ปลาแลมป์เพรย์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ดีโวเนียนตอนปลาย-ปัจจุบัน | |
---|---|
ภาพวาดแสดงกายภาคและการดูดเลือดปลาแซลมอนของปลาแลมป์เพรย์ | |
ปากและฟันของปลาแลมป์เพรย์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้นใหญ่: | Agnatha |
ชั้น: | Petromyzontida และ Hyperoartia |
อันดับ: | Petromyzontiformes |
วงศ์: | Petromyzontidae |
วงศ์ย่อย | |
|
ปลาแลมป์เพรย์ (อังกฤษ: Lamprey, Lamprey eel) เป็นปลาที่อยู่ในชั้นใหญ่ปลาไม่มีขากรรไกร จัดอยู่ในอันดับ Petromyzontiformes และวงศ์ Petromyzontidae
ปลาแลมป์เพรย์มีลำตัวยาวลักษณะคล้ายปลาไหล ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะเป็นวงกลมใช้สำหรับดูด มีฟันแหลมคมจำนวนมากที่เจริญดีอยู่ในอุ้งปาก รูจมูกมี 1 รูซึ่งอยู่กึ่งกลางด้านบนของหัว มีตา 1 คู่ ถุงเหงือก 7 ถุง และมี 7 ช่อง หัวใจประกอบด้วย 1 ห้อง และ 1 ห้อง โครงร่างเป็นกระดูกอ่อนและเส้นใย และยังคงมีอยู่ เส้นประสาทหลัง มีการพัฒนาเป็นสมองซึ่งมีเส้นประสาทสมอง 8-10 คู่ ทางเดินอาหารไม่มีกระเพาะอาหาร ส่วนลำไส้บิดเป็นเกลียว มีลักษณะเพศแยกออกเป็นเพศผู้และเพศเมียชัดเจน
ปลาแลมป์เพรย์พบได้ทั้งลำธารในน้ำจืด และในทะเล พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก ทั้งยุโรปตอนบน, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, แอฟริกาตะวันตก, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ชิลี, ออสเตรเลีย และเกาะแทสมาเนีย
ปลาแลมป์เพรย์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกใหญ่ ๆ คือ แบบธรรมดา จะอาศัยอยู่ตามลำธาร ช่วงชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นระยะตัวอ่อนที่กินอาหารแบบกรอง ตัวเต็มวัยมีชิวิตอยู่ 3-4 สัปดาห์ โดยไม่กินอาหารเนื่องจากทางเดินอาหารสลายตัว เหลือเพียงสายของเนื้อเยื้อที่ไม่มีหน้าที่การทำงานและจะตายไปหลังวางไข่ ปลาแลมป์เพรย์จำพวกนี้สามารถดำรงชีวิตได้เอง โดยการกินสัตว์อื่นเป็นอาหาร มีความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 15-60 เซนติเมตร จะมีการวางไข่ที่ลำธารน้ำจืดที่มีพื้นเป็นทรายและก้อนกรวดเล็ก ๆ ตามพื้นท้องน้ำและวางไข่ในฤดูตัวผู้จะเริ่มสร้างแอ่งวางไข่โดยใช้ปากคาบเอาหินและกรวดจากพื้นโดยการแกว่งลำตัวทำให้ก้อนกรวดกระจายออกไปเกิดเป็นแอ่งรูปไข่ ตัวเมียจะตามมาและเกาะกับหินเหนือแอ่ง ตัวผู้เกาะทางด้านหัวของตัวเมีย ตัวเมียปล่อยไข่ลงในแอ่ง ตัวผู้ปล่อยน้ำเชื้อออกผสม ไข่ที่แล้วจะยึดเกาะกับก้อนกรวดในแอ่ง แล้วกลบด้วยทราย ลักษณะพิเศษคือ หลังวางไข่แล้วทั้งตัวผู้และเมียก็จะตายไป จากนั้น ไข่จะฟักออกในเวลา 2 สัปดาห์ เป็นตัวอ่อนขนาดเล็กตัวยาว เรียกว่า แอมโมซีทิส (Ammocoetes) ซึ่งจะคงอยู่ในแอ่งจนตัวยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ก็จะฝังตัวเข้าไปในทรายแล้วออกมาหากินในเวลากลางคืน ระยะตัวอ่อนแอมโมซีทีสจะยาวนานประมาณ 3-7 ปี จึงจะเจริญเปลี่ยนรูปร่างเป็นตัวเต็มวัย ซึ่งตัวเต็มวัยจะคงอยู่ในน้ำจืดอีกประมาณ 1 ปี แล้วก็วางไข่ จากนั้นก็จะตายไป ส่วนชนิดที่เป็นปลาทะเลก็จะอพยพคืนถิ่นสู่ทะเล มีอายุยืนยาวกว่าชนิดที่เป็นปลาน้ำจืด เมื่อเข้ามาวางไข่ในน้ำจืดจะไม่กินอาหาร
และ ปลาแลมป์เพรย์ที่เป็นปรสิต จะมีปากคล้ายแว่นดูดและมีอุ้งปาก คล้ายถ้วยลึกลงไปในอุ้งปาก และลิ้นมีฟันที่เจริญดีอยู่ มันจะใช้ปากเกาะเหยื่อและใช้ฟันและลิ้นครูดเอาเนื้อออก และให้เลือดของเหยื่อไหลผ่านได้สะดวก ปลาแลมป์เพรย์จะสร้างสารป้องกันการตกตะกอนของเลือดส่งไปที่ปากแผล เมื่อดูดเลือดของเหยื่อจนตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่
การจำแนก
ได้มีการจำแนกชั้น, วงศ์, สกุลและชนิดของปลาแลมป์เพรย์ได้ออกเป็นดังนี้ ชั้น . ชั้น Petromyzontida (หรือ Hyperoartia). ชั้น Petromyzontiformes และวงศ์ Petromyzontidae.
- วงศ์ย่อย Geotriinae
- สกุล Geotria ,1851
- (,1851)
- สกุล Geotria ,1851
- วงศ์ย่อย Mordaciinae
- วงศ์ย่อย
- สกุล , 1906
- ( & , 2010)
- (, , & , 1982)
- (, 1870)
- สกุล Regan, 1911
- Regan, 1911
- ( & Steiner, 1972)
- (, 1931)
- , 1974
- & , 1959
- สกุล , 1858
- (, 1885)
- , 1858
- & , 1916
- & , 1937
- & , 1937
- & , 1937
- สกุล , 1788
- (, 1860)
- ( & , 1978)
- (, 1842)
- (, 1870)
- (Linnaeus, 1758)
- ( & , 1976)
- (, 1964)
- ( & , 1976)
- (, 1827)
- (, 1971)
- (, 1982)
- ( & , 1973)
- , 1931
- (, 1784)
- ( & , 1965)
- ( & , 1979)
- (, 1887)
- ( , 1836)
- (, 1955)
- สกุล & , 1922
- (, 1811)
- (Anikin, 1905)
- ( & , 1978)
- , & , 2009
- (, 1869)
- สกุล Petromyzon Linnaeus, 1758
- Petromyzon marinus Linnaeus, 1758
- สกุล , 1906
ซึ่งในบางประเทศ เช่น เกาหลีใต้จะมีการปรุงปลาแลมป์เพรย์เป็นอาหารด้วย
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-13. สืบค้นเมื่อ 2011-09-24.
{{}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)) - Cephalaspidomorpha ในบางแหล่งจะถือเป็นชั้นย่อยของ Cephalaspidomorphi.
- Forey, Peter, & Janvier, Philippe (2000). "Agnathans and the origin of jawed vertebrates". ใน (บ.ก.). Shaking the tree: readings from Nature in the history of life. USA: University of Chicago Press; Nature/Macmillan Magazines. pp. 251–266. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Janvier, Philippe (2008). "Early Jawless Vertebrates and Cyclostome Origins". Zoological Science. 25 (10): 1045–1056. doi:10.2108/zsj.25.1045. PMID 19267641.
- Nelson, J. S. (2006). Fishes of the World (4th ed.). New York: John Wiley and Sons, Inc. pp. 601 pp. ISBN . วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ ปลาแลมป์เพรย์วิกิสปีชีส์มีข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Petromyzontidae
- Petromyzoniformes และ Petromyzonidae ซึ่งในบางแหล่งอาจใช้เป็นชื่อเดียวกัน
- "They Actually Eat That:" Lampreys. (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
plaaelmpephry chwngewlathimichiwitxyu dioweniyntxnplay pccubnphaphwadaesdngkayphakhaelakardudeluxdplaaeslmxnkhxngplaaelmpephrypakaelafnkhxngplaaelmpephrykarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachnihy Agnathachn Petromyzontida aela Hyperoartiaxndb Petromyzontiformeswngs Petromyzontidaewngsyxy plaaelmpephry xngkvs Lamprey Lamprey eel epnplathixyuinchnihyplaimmikhakrrikr cdxyuinxndb Petromyzontiformes aelawngs Petromyzontidae plaaelmpephrymilatwyawlksnakhlayplaihl latwdanhlngmkcaepnsida mikhribhlngaelakhribhang aetimmikhribkhu immiekld pakcaxyukhxnlngmathangdanthxng milksnaepnwngklmichsahrbdud mifnaehlmkhmcanwnmakthiecriydixyuinxungpak rucmukmi 1 rusungxyukungklangdanbnkhxnghw mita 1 khu thungehnguxk 7 thung aelami 7 chxng hwicprakxbdwy 1 hxng aela 1 hxng okhrngrangepnkradukxxnaelaesniy aelayngkhngmixyu esnprasathhlng mikarphthnaepnsmxngsungmiesnprasathsmxng 8 10 khu thangedinxaharimmikraephaaxahar swnlaisbidepnekliyw milksnaephsaeykxxkepnephsphuaelaephsemiychdecn plaaelmpephryphbidthnglatharinnacud aelainthael phbkracayphnthuxyuthwolk thngyuorptxnbn xemrikaehnux xemrikait aexfrikatawntk yipun ekahli chili xxsetreliy aelaekaaaethsmaeniy plaaelmpephrysamarthaebngxxkidepn 2 caphwkihy khux aebbthrrmda caxasyxyutamlathar chwngchiwitswnihycaepnrayatwxxnthikinxaharaebbkrxng twetmwymichiwitxyu 3 4 spdah odyimkinxaharenuxngcakthangedinxaharslaytw ehluxephiyngsaykhxngenuxeyuxthiimmihnathikarthanganaelacatayiphlngwangikh plaaelmpephrycaphwknisamarthdarngchiwitidexng odykarkinstwxunepnxahar mikhwamyawodyechliypraman 15 60 esntiemtr camikarwangikhthilatharnacudthimiphunepnthrayaelakxnkrwdelk tamphunthxngnaaelawangikhinvdutwphucaerimsrangaexngwangikhodyichpakkhabexahinaelakrwdcakphunodykaraekwnglatwthaihkxnkrwdkracayxxkipekidepnaexngrupikh twemiycatammaaelaekaakbhinehnuxaexng twphuekaathangdanhwkhxngtwemiy twemiyplxyikhlnginaexng twphuplxynaechuxxxkphsm ikhthiaelwcayudekaakbkxnkrwdinaexng aelwklbdwythray lksnaphiesskhux hlngwangikhaelwthngtwphuaelaemiykcatayip caknn ikhcafkxxkinewla 2 spdah epntwxxnkhnadelktwyaw eriykwa aexmomsithis Ammocoetes sungcakhngxyuinaexngcntwyawpraman 1 esntiemtr kcafngtwekhaipinthrayaelwxxkmahakininewlaklangkhun rayatwxxnaexmomsithiscayawnanpraman 3 7 pi cungcaecriyepliynruprangepntwetmwy sungtwetmwycakhngxyuinnacudxikpraman 1 pi aelwkwangikh caknnkcatayip swnchnidthiepnplathaelkcaxphyphkhunthinsuthael mixayuyunyawkwachnidthiepnplanacud emuxekhamawangikhinnacudcaimkinxahar aela plaaelmpephrythiepnprsit camipakkhlayaewndudaelamixungpak khlaythwyluklngipinxungpak aelalinmifnthiecriydixyu mncaichpakekaaehyuxaelaichfnaelalinkhrudexaenuxxxk aelaiheluxdkhxngehyuxihlphanidsadwk plaaelmpephrycasrangsarpxngknkartktakxnkhxngeluxdsngipthipakaephl emuxdudeluxdkhxngehyuxcntwehyuxaehngkcaplxyaelwhaehyuxihmkarcaaenkidmikarcaaenkchn wngs skulaelachnidkhxngplaaelmpephryidxxkepndngni chn chn Petromyzontida hrux Hyperoartia chn Petromyzontiformes aelawngs Petromyzontidae wngsyxy Geotriinae skul Geotria 1851 1851 wngsyxy Mordaciinae skul 1851 1851 1846 1968 wngsyxy skul 1906 amp 2010 amp 1982 1870 skul Regan 1911 Regan 1911 amp Steiner 1972 1931 1974 amp 1959 skul 1858 1885 1858 amp 1916 amp 1937 amp 1937 amp 1937 skul 1788 1860 amp 1978 1842 1870 Linnaeus 1758 amp 1976 1964 amp 1976 1827 1971 1982 amp 1973 1931 1784 amp 1965 amp 1979 1887 1836 1955 skul amp 1922 1811 Anikin 1905 amp 1978 amp 2009 1869 skul Petromyzon Linnaeus 1758 Petromyzon marinus Linnaeus 1758 sunginbangpraeths echn ekahliitcamikarprungplaaelmpephryepnxahardwyduephimaehkhfichxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 12 13 subkhnemux 2011 09 24 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a rabu accessdate aela access date makkwahnungraykar help rabu archivedate aela archive date makkwahnungraykar help rabu archiveurl aela archive url makkwahnungraykar help Cephalaspidomorpha inbangaehlngcathuxepnchnyxykhxng Cephalaspidomorphi Forey Peter amp Janvier Philippe 2000 Agnathans and the origin of jawed vertebrates in b k Shaking the tree readings from Nature in the history of life USA University of Chicago Press Nature Macmillan Magazines pp 251 266 ISBN 9780226284972 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Janvier Philippe 2008 Early Jawless Vertebrates and Cyclostome Origins Zoological Science 25 10 1045 1056 doi 10 2108 zsj 25 1045 PMID 19267641 Nelson J S 2006 Fishes of the World 4th ed New York John Wiley and Sons Inc pp 601 pp ISBN 0 471 25031 7 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb plaaelmpephry wikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Petromyzontidae Petromyzoniformes aela Petromyzonidae sunginbangaehlngxacichepnchuxediywkn They Actually Eat That Lampreys xngkvs