ปลาปอด ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ตอนต้น-ปัจจุบัน | |
---|---|
ปลาปอดออสเตรเลียในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ | |
อวัยวะที่ช่วยในการหายใจที่เหมือนปอดของสัตว์บกของ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ไฟลัมย่อย: | Vertebrata |
ชั้น: | Sarcopterygii |
ชั้นย่อย: | Dipnoi , 1844 |
อันดับ | |
ชื่อพ้อง | |
|
ปลาปอด (อังกฤษ: Lungfish, Salamanderfish, Amphibious fish) เป็นปลาน้ำจืดจำพวกหนึ่งที่อยู่ในชั้นย่อย Dipnoi เป็นปลาเพียงจำพวกเดียวในโลกที่ยังมีการสืบสายพันธุ์จนปัจจุบันนี้ที่หายใจด้วยอวัยวะที่คล้ายกับปอดของสัตว์ทั่วไป โดยไม่ใช้เหงือกเหมือนปลาชนิดอื่น ๆ
ปลาปอดได้ชื่อว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต เพราะเป็นปลาที่ไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างมากนักจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยปลาปอดจัดอยู่ในชั้นใหญ่ Sarcopterygii ซึ่งจะมีลักษณะเด่น คือ มีพู่เนื้อหรือเนื้อเยื่อเป็นครีบ มีครีบหางเดี่ยว มีครีบ 2 คู่ มีเกล็ดแบบ Cosmoid ซึ่งแตกต่างไปจากปลาชนิดอื่น ๆ ในโลก ซึ่งปลาในกลุ่มนี้จะแยกออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ 1. ปลาซีลาแคนท์ 2. ปลาปอดแอฟริกาและปลาปอดอเมริกาใต้ 3. ปลาปอดออสเตรเลีย
ปลาปอดทั้งหมดมีรูปร่างเรียวยาวคล้ายปลาไหล ยกเว้นปลาปอดออสเตรเลีย ซึ่งแยกย่อยไปอีกกลุ่ม ถือเป็นหลักฐานและร่องรอยของการวิวัฒนาการของปลาที่พัฒนามาเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ปลาปอดนั้นมีกระดูกครีบอกคู่ที่เทียบได้กับแขนขาของสัตว์ชั้นสูง มีแกนยาวและมีกล้ามเนื้อประกอบชัดเจน เมื่ออยู่ในน้ำหรือบนบกที่ชื้นแฉะจะใช้คืบคลานคล้ายสัตวครึ่งบกครึ่งน้ำ หางมีลักษณะเป็น Diphycercal เกล็ดเป็น Cosmoid ภายในลำไส้มีแผงเนื้อที่วางตัวเป็นเกลียวตามความยาวลำไส้ ชื่อของปลาปอดมีที่มาจากปลาชนิดนี้มีกระเพาะลมหนามาก อยู่ใกล้สันท้อง (เทียบได้กับหน้าอก) และมีท่อเชื่อมกับส่วนล่างทางด้านหน้าของกระเพาะอาหาร ทำหน้าที่เป็นปอดคอยดูดซับออกซิเจนและกำจัดขยะ ในขณะที่ปลาทั่วไปในส่วนนี้จะทำหน้าที่ช่วยพยุงตัวในขณะที่ปลาว่ายน้ำ กินอาหารได้หลากหลาย กินได้ทั้งพืชและสัตว์น้ำและสามารถขบกัดสัตว์มีกระดองได้เป็นอย่างดี เพราะมีกรามและฟันที่แข็งแรง
นอกจากนี้ปลาปอดยังมีระบบจมูกที่แตกต่างจากปลาทั่วไป คือมีท่อเชื่อมกับช่องปาก ในปลาปอดยุคใหม่ (ปลาปอดแอฟริกา และ อเมริกาใต้) สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แม้ในช่วงที่แหล่งน้ำที่มันอาศัยแห้งขอด โดยจะขุดโพรงในโคลนและปิดผนึกโพรงนั้นไว้ด้วยเมือก ในระหว่างนั้นจะหายใจเอาอากาศโดยตรงผ่านทางถุงลมและจะลดการเผาผลาญพลังงาน อย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นปลาปอดก็สามารถจมน้ำตายได้หากไม่สามารถขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำได้
ปลาปอดนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 วงศ์ใหญ่ ๆ คือ ปลาปอดยุคเก่า คือ ปลาปอดออสเตรเลีย (Ceratodontidae) ซึ่งพบเฉพาะประเทศออสเตรเลียบริเวณรัฐควีนส์แลนด์เท่านั้น และปลาปอดยุคใหม่ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 วงศ์อีก คือ ปลาปอดแอฟริกา (Protopteridae) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชนิด 1 สกุล พบในหนองน้ำทวีปแอฟริกาเท่านั้น และปลาปอดอเมริกาใต้ (Lepidosirenidae) พบทั้งหมด 1 สกุลและ 1 ชนิด เท่านั้น โดยทั้งหมดจะมีพฤติกรรมที่คล้ายกันคือ สามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ บางวงศ์สามารถขุดรูจำศีลใต้ดินได้ในฤดูแล้ง และอาศัยอยู่ในหนองน้ำหรือแหล่งน้ำที่ไม่ค่อยสะอาดหรือมีปริมาณออกซิเจนมากนัก
วงศ์ปลาปอด
ปลาปอดออสเตรเลีย
ดูในบทความหลัก: ปลาปอดออสเตรเลีย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Neoceratodus forsteri จัดอยู่ในวงศ์ Ceratodontidae มีลักษณะเด่นคือ มีขนาดตัวที่ยาว ลำตัวมีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งมีเกล็ดขนาดใหญ่กว่าปลาปอดแอฟริกาและปลาปอดอเมริกาใต้ มีตาขนาดเล็ก ตาของปลาปอดออสเตรเลียแย่มาก ในการหาอาหารนั้นปลาปอดชนิดนี้ใช้การสัมผัส และ กลิ่น มากกว่า ใช้สายตา และมีครีบคล้ายใบพาย อยู่บริเวณครีบอก และ ครีบบริเวณเชิงกราน ครีบหลังเริ่มตั้งแต่ปลายลำตัว ยาวไปจนถึงปลายหางโดยรวมเข้าด้วยกันกับครีบหางและครีบก้น ปลาปอดออสเตรเลียมีสีเขียวมะกอกไปจนถึงสีน้ำตาล บนบริเวณหลัง และด้านข้าง โดยที่ มีจุดสีเข้มกระจาย ๆ ทั่วลำตัว ช่วงล่างลำตัวจะมีสีที่อ่อนกว่าช่วงบนลำตัว ครีบอกกับครีบหางคล้ายตีนกบ เกล็ดมีขนาดใหญ่ มีถุงลมหรือปอดไม่เป็นคู่ ปลาปอดชนิดนี้จะมีปอดเดี่ยว ในปลาวัยเล็กจะไม่มีพู่เนื้อเหมือนเหงือกเช่นปลาปอดแอฟริกา และปลาเต็มวัยไม่มีการขุดรูจำศีล แต่เมื่อถึงฤดูที่น้ำเหือดแห้ง ปลาปอดออสเตรเลียจะอยู่นิ่ง ๆ ในน้ำ โดยจะฮุบอากาศเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นต่อชั่วโมง และมีความสามารถคือปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ได้เพื่อหาอาหาร
ในอดีต ปลาปอดออสเตรเลียถือว่าเป็นสัตว์ที่หายากมาก ๆ และใกล้สูญพันธุ์ถึงที่สุดชนิดนึงของออสเตรเลีย จนมีชื่อติดอยู่ในบัญชีหมายเลข 2 (Appendix II) ของไซเตส (CITES) แต่ปัจจุบันสามารถเพาะขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้และมีการส่งออกเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ที่มีราคาซื้อขายแพงมาก
ปลาปอดแอฟริกา
ดูในบทความหลัก: วงศ์ปลาปอดแอฟริกา
เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์ Protopteridae จัดเป็นวงศ์ใหญ่ เพราะมีด้วยกันทั้งหมดถึง 7 ชนิด ทั้งชนิดหลักและชนิดย่อย มีเพียง 1 สกุล มีลักษณะร่วมกันทางสรีระคือ มี 6 เหงือกหลัก และ 5 เหงือกย่อย ลำตัวมีลักษณะยาวเต็มที่ประมาณ 1 เมตรหรือเมตรครึ่ง ปลาปอดวงศ์นี้มีความสามารถเอาชีวิตรอดได้ในช่วงแห้งแล้ง โดยการลดการเผาผลาญพลังงานที่เรียกว่า แอสติเวชั่น โดยขุดรูอยู่ใต้ดินได้ลึกถึง 1 เมตร และหุ้มห่อตัวด้วยเนื้อเยื่อคล้ายรังไหม พบได้ทั่วไปตามหนองน้ำในทวีปแอฟริกา มีตาขนาดเล็ก มีกรามที่แข็งแรงและแหลมคม สามารถขบกัดสัตว์มีเปลือกได้เป็นอย่างดี จะงอยปากยื่นยาวออกมาและงอนขึ้นข้างบน มีพละกำลังมาก มีนิสัยก้าวร้าวเมื่อถูกรบกวน แต่กระนั้นปลาปอดแอฟริกาก็ยังตกเป็นอาหารของนกกินปลาขนาดใหญ่เสมอ ๆ
ปลาปอดอเมริกาใต้
ดูในบทความหลัก: ปลาปอดอเมริกาใต้
อยู่ในวงศ์ Lepidosirenidae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lepidosiren paradoxa ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณเมตรครึ่ง หัวมีลักษณะกลมกว่าปลาปอดแอฟริกา ลำตัวมีสีดำคล้ำ เมื่อยังเล็กจะมีจุดสีเหลืองกระจายไปทั่วตัว มีรูปร่างเรียวยาวกว่าปลาปอดแอฟริกา และมีนิสัยที่สุภาพกว่า มีพฤติกรรมการกินอาหารที่แปลกไปกว่าปลาปอดจำพวกอื่น ๆ คือ สามารถกินพืชจำพวกเห็ดราได้ด้วย เมื่อยังเล็กมีพู่เนื้อและสามารถขุดรูจำศีลได้เช่นเดียวกับปลาปอดแอฟริกา โดยในปลาวัยเล็กภายในอาทิตย์แรก พวกจะหายใจผ่านทางเหงือกภายนอกอย่างเดียวจนกระทั่งมีอายุได้ 7 สัปดาห์ จะเริ่มหายใจด้วยอากาศได้ และเหงือกภายนอกจะเริ่มหายไป พบในหนองน้ำทวีปอเมริกาใต้ นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามเช่นเดียวกับปลาปอดแอฟริกา
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- จาก itis.gov
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-12-17. สืบค้นเมื่อ 2008-05-12.
{{}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
plapxd chwngewlathimichiwitxyu txntn pccubnplapxdxxsetreliyinphiphithphnthstwnaxwywathichwyinkarhayicthiehmuxnpxdkhxngstwbkkhxngkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordataiflmyxy Vertebratachn Sarcopterygiichnyxy Dipnoi 1844xndbCeratodontiformeschuxphxngDipneusti plapxdinswnstwphata plapxd xngkvs Lungfish Salamanderfish Amphibious fish epnplanacudcaphwkhnungthixyuinchnyxy Dipnoi epnplaephiyngcaphwkediywinolkthiyngmikarsubsayphnthucnpccubnnithihayicdwyxwywathikhlaykbpxdkhxngstwthwip odyimichehnguxkehmuxnplachnidxun plapxdidchuxwaepnsakdukdabrrphmichiwit ephraaepnplathiimidepliynruprangmaknkcakyukhkxnprawtisastr odyplapxdcdxyuinchnihy Sarcopterygii sungcamilksnaedn khux miphuenuxhruxenuxeyuxepnkhrib mikhribhangediyw mikhrib 2 khu miekldaebb Cosmoid sungaetktangipcakplachnidxun inolk sungplainklumnicaaeykxxkidepn 3 klumdwykn khux 1 plasilaaekhnth 2 plapxdaexfrikaaelaplapxdxemrikait 3 plapxdxxsetreliy plapxdthnghmdmiruprangeriywyawkhlayplaihl ykewnplapxdxxsetreliy sungaeykyxyipxikklum thuxepnhlkthanaelarxngrxykhxngkarwiwthnakarkhxngplathiphthnamaepnstwkhrungbkkhrungna plapxdnnmikradukkhribxkkhuthiethiybidkbaekhnkhakhxngstwchnsung miaeknyawaelamiklamenuxprakxbchdecn emuxxyuinnahruxbnbkthichunaechacaichkhubkhlankhlaystwkhrungbkkhrungna hangmilksnaepn Diphycercal ekldepn Cosmoid phayinlaismiaephngenuxthiwangtwepnekliywtamkhwamyawlais chuxkhxngplapxdmithimacakplachnidnimikraephaalmhnamak xyuiklsnthxng ethiybidkbhnaxk aelamithxechuxmkbswnlangthangdanhnakhxngkraephaaxahar thahnathiepnpxdkhxydudsbxxksiecnaelakacdkhya inkhnathiplathwipinswnnicathahnathichwyphyungtwinkhnathiplawayna kinxaharidhlakhlay kinidthngphuchaelastwnaaelasamarthkhbkdstwmikradxngidepnxyangdi ephraamikramaelafnthiaekhngaerng nxkcakniplapxdyngmirabbcmukthiaetktangcakplathwip khuxmithxechuxmkbchxngpak inplapxdyukhihm plapxdaexfrika aela xemrikait samarthmichiwitxyuid aeminchwngthiaehlngnathimnxasyaehngkhxd odycakhudophrnginokhlnaelapidphnukophrngnniwdwyemuxk inrahwangnncahayicexaxakasodytrngphanthangthunglmaelacaldkarephaphlayphlngngan xyangrwderw aetthungkrannplapxdksamarthcmnatayidhakimsamarthkhunmahayicbnphiwnaid plapxdnnsamarthaebngxxkidepn 3 wngsihy khux plapxdyukheka khux plapxdxxsetreliy Ceratodontidae sungphbechphaapraethsxxsetreliybriewnrthkhwinsaelndethann aelaplapxdyukhihm sungaebngxxkidepn 2 wngsxik khux plapxdaexfrika Protopteridae sungmixyudwyknthnghmd 7 chnid 1 skul phbinhnxngnathwipaexfrikaethann aelaplapxdxemrikait Lepidosirenidae phbthnghmd 1 skulaela 1 chnid ethann odythnghmdcamiphvtikrrmthikhlayknkhux samarthkinidthngphuchaelastw bangwngssamarthkhudrucasilitdinidinvduaelng aelaxasyxyuinhnxngnahruxaehlngnathiimkhxysaxadhruxmiprimanxxksiecnmaknkwngsplapxdplapxdxxsetreliy duinbthkhwamhlk plapxdxxsetreliy michuxwithyasastrwa Neoceratodus forsteri cdxyuinwngs Ceratodontidae milksnaednkhux mikhnadtwthiyaw latwmikhnadihy phrxmthngmiekldkhnadihykwaplapxdaexfrikaaelaplapxdxemrikait mitakhnadelk takhxngplapxdxxsetreliyaeymak inkarhaxaharnnplapxdchnidniichkarsmphs aela klin makkwa ichsayta aelamikhribkhlayibphay xyubriewnkhribxk aela khribbriewnechingkran khribhlngerimtngaetplaylatw yawipcnthungplayhangodyrwmekhadwyknkbkhribhangaelakhribkn plapxdxxsetreliymisiekhiywmakxkipcnthungsinatal bnbriewnhlng aeladankhang odythi micudsiekhmkracay thwlatw chwnglanglatwcamisithixxnkwachwngbnlatw khribxkkbkhribhangkhlaytinkb ekldmikhnadihy mithunglmhruxpxdimepnkhu plapxdchnidnicamipxdediyw inplawyelkcaimmiphuenuxehmuxnehnguxkechnplapxdaexfrika aelaplaetmwyimmikarkhudrucasil aetemuxthungvduthinaehuxdaehng plapxdxxsetreliycaxyuning inna odycahubxakasephiyng 1 2 khrngethanntxchwomng aelamikhwamsamarthkhuxplxykraaesiffaxxn idephuxhaxahar inxdit plapxdxxsetreliythuxwaepnstwthihayakmak aelaiklsuyphnthuthungthisudchnidnungkhxngxxsetreliy cnmichuxtidxyuinbychihmayelkh 2 Appendix II khxngisets CITES aetpccubnsamarthephaakhyayphnthuinthieliyngidaelamikarsngxxkeliyngepnplaswyngam thimirakhasuxkhayaephngmak plapxdaexfrika duinbthkhwamhlk wngsplapxdaexfrika swnhwkhxngplapxdaexfrikachnid Protopterus annectens annectens epnplathixyuinwngs Protopteridae cdepnwngsihy ephraamidwyknthnghmdthung 7 chnid thngchnidhlkaelachnidyxy miephiyng 1 skul milksnarwmknthangsrirakhux mi 6 ehnguxkhlk aela 5 ehnguxkyxy latwmilksnayawetmthipraman 1 emtrhruxemtrkhrung plapxdwngsnimikhwamsamarthexachiwitrxdidinchwngaehngaelng odykarldkarephaphlayphlngnganthieriykwa aexstiewchn odykhudruxyuitdinidlukthung 1 emtr aelahumhxtwdwyenuxeyuxkhlayrngihm phbidthwiptamhnxngnainthwipaexfrika mitakhnadelk mikramthiaekhngaerngaelaaehlmkhm samarthkhbkdstwmiepluxkidepnxyangdi cangxypakyunyawxxkmaaelangxnkhunkhangbn miphlakalngmak minisykawrawemuxthukrbkwn aetkrannplapxdaexfrikakyngtkepnxaharkhxngnkkinplakhnadihyesmx plapxdxemrikait duinbthkhwamhlk plapxdxemrikait plapxdxemrikait xyuinwngs Lepidosirenidae michuxwithyasastrwa Lepidosiren paradoxa khnademuxotetmthipramanemtrkhrung hwmilksnaklmkwaplapxdaexfrika latwmisidakhla emuxyngelkcamicudsiehluxngkracayipthwtw miruprangeriywyawkwaplapxdaexfrika aelaminisythisuphaphkwa miphvtikrrmkarkinxaharthiaeplkipkwaplapxdcaphwkxun khux samarthkinphuchcaphwkehdraiddwy emuxyngelkmiphuenuxaelasamarthkhudrucasilidechnediywkbplapxdaexfrika odyinplawyelkphayinxathityaerk phwkcahayicphanthangehnguxkphaynxkxyangediywcnkrathngmixayuid 7 spdah caerimhayicdwyxakasid aelaehnguxkphaynxkcaerimhayip phbinhnxngnathwipxemrikait niymeliyngepnplaswyngamechnediywkbplapxdaexfrikaduephimwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb plapxd plasilaaekhnthxangxingcak itis gov khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2005 12 17 subkhnemux 2008 05 12 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a rabu accessdate aela access date makkwahnungraykar help rabu archivedate aela archive date makkwahnungraykar help rabu archiveurl aela archive url makkwahnungraykar help