ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ยาโกบึส แฮ็นรีกึส วันต์โฮฟฟ์ (อังกฤษ: Jacobus Henricus "Henry" van 't Hoff, Jr., 30 สิงหาคม ค.ศ. 1852 - 1 มีนาคม ค.ศ. 1911) เป็นนักเคมีทางกายภาพชาวดัตช์ที่ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาเคมีเป็นคนแรก วันต์โฮฟฟ์เป็นที่รู้จักเนื่องจากการค้นพบทฤษฎีในจลนพลศาสตร์เคมี สมดุลเคมี ความดันออสโมซิส ความคล้ายคลึงทางเคมี อุณหพลศาสตร์เคมีและสเตอริโอเคมี นอกจากนี้แล้วใน ค.ศ. 1874 วันต์โฮฟฟ์ได้คิดค้นทฤษฎีโครงสร้างสี่หน้าของอะตอมคาร์บอน และวางรากฐานการศึกษาโครงสร้างสามมิติของอะตอม ต่อจากนั้นใน ค.ศ. 1875 วันต์โฮฟฟ์ได้พบเจอโครงสร้างของ allenes (โมเลกุลที่มีคาร์บอนเป็นพันธะคู่) camulenes (ไฮโดรคาร์บอนที่มีพันธะคู่สามคู่ขึ้นไป) และ axial chirality
ยาโกบึส แฮ็นรีกึส วันต์โฮฟฟ์ | |
---|---|
ภาพถ่ายของวันต์โฮฟฟ์เมื่อ ค.ศ. 1904 โดย Nicola Perscheid | |
เกิด | 30 สิงหาคม ค.ศ. 1852 รอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ |
เสียชีวิต | 1 มีนาคม ค.ศ. 1911 (อายุ 58 ปี) Steglitz ใกล้กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี |
สัญชาติ | ดัตช์ |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคเดลฟท์ มหาวิทยาลัยไลเดิน มหาวิทยาลัยบ็อน มหาวิทยาลัยปารีส มหาวิทยาลัยยูเทรกต์ |
มีชื่อเสียงจาก | ผู้ค้นพบสเตอริโอเคมี ผู้ค้นพบเคมีเชิงฟิสิกส์ ผู้ค้นพบแนวคิดความคล้ายคลึงทางเคมี ผู้คาดการณ์โครงสร้างสี่หน้าของอะตอมคาร์บอน (คาร์บอนที่ไม่สมมาตร) ผู้คาดการณ์การมีอยู่ของ chiral allenes ไอโซเมอร์ จลนพลศาสตร์เคมี อุณหพลศาสตร์เคมี สมดุลเคมี ความดันออสโมซิส van 't Hoff factor van 't Hoff equation Le Bel–Van 't Hoff rule |
รางวัล | เหรียญเดวี (ค.ศ. 1893) ForMemRS (ค.ศ. 1897) รางวัลโนเบลสาขาเคมี |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | เคมีเชิงฟิสิกส์ เคมีอินทรีย์ เคมีเชิงทฤษฎี |
สถาบันที่ทำงาน | มหาวิทยาลัยยูเทรกต์สาขาสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิยาลัยอัมสเตอร์ดัม มหาวิทยาลัยฮุมบ็อลท์แห่งเบอร์ลิน |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก | Eduard Mulder |
ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก | Ernst Cohen |
ลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ | Frederick G. Donnan |
ประวัติ
ยาโกบึส แฮ็นรีกึส วันต์โฮฟฟ์ เกิดในเมืองรอตเทอร์ดาม ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1852 ยาโกบึสเป็นลูกคนที่สามจากเจ็ดของนายแพทย์เฮนรี่คัส วันต์โฮฟฟ์และ อาลิด้า วันต์โฮฟฟ์ ในวัยเยาว์ ยาโกบึสมีความสนใจในด้านวิทยศาสตร์และธรรมชาติ และเข้าร่วมทัศนศึกษาพฤกษศาสตร์บ่อยครั้ง เมื่อยาโกบึสได้เริ่มเข้าเรียน ยาโกบึสได้แสดงความสนใจในการเรียนบทกวีและปรัชญา
ใน ค.ศ. 1869 ยาโกบึสศึกษาในมหาวิทยาลัยโปลีเทคนิค ณ เมืองเดลฟท์ และได้รับประกาศนียบัตรเทคโนโลยีเคมีใน ค.ศ. 1871 หลังจากนั้นยาโกบึสได้ทำงานในโรงงานน้ำตาลและค้นพบว่าอาชีพที่ยาโกบึสทำนั้นน่าเบื่อ ยาโกบึสจึงได้ตัดสินใจที่จะไปศึกษาในกรุงบอนน์ และการทำงานกับ A.F. Kekulé จากฤดูใบไม้ร่วงใน ค.ศ. 1872-73 ต่อมายาโกบึสได้ไปศึกษาต่อที่กรุงปารีสกับ A Wurtz ใน ค.ศ. 1873-74 ยาโกบึสกลับไปฮอลแลนด์ใน ค.ศ. 1874 เพื่อที่จะไปศึกษาต่อในเมืองยูเทรกต์ ในปีเดียวกันยาโกบึสได้รับปริญญาเอกภายใต้ชื่อ Eduard Mulder
ใน ค.ศ. 1878 ยาโกบึสแต่งงานกับ Johanna Francina Mees มีบุตรสาวสองคนชื่อว่า Johanna Francina และ Aleida Jacoba และบุตรชายสองคนชื่อว่า Jacobus Henricus van 't Hoff III และ Govert Jacob ยาโกบึสเสียชีวิตลงเมื่ออายุ 58 ปีในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1911 โดยมีสาเหตุการเสียชีวิตคือวัณโรค
หน้าที่การงาน
วันต์โฮฟฟ์เป็นที่รู้จักจากความรู้ในด้านเคมีอินทรีย์ ใน พ.ศ. 1874 วันต์โฮฟฟ์ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่า พันธะเคมีระหว่างคาร์บอนและอะตอมรอบข้างจะมุ่งตรงไปยังมุมของปิรามิดฐานสามเหลี่ยมที่ไม่สมมาตร ซึ่งโครงสร้างสามมิตินี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของโมเลกุลไอโซเมอร์ที่พบเจอทั่วไปในธรรมชาติ วันต์โฮฟฟ์ได้กล่าวชื่นชมถึงนักเคมีชาวฝรั่งเศส Joseph Achille Le Bel ซึ่งได้ตีพิมพ์วารสารที่มีแนวคิดเดียวกันกับของวันต์โฮฟฟ์เป็นภาษาฝรั่งเศส
สามเดือนก่อนที่วันต์โฮฟฟ์จะได้ส่งวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก (เรื่อง ผลงานเพื่อความรู้เกี่ยวกับกรด cyanoacetic และกรด malonic) วันต์โฮฟฟ์ตีพิมพ์ทฤษฎีโครงสร้างพันธะเคมีของอะตอมคาร์บอนเป็นภาษาดัตช์ในรูปแบบจุลสารเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1874 โดยจุลสารนี้ประกอบไปด้วยข้อความสิบสองหน้าและไดอะแกรมหนึ่งหน้า วันต์โฮฟฟ์ได้ตีพิมพ์ทฤษฎีนี้เป็นอีกครั้งในปีต่อมาเป็นภาษาฝรั่งเศสที่มีหัวเรื่องว่า La chimie dans l'espace (Chemistry in Space) ถึงกระนั้น วันต์โฮฟฟ์และ Le Bel ยังเป็นนักเคมีที่มีอายุน้อย ซึ่งทำให้ทฤษฎีโครงสร้างพันธะเคมีนี้ถูกเพิกเฉยโดยวงการวงการวิทยาศาสตร์และถูกวิพากษ์อย่างเชือดเฉือนโดยนักเคมีชื่อดัง Hermann Kolbe ผู้ได้กล่าวไว้ว่า:
"เป็นที่ปรากฏชัดว่าศาตราจารย์วันต์โฮฟฟ์แห่งวิทยาลัยสัตวแพทย์ยูเทรกต์ ไม่มีความชอบที่จะทำการศึกษาวิจัยในทางเคมีให้ถูกต้องแม่นยำ เขาคิดว่ามันง่ายกว่าที่จะขี่เพกาซัส (ยืมจากวิทยาลัยสัตวแพทย์ที่ วันต์โฮฟฟ์สอน) และประกาศอย่างที่เขากล่าวไว้ใน La chimie dans l’espace บนทางไปสู่ยอดเขาพาร์แนสซัสทางเคมี ว่าเขาเห็นอะตอมจัดเรียงอยู่ในห้วงอวกาศ"
จนกระทั่งใน ค.ศ. 1877 เมื่อทฤษฎีนี้ได้ถูกตีพิมพ์อีกรอบเป็นภาษาเยอรมัน วงการวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจกับทฤษฎีนี้มากขึ้น และประมาณ ค.ศ. 1880 บุคคลในวงการนักเคมีสำคัญเช่น Johannes Wislicenus และ Viktor Meyer ได้สนับสนุนทฤษฎีนี้ ใน ค.ศ. 1905 ทฤษฎีโครงสร้างพันธะเคมีของวันต์โฮฟฟ์เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ
ใน ค.ศ. 1884 วันต์โฮฟฟ์ตีพิมพ์งานวิจัยเรื่องจลนพลศาสตร์เคมีซึ่งมีชื่อว่า Études de Dynamique chimique (การศึกษาเกี่ยวกับกลไกของปฏิกิริยาเคมี) ซึ่งในรายงานนี้วันต์โฮฟฟ์ได้เขียนถึงวิธีใหม่ในการกำหนดอันดับของปฏิกิริยาโดยใช้กราฟิกและใช้กฎของอุณหพลศาสตร์ในสมดุลเคมี นอกจากนี้แล้ว วันต์โฮฟฟ์ได้แนะนำแนวคิดในปัจจุบันของความคล้ายคลึงทางเคมี ใน ค.ศ. 1886 วันต์โฮฟฟ์แสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันของพฤติกรรมของสารละลายเจือจางและก๊าซ ใน ค.ศ. 1887 วันต์โฮฟฟ์และนักเคมีชาวเยอรมัน Wilhelm Ostwald ได้ก่อตั้งนิตยสารเชิงวิทยาศาสตร์ชื่อว่า Zeitschrift für Physikalische Chemie (วารสารเคมีฟิสิกส์) วันต์โฮฟฟ์ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีการแยกตัวของอิเล็กโทรไลต์ที่คิดค้นโดยสวานเต อาร์เรเนียส และให้หลักฐานเพื่อยืนยันการใช้งานของสมการอาร์เรเนียสใน ค.ศ. 1889 วันต์โฮฟฟ์ได้รับงานเป็นศาสตราจารย์ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ปรัสเซียน ณ กรุงเบอร์ลินใน ค.ศ. 1896 การศึกษาเกี่ยวกับการตกตะกอนของเกลือที่วันต์โฮฟฟ์ ณ Staßfurt ถือว่าเป็นส่วนร่วมที่สำคัญในอุตสาหกรรมเคมีของปรัสเซีย
วันต์โฮฟฟ์ได้รับงานเป็นวิทยากรด้านเคมีและฟิสิกส์ที่ที่วิทยาลัยสัตวแพทย์ในเมืองยูเทรกต์ หลังจากนั้นแล้ว วันต์โฮฟฟ์จึงได้รับงานเป็นศาสตราจารย์ด้านเคมีวิทยา แร่วิทยา และธรณีวิทยาที่มหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัมในระยะเวลา 18 ปีก่อนที่วันต์โฮฟฟ์ได้เป็นหัวหน้าแผนกวิชาเคมี ใน ค.ศ. 1896 วันต์โฮฟฟ์ได้ยอมรับคำเชิญไปยังกรุงเบอร์ลินเพื่อเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์และสมาชิกของสถาบันวิทยาศาสตร์ปรัสเซียน โดยเหตุผลหลักสำหรับการตัดสินใจนี้เป็นเพราะว่าในสถาบันวิทยาศาสตร์ปรัสเซียน วันต์โฮฟฟ์ต้องให้การบรรยายเนื้อหาเรียนให้แก่นักศึกษาเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งแตกต่างกับตอนที่ วันต์โฮฟฟ์ได้ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัมซึ่งให้ภาระแก่ วันต์โฮฟฟ์เป็นอย่างมาก เช่น การบรรยาเนื้อหาเรียนพื้นฐานที่น่าเบื่อและประเมินผลนักศึกษาเป็นจำนวนมากซึ่งรวมถึงนักศึกษาแพทย์ เพราะเหตุเหล่านี้ทำให้วันต์โฮฟฟ์ไม่มีเวลาในการทำงานวิจัยเป็นของตัวเอง ใน ค.ศ. 1901 วันต์โฮฟฟ์ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาเคมีเป็นครั้งแรก โดยงานที่ทำให้วันต์โฮฟฟ์ได้รับรางวัลคือการคิดค้นกฎของความดันออสโมซิสในสารละลาย และกฎของอัตราและกลไกการเกิดปฏิกิริยา วันต์โฮฟฟ์ทำงานอยู่ ณ กรุงเบอร์ลินจนถึงวันสิ้นชีวิต
เกียรติคุณและรางวัล
ใน ค.ศ. 1885 วันต์โฮฟฟ์ได้เป็นสมาชิกของสถาบันการศึกษาวิทยศาตร์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้แล้ว วันต์โฮฟฟ์ยังได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยเยล (ค.ศ. 1901) มหาวิทยาลัยวิกตอเรีย มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (ค.ศ. 1903) และมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก (ค.ศ. 1908) วันต์โฮฟฟ์ได้รับรางวัลเหรียญเดวี (เช่นเดียวกับ Joseph Achille Le Bel) และได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกต่างประเทศของราชสมาคมแห่งลอนดอน (ForMemRS) วันต์โฮฟฟ์ได้รับรางวัลเหรียญเฮ็ล์มฮ็อลทซ์จากสถาบันวิทยาศาสตร์ปรัสเซียน (ค.ศ. 1911) และได้รับตำแหน่ง Chevalier de la Légion d'honneur (ค.ศ. 1894) และ Senator der Kaiser-Wilhelm-Gesellschaft (ค.ศ. 1911) วันต์โฮฟฟ์กลายเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมเคมีอังกฤษ ราชบัณฑิตยสถานเนเธอร์แลนด์แห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ (ค.ศ. 1892) สมาคมเคมีอเมริกัน (ค.ศ. 1898) และสถาบันวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศส (ค.ศ. 1905) นอกเหนือจากนี้แล้ววันต์โฮฟฟ์เป็นบุคคลแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาเคมี ทฤษฎีและกฎที่ใช้ชื่อของวันต์โฮฟฟ์ได้แก่
- van 't Hoff factor
- van 't Hoff equation
- Le Bel–Van 't Hoff rule
อ้างอิง
- Ramberg, Peter J. (2017). Chemical Structure, Spatial Arrangement: The Early History of Stereochemistry, 1874–1914. Routledge. ISBN .
- Chisholm, Hugh, บ.ก. (1911). . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์.
- Nobel Lecture Osmotic Pressure and Chemical Equilibrium from Nobelprize.org website
- Karl Grandin, ed. "Jacobus Henricus van 't Hoff Biography". Les Prix Nobel. The Nobel Foundation. สืบค้นเมื่อ 15 August 2008.
{{}}
:|author=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) - La Chemie dans l'Espace, Bazendijk: Rotterdam, 1875
- Meijer, E. W. (2001). "Jacobus Henricus van 't Hoff; Hundred Years of Impact on Stereochemistry in the Netherlands". Angewandte Chemie International Edition. 40 (20): 3783–3789. doi:10.1002/1521-3773(20011015)40:20<3783::AID-ANIE3783>3.0.CO;2-J. PMID 11668534.
- Spek, Trienke M. van der (2006). "Selling a Theory: The Role of Molecular Models in J. H. van 't Hoff's Stereochemistry Theory". Annals of Science. 63 (2): 157. doi:10.1080/00033790500480816.
- Kreuzfeld, HJ; Hateley, MJ. (1999). "125 years of enantiomers: back to the roots Jacobus Henricus van 't Hoff 1852–1911". Enantiomer. 4 (6): 491–6. PMID 10672458.
- Biography on Nobel prize website. Nobelprize.org (1 March 1911). Retrieved on 2011-08-12.
- H.A.M., Snelders (1993). De geschiedenis van de scheikunde in Nederland. Deel 1: Van alchemie tot chemie en chemische industrie rond 1900. Delftse Universitaire Pers.
- Cordfunke, E. H. P. (2001). Een romantisch geleerde: Jacobus Henricus van 't Hoff (1852–1911). Vossiuspers UvA.
- Cohen, E. (1899). Jacobus Henricus van't Hoff. Verlag von Wilhelm Engelmann.
- Entry in Digital Album Promotorum 2011-07-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน of Utrecht University
- *Van 't Hoff (3 September 1874) Voorstel tot Uitbreiding der Tegenwoordige in de Scheikunde gebruikte Structuurformules in de Ruimte, benevens een daarmee samenhangende Opmerking omtrent het Verband tusschen Optisch Actief Vermogen en chemische Constitutie van Organische Verbindingen (Proposal for the Extension of Current Chemical Structural Formulas into Space, together with Related Observation on the Connection between Optically Active Power and the Chemical Constitution of Organic Compounds) [pamphlet published by the author]. Available in English at: ChemTeam.
- Reprinted in French in: J.H. van 't Hoff (1874) "Sur les formules de structure dans l'espace," Archives neerlandaises des sciences exactes et naturelles, 9:445–454.
- Planar Methane – Periodic Table of Videos. YouTube. Retrieved on 30 December 2015.
- Nagendrappa, G. (2007). "Jacobus Henricus van 't Hoff: A Short Biographical Sketch".
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help)) - "Jacobus Hendrik van 't Hoff (1852–1911)". Royal Netherlands Academy of Arts and Sciences. สืบค้นเมื่อ 17 July 2015.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud yaokbus aehnrikus wntohff xngkvs Jacobus Henricus Henry van t Hoff Jr 30 singhakhm kh s 1852 1 minakhm kh s 1911 epnnkekhmithangkayphaphchawdtchthiidrbrangwloneblinsakhaekhmiepnkhnaerk wntohffepnthiruckenuxngcakkarkhnphbthvsdiinclnphlsastrekhmi smdulekhmi khwamdnxxsomsis khwamkhlaykhlungthangekhmi xunhphlsastrekhmiaelasetxrioxekhmi nxkcakniaelwin kh s 1874 wntohffidkhidkhnthvsdiokhrngsrangsihnakhxngxatxmkharbxn aelawangrakthankarsuksaokhrngsrangsammitikhxngxatxm txcaknnin kh s 1875 wntohffidphbecxokhrngsrangkhxng allenes omelkulthimikharbxnepnphnthakhu camulenes ihodrkharbxnthimiphnthakhusamkhukhunip aela axial chiralityyaokbus aehnrikus wntohffphaphthaykhxngwntohffemux kh s 1904 ody Nicola Perscheidekid30 singhakhm kh s 1852 rxtethxrdam praethsenethxraelndesiychiwit1 minakhm kh s 1911 xayu 58 pi Steglitz iklkrungebxrlin eyxrmnisychatidtchsisyekamhawithyalyopliethkhnikhedlfth mhawithyalyiledin mhawithyalybxn mhawithyalyparis mhawithyalyyuethrktmichuxesiyngcakphukhnphbsetxrioxekhmi phukhnphbekhmiechingfisiks phukhnphbaenwkhidkhwamkhlaykhlungthangekhmi phukhadkarnokhrngsrangsihnakhxngxatxmkharbxn kharbxnthiimsmmatr phukhadkarnkarmixyukhxng chiral allenes ixosemxr clnphlsastrekhmi xunhphlsastrekhmi smdulekhmi khwamdnxxsomsis van t Hoff factor van t Hoff equation Le Bel Van t Hoff rulerangwlehriyyedwi kh s 1893 ForMemRS kh s 1897 rangwloneblsakhaekhmixachiphthangwithyasastrsakhaekhmiechingfisiks ekhmixinthriy ekhmiechingthvsdisthabnthithanganmhawithyalyyuethrktsakhastwaephthysastr mhawiyalyxmsetxrdm mhawithyalyhumbxlthaehngebxrlinxacarythipruksainradbpriyyaexkEduard MulderluksisyinradbpriyyaexkErnst Cohenluksisythimichuxesiyngxun Frederick G Donnanprawtiyaokbus aehnrikus wntohff ekidinemuxngrxtethxrdam n praethsenethxraelndemuxwnthi 30 singhakhm kh s 1852 yaokbusepnlukkhnthisamcakecdkhxngnayaephthyehnrikhs wntohffaela xalida wntohff inwyeyaw yaokbusmikhwamsnicindanwithysastraelathrrmchati aelaekharwmthsnsuksaphvkssastrbxykhrng emuxyaokbusiderimekhaeriyn yaokbusidaesdngkhwamsnicinkareriynbthkwiaelaprchya in kh s 1869 yaokbussuksainmhawithyalyopliethkhnikh n emuxngedlfth aelaidrbprakasniybtrethkhonolyiekhmiin kh s 1871 hlngcaknnyaokbusidthanganinorngngannatalaelakhnphbwaxachiphthiyaokbusthannnaebux yaokbuscungidtdsinicthicaipsuksainkrungbxnn aelakarthangankb A F Kekule cakvduibimrwngin kh s 1872 73 txmayaokbusidipsuksatxthikrungpariskb A Wurtz in kh s 1873 74 yaokbusklbiphxlaelndin kh s 1874 ephuxthicaipsuksatxinemuxngyuethrkt inpiediywknyaokbusidrbpriyyaexkphayitchux Eduard Mulder in kh s 1878 yaokbusaetngngankb Johanna Francina Mees mibutrsawsxngkhnchuxwa Johanna Francina aela Aleida Jacoba aelabutrchaysxngkhnchuxwa Jacobus Henricus van t Hoff III aela Govert Jacob yaokbusesiychiwitlngemuxxayu 58 piinwnthi 1 minakhm kh s 1911 odymisaehtukaresiychiwitkhuxwnorkhhnathikarnganwntohffinchwngkhristthswrrs 1900 wntohffepnthiruckcakkhwamruindanekhmixinthriy in ph s 1874 wntohffidtngsmmutithaniwwa phnthaekhmirahwangkharbxnaelaxatxmrxbkhangcamungtrngipyngmumkhxngpiramidthansamehliymthiimsmmatr sungokhrngsrangsammitiniepnokhrngsrangphunthankhxngomelkulixosemxrthiphbecxthwipinthrrmchati wntohffidklawchunchmthungnkekhmichawfrngess Joseph Achille Le Bel sungidtiphimphwarsarthimiaenwkhidediywknkbkhxngwntohffepnphasafrngess sameduxnkxnthiwntohffcaidsngwithyaniphnthradbpriyyaexk eruxng phlnganephuxkhwamruekiywkbkrd cyanoacetic aelakrd malonic wntohfftiphimphthvsdiokhrngsrangphnthaekhmikhxngxatxmkharbxnepnphasadtchinrupaebbculsarepnkhrngaerkemux kh s 1874 odyculsarniprakxbipdwykhxkhwamsibsxnghnaaelaidxaaekrmhnunghna wntohffidtiphimphthvsdiniepnxikkhrnginpitxmaepnphasafrngessthimihweruxngwa La chimie dans l espace Chemistry in Space thungkrann wntohffaela Le Bel yngepnnkekhmithimixayunxy sungthaihthvsdiokhrngsrangphnthaekhminithukephikechyodywngkarwngkarwithyasastraelathukwiphaksxyangechuxdechuxnodynkekhmichuxdng Hermann Kolbe phuidklawiwwa epnthipraktchdwasatracarywntohffaehngwithyalystwaephthyyuethrkt immikhwamchxbthicathakarsuksawicyinthangekhmiihthuktxngaemnya ekhakhidwamnngaykwathicakhiephkass yumcakwithyalystwaephthythi wntohffsxn aelaprakasxyangthiekhaklawiwin La chimie dans l espace bnthangipsuyxdekhapharaensssthangekhmi waekhaehnxatxmcderiyngxyuinhwngxwkas cnkrathngin kh s 1877 emuxthvsdiniidthuktiphimphxikrxbepnphasaeyxrmn wngkarwithyasastrihkhwamsnickbthvsdinimakkhun aelapraman kh s 1880 bukhkhlinwngkarnkekhmisakhyechn Johannes Wislicenus aela Viktor Meyer idsnbsnunthvsdini in kh s 1905 thvsdiokhrngsrangphnthaekhmikhxngwntohffepnthiyxmrbxyangkwangkhwangodynkwithyasastrnanachati in kh s 1884 wntohfftiphimphnganwicyeruxngclnphlsastrekhmisungmichuxwa Etudes de Dynamique chimique karsuksaekiywkbklikkhxngptikiriyaekhmi sunginraynganniwntohffidekhiynthungwithiihminkarkahndxndbkhxngptikiriyaodyichkrafikaelaichkdkhxngxunhphlsastrinsmdulekhmi nxkcakniaelw wntohffidaenanaaenwkhidinpccubnkhxngkhwamkhlaykhlungthangekhmi in kh s 1886 wntohffaesdngihehnthungkhwamkhlaykhlungknkhxngphvtikrrmkhxngsarlalayecuxcangaelakas in kh s 1887 wntohffaelankekhmichaweyxrmn Wilhelm Ostwald idkxtngnitysarechingwithyasastrchuxwa Zeitschrift fur Physikalische Chemie warsarekhmifisiks wntohffsuksaekiywkbthvsdikaraeyktwkhxngxielkothriltthikhidkhnodyswanet xarereniys aelaihhlkthanephuxyunynkarichngankhxngsmkarxarereniysin kh s 1889 wntohffidrbnganepnsastracarythisthabnwithyasastrprsesiyn n krungebxrlinin kh s 1896 karsuksaekiywkbkartktakxnkhxngekluxthiwntohff n Stassfurt thuxwaepnswnrwmthisakhyinxutsahkrrmekhmikhxngprsesiy wntohffidrbnganepnwithyakrdanekhmiaelafisiksthithiwithyalystwaephthyinemuxngyuethrkt hlngcaknnaelw wntohffcungidrbnganepnsastracarydanekhmiwithya aerwithya aelathrniwithyathimhawithyalyxmsetxrdminrayaewla 18 pikxnthiwntohffidepnhwhnaaephnkwichaekhmi in kh s 1896 wntohffidyxmrbkhaechiyipyngkrungebxrlinephuxepnsastracarykittimskdiaelasmachikkhxngsthabnwithyasastrprsesiyn odyehtuphlhlksahrbkartdsinicniepnephraawainsthabnwithyasastrprsesiyn wntohfftxngihkarbrryayenuxhaeriynihaeknksuksaephiyngaekhhnungchwomngtxspdahsungaetktangkbtxnthi wntohffidthanganxyuinmhawithyalyxmsetxrdmsungihpharaaek wntohffepnxyangmak echn karbrryaenuxhaeriynphunthanthinaebuxaelapraeminphlnksuksaepncanwnmaksungrwmthungnksuksaaephthy ephraaehtuehlanithaihwntohffimmiewlainkarthanganwicyepnkhxngtwexng in kh s 1901 wntohffidrbrangwloneblinsakhaekhmiepnkhrngaerk odynganthithaihwntohffidrbrangwlkhuxkarkhidkhnkdkhxngkhwamdnxxsomsisinsarlalay aelakdkhxngxtraaelaklikkarekidptikiriya wntohffthanganxyu n krungebxrlincnthungwnsinchiwitekiyrtikhunaelarangwlin kh s 1885 wntohffidepnsmachikkhxngsthabnkarsuksawithysatrkhxngpraethsenethxraelnd nxkcakniaelw wntohffyngidrbpriyyakittimskdicakmhawithyalyharwardaelamhawithyalyeyl kh s 1901 mhawithyalywiktxeriy mhawithyalyaemnechsetxr kh s 1903 aelamhawithyalyihedlebirk kh s 1908 wntohffidrbrangwlehriyyedwi echnediywkb Joseph Achille Le Bel aelaidthukaetngtngihepnsmachiktangpraethskhxngrachsmakhmaehnglxndxn ForMemRS wntohffidrbrangwlehriyyehlmhxlthscaksthabnwithyasastrprsesiyn kh s 1911 aelaidrbtaaehnng Chevalier de la Legion d honneur kh s 1894 aela Senator der Kaiser Wilhelm Gesellschaft kh s 1911 wntohffklayepnsmachikkittimskdikhxngsmakhmekhmixngkvs rachbnthitysthanenethxraelndaehngsilpaaelawithyasastr kh s 1892 smakhmekhmixemrikn kh s 1898 aelasthabnwithyasastrfrngess kh s 1905 nxkehnuxcakniaelwwntohffepnbukhkhlaerkthiidrbrangwloneblinsakhaekhmi thvsdiaelakdthiichchuxkhxngwntohffidaek van t Hoff factor van t Hoff equation Le Bel Van t Hoff rulexangxingRamberg Peter J 2017 Chemical Structure Spatial Arrangement The Early History of Stereochemistry 1874 1914 Routledge ISBN 9781351952453 Chisholm Hugh b k 1911 van t Hoff Jacobus Hendricus saranukrmbritanika kh s 1911 11 ed sankphimphmhawithyalyekhmbridc Nobel Lecture Osmotic Pressure and Chemical Equilibrium from Nobelprize org website Karl Grandin ed Jacobus Henricus van t Hoff Biography Les Prix Nobel The Nobel Foundation subkhnemux 15 August 2008 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a author michuxeriykthwip help La Chemie dans l Espace Bazendijk Rotterdam 1875 Meijer E W 2001 Jacobus Henricus van t Hoff Hundred Years of Impact on Stereochemistry in the Netherlands Angewandte Chemie International Edition 40 20 3783 3789 doi 10 1002 1521 3773 20011015 40 20 lt 3783 AID ANIE3783 gt 3 0 CO 2 J PMID 11668534 Spek Trienke M van der 2006 Selling a Theory The Role of Molecular Models in J H van t Hoff s Stereochemistry Theory Annals of Science 63 2 157 doi 10 1080 00033790500480816 Kreuzfeld HJ Hateley MJ 1999 125 years of enantiomers back to the roots Jacobus Henricus van t Hoff 1852 1911 Enantiomer 4 6 491 6 PMID 10672458 Biography on Nobel prize website Nobelprize org 1 March 1911 Retrieved on 2011 08 12 H A M Snelders 1993 De geschiedenis van de scheikunde in Nederland Deel 1 Van alchemie tot chemie en chemische industrie rond 1900 Delftse Universitaire Pers Cordfunke E H P 2001 Een romantisch geleerde Jacobus Henricus van t Hoff 1852 1911 Vossiuspers UvA Cohen E 1899 Jacobus Henricus van t Hoff Verlag von Wilhelm Engelmann Entry in Digital Album Promotorum 2011 07 24 thi ewyaebkaemchchin of Utrecht University Van t Hoff 3 September 1874 Voorstel tot Uitbreiding der Tegenwoordige in de Scheikunde gebruikte Structuurformules in de Ruimte benevens een daarmee samenhangende Opmerking omtrent het Verband tusschen Optisch Actief Vermogen en chemische Constitutie van Organische Verbindingen Proposal for the Extension of Current Chemical Structural Formulas into Space together with Related Observation on the Connection between Optically Active Power and the Chemical Constitution of Organic Compounds pamphlet published by the author Available in English at ChemTeam Reprinted in French in J H van t Hoff 1874 Sur les formules de structure dans l espace Archives neerlandaises des sciences exactes et naturelles 9 445 454 Planar Methane Periodic Table of Videos YouTube Retrieved on 30 December 2015 Nagendrappa G 2007 Jacobus Henricus van t Hoff A Short Biographical Sketch a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help Jacobus Hendrik van t Hoff 1852 1911 Royal Netherlands Academy of Arts and Sciences subkhnemux 17 July 2015