animal/n05/web1/index12.html
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-09-29.
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudkingka chwngewlathimichiwitxyu ithraexssik pccubn 199 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg Nkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachnihy Tetrapodachn Sauropsidaxndb Squamataxndbyxy Lacertilia 1867wngsAgamidae Chamaeleonidae Helodermatidae Gekkonidae Iguanidae Lacertidae Scincidae VaranidaeaephnthiaesdngkarkracayphnthuchuxphxngSauria kingka phasaithythinehnux ckka phasaithythinxisan kapxm epnstweluxykhlaninxndbyxy Lacertilia hrux Sauria inxndbihy Squamata hrux xndbkingkaaelangu odystwinxndbnirwmthungnguthixyuinxndbyxy Serpentes dwy ehtuthicdxyuinxndbediywknephraamilksnarwmbangprakarmakthung 70 xyang khawa Lacertilia macakphasalatinkhawa lacerta inkhwamhmayediywkn odythwipaelwkingkami 4 kha miekldpkkhlumlatw aetbangskulhruxbangchnidkimmikhahruxmiaetkelkmakcnsngektidyak echn cingehlndwng inwngscingehln Scincidae hruxinwngs kingkaodymakaelwepnstwkinenux odycakinaemlngaelastwkhaplxngepnhlk aetsahrbinwngsthimikhnadihy echn wngsehiy Varanidae cakinstwmikraduksnhlngdwy aetkhnathibangchnid echn Iguana iguana thiphbinxemrikaklangaelathwipxemrikait kinphuchaelaphkepnxaharhlk kingkaphbkracayphnthuxyuthwthukmumolk ykewninbriewnxarktik aethbkhwolkehnuxaelathwipaexntarktika aethbkhwolkit mikhnadaetktangknmaktngaetephiyngimkiesntiemtr cnthungekuxb 3 emtr inmngkrokhomod Varanus komodoensis thihnkidthungekuxb 100 kiolkrm sungnbepnchnidthiihythisudinxndbyxyni pccubnmikarxnukrmwithaniwaelwkwa 19 wngs praman 555 skul rwmthnghmdraw 4 184 chnid sungcanwnniimaennxn ephraamikarsarwckhnphbchnidihm khunthukpi odywngsthimicanwnsmachikmakthisud khux Scincidae thimipraman 1 000 chnid rxnglngip khux Gekkonidae hrux tukaekkbcingck mipraman 900 chnid swninwngs Agamidae kmipramanekuxb 500 chnidchnidkhxngkingkakingkaepnstweluxykhlaythikluihythisud mipraman 3700 khnid xasyekuxbthuksphaphaewdlxmykewn mhasmuthr aeladinaednthiiklkhwolkehnux twxyangchnidkhxngkingka 10 chniddngni 1 epnkingkathiphbin xihran thangehnuxkhxngxfkanisthan 2 phbidephiyngaehlngediywinolkthi briewnthangtawntkechiyngehnuxkhxngekaa madakaskar Madagascar 3 Phrynosoma xyuinphunthiaehngaelngkhxngpraethsshrthxemrika aekhnada aelaemksiok 4 xyuinsingaewdlxmthiaehngaelng 5 cingck sailfin filippinsswnihyxasyxyubriewnkhangna 6 Amblyrhynchus cristatus epnkingkachnidediywthixasythaelepnaehlngxahar hlaychnidthixasyxyurwmknbnekaa 7 inpraethsithy phbechphaainpadngdibchuninchayaednphakhtawntktidkbphmaaelaphakhittidkbmaelesiyethann 8 Heloderma suspectum phbinekhtthaelthrayxriosnathangtxntawntkechiyngitkhxngpraethsshrthxemrika 9 phbkracaytngaetxemrikait flxrida thangtxnitkhxngyuorp thwipxafrikathangtxnehnux aelatawnxxkklang yngimmiraynganphbinpraeths ithy 10 Varanus komodoensis epnstwthiphbidechphaabnekaaokhomodaelahmuekaaiklekhiyngethannpccykarepliynsikhxngkingkakingka samarthepliynsiephuxxaphrangtw sungepnkhwamekhaicaebbphid aetkhwamcringaelwpccythithaihkingkaepliynsinnkhux karkhwbkhumxunhphumirangkay enuxngcak kingkaimsamarthsrangkhwamrxninrangkayid aelaxikpccyhnungkhuxdanxarmn xyangechninphawapktiphiwhnngkhxng kingkakhamieliyn caaesdngsiekhiyw inkhnathiokrthcaaesdngsiehluxng sdisphiwhnngkhxngkingkaphiwkhxngkingkaekuxbthnghmdmixngkhprakxboprtin ekhratin aela lipids ikhmn ekldcaaetktangknxxkiptamsayphnthuaelapkkhlumswnihykhxng rangkayaelaaekhnkha mnxacprakxbdwyswnthiehmuxnkn prakxbdwyswnthitangchnidkn Bradypodion spp lksnaepnpumkhlaylukpd Chamaeleo chamaeleon lksnahyab hlakhlaysayphnthukhxngkingka Chameleons hangsn hruxnimlun Furcifer willsii hnathiebuxngtnkhxngphiwhnng khxngkingka khuxkarrksakhwamsmburnmnkhngkhxngrangkaymnepnaenwkn inkarpkpxngxwywaphayinaelarksa homeostasis khwamsmdulkhxngsarekhmiaelaxunhphumirangkayphayinthiehmaasm mnyngthukichepnsingpidbngphvtikrrmsxnernaelaepnxwywahnungthiichinkarsuxsarxikdwy esllthikxihekidkarepliynsi nniwaelathaptikiriyakbrngsi xinfraerd UV aelabangswnkhxngaethbkhlunaesngthimxngehniddwytaepla aetbthbathkarpkpxngkhxng integument hnngswnnxkkhxngkingka mikhwamcakdtxkarrksanaphayinaelakarkhwbkhumxunhphumi tamthiphwkmnimmitxm phlitikhmnthisrang sebum sarprakxbthangekhmihnungthimiaebkhthieriykha pH taaelaepn twpxngknna kingka lxkkhrabxxkepnhlaychin karlxkkhrabmkekidkhunbxyinchwngewlakarecriyetibotwarwderwhruxcha kingkakharemeliynthilxkkhrabphiwhnngchnnxkcahludxxktamrxytx rahwangekldhruxsaekdhnngkaphra squama aelwcungaeyktwxxkcakphiwhnngthikalngcaekidkhunihm itchinhnngedimcaaehnglngaelaaekhngkhunhlngcaknnkcahludxxk inkarlxkkhrabxacichewlasxngsamwnthungcaesrcsin aetemuxbangswnkhxngphiwhnnglxkxxkimhmd kingkacathuxxkodykarichkingim aelaephraawakarlxkphiwhnngbn epluxktaaelacmukxacthaihkarmxngehnmipyha mncungphyayamlxkthingxyiherwthisudethathicathaid kingka chxbthicalxkphiwhnngephraaphwkmnmkcakinkhrabkhxngtwexnghruxtwxun esnprasathrbkhwamrusukphbidinphiwhnngkhxngkingkanxkcakkhwamsamarthrbruthangaesngaelakhwamrxnaelw phiwhnngchnnxkkhxngphwkmnyngiwtxkarsmphsxikdwysamarthepliynsiphiwtamxarmnnn id kenuxngmacaklksnaphiesskhxngchnphiwhnng aelaemdsi phiwhnngchnnxkehlanitxbsnxngtxaesngaelakhwamrxn swnphiwhnngchnincatxbsnxngtxsarekhmi epnsaehtuthaihesllmikarhdaelakhyaytw xyangechninphawapktiphiwhnngkhxng khamieliyn caaesdngsiekhiyw inkhnathiokrthcaaesdngsiehluxngxangxingwiryuthth elahacinda withyastweluxykhlanaelastwsaethinnasaethinbk hna 373 397 ph s 2552 ISBN 978 616 556 016 0 https en wikipedia org wiki Phrynocephalus https en wikipedia org wiki Brookesia minima https en wikipedia org wiki Horned lizard https en wikipedia org wiki Thorny dragon https en wikipedia org wiki Philippine sailfin lizard https en wikipedia org wiki Marine iguana https en wikipedia org wiki Ptychozoon https en wikipedia org wiki Gila monster https en wikipedia org wiki Mexican mole lizard https en wikipedia org wiki Komodo dragon 1 http www biogang net biodiversity view php menu biodiversity amp uid 558 amp id 3315 lingkesiy https tar5112032 wordpress com 2014 03 10 10 E0 B8 AD E0 B8 B1 E0 B8 99 E0 B8 94 E0 B8 B1 E0 B8 9A E0 B8 81 E0 B8 B4 E0 B9 89 E0 B8 87 E0 B8 81 E0 B9 88 E0 B8 B2 http www petinthai com view breeds php id 27 http www wired com 2014 04 how do chameleons change colors http vet kku ac th physio animal n05 web1 index12 html khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 05 subkhnemux 2015 09 29 aehlngkhxmulxunwikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Sauria