ไอนด์โฮเฟน (ดัตช์: Eindhoven) เป็นเทศบาลและเมืองในจังหวัดนอร์ทบราบรันต์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศและใหญ่ที่สุดในจังหวัดนอร์ทบราบันต์ เดิมทีตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ ดมเมล (Dommel) และแม่น้ำเคนเดอร์ (Gender) ปัจจุบัน มีประชากร 231,469 คน (ค.ศ. 2019) แต่หากรวมเมืองข้างๆทั้งมหานครแล้วจะมีประชากรรวม 419,045 คน
ไอนด์โฮเฟน | |
---|---|
Municipality/City | |
เส้นขอบฟ้าของเมือง | |
ธง ตราอาร์ม | |
พิกัด: 51°26′N 5°28′E / 51.433°N 5.467°E | |
ประเทศ | เนเธอร์แลนด์ |
จังหวัด | จังหวัดนอร์ทบราบันต์ |
การปกครอง | |
• Mayor | Rob van Gijzel () |
พื้นที่(2006) | |
• Municipality/City | 88.84 ตร.กม. (34.30 ตร.ไมล์) |
• พื้นดิน | 87.75 ตร.กม. (33.88 ตร.ไมล์) |
• พื้นน้ำ | 1.09 ตร.กม. (0.42 ตร.ไมล์) |
ประชากร (01 มกราคม 2010) | |
• Municipality/City | 217,192 คน |
• ความหนาแน่น | 2,407 คน/ตร.กม. (6,230 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 400,000 คน |
• รวมปริมณฑล | 720,000 คน |
Source: , Statline. | |
เขตเวลา | (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | (CEST) |
เว็บไซต์ | http://www.eindhoven.eu/ |
ชื่อ
ชื่อของไอนด์โฮเฟน อาจมาจากการผสมคำระหว่างคำว่า ไอนด์ (eind) ที่หมายถึงจุดสิ้นสุด และ โฮฟ (hove) ที่เป็นหน่วยวัดพื้นที่ขนาดราวๆ 14 เฮกเตอร์ ไอนด์เป็นคำที่มักใช้นำหน้าสถานที่และถนนต่างๆ ส่วนโฮฟเป็นหน่วยวัดพื้นที่ที่ได้รับความนิยมในสมัยโบราณโดยมักหมายถึงขนาดพื้นที่ที่เจ้าของที่ดินปล่อยเช่าให้กับบุคคลอื่น เช่นชาวนา และเป็นหน่วยที่ใช้กันมากในแถบเมืองโบราณที่ชื่อ วูนเซล (Woensel) ดังนั้น ชื่อเมืองไอนด์โฮเฟน น่าจะหมายถึง พื้นที่โฮฟสุดท้ายของเมืองวูนเซล นั่นเอง
ประวัติ
คริสต์ศตวรรษที่ 13-15
บันทึกทางประวัติศาสตร์ชี้ว่าไอนด์โฮเฟนมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1232 เมื่อ ดยุค เฮนดริค ที่ 1 แห่งบราบันต์ยกฐานะไอนด์โฮเฟนขึ้นเป็นเมือง ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงแค่หมู่บ้านเล็กๆที่เป็นจุดบรรจบกันของและ มีบ้านเรือนเพียง 170 หลังที่อยู่หลังกำแพงเมือง หลังจากยกระดับเป็นเมืองแล้ว เมืองสามารถมีตลาดนัดรายสัปดาห์ได้ ดึงดูดให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเดินทางมายังไอนด์โฮเฟนเพื่อซื้อขายสินค้า กลายเป็นจุดส่งผ่านสินค้าที่สำคัญ ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินฮอลแลนด์และเมืองลีแอจ (ในเบลเยียม ปัจจุบัน)
ราวปี ค.ศ. 1388 ได้มีการสร้างกำแพงเมืองที่แข็งแรงขึ้นมาอีกชั้น แต่ไม่รอดพ้นกับการถูกปล้นและเผาเมืองในปี ค.ศ. 1486
คริสต์ศตวรรษที่ 16-18
ไอนด์โฮเฟนได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1502 โดยมีกำแพงเมืองที่แข็งแรงขึ้น และปราสาทใหม่ แต่กลับถูกโจมตีอีกครั้งในปี ค.ศ. 1543 เพราะระบบการป้องกันเมืองไม่ได้รับการทำนุบำรุงเนื่องจากขาดงบประมาณ
ต่อมา ในปี ค.ศ. 1554 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำให้พื้นที่ราว 75 เปอร์เซ็นต์ของเมองได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะถูกบูรณะขึ้นมาอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งราชวงศ์ออเรนจ์
ในช่วงสงครามปฏิวัติของดัตช์ ไอนด์โฮเฟนตกอยู่ในมือของชาวดัตช์และสเปนสลับไปมาหลายครั้ง ก่อนจะถูกทหารสเปนบุกยึดได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1583 และได้ทำลายกำแพงเมืองลงโดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อเนเธอร์แลนด์ประกาศเอกราชได้สำเร็จ ราวๆ ค.ศ. 1629 ไอนด์โฮเฟนกลับไม่ได้ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งเนเธอร์แลนด์ ต่อมาเมื่อถูกฝรั่งเศสยึดครอง กองกำลังฝรั่งเศสได้ทำลายบ้านเมืองลงอย่างมาก ทำให้ไอนด์โฮเฟนกลายเป็นเพียงแค่เมืองรอง จนถึงช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม
คริสต์ศตวรรษที่ 19
การปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงศตวรรษที่ 19 นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากแก่ไอนด์โฮเฟน มีการขุดคลอง สร้างถนน ทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อไอนด์โฮเฟนเข้ากับเมืองใหญ่อย่าง ติลบืร์ค เซร์โทเคนบอส เวนโล และเบลเยียม ระหว่าง ค.ศ. 1866 ถึง 1870
ในช่วงแรก อุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับเมืองคือ ยาสูบและสิ่งทอ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นอุตสาหกรรมหลอดไฟ เมื่อบริษัทฟิลิปส์ ยักษ์ใหญ่ในวงการการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเริ่มตั้งโรงงานผลิตหลอดไฟขึ้นในปี ค.ศ. 1891
การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้จำนวนประชากรในไอนด์โฮเฟนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อมีการสถาปนาราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ใน ค.ศ. 1815 ไอนด์โฮเฟนมีประชากรเพียง 2,310 คนเท่านั้น
คริสต์ศตวรรษที่ 20
จำนวนประชากรของไอนด์โฮเฟนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 47,946 คนในปี 1920 เป็น 63,870 คนในปี 1925 และพุ่งขึ้นเป็น 103,030 คน ในปี 1935 อุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นทำให้ผู้ทำงานในโรงงานมีความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น จากที่เคยมีการพัฒนาจำกัดแค่ในรัศมีกำแพงเมืองในยุคกลาง ได้มีการสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ในเขตเทศบาลโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็น วูนเซล (ทางเหนือ) ทงเคลเรอ (ทางตะวันออก) สตราตรัม (ทางตะวันออกเฉียงใต้) เคสเทล เอน บลาร์เธม (ทางตะวันตกเฉียงใต้) และสไตรป์ (ทางตะวันตก) รวมกลายเป็นนครบาลไอนด์โฮเฟนใหญ่ (Groot-Eindhoven) แต่คำว่าใหญ่ได้ถูกตัดทิ้งในภายหลัง
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ก้าวเข้ามาสู่ไอนด์โฮเฟนหลังจากมีการตั้งบริษัทประกอบรถยนต์ฟานโดร์น (Van Doorne's Automobiel Fabriek หรือ DAF) ขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรม รวมทั้งยาสูบและสิ่งทอ กลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจนถึงราว ค.ศ. 1970
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไอนด์โฮเฟนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของกองทัพอากาศของอังกฤษและของเยอรมนี เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ได้มีการบูรณะฟื้นฟูเมืองขึ้นมาอีกครั้งแต่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่ได้รับการซ่อมแซมเท่าไหร่หนัก แต่มักจะถูกทำลายและสร้างขึ้นมาเป็นอาคารสมัยใหม่ตามแผนบูรณะของเมืองเสียมากกว่า ทำให้ปัจจุบัน ไอนด์โฮเฟนมีมรดกทางประวัติศาสตร์หลงเหลืออยู่น้อย
ราวทศวรรษที่ 1970 ถึง 1990 มีการสร้างบ้านขึ้นมาจำนวนมากในเขตวูนเซล ส่งผลให้ไอนด์โฮเฟนกลายมาเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของเนเธอร์แลนด์ และมีแผนขยายพื้นที่อยู่อาศัยไปทางทาอาศยานแห่งเก่าทางตะวันตกของไอนด์โฮเฟนอีกด้วย ส่วนท่าอากาศยานแห่งใหม่ถูกย้ายไปยังพื้นที่ปัจจุบัน
อ้างอิง
- Schippers, Hans (2009), "Stadsrechten en een stadswapen, 1232: het vroege Eindhoven", ใน Lintsen, Harry; และคณะ (บ.ก.), De canon van Eindhoven (ภาษาดัตช์), 's-Hertogenbosch: Heijnen, pp. 29–34, ISBN
- . Eindhoven.nl. 30 เมษายน 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 มีนาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2017.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ixndohefn dtch Eindhoven epnethsbalaelaemuxngincnghwdnxrthbrabrnt praethsenethxraelnd epnemuxngihyepnxndb 5 khxngpraethsaelaihythisudincnghwdnxrthbrabnt edimthitngxyurahwangaemna dmeml Dommel aelaaemnaekhnedxr Gender pccubn miprachakr 231 469 khn kh s 2019 aethakrwmemuxngkhangthngmhankhraelwcamiprachakrrwm 419 045 khnixndohefnMunicipality Cityesnkhxbfakhxngemuxngthngtraxarmphikd 51 26 N 5 28 E 51 433 N 5 467 E 51 433 5 467praethsenethxraelndcnghwdcnghwdnxrthbrabntkarpkkhrxng MayorRob van Gijzel phunthi 2006 Municipality City88 84 tr km 34 30 tr iml phundin87 75 tr km 33 88 tr iml phunna1 09 tr km 0 42 tr iml prachakr 01 mkrakhm 2010 Municipality City217 192 khn khwamhnaaenn2 407 khn tr km 6 230 khn tr iml ekhtemuxng400 000 khn rwmprimnthl720 000 khn Source Statline ekhtewlaUTC 1 CET vdurxn ewlaxxmaesng UTC 2 CEST ewbisthttp www eindhoven eu chuxchuxkhxngixndohefn xacmacakkarphsmkharahwangkhawa ixnd eind thihmaythungcudsinsud aela ohf hove thiepnhnwywdphunthikhnadraw 14 ehketxr ixndepnkhathimkichnahnasthanthiaelathnntang swnohfepnhnwywdphunthithiidrbkhwamniyminsmyobranodymkhmaythungkhnadphunthithiecakhxngthidinplxyechaihkbbukhkhlxun echnchawna aelaepnhnwythiichknmakinaethbemuxngobranthichux wunesl Woensel dngnn chuxemuxngixndohefn nacahmaythung phunthiohfsudthaykhxngemuxngwunesl nnexngprawtikhriststwrrsthi 13 15 bnthukthangprawtisastrchiwaixndohefnmicuderimtntngaetpi kh s 1232 emux dyukh ehndrikh thi 1 aehngbrabntykthanaixndohefnkhunepnemuxng sunginkhnannepnephiyngaekhhmubanelkthiepncudbrrcbknkhxngaela mibaneruxnephiyng 170 hlngthixyuhlngkaaephngemuxng hlngcakykradbepnemuxngaelw emuxngsamarthmitladndrayspdahid dungdudihchawbaninlaaewkiklekhiyngedinthangmayngixndohefnephuxsuxkhaysinkha klayepncudsngphansinkhathisakhy thiechuxmrahwangaephndinhxlaelndaelaemuxngliaexc inebleyiym pccubn rawpi kh s 1388 idmikarsrangkaaephngemuxngthiaekhngaerngkhunmaxikchn aetimrxdphnkbkarthukplnaelaephaemuxnginpi kh s 1486 khriststwrrsthi 16 18 ixndohefnidrbkarburnasxmaesmkhunmaihm aelwesrcinpi kh s 1502 odymikaaephngemuxngthiaekhngaerngkhun aelaprasathihm aetklbthukocmtixikkhrnginpi kh s 1543 ephraarabbkarpxngknemuxngimidrbkarthanubarungenuxngcakkhadngbpraman txma inpi kh s 1554 ekidifihmkhrngihythaihphunthiraw 75 epxresntkhxngemxngidrbkhwamesiyhay kxnthicathukburnakhunmaxikkhrngdwykhwamchwyehluxkhxngphraecawileliymthi 1 aehngrachwngsxxernc inchwngsngkhramptiwtikhxngdtch ixndohefntkxyuinmuxkhxngchawdtchaelasepnslbipmahlaykhrng kxncathukthharsepnbukyudidsaercinpi kh s 1583 aelaidthalaykaaephngemuxnglngodysineching aetemuxenethxraelndprakasexkrachidsaerc raw kh s 1629 ixndohefnklbimidthukrwmekhaepnswnhnungenethxraelnd txmaemuxthukfrngessyudkhrxng kxngkalngfrngessidthalaybanemuxnglngxyangmak thaihixndohefnklayepnephiyngaekhemuxngrxng cnthungchwngptiwtixutsahkrrm khriststwrrsthi 19 karptiwtixutsahkrrminchwngstwrrsthi 19 namasungkhwamecriyrungeruxngxyangmakaekixndohefn mikarkhudkhlxng srangthnn thangrthifephuxechuxmtxixndohefnekhakbemuxngihyxyang tilburkh esrothekhnbxs ewnol aelaebleyiym rahwang kh s 1866 thung 1870 inchwngaerk xutsahkrrmthisrangrayidihkbemuxngkhux yasubaelasingthx kxnthicaepliynmaepnxutsahkrrmhlxdif emuxbristhfilips yksihyinwngkarkarphlitekhruxngichiffacaerimtngorngnganphlithlxdifkhuninpi kh s 1891 karptiwtixutsahkrrmthaihcanwnprachakrinixndohefnephimkhunxyangrwderw odyemuxmikarsthapnarachxanackrenethxraelndin kh s 1815 ixndohefnmiprachakrephiyng 2 310 khnethann khriststwrrsthi 20 canwnprachakrkhxngixndohefnephimkhunxyangrwderw cak 47 946 khninpi 1920 epn 63 870 khninpi 1925 aelaphungkhunepn 103 030 khn inpi 1935 xutsahkrrmthietibotkhunthaihphuthanganinorngnganmikhwamtxngkarbanthixyuxasyephimmakkhun cakthiekhymikarphthnacakdaekhinrsmikaaephngemuxnginyukhklang idmikarsrangbankhunmaihminekhtethsbalodyrxb imwacaepn wunesl thangehnux thngekhlerx thangtawnxxk stratrm thangtawnxxkechiyngit ekhsethl exn blarethm thangtawntkechiyngit aelasitrp thangtawntk rwmklayepnnkhrbalixndohefnihy Groot Eindhoven aetkhawaihyidthuktdthinginphayhlng inchwngtnstwrrsthi 20 xutsahkrrmyanyntidkawekhamasuixndohefnhlngcakmikartngbristhprakxbrthyntfanodrn Van Doorne s Automobiel Fabriek hrux DAF khun thaihxutsahkrrmxielkthrxniksaelawiswkrrm rwmthngyasubaelasingthx klayepnpccykhbekhluxnesrsthkicmacnthungraw kh s 1970 inchwngsngkhramolkkhrngthi 2 ixndohefnidrbkhwamesiyhayxyanghnkcakkarocmtikhxngkxngthphxakaskhxngxngkvsaelakhxngeyxrmni emuxsngkhramsinsudlng idmikarburnafunfuemuxngkhunmaxikkhrngaetsthanthisakhythangprawtisastrimidrbkarsxmaesmethaihrhnk aetmkcathukthalayaelasrangkhunmaepnxakharsmyihmtamaephnburnakhxngemuxngesiymakkwa thaihpccubn ixndohefnmimrdkthangprawtisastrhlngehluxxyunxy rawthswrrsthi 1970 thung 1990 mikarsrangbankhunmacanwnmakinekhtwunesl sngphlihixndohefnklaymaepnemuxngthiihythisudepnxndb 5 khxngenethxraelnd aelamiaephnkhyayphunthixyuxasyipthangthaxasyanaehngekathangtawntkkhxngixndohefnxikdwy swnthaxakasyanaehngihmthukyayipyngphunthipccubnxangxingSchippers Hans 2009 Stadsrechten en een stadswapen 1232 het vroege Eindhoven in Lintsen Harry aelakhna b k De canon van Eindhoven phasadtch s Hertogenbosch Heijnen pp 29 34 ISBN 9789086801275 Eindhoven nl 30 emsayn 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 minakhm 2017 subkhnemux 5 minakhm 2017