ภาษาศาสตร์เพิ่มพูน เป็น (Theoretical linguistics) ที่ถือว่าภาษาศาสตร์เป็นการศึกษาโครงสร้างไวยากรณ์ (Universal grammar) หรือที่มีโดยกำเนิดซึ่งถูกสมมุติฐานขึ้นมาทฤษฎีนี้เป็นการดัดแปลงทฤษฎีภาษาศาสตร์แบบโครงสร้างนิยมอันก่อนหน้า กล่าวคือ (glossematics) ไปในทางชีววิทยา หรือแบบ (Biological determinism) ภาษาศาสตร์เพิ่มพูนถือว่าไวยากรณ์เป็นระบบของกฏที่ผลิตการจัดหมู่ของคำศัพท์แล้วได้ผลออกมาเหมือนกับประโยคที่ถูกต้องทางไวยากรณ์ในภาษาหนึ่ง ว่าเป็นระบบของกฎที่ชัดเจนที่สามารถถูกใช้ซ้ำหลายครั้งเพื่อผลิตประโยคออกมาจำนวนนับไม่ถ้วนและมีความยาวเท่าใดก็ได้ตามที่ต้องการ สิ่งที่แตกต่างจากตัวแบบของและคือ ในภาษาศาสตร์เพิ่มพูนนั้นถูกผลิตโดยหน่วยคำหลัก (base-generated) อยู่ภายใน (verb phrase) โครงสร้างทางปริชานที่ถูกอ้างนี้ถูกคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ซึ่งเป็นโครงสร้างทางวากยสัมพันธ์ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมของมนุษย์
นักภาษาศาสตร์เพิ่มพูนได้สร้างทฤษฎีมากมายเพื่อทำให้สามารถเคราะห์นามวลี (NP) และกริยาวลี (VP) ได้ในการวรรณนาภาษาธรรมชาติ นั่นคือให้และกริยาวลีปรากฏเป็นองค์ประกอบอิสระและให้กรรมอยู่ในกริยาวลี จุดหลักที่สนใจอยู่ในวิธีการวิเคราะห์ได้อย่างเหมาะสม และในกรณีอื่น ๆ ที่ประธานปรากฏเสมือนแยกกริยาออกจากกรรม ถึงแม้นักภาษาศาสตร์เพิ่มพูนจะอ้างว่าเป็นโครงสร้างที่มีตัวตนจริงในทางปริชาน แต่ประสาทวิทยาศาสตร์ยังไม่พบหลักฐานสนับสนุน พูดได้ว่าไวยากรณ์เพิ่มพูนนั้นครอบคลุมตัวแบบของการรับรู้ทางภาษาศาสตร์ แต่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ใดที่บอกว่าถูกต้อง
ขอบเขต
มีแนวทางต่อภาษาศาสตร์เพิ่มพูนอยู่หลากหลายแนวทาง และทั้งหมดพยายามหากฎหรือหลักการชุดหนึ่งซึ่งนิยามสมาชิกของเซตของข้อความในภาษาธรรมชาติที่จัดรูปดีอย่างรูปนัย คำว่า ภาษาศาสตร์เพิ่มพูน สัมพันธ์กับสำนักภาษาศาสตร์อย่างน้อยดังต่อไปนี้:
- (Transformational grammar, TG)
- ทฤษฎีมาตรฐาน (Standard theory, ST)
- ทฤษฎีมาตรฐานแบบขยาย (Extended standard theory, EST)
- ทฤษฎีมาตรฐานแบบปรับปรุงใหม่ (Revised extended standard theory, REST)
- (Principles and Parameters, P&P)
- (Government and binding theory, GB)
- (Minimalist program, MP)
- ไวยากรณ์ชั้นเดียว (หรือ ไม่ปริวรรต) (Monostratal (or non-transformational) grammars)
- (Relational grammar, RG)
- (Lexical Functional Grammar, LFG)
- (Generalized phrase structure grammar, GPSG)
- (Head-driven phrase structure grammar, HPSG)
- (Categorical grammar)
- (Tree-adjoining grammar)
- (Optimality Theory, OT)
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของตัวแบบของไวยากรณ์ปริวรรต
แม้ (Leonard Bloomfield) ผู้ที่งานของเขาถูกปฏิเสธโดยชอมสกี มองว่านักไวยากรณ์ชาวอินเดียสมัยโบราณปาณินิเป็นบรรพบทของแนวคิดโครงสร้างนิยม ชอมสกีได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานรับรางวัลที่อิเดียในปี ค.ศ. 2001 และกล่าวว่า "ไวยากรณ์เพิ่มพูนอันแรกในนิยามร่วมสมัยคือไวยากรณ์ของปาณินิ"
มีการพัฒนาไวยากรณ์เพิ่มพูนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 และมีการเปลี่ยนแปลงชนิดของกฏและตัวแทนที่ใช้คาดการณ์ความถูกต้องทางไวยากรณ์ การพูดถึงระยะต่าง ๆ ของการพัฒนาทฤษฎีจะเป็นประโยชน์ในการตามรอยพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของแนวคิดในภาษาศาสตร์เพิ่มพูน
ทฤษฎีมาตรฐาน (ค.ศ. 1957–1965)
ทฤษฎีมาตรฐานที่ว่านี้สอดคล้องกับตัวแบบต้นฉบับของไวยากรณ์เพิ่มพูนที่วางไว้โดยชอมสกีในปี ค.ศ. 1965
แง่มุมหลักของทฤษฎีมาตรฐานคือการจำแนกการแทนของประโยคเป็นสองรูปแบบ ซึ่งเรียกว่า (deep structure) และโครงสร้างผิว (surface structure) การแทนสองแบบนี้เชื่อมต่อกันด้วย
ทฤษฎีมาตรฐานแบบขยาย (ค.ศ. 1965–1973)
ทฤษฎีมาตรฐานแบบขยายที่ว่านี้ถูกกำหนดขึ้นมาในปลายช่วงปี ค.ศ. 1960 ถึงต้นช่วงปี ค.ศ. 1970 ส่วนประกอบคือ:
- ข้อบังคับวากยสัมพันธ์ (syntactic constraints)
- โครงสร้างวลีทั่วไป (, X-bar theory)
ทฤษฎีมาตรฐานแบบปรับปรุงใหม่ (ค.ศ. 1973–1976)
ทฤษฎีมาตรฐานแบบปรับปรุงใหม่ที่ว่านี้ถูกกำหนดขึ้นมาระหว่างปี ค.ศ. 1973 และ 1976 ส่วนประกอบคือ:
- ข้อจำกัดบน (Jackendoff (1977)).
- ความเชื่อพื้นฐานของตำแหน่ง (complementizer)
- (Move α)
ไวยากรณ์สัมพันธ์ (ประมาณปี ค.ศ. 1975–1990)
ตัวแบบทางเลือกของวากยสัมพันธ์ที่อยู่บนแนวคิดว่าแนวคิดเช่น ประธาน กรรมตรง และกรรมรอง มีบทบาทหลักในไวยากรณ์
ทฤษฎีหลักการและตัวแปร/กำกับและผูกยึด (ค.ศ. 1981–1990)
Lectures on Government and Binding (1981) และ Barriers (1986) ของชอมสกี
โปรแกรมจุลนิยม (ค.ศ. 1990–ปัจจุบัน)
โปรแกรมจุลนิยมเป็นลำดับของการสอบสวนที่สมมุติฐานว่าของมนุษย์ดีที่สุดแล้ว โดยประกอบด้วยแค่สิ่งที่จำเป็นสำหรับการตอบสนองความต้องการทางกายภาพและการสื่อสาร และแสวงหาที่จะระบุคุณสมบัติที่จำเป็นของระบบแบบนั้น ชอมสกีได้เสนอโปรแกรมนี้ในปี ค.ศ. 1993
ไวยากรณ์ไม่พึ่งบริบท
(อังกฤษ: Context-free grammar) เราสามารถอธิบายและเปรียบเทียบภาษาศาสตร์เพิ่มพูนได้ด้วยความช่วยเหลือของ (Chomsky hierarchy) (ซึ่งชอมสกีได้เสนอในสมัยปี ค.ศ. 1950) นี่ให้กำเนิดลำดับของชนิดของไวยากรณ์รูปนัยที่มีพลังในการแสดงออกมากขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในชนิดที่ง่ายที่สุดคือ (regular grammar) (ชนิด 3) ชอมสกีอ้างว่านี่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นตัวแบบสำหรับภาษามนุษย์เพราะการอนุญาต (center-embedding) ของสายอักขระไว้ในสายอักขระในภาษามนุษย์ธรรมชาติ
ที่ระดับความซับซ้อนที่สูงขึ้นคือ (ชนิด 2) อนุพันธ์ของประโยคโดยไวยากรณ์เช่นนี้สามารถนำมาวาดเป็นอนุพันธ์ของ (tree structure) นักภาษาศาสตร์ที่ทำงานในภาษาศษสตร์เพิ่มพูนมักจะมองต้นไม้เช่นนั้นว่าเป็นวัตถุหลักในการศึกษา จากมุมมองนี้ ประโยคหนึ่งประโยคไม่ได้เป็นเพียงเส้นสายของคำเรียงติดกัน แต่ทว่าคำที่อยู่ติดกันถูกรวมเป็น หน่วยประกอบ ซึ่งสามารถรวมเพิ่มเติมกับคำหรือหน่วยประกอบอื่นเพื่อสร้างแผนภาพต้นไม้ลำดับชั้น
อนุพันธ์ของโครงสร้างต้นไม้ง่าย ๆ ของประโยคในภาษาอังกฤษ "the dog ate the bone" เป็นไปดังต่อไปนี้: (determiner) the และนาม dog รวมกันเพื่อสร้าง the dog นามวลีที่สอง the bone ก็สร้างขึ้นด้วยตัวกำหนด the และนาม bone กริยา ate รวมกับนามวลีที่สอง the bone เพื่อสร้าง ate the bone สุดท้าย นามวลีแรก the dog รวมกับกริยาวลี ate the bone เพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์เป็น the dog ate the bone แผนภาพต้นไม้ดังต่อไปแสดงให้เห็นอนุพันธ์นี้และโครงสร้างที่เป็นผล:
แผนภาพต้นไม้เช่นนี้ก็สามารถเรียกว่า (phrase marker) ซึ่งนำมาแทนอยู่ในรูปตัวหนังสือได้ (แต่ผลคือจะอ่านยากกว่า) ในรูปแบบนี้ประโยคด้านบนจะถูกนำมาแสดงเป็น:
[S [NP [D The ] [N dog ] ] [VP [V ate ] [NP [D the ] [N bone ] ] ] ]
ในภาษาไทยเราอาจแทนตัวกำหนดเป็น (อ่านว่า นิ-ยะ-มะ, demonstrative) ห่างหรือเคียง และ (classifier) เช่น หมาตัวนั้นกินกระดูกซี่นี้ เป็น:
[S [NP [N หมา ] [CL ตัว ] [D นั้น] ] [VP [V กิน ] [NP [N กระดูก ] [CL ซี่ ][D นี้ ] ] ] ]
ชอมสกีได้กล่าวอ้างว่าไวยากรณ์โครงสร้างวลีก็ไม่เหมาะสมสำหรับการวรรณนาภาษาธรรมชาติ และได้กำหนดระบบที่ซับซ้อนขึ้น
คำวิจารณ์
การขาดหลักฐาน
โนม ชอมสกีผู้ก่อตั้งไวยากรณ์เพิ่มพูนเชื่อว่าได้พบหลักฐานทางภาษาศาสตร์ว่าโครงสร้างทางวากยสัมพันธ์ไม่ได้ถูกเรียนรู้แต่ตัวเด็ก ‘ได้มา’ จากไวยากรณ์สากล นี่นำไปสู่การก่อตั้งข้ออ้าง (poverty of the stimulus) แต่ได้ค้นพบทีหลังว่าการวิเคราะห์เชิงภาษาศาสตร์ของชอมสกีนั้นไม่เหมาะสมและเพียงพอ
ไม่มีหลักฐานที่ว่าโครงสร้างวากยสัมพันธ์นั้นมีโดยกำเนิด แม้ว่าจะมีความหวังขึ้นหน่อยเมื่อมีการค้นพบยีน ก็ยังมีข้อสนับสนุนเพียงพอต่อแนวคิดที่ว่ายีนนี้เป็น 'ยีนไวยากรณ์' หรือว่ามีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการอุบัติของการพูดเชิงวากยสัมพันธ์หรือภาษาพูดเมื่อซึ่งพึ่งมีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
การศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์โดยการใช้ ERPs หรือศักย์ไฟฟ้าสมองสัมพันธ์กับเหตุการณ์ไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ต่อข้ออ้างว่าสมองมนุษย์ประมวลวัตถุทางไวยากรณ์เสมือนว่าวัตถุถูกวางใว้ในกริยาวลี ผลคือไวยากรณ์เพิ่มพูนไม่ใช่ตัวแบบที่เป็นประโยชน์สำหรับภาษาศาสตร์ประสาทวิทยา
นักภาษาศาสตร์เพิ่มพูนอ้างว่าภาษานั้นมี (Modularity of mind) เป็นของตัวเอง และไม่มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างการประมวลภาษาแม่กับการประมวลสารสนเทศชนิดอื่น ๆ อาทิคณิตศาสตร์ คำกล่าวอ้างนี้ไม่ได้อยู่บนฐานของการวิจัยหรือความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปว่าสมองทำงานอย่างไร
ชอมสกีได้ตอบกลับคำวิจารณ์โดยการเน้นว่าทฤษฎีของเขาความจริงแล้วขัดแย้งกับหลักฐาน เขาหากแต่เชื่อว่าจะเป็นกรณีที่คุณค่าจริงของงานวิจัยจะถูกเข้าใจในภายหลัง เหมือนกับกาลิเลโอ กาลิเลอี
ดนตรี
ไวยากรณ์เพิ่มพูนได้ถูกใช้ในขนาดที่จำกัดใน (music theory) และ (musical analysis) ตั้งแต่สมัยปี ค.ศ. 1980 แนวทางที่เป็นที่รู้จักที่สุดถูกพัฒนาโดย (Mark Steedman) รวมถึง (Fred Lerdahl) และ (Ray Jackendoff) ผู้ที่กำหนดรูปแบบและขยายแนวคิดจาก (Schenkerian analysis) และเร็ว ๆ มานี้แนวทางเพิ่มพูนแรก ๆ ต่อดนตรีก็ได้ถูกพัฒนาต่อเพิ่มและขยายโดยนักวิชาการหลายคน
ดูเพิ่ม
- (Cognitive revolution)
- (Digital infinity)
- (Formal grammar)
- (Functional linguistics)
- (Generative lexicon)
- (Generative metrics)
- (Generative principle)
- (Generative semantics)
- (Linguistic competence)
- (Parsing)
- (Phrase structure rules)
- (Generative systems)
หมายเหตุ
- "The first generative grammar in the modern sense was Panini's grammar"
อ้างอิง
- Schäfer, Roland (2016). Einführung in die grammatische Beschreibung des Deutschen (2nd ed.). Berlin: Language Science Press. ISBN .
- Butler, Christopher S. (2003). Structure and Function: A Guide to Three Major Structural-Functional Theories, part 1 (PDF). John Benjamins. pp. 121–124. ISBN . สืบค้นเมื่อ 19 มกราคม 2020.
- Everaert, Martin; Huybregts, Marinus A. C.; Chomsky, Noam; Berwick, Robert C.; Bolhuis, Johan J. (2015). "Structures, not strings: linguistics as part of the cognitive sciences" (PDF). Trends in Cognitive Sciences. 19 (12): 729–743. สืบค้นเมื่อ 5 มกราคม 2020.
- Seuren, Pieter A. M. (1998). Western linguistics: An historical introduction. Wiley-Blackwell. pp. 160–167. ISBN .
- Koerner, E. F. K. (1978). "Towards a historiography of linguistics". Toward a Historiography of Linguistics: Selected Essays. John Benjamins. p. 41f. ISBN .
it is worth noting that Chomsky cites Hjelmslev's Prolegomena, which had been translated into English in 1953, since the authors theoretical argument, derived largely from logic and mathematics, exhibits noticeable similarities. Cf. Chomsky's Syntactic Structures, which is based on the 1955 manuscript (Chomsky 1957:50), for a direct reference to Hjelmslev, and 115 f., the original [1957] bibliography).
- Chomsky, Noam (2017). "The language capacity: architecture and evolution". Psychonomic Bulletin & Review. 24 (24): 200–203. doi:10.3758/s13423-016-1078-6. PMID 27368638.
- Kotowski, Sven; Härtl, Holden (2011). "Recursion and the language faculty - on the evolution of the concept in Generative Grammar" (PDF). Norddeutsches Linguistisches Kolloquium (12): 24–46. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-04-14. สืบค้นเมื่อ 17 ธันวาคม 2020.
- Butler, Christopher S. (2003). Structure and Function: A Guide to Three Major Structural-Functional Theories, part 1 (PDF). John Benjamins. pp. 121–124. ISBN . สืบค้นเมื่อ 19 มกราคม 2020.
- Osborne, Timothy (2015). "Dependency Grammar". ใน Kiss, Tibor; Alexiadou, Artemis (บ.ก.). Syntax – Theory and Analysis. Vol. 2. De Gruyter. ISBN .
- Berwick, Robert C.; Chomsky, Noam (2015). Why Only Us: Language and Evolution. MIT Press. ISBN .
- Kiss, Tibor; Alexiadou, Artemis, บ.ก. (2015). Syntax--theory and analysis: An international handbook. De Gruyter. ISBN .
- Kluender, R.; Kutas, M. (1993). "Subjacency as a processing phenomenon" (PDF). Language and Cognitive Processes. 8 (4): 573–633. doi:10.1080/01690969308407588. สืบค้นเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2020.
- Barkley, C.; Kluender, R.; Kutas, M. (2015). "Referential processing in the human brain: An Event-Related Potential (ERP) study" (PDF). Brain Research. 1629: 143–159. doi:10.1016/j.brainres.2015.09.017. สืบค้นเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2020.
- Bloomfield, Leonard, 1929, 274; cited in Rogers, David, 1987, 88
- Hockett, Charles, 1987, 41
- Chomsky, Noam. 1993. A minimalist program for linguistic theory. MIT occasional papers in linguistics no. 1. Cambridge, Massachusetts: Distributed by MIT Working Papers in Linguistics.
- Chomsky, Noam (1956). "Three models for the description of language" (PDF). IRE Transactions on Information Theory. 2 (3): 113–124. doi:10.1109/TIT.1956.1056813. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-09-19.
- Pullum, GK; Scholz, BC (2002). "Empirical assessment of stimulus poverty arguments" (PDF). The Linguistic Review. 18 (1–2): 9–50. doi:10.1515/tlir.19.1-2.9. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-02-03. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
- Scharff C, Haesler S (December 2005). "An evolutionary perspective on FoxP2: strictly for the birds?". Curr. Opin. Neurobiol. 15 (6): 694–703. doi:10.1016/j.conb.2005.10.004. PMID 16266802.
- Scharff C, Petri J (July 2011). "Evo-devo, deep homology and FoxP2: implications for the evolution of speech and language". Philos. Trans. R. Soc. Lond. B Biol. Sci. 366 (1574): 2124–40. doi:10.1098/rstb.2011.0001. PMC 3130369. PMID 21690130.
- Diller, Karl C.; Cann, Rebecca L. (2009). Rudolf Botha; Chris Knight (บ.ก.). Evidence Against a Genetic-Based Revolution in Language 50,000 Years Ago. The Cradle of Language. Oxford Series in the Evolution of Language. Oxford.: Oxford University Press. pp. 135–149. ISBN . OCLC 804498749.
- Smith, Neil (2002). Chomsky: Ideas and Ideals (2nd ed.). Cambridge University Press. p. 17. ISBN .
the mind itself is not an undifferentiated general-purpose machine: it is compartmentalized in such a way that different tasks are subserved by different mechanisms. The mind is "modular." Sight and smell, taste and touch, language and memory, are all distinct from each other, from our moral and social judgment, and from our expertise in music or mathematics.
- Schwarz-Friesel, Monika (2012). "On the status of external evidence in the theories of cognitive linguistics". Language Sciences. 34 (6): 656–664. doi:10.1016/j.langsci.2012.04.007.
- Elsabbagh, Mayada; Karmiloff-Smith, Annette (2005). "Modularity of mind and language". ใน Brown, Keith (บ.ก.). Encyclopedia of Language and Linguistics (PDF). Elsevier. ISBN . สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2020.
- Chomsky, Noam; Belletti, Adriana; Rizzi, Luigi (January 1, 2001). "Chapter 4: An interview on minimalism". ใน Chomsky, Noam (บ.ก.). On Nature and Language (PDF). Cambridge University Press. pp. 92–161. ISBN . สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
- Baroni, M., Maguire, S., and Drabkin, W. (1983). The Concept of Musical Grammar. Music Analysis, 2:175–208.
- Baroni, M. and Callegari, L. (1982) Eds., Musical grammars and computer analysis. Leo S. Olschki Editore: Firenze, 201–218.
- Steedman, M.J. (1989). "A Generative Grammar for Jazz Chord Sequences". Music Perception. 2 (1): 52–77. doi:10.2307/40285282. JSTOR 40285282.
- Lerdahl, Fred; Ray Jackendoff (1996). A Generative Theory of Tonal Music. Cambridge: MIT Press. ISBN .
- , Free Composition. (Der Freie Satz) translated and edited by Ernst Ostler. New York: Longman, 1979.
- Tojo, O. Y. & Nishida, M. (2006). Analysis of chord progression by HPSG. In Proceedings of the 24th IASTED international conference on Artificial intelligence and applications, 305–310.
- Rohrmeier, Martin (2007). A generative grammar approach to diatonic harmonic structure. In Spyridis, Georgaki, Kouroupetroglou, Anagnostopoulou (Eds.), Proceedings of the 4th Sound and Music Computing Conference, 97–100. http://smc07.uoa.gr/SMC07%20Proceedings/SMC07%20Paper%2015.pdf
- Giblin, Iain (2008). Music and the generative enterprise. Doctoral dissertation. University of New South Wales.
- Katz, Jonah; (2009) "The Identity Thesis for Language and Music". http://ling.auf.net/lingBuzz/000959
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิโรจน์ อรุณมานะกุล. ๒๕๖๓. ศาสตร์แห่งภาษา : ความเป็นมาและพัฒนาการ. ภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
- Chomsky, Noam. 1965. Aspects of the theory of syntax. Cambridge, Massachusetts: MIT Press.
- Hurford, J. (1990) Nativist and functional explanations in language acquisition. In I. M. Roca (ed.), Logical Issues in Language Acquisition, 85–136. Foris, Dordrecht.
- Isac, Daniela; Charles Reiss (2013). I-language: An Introduction to Linguistics as Cognitive Science, 2nd edition. Oxford University Press. ISBN .
- "Mod 4 Lesson 4.2.3 Generative-Transformational Grammar Theory". www2.leeward.hawaii.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-16. สืบค้นเมื่อ 2017-02-02.
- Kamalani Hurley, Pat. "Mod 4 Lesson 4.2.3 Generative-Transformational Grammar Theory". www2.leeward.hawaii.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-16. สืบค้นเมื่อ 2017-02-02.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phasasastrephimphun epn Theoretical linguistics thithuxwaphasasastrepnkarsuksaokhrngsrangiwyakrn Universal grammar hruxthimiodykaenidsungthuksmmutithankhunmathvsdiniepnkarddaeplngthvsdiphasasastraebbokhrngsrangniymxnkxnhna klawkhux glossematics ipinthangchiwwithya hruxaebb Biological determinism phasasastrephimphunthuxwaiwyakrnepnrabbkhxngktthiphlitkarcdhmukhxngkhasphthaelwidphlxxkmaehmuxnkbpraoykhthithuktxngthangiwyakrninphasahnung waepnrabbkhxngkdthichdecnthisamarththukichsahlaykhrngephuxphlitpraoykhxxkmacanwnnbimthwnaelamikhwamyawethaidkidtamthitxngkar singthiaetktangcaktwaebbkhxngaelakhux inphasasastrephimphunnnthukphlitodyhnwykhahlk base generated xyuphayin verb phrase okhrngsrangthangprichanthithukxangnithukkhidwaepnswnhnungkhxng sungepnokhrngsrangthangwakysmphnththiekidcakkarklayphnthuthangphnthukrrmkhxngmnusy parse tree phasasastrephimphun praoykhthukaeykxxkepn N aela VP sungrwmthungkrrmdwy niaetktangcakphasasastrechingokhrngsrangaelaechinghnathisungthuxprathanaelakrrmepnxngkhprakxbthiehmuxnkn nkphasasastrephimphunidsrangthvsdimakmayephuxthaihsamarthekhraahnamwli NP aelakriyawli VP idinkarwrrnnaphasathrrmchati nnkhuxihaelakriyawlipraktepnxngkhprakxbxisraaelaihkrrmxyuinkriyawli cudhlkthisnicxyuinwithikarwiekhraahidxyangehmaasm aelainkrnixun thiprathanpraktesmuxnaeykkriyaxxkcakkrrm thungaemnkphasasastrephimphuncaxangwaepnokhrngsrangthimitwtncringinthangprichan aetprasathwithyasastryngimphbhlkthansnbsnun phudidwaiwyakrnephimphunnnkhrxbkhlumtwaebbkhxngkarrbruthangphasasastr aetyngimmikhxbngchiidthibxkwathuktxngkhxbekhtmiaenwthangtxphasasastrephimphunxyuhlakhlayaenwthang aelathnghmdphyayamhakdhruxhlkkarchudhnungsungniyamsmachikkhxngestkhxngkhxkhwaminphasathrrmchatithicdrupdixyangrupny khawa phasasastrephimphun smphnthkbsankphasasastrxyangnxydngtxipni Transformational grammar TG thvsdimatrthan Standard theory ST thvsdimatrthanaebbkhyay Extended standard theory EST thvsdimatrthanaebbprbprungihm Revised extended standard theory REST Principles and Parameters P amp P Government and binding theory GB Minimalist program MP iwyakrnchnediyw hrux impriwrrt Monostratal or non transformational grammars Relational grammar RG Lexical Functional Grammar LFG Generalized phrase structure grammar GPSG Head driven phrase structure grammar HPSG Categorical grammar Tree adjoining grammar Optimality Theory OT phthnakarthangprawtisastrkhxngtwaebbkhxngiwyakrnpriwrrt aem Leonard Bloomfield phuthingankhxngekhathukptiesthodychxmski mxngwankiwyakrnchawxinediysmyobranpaniniepnbrrphbthkhxngaenwkhidokhrngsrangniym chxmskiidklawsunthrphcninnganrbrangwlthixiediyinpi kh s 2001 aelaklawwa iwyakrnephimphunxnaerkinniyamrwmsmykhuxiwyakrnkhxngpanini mikarphthnaiwyakrnephimphunmatngaetpi kh s 1950 aelamikarepliynaeplngchnidkhxngktaelatwaethnthiichkhadkarnkhwamthuktxngthangiwyakrn karphudthungrayatang khxngkarphthnathvsdicaepnpraoychninkartamrxyphthnakarthangprawtisastrkhxngaenwkhidinphasasastrephimphun thvsdimatrthan kh s 1957 1965 thvsdimatrthanthiwanisxdkhlxngkbtwaebbtnchbbkhxngiwyakrnephimphunthiwangiwodychxmskiinpi kh s 1965 aengmumhlkkhxngthvsdimatrthankhuxkarcaaenkkaraethnkhxngpraoykhepnsxngrupaebb sungeriykwa deep structure aelaokhrngsrangphiw surface structure karaethnsxngaebbniechuxmtxkndwy thvsdimatrthanaebbkhyay kh s 1965 1973 thvsdimatrthanaebbkhyaythiwanithukkahndkhunmainplaychwngpi kh s 1960 thungtnchwngpi kh s 1970 swnprakxbkhux khxbngkhbwakysmphnth syntactic constraints okhrngsrangwlithwip X bar theory thvsdimatrthanaebbprbprungihm kh s 1973 1976 thvsdimatrthanaebbprbprungihmthiwanithukkahndkhunmarahwangpi kh s 1973 aela 1976 swnprakxbkhux khxcakdbn Jackendoff 1977 khwamechuxphunthankhxngtaaehnng complementizer Move a iwyakrnsmphnth pramanpi kh s 1975 1990 twaebbthangeluxkkhxngwakysmphnththixyubnaenwkhidwaaenwkhidechn prathan krrmtrng aelakrrmrxng mibthbathhlkiniwyakrn thvsdihlkkaraelatwaepr kakbaelaphukyud kh s 1981 1990 Lectures on Government and Binding 1981 aela Barriers 1986 khxngchxmski opraekrmculniym kh s 1990 pccubn opraekrmculniymepnladbkhxngkarsxbswnthismmutithanwakhxngmnusydithisudaelw odyprakxbdwyaekhsingthicaepnsahrbkartxbsnxngkhwamtxngkarthangkayphaphaelakarsuxsar aelaaeswnghathicarabukhunsmbtithicaepnkhxngrabbaebbnn chxmskiidesnxopraekrmniinpi kh s 1993iwyakrnimphungbribth xngkvs Context free grammar erasamarthxthibayaelaepriybethiybphasasastrephimphuniddwykhwamchwyehluxkhxng Chomsky hierarchy sungchxmskiidesnxinsmypi kh s 1950 niihkaenidladbkhxngchnidkhxngiwyakrnrupnythimiphlnginkaraesdngxxkmakkhuneruxy hnunginchnidthingaythisudkhux regular grammar chnid 3 chxmskixangwaniimehmaasmthicaepntwaebbsahrbphasamnusyephraakarxnuyat center embedding khxngsayxkkhraiwinsayxkkhrainphasamnusythrrmchati thiradbkhwamsbsxnthisungkhunkhux chnid 2 xnuphnthkhxngpraoykhodyiwyakrnechnnisamarthnamawadepnxnuphnthkhxng tree structure nkphasasastrthithanganinphasassstrephimphunmkcamxngtnimechnnnwaepnwtthuhlkinkarsuksa cakmummxngni praoykhhnungpraoykhimidepnephiyngesnsaykhxngkhaeriyngtidkn aetthwakhathixyutidknthukrwmepn hnwyprakxb sungsamarthrwmephimetimkbkhahruxhnwyprakxbxunephuxsrangaephnphaphtnimladbchn xnuphnthkhxngokhrngsrangtnimngay khxngpraoykhinphasaxngkvs the dog ate the bone epnipdngtxipni determiner the aelanam dog rwmknephuxsrang the dog namwlithisxng the bone ksrangkhundwytwkahnd the aelanam bone kriya ate rwmkbnamwlithisxng the bone ephuxsrang ate the bone sudthay namwliaerk the dog rwmkbkriyawli ate the bone ephuxthaihpraoykhsmburnepn the dog ate the bone aephnphaphtnimdngtxipaesdngihehnxnuphnthniaelaokhrngsrangthiepnphl aephnphaphtnimechnniksamartheriykwa phrase marker sungnamaaethnxyuinruptwhnngsuxid aetphlkhuxcaxanyakkwa inrupaebbnipraoykhdanbncathuknamaaesdngepn S NP D The N dog VP V ate NP D the N bone inphasaithyeraxacaethntwkahndepn xanwa ni ya ma demonstrative hanghruxekhiyng aela classifier echn hmatwnnkinkraduksini epn S NP N hma CL tw D nn VP V kin NP N kraduk CL si D ni chxmskiidklawxangwaiwyakrnokhrngsrangwlikimehmaasmsahrbkarwrrnnaphasathrrmchati aelaidkahndrabbthisbsxnkhunkhawicarnkarkhadhlkthan onm chxmskiphukxtngiwyakrnephimphunechuxwaidphbhlkthanthangphasasastrwaokhrngsrangthangwakysmphnthimidthukeriynruaettwedk idma cakiwyakrnsakl ninaipsukarkxtngkhxxang poverty of the stimulus aetidkhnphbthihlngwakarwiekhraahechingphasasastrkhxngchxmskinnimehmaasmaelaephiyngphx immihlkthanthiwaokhrngsrangwakysmphnthnnmiodykaenid aemwacamikhwamhwngkhunhnxyemuxmikarkhnphbyin kyngmikhxsnbsnunephiyngphxtxaenwkhidthiwayinniepn yiniwyakrn hruxwamikhwamekiywkhxngid kbkarxubtikhxngkarphudechingwakysmphnthhruxphasaphudemuxsungphungmikhunemuximnanmani karsuksathangprasathwithyasastrodykarich ERPs hruxskyiffasmxngsmphnthkbehtukarnimphbhlkthanthangwithyasastrid txkhxxangwasmxngmnusypramwlwtthuthangiwyakrnesmuxnwawtthuthukwangiwinkriyawli phlkhuxiwyakrnephimphunimichtwaebbthiepnpraoychnsahrbphasasastrprasathwithya nkphasasastrephimphunxangwaphasannmi Modularity of mind epnkhxngtwexng aelaimmikarptismphnthrahwangkarpramwlphasaaemkbkarpramwlsarsnethschnidxun xathikhnitsastr khaklawxangniimidxyubnthankhxngkarwicyhruxkhwamekhaicthangwithyasastrodythwipwasmxngthanganxyangir chxmskiidtxbklbkhawicarnodykarennwathvsdikhxngekhakhwamcringaelwkhdaeyngkbhlkthan ekhahakaetechuxwacaepnkrnithikhunkhacringkhxngnganwicycathukekhaicinphayhlng ehmuxnkbkalielox kalielxidntriiwyakrnephimphunidthukichinkhnadthicakdin music theory aela musical analysis tngaetsmypi kh s 1980 aenwthangthiepnthiruckthisudthukphthnaody Mark Steedman rwmthung Fred Lerdahl aela Ray Jackendoff phuthikahndrupaebbaelakhyayaenwkhidcak Schenkerian analysis aelaerw maniaenwthangephimphunaerk txdntrikidthukphthnatxephimaelakhyayodynkwichakarhlaykhnduephim Cognitive revolution Digital infinity Formal grammar Functional linguistics Generative lexicon Generative metrics Generative principle Generative semantics Linguistic competence Parsing Phrase structure rules Generative systems hmayehtu The first generative grammar in the modern sense was Panini s grammar xangxingSchafer Roland 2016 Einfuhrung in die grammatische Beschreibung des Deutschen 2nd ed Berlin Language Science Press ISBN 9781537504957 Butler Christopher S 2003 Structure and Function A Guide to Three Major Structural Functional Theories part 1 PDF John Benjamins pp 121 124 ISBN 9781588113580 subkhnemux 19 mkrakhm 2020 Everaert Martin Huybregts Marinus A C Chomsky Noam Berwick Robert C Bolhuis Johan J 2015 Structures not strings linguistics as part of the cognitive sciences PDF Trends in Cognitive Sciences 19 12 729 743 subkhnemux 5 mkrakhm 2020 Seuren Pieter A M 1998 Western linguistics An historical introduction Wiley Blackwell pp 160 167 ISBN 0631208917 Koerner E F K 1978 Towards a historiography of linguistics Toward a Historiography of Linguistics Selected Essays John Benjamins p 41f ISBN 9789027286543 it is worth noting that Chomsky cites Hjelmslev s Prolegomena which had been translated into English in 1953 since the authors theoretical argument derived largely from logic and mathematics exhibits noticeable similarities Cf Chomsky s Syntactic Structures which is based on the 1955 manuscript Chomsky 1957 50 for a direct reference to Hjelmslev and 115 f the original 1957 bibliography Chomsky Noam 2017 The language capacity architecture and evolution Psychonomic Bulletin amp Review 24 24 200 203 doi 10 3758 s13423 016 1078 6 PMID 27368638 Kotowski Sven Hartl Holden 2011 Recursion and the language faculty on the evolution of the concept in Generative Grammar PDF Norddeutsches Linguistisches Kolloquium 12 24 46 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 04 14 subkhnemux 17 thnwakhm 2020 Butler Christopher S 2003 Structure and Function A Guide to Three Major Structural Functional Theories part 1 PDF John Benjamins pp 121 124 ISBN 9781588113580 subkhnemux 19 mkrakhm 2020 Osborne Timothy 2015 Dependency Grammar in Kiss Tibor Alexiadou Artemis b k Syntax Theory and Analysis Vol 2 De Gruyter ISBN 9783110358667 Berwick Robert C Chomsky Noam 2015 Why Only Us Language and Evolution MIT Press ISBN 9780262034241 Kiss Tibor Alexiadou Artemis b k 2015 Syntax theory and analysis An international handbook De Gruyter ISBN 9783110202762 Kluender R Kutas M 1993 Subjacency as a processing phenomenon PDF Language and Cognitive Processes 8 4 573 633 doi 10 1080 01690969308407588 subkhnemux 28 kumphaphnth 2020 Barkley C Kluender R Kutas M 2015 Referential processing in the human brain An Event Related Potential ERP study PDF Brain Research 1629 143 159 doi 10 1016 j brainres 2015 09 017 subkhnemux 28 kumphaphnth 2020 Bloomfield Leonard 1929 274 cited in Rogers David 1987 88 Hockett Charles 1987 41 Chomsky Noam 1993 A minimalist program for linguistic theory MIT occasional papers in linguistics no 1 Cambridge Massachusetts Distributed by MIT Working Papers in Linguistics Chomsky Noam 1956 Three models for the description of language PDF IRE Transactions on Information Theory 2 3 113 124 doi 10 1109 TIT 1956 1056813 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2010 09 19 Pullum GK Scholz BC 2002 Empirical assessment of stimulus poverty arguments PDF The Linguistic Review 18 1 2 9 50 doi 10 1515 tlir 19 1 2 9 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 02 03 subkhnemux 2020 02 28 Scharff C Haesler S December 2005 An evolutionary perspective on FoxP2 strictly for the birds Curr Opin Neurobiol 15 6 694 703 doi 10 1016 j conb 2005 10 004 PMID 16266802 Scharff C Petri J July 2011 Evo devo deep homology and FoxP2 implications for the evolution of speech and language Philos Trans R Soc Lond B Biol Sci 366 1574 2124 40 doi 10 1098 rstb 2011 0001 PMC 3130369 PMID 21690130 Diller Karl C Cann Rebecca L 2009 Rudolf Botha Chris Knight b k Evidence Against a Genetic Based Revolution in Language 50 000 Years Ago The Cradle of Language Oxford Series in the Evolution of Language Oxford Oxford University Press pp 135 149 ISBN 978 0 19 954586 5 OCLC 804498749 Smith Neil 2002 Chomsky Ideas and Ideals 2nd ed Cambridge University Press p 17 ISBN 0521475171 the mind itself is not an undifferentiated general purpose machine it is compartmentalized in such a way that different tasks are subserved by different mechanisms The mind is modular Sight and smell taste and touch language and memory are all distinct from each other from our moral and social judgment and from our expertise in music or mathematics Schwarz Friesel Monika 2012 On the status of external evidence in the theories of cognitive linguistics Language Sciences 34 6 656 664 doi 10 1016 j langsci 2012 04 007 Elsabbagh Mayada Karmiloff Smith Annette 2005 Modularity of mind and language in Brown Keith b k Encyclopedia of Language and Linguistics PDF Elsevier ISBN 9780080547848 subkhnemux 5 minakhm 2020 Chomsky Noam Belletti Adriana Rizzi Luigi January 1 2001 Chapter 4 An interview on minimalism in Chomsky Noam b k On Nature and Language PDF Cambridge University Press pp 92 161 ISBN 9780511613876 subkhnemux 2020 02 28 Baroni M Maguire S and Drabkin W 1983 The Concept of Musical Grammar Music Analysis 2 175 208 Baroni M and Callegari L 1982 Eds Musical grammars and computer analysis Leo S Olschki Editore Firenze 201 218 Steedman M J 1989 A Generative Grammar for Jazz Chord Sequences Music Perception 2 1 52 77 doi 10 2307 40285282 JSTOR 40285282 Lerdahl Fred Ray Jackendoff 1996 A Generative Theory of Tonal Music Cambridge MIT Press ISBN 978 0 262 62107 6 Free Composition Der Freie Satz translated and edited by Ernst Ostler New York Longman 1979 Tojo O Y amp Nishida M 2006 Analysis of chord progression by HPSG In Proceedings of the 24th IASTED international conference on Artificial intelligence and applications 305 310 Rohrmeier Martin 2007 A generative grammar approach to diatonic harmonic structure In Spyridis Georgaki Kouroupetroglou Anagnostopoulou Eds Proceedings of the 4th Sound and Music Computing Conference 97 100 http smc07 uoa gr SMC07 20Proceedings SMC07 20Paper 2015 pdf Giblin Iain 2008 Music and the generative enterprise Doctoral dissertation University of New South Wales Katz Jonah 2009 The Identity Thesis for Language and Music http ling auf net lingBuzz 000959aehlngkhxmulxunwiorcn xrunmanakul 2563 sastraehngphasa khwamepnmaaelaphthnakar phakhwichaphasasastr khnaxksrsastr culalngkrnmhawithyaly Chomsky Noam 1965 Aspects of the theory of syntax Cambridge Massachusetts MIT Press Hurford J 1990 Nativist and functional explanations in language acquisition In I M Roca ed Logical Issues in Language Acquisition 85 136 Foris Dordrecht Isac Daniela Charles Reiss 2013 I language An Introduction to Linguistics as Cognitive Science 2nd edition Oxford University Press ISBN 978 0 19 953420 3 Mod 4 Lesson 4 2 3 Generative Transformational Grammar Theory www2 leeward hawaii edu khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 09 16 subkhnemux 2017 02 02 Kamalani Hurley Pat Mod 4 Lesson 4 2 3 Generative Transformational Grammar Theory www2 leeward hawaii edu khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 09 16 subkhnemux 2017 02 02