เครย์ฟิช ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: มหายุคมีโซโซอิก–ปัจจุบัน | |
---|---|
ภาพวาดโดยรวมของ Procambarus clarkii | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Arthropoda |
ไฟลัมย่อย: | Crustacea |
ชั้น: | |
อันดับ: | Decapoda |
อันดับย่อย: | |
อันดับฐาน: | |
วงศ์ใหญ่: | Astacoidea , Parastacoidea , 1879 |
วงศ์ | |
|
สำหรับเครย์ฟิชที่พบในทะเล ดูที่: ล็อบสเตอร์ และกุ้งมังกร
เครย์ฟิช หรือ หรือ ล็อบสเตอร์น้ำจืด (อังกฤษ: Crayfish, Crawfish, Freshwater lobster, Crawdad, Mudbug, Freshwater yabby) เป็นกุ้งน้ำจืดจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างโดยรวมลำตัวใหญ่ เปลือกหนา ก้ามใหญ่แลดูแข็งแรง มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, โอเชียเนียและบริเวณใกล้เคียง เช่น อีเรียนจายา และเอเชียตะวันออก ปัจจุบันมีการอนุกรมวิธานเครย์ฟิชไปแล้วกว่า 500 ชนิด ซึ่งกว่าครึ่งนั้นเป็นเครย์ฟิชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ แต่ก็ยังมีอีกหลายร้อยชนิดที่ยังไม่ได้รับการอนุกรมวิธาน อีกทั้งหลายชนิดยังมีความหลากหลายทางสีสันมากอีกด้วย
สำหรับในประเทศไทยไม่มีกุ้งในลักษณะเครย์ฟิช ซึ่งกุ้งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่สุดที่พบในประเทศไทย คือ กุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ซึ่งในลักษณะกุ้งก้ามกรามนี้ ไม่จัดว่าเป็นเครย์ฟิช
ศัพทมูลวิทยา
คำว่า "เครย์ฟิช" (crayfish) มาจากคำว่า escrevisse (ฝรั่งเศส écrevisse) เป็นที่มาของคำว่า "เครย์ฟิช" โดยรวมกับคำว่า "ปลา" (fish) ()ชาวอเมริกันใช้คำว่า "ครอว์ฟิช" (crawfish) ในความหมายอย่างเดียวกัน
โครงสร้างของร่างกาย
ร่างกายเครย์ฟิชนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือ ส่วนหัว ส่วนกลาง หรือ ทอแร็ก คือส่วนที่มีขาใช้สำหรับเดิน ส่วนสุดท้ายคือ ส่วนท้องซึ่งเป็นส่วนที่มีเนื้อเยอะมากที่สุด ซึ่งส่วนหัวกับส่วนกลางนั้นเชื่อมติดรวมกันเป็นชิ้นเดียว เรียกว่า เซฟาโลทอแร็ก (ข้อมูลบางแหล่งอาจระบุว่าเครย์ฟิชนั้นมีลำตัวเพียง 2 ส่วนก็ได้) ทั้งตัวนั้นจะถูกหุ้มด้วยเปลือก หรือ คาราเพซ ซึ่งทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ ใช้สำหรับปกป้องลำตัว และเป็นที่ตั้งของอวัยวะหายใจ คือ เหงือกที่มีลักษณะคล้ายขนนกอยู่ใกล้บริเวณปาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในระบบหายใจ คือเป็นทางผ่างของน้ำเพื่อให้น้ำไหลผ่านช่องเหงือกนั่นเอง
ในส่วนของขานั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ขาเดิน ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 5 คู่ โดยคู่แรกนั้นถูกพัฒนาจนกลายเป็นก้าม ใช้สำหรับหยิบจับอาหารและใช้ต่อสู้ และ ขาว่ายน้ำ จะมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ มีไว้สำหรับโบกน้ำที่มีออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อหายใจ รวมทั้งโบกพัดแพลงก์ตอนเข้าหาตัวเพื่อกินเป็นอาหารอีก ในเครย์ฟิชตัวเมีย ขาว่ายน้ำยังใช้เป็นที่อุ้มไข่ที่ได้รับการอีกแล้วต่างหาก
การแบ่งวงศ์และสกุล
เครย์ฟิชนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วงศ์ใหญ่ ๆ คือ Astacoidea ซึ่งเป็นวงศ์ใหญ่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป สามารถแบ่งเป็นวงศ์ย่อยได้อีก 2 วงศ์คือ และ โดยเครย์ฟิชชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงศ์นี้คือ Procambarus clarkii โดยรวมแล้วเครย์ฟิชในวงศ์นี้ มีรูปร่างใหญ่ ไม่มีกรี มีลักษณะเด่นคือ ก้ามมีหนาม ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20 เซนติเมตร และวงศ์ใหญ่ Parastacoidea ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคโอเชียเนียและอีเรียน จายา เครย์ฟิชในวงศ์นี้ก้ามจะไม่มีหนาม และลักษณะของก้ามจะป่องออกต่างไปจากวงศ์ Astacoidea แต่มีที่หนีบสั้นและเล็กกว่า ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 30–40 เซนติเมตร ชนิดของเครย์ฟิชในวงศ์นี้ที่เป็นที่รู้จัก คือ Cherax quadricarinatus
การแบ่งเพศและวงจรชีวิต
เครย์ฟิชนั้นในธรรมชาติจะอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำที่มีลักษณะน้ำใสสะอาด มีออกซิเจนสูง โดยจะซ่อนตัวอยู่ตามขอนไม้หรือหินใต้น้ำ เป็นสัตว์ที่กินอาหารได้หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ รวมทั้งซากพืชซากสัตว์ด้วย ออกหากินในเวลากลางคืน โดยจะไม่หากินทุกวัน แต่จะเว้นระยะไปราว 1–2 วัน จึงออกหากินอีกครั้ง มีอาณาเขตของตัวเองประมาณ 40 เซนติเมตร
เครย์ฟิชในวัยเล็กจะมีระยะการลอกคราบบ่อยกว่าตัวที่โตแล้ว โดยจะมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งครั้งต่อหนึ่งเดือน เมื่ออายุได้ 1 ปี การลอกคราบจะเหลือเพียงปีละครั้งเท่านั้น การลอกคราบแต่ละครั้งใช้เวลานานราว 2–3 วัน กว่าเปลือกใหม่ที่ได้นั้นจะแข็งแรงเท่าเดิม ในบางครั้งอาจมีพฤติกรรมกินเปลือกตัวเองที่ลอกออกหรือของตัวอื่นก็ได้ เพราะร่างกายของเครย์ฟิชในช่วงลอกคราบต้องการแคลเซี่ยมเพื่อสร้างเปลือกใหม่ให้แข็งแรง
การจำแนกเพศนั้น ในวงศ์ Astacoidea เครย์ฟิชตัวผู้จะมีอวัยวะคล้ายตะขออยู่บริเวณขาเดินคู่ที่ 2 และ 3 ใช้สำหรับเกาะเกี่ยวตัวเมียในการผสมพันธุ์ และจะมีอวัยวะสืบพันธุ์ที่เรียกว่า ปาปิลเล บริเวณโคนขาคู่สุดท้าย ส่วนตัวเมียจะมีอวัยวะสืบพันธุ์ที่เรียกว่า แอนนูลลัส เวนทราลิส ลักษณะเป็นแผ่นวงรีสีขาว ขนาดประมาณ 1–2 มิลลิเมตร บริเวณขาเดินคู่ที่ 3 นอกจากนี้แล้วในตัวผู้ขาว่ายน้ำคู่แรกและคู่ที่ 2 จะถูกพัฒนาเป็นแขนเล็ก ๆ เรียกว่า เพทาสมา สำหรับผ่านน้ำเชื้อไปยังตัวเมียอีกด้วย
แต่ร่างกายโดยรวมแล้ว เครย์ฟิชตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมียอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งก้ามที่ใหญ่และแข็งแรงกว่า
ส่วนในวงศ์ Parastacoidea นั้น ตัวผู้จะมีอวัยวะเป็นรูปวงรีบริเวณโคนขาคู่ที่ 3 ซึ่งตัวเมียไม่มี และอวัยวะส่วนนี้จะแตกต่างไปจากในวงศ์ Astacoidea
การผสมพันธุ์นั้น เครย์ฟิชตัวผู้จะประกบตัวเมียจากด้านหลัง และพลิกท้องตัวเมียให้หงายแล้วตัวผู้จะเข้าประกบโดยใช้อวัยวะที่คล้ายตะขอนั้นจับตัวเมียในลักษณะท้องชนท้อง หันหัวไปในทางเดียวกัน ตัวผู้จะส่งผ่านถุงน้ำเชื้อไปปะติดไว้กับท้องของตัวเมีย ซึ่งพฤติกรรมนี้เครย์ฟิชในวงศ์ Astacoidea จะใช้เวลานานราว 10 นาที ขณะที่ในสกุล Cherax ในวงศ์ Parastacidae กินเวลาเพียง 1–2 นาที เท่านั้น หลังจากนั้นเมื่อไข่ได้รับการปฏิสนธิจากน้ำเชื้อแล้ว ไข่จะฟักเป็นตัวในเวลาราว 3–4 สัปดาห์ โดยตัวเมียจะอุ้มไข่ไว้ในช่องท้อง ไข่มีลักษณะวงกลมสีดำคล้ายเมล็ดพริกไทยดำ ในการผสมพันธุ์แต่ละครั้งอาจได้ลูกเครย์ฟิชมากถึง 300 ตัว ซึ่งเครย์ฟิชในวัยเล็กจะยังอาศัยอยู่กับแม่ โดยกินเศษอาหารที่แม่กินเหลือ เมื่อโตขึ้นจึงค่อยแยกจากไป
การกำเนิด
หลักฐานของซากดึกดำบรรพ์ของเครย์ฟิชมีมาอย่างยาวนานมากกว่า 30 ล้านปี ล้วนแต่เป็นของหายาก แต่โพรงซากดึกดำบรรพ์มีการตรวจพบจากชั้นหินเก่าแก่จากยุคปลายหรือต้นยุคมีโซโซอิก หลักฐานเก่าแก่ที่สุดของวงศ์ Parastacidae พบในออสเตรเลียมีความเก่าแก่กว่า 115 ล้านปี
เครย์ฟิชกับมนุษย์
เครย์ฟิชมีความสัมพันธ์กับมนุษย์มาแต่อดีต โดยใช้เป็นอาหารมานาน สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย โดยมักเป็นอาหารราคาแพงในภัตตาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครย์ฟิชในชนิด Cherax quadricarinatus มีการเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยงเป็นการเกษตรกรรมในประเทศออสเตรเลียด้วย สำหรับในประเทศไทย มีการเพาะเลี้ยงกันที่โครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการนำเข้ามาจากออสเตรเลีย ตั้งแต่ พ.ศ. 2548
นอกจากนี้แล้วในปัจจุบัน ยังมีการนิยมนำมาเลี้ยงในตู้ปลาเป็นสัตว์น้ำสวยงามอีกด้วย ทั้งวงศ์ Astacoidea และวงศ์ Parastacoidea โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนิด Procambarus clarkii ที่มีรูปร่างดูบึกบึน แข็งแกร่ง มีการพัฒนาสายพันธุ์จนมีสีสันที่หลากหลาย จากเดิมที่สีตามธรรมชาติ คือ สีแดง กลายมามีสีที่หลากหลาย เช่น สีฟ้า, สีน้ำเงิน, สีน้ำเงินเข้ม, สีขาว หรือ สีส้มและ สีแดงเข้ม เป็นต้น ซึ่งสำหรับในประเทศไทย เครย์ฟิชชนิดนี้มีการเลี้ยงกันมานานแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี ในชื่อของ "กุ้งแดง" หรือ "กุ้งญี่ปุ่น" สำหรับในตัวที่มีสีสันหลากหลายออกไปตามที่ได้กล่าวมา ก็เรียกชื่อต่าง ๆ กันไปตามสี เช่น "ไบร์ออเรนจ์", "อิเล็คทริคบลู", "กุ้งฟ้า" หรือ "สโนว์ไวท์" เป็นต้น และต่อมาได้มีการนำเครย์ฟิชชนิด P. clarkii แพทเทิร์นสีแบบ "โกสต์" มาผสมกับแพทเทิร์นสี แบบ "ไบรท์" (สีส้ม) จนเกิดเป็น "" โดยนักพัฒนาสายพันธุ์กุ้งชาวไทย ซึ่งทำให้นักเพาะกุ้งต่างประเทศ ให้ความสนใจกันมาก และ ในปัจจุบัน เครย์ฟิชชนิด P. clarkii แพทเทิร์นสีต่าง ๆ เพิ่มมามากขึ้นมาเรื่อย ๆ และ มีชื่อการค้าที่แตกต่างกันไป เช่น "วัว", "ด่าง", "ตันโจ" และกลายเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในต้นปี พ.ศ. 2560 มีการซื้อขายเครย์ฟิชโกสต์ด่างวัวตัวหนึ่งที่จังหวัดนครปฐมด้วยราคาสูงถึงหนึ่งล้านบาท
สำหรับในวงศ์ Parastacoidea สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันก็ได้แก่ Cherax quadricarinatus และ C. tenuimanus เพราะมีสีสันที่หลากหลายในตัวเดียวกัน ทั้งสีฟ้า, สีน้ำตาลอมเขียว หรือ สีน้ำตาลเข้ม เป็นต้น ในประเทศไทยนิยมเรียกว่า "กุ้งเรนโบว์" และชนิด C. sp. "zebra" ซึ่งเป็นชนิดที่ยังไม่ได้รับการตั้งชื่อสายพันธุ์ มีสีสันลำตัวที่สวยงาม มีสีดำเป็นเงาสลับกับลายปล้องสีขาวอมส้ม ก้ามสีขาว ในบางตัวอาจมีก้ามสีน้ำเงินหรือสีม่วงสวยงาม ซึ่งนิยมเรียกว่า "กุ้งม้าลาย" หรือ "กุ้งซีบร้า" และจากความนิยมที่พุ่งขึ้นสูงนี้ทำให้เครย์ฟิชกลายมาเป็นปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับ ทำให้ในกลางปี พ.ศ. 2560 กรมประมงได้สั่งห้ามนำเข้าเครย์ฟิชทุกชนิด และผู้ที่เพาะเลี้ยงทุกรายต้องขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง และห้ามปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับถึง 1–2 ล้านบาท
นอกจากนี้แล้ว ในโรงงานผลิตเบียร์แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของสาธารณรัฐเช็ก ได้ใช้เครย์ฟิชเป็นตัววัดคุณน้ำธรรมชาติจากแหล่งธรรมชาติเพื่อใช้ในการผลิตเบียร์ โดยใช้เครื่องอินฟาเรด-ไบโอเซนเซอร์ติดที่ตัวเครย์ฟิชจำนวน 3 ตัว และปล่อยลงในน้ำที่จะใช้ผลิตเป็นเบียร์ เพื่อดูการเต้นของหัวใจและการเคลื่อนไหวของเครย์ฟิชผ่านการประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น ก็จะทราบว่าน้ำนั้นมีสิ่งปนเปื้อนหรือไม่ โดยอุปกรณ์ตัวนี้ปัจจุบันได้ทำการจดลิขสิทธิ์สิ่งประดิษฐ์แล้ว
อ้างอิง
- Alycia L. Rode & (2003). "Phylogeny of fossil and extant freshwater crayfish and some closely related nephropid lobsters". . 23 (2): 418–435. doi:10.1651/0278-0372(2003)023[0418:POFAEF]2.0.CO;2. JSTOR 1549646.
- "Astacoidea". .
- C. W. Hart, Jr. (1994). "A dictionary of non-scientific names of freshwater crayfishes (Astacoidea and Parastacoidea), including other words and phrases incorporating crayfish names". . 38 (38): 1–127. doi:10.5479/si.00810223.38.1. :10088/1372.
- Pableaux Johnson. . Bayou Dog. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 August 2006. สืบค้นเมื่อ 28 August 2006.
- . OED. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-09. สืบค้นเมื่อ 2016-07-22.
- Crayfish คืออะไร???? หน้า 82-90 โดย นณณ์ ผาณิตวงศ์ นิตยสาร AQUA ฉบับเดือนกันยายน พ.ศ. 2548
- (12 February 2008). "Oldest Australian crayfish fossils provide missing evolutionary link". .
- "กุ้งมังกร". . December 16, 2012. สืบค้นเมื่อ July 23, 2016.
- . ผู้จัดการออนไลน์. 2017-01-31. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-02. สืบค้นเมื่อ 2017-03-29.
- หน้า 7, โรงเบียร์เช็กใช้กุ้งเครย์ฟิชตรวจสภาพน้ำ. "ชื่นชีวิต". ไทยรัฐปีที่ 68 ฉบับที่ 21818: วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560: แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีระกา
แหล่งข้อมูลอื่น
- Astacoidea 2012-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ekhryfich chwngewlathimichiwitxyu mhayukhmiososxik pccubnphaphwadodyrwmkhxng Procambarus clarkiikarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Arthropodaiflmyxy Crustaceachn xndb Decapodaxndbyxy xndbthan wngsihy Astacoidea Parastacoidea 1879wngsAstacoidea Parastacoidea Parastacidae sahrbekhryfichthiphbinthael duthi lxbsetxr aelakungmngkr ekhryfich hrux hrux lxbsetxrnacud xngkvs Crayfish Crawfish Freshwater lobster Crawdad Mudbug Freshwater yabby epnkungnacudcaphwkhnung miruprangodyrwmlatwihy epluxkhna kamihyaelduaekhngaerng mithinkaenidinthwipxemrikaehnux thwipyuorp oxechiyeniyaelabriewniklekhiyng echn xieriyncaya aelaexechiytawnxxk pccubnmikarxnukrmwithanekhryfichipaelwkwa 500 chnid sungkwakhrungnnepnekhryfichthimithinkaenidinthwipxemrikaehnux aetkyngmixikhlayrxychnidthiyngimidrbkarxnukrmwithan xikthnghlaychnidyngmikhwamhlakhlaythangsisnmakxikdwy sahrbinpraethsithyimmikunginlksnaekhryfich sungkungnacudthimikhnadihysudthiphbinpraethsithy khux kungkamkram Macrobrachium rosenbergii sunginlksnakungkamkramni imcdwaepnekhryfichsphthmulwithyakhawa ekhryfich crayfish macakkhawa escrevisse frngess ecrevisse epnthimakhxngkhawa ekhryfich odyrwmkbkhawa pla fish chawxemriknichkhawa khrxwfich crawfish inkhwamhmayxyangediywknokhrngsrangkhxngrangkayrangkayekhryfichnnaebngxxkidepn 3 swn khux swnhw swnklang hrux thxaerk khuxswnthimikhaichsahrbedin swnsudthaykhux swnthxngsungepnswnthimienuxeyxamakthisud sungswnhwkbswnklangnnechuxmtidrwmknepnchinediyw eriykwa esfaolthxaerk khxmulbangaehlngxacrabuwaekhryfichnnmilatwephiyng 2 swnkid thngtwnncathukhumdwyepluxk hrux kharaephs sungthahnathi 2 xyang khux ichsahrbpkpxnglatw aelaepnthitngkhxngxwywahayic khux ehnguxkthimilksnakhlaykhnnkxyuiklbriewnpak sungepnswnsakhyinrabbhayic khuxepnthangphangkhxngnaephuxihnaihlphanchxngehnguxknnexng inswnkhxngkhannaebngxxkepn 2 swn khux khaedin sungmidwyknthnghmd 5 khu odykhuaerknnthukphthnacnklayepnkam ichsahrbhyibcbxaharaelaichtxsu aela khawayna camilksnaepnaephnbang miiwsahrbobknathimixxksiecnekhasurangkayephuxhayic rwmthngobkphdaephlngktxnekhahatwephuxkinepnxaharxik inekhryfichtwemiy khawaynayngichepnthixumikhthiidrbkarxikaelwtanghak Procambarus clarkii twemiyphrxmkbikhetmthxngCherax sp zebra intueliyngProcambarus clarkii intueliyngkaraebngwngsaelaskulekhryfichnnsamarthaebngxxkidepn 2 wngsihy khux Astacoidea sungepnwngsihymithinkaenidinthwipxemrikaehnuxaelathwipyuorp samarthaebngepnwngsyxyidxik 2 wngskhux aela odyekhryfichchnidthiepnthiruckkndiinwngsnikhux Procambarus clarkii odyrwmaelwekhryfichinwngsni miruprangihy immikri milksnaednkhux kammihnam khnadotetmthipraman 20 esntiemtr aelawngsihy Parastacoidea sungmithinkaenidinphumiphakhoxechiyeniyaelaxieriyn caya ekhryfichinwngsnikamcaimmihnam aelalksnakhxngkamcapxngxxktangipcakwngs Astacoidea aetmithihnibsnaelaelkkwa khnademuxotetmthipraman 30 40 esntiemtr chnidkhxngekhryfichinwngsnithiepnthiruck khux Cherax quadricarinatuskaraebngephsaelawngcrchiwitekhryfichnninthrrmchaticaxasyxyutamaehlngnathimilksnanaissaxad mixxksiecnsung odycasxntwxyutamkhxnimhruxhinitna epnstwthikinxaharidhlakhlaythngphuchaelastw rwmthngsakphuchsakstwdwy xxkhakininewlaklangkhun odycaimhakinthukwn aetcaewnrayaipraw 1 2 wn cungxxkhakinxikkhrng mixanaekhtkhxngtwexngpraman 40 esntiemtr ekhryfichinwyelkcamirayakarlxkkhrabbxykwatwthiotaelw odycamixtraechliyxyuthihnungkhrngtxhnungeduxn emuxxayuid 1 pi karlxkkhrabcaehluxephiyngpilakhrngethann karlxkkhrabaetlakhrngichewlananraw 2 3 wn kwaepluxkihmthiidnncaaekhngaerngethaedim inbangkhrngxacmiphvtikrrmkinepluxktwexngthilxkxxkhruxkhxngtwxunkid ephraarangkaykhxngekhryfichinchwnglxkkhrabtxngkaraekhlesiymephuxsrangepluxkihmihaekhngaerng karcaaenkephsnn inwngs Astacoidea ekhryfichtwphucamixwywakhlaytakhxxyubriewnkhaedinkhuthi 2 aela 3 ichsahrbekaaekiywtwemiyinkarphsmphnthu aelacamixwywasubphnthuthieriykwa papilel briewnokhnkhakhusudthay swntwemiycamixwywasubphnthuthieriykwa aexnnulls ewnthralis lksnaepnaephnwngrisikhaw khnadpraman 1 2 milliemtr briewnkhaedinkhuthi 3 nxkcakniaelwintwphukhawaynakhuaerkaelakhuthi 2 cathukphthnaepnaekhnelk eriykwa ephthasma sahrbphannaechuxipyngtwemiyxikdwy aetrangkayodyrwmaelw ekhryfichtwphucaihykwatwemiyxyangehnidchdecn rwmthngkamthiihyaelaaekhngaerngkwa swninwngs Parastacoidea nn twphucamixwywaepnrupwngribriewnokhnkhakhuthi 3 sungtwemiyimmi aelaxwywaswnnicaaetktangipcakinwngs Astacoidea karphsmphnthunn ekhryfichtwphucaprakbtwemiycakdanhlng aelaphlikthxngtwemiyihhngayaelwtwphucaekhaprakbodyichxwywathikhlaytakhxnncbtwemiyinlksnathxngchnthxng hnhwipinthangediywkn twphucasngphanthungnaechuxippatidiwkbthxngkhxngtwemiy sungphvtikrrmniekhryfichinwngs Astacoidea caichewlananraw 10 nathi khnathiinskul Cherax inwngs Parastacidae kinewlaephiyng 1 2 nathi ethann hlngcaknnemuxikhidrbkarptisnthicaknaechuxaelw ikhcafkepntwinewlaraw 3 4 spdah odytwemiycaxumikhiwinchxngthxng ikhmilksnawngklmsidakhlayemldphrikithyda inkarphsmphnthuaetlakhrngxacidlukekhryfichmakthung 300 tw sungekhryfichinwyelkcayngxasyxyukbaem odykinessxaharthiaemkinehlux emuxotkhuncungkhxyaeykcakip ekhryfichthithukthaepnxaharinrthluyesiynakarkaenidhlkthankhxngsakdukdabrrphkhxngekhryfichmimaxyangyawnanmakkwa 30 lanpi lwnaetepnkhxnghayak aetophrngsakdukdabrrphmikartrwcphbcakchnhinekaaekcakyukhplayhruxtnyukhmiososxik hlkthanekaaekthisudkhxngwngs Parastacidae phbinxxsetreliymikhwamekaaekkwa 115 lanpiekhryfichkbmnusyekhryfichmikhwamsmphnthkbmnusymaaetxdit odyichepnxaharmanan samarthnaipprungepnxaharidhlakhlay odymkepnxaharrakhaaephnginphttakhar odyechphaaxyangyingekhryfichinchnid Cherax quadricarinatus mikarephaaphnthuinthieliyngepnkarekstrkrrminpraethsxxsetreliydwy sahrbinpraethsithy mikarephaaeliyngknthiokhrngkarhlwng cnghwdechiyngihm epnkarnaekhamacakxxsetreliy tngaet ph s 2548 nxkcakniaelwinpccubn yngmikarniymnamaeliyngintuplaepnstwnaswyngamxikdwy thngwngs Astacoidea aelawngs Parastacoidea odyechphaaxyangyinginchnid Procambarus clarkii thimiruprangdubukbun aekhngaekrng mikarphthnasayphnthucnmisisnthihlakhlay cakedimthisitamthrrmchati khux siaedng klaymamisithihlakhlay echn sifa sinaengin sinaenginekhm sikhaw hrux sismaela siaedngekhm epntn sungsahrbinpraethsithy ekhryfichchnidnimikareliyngknmananaelwimtakwa 20 pi inchuxkhxng kungaedng hrux kungyipun sahrbintwthimisisnhlakhlayxxkiptamthiidklawma keriykchuxtang kniptamsi echn ibrxxernc xielkhthrikhblu kungfa hrux sonwiwth epntn aelatxmaidmikarnaekhryfichchnid P clarkii aephthethirnsiaebb okst maphsmkbaephthethirnsi aebb ibrth sism cnekidepn odynkphthnasayphnthukungchawithy sungthaihnkephaakungtangpraeths ihkhwamsnicknmak aela inpccubn ekhryfichchnid P clarkii aephthethirnsitang ephimmamakkhunmaeruxy aela michuxkarkhathiaetktangknip echn ww dang tnoc aelaklayepnstweliyngswyngamthiidrbkhwamniymxyangmak odyintnpi ph s 2560 mikarsuxkhayekhryfichokstdangwwtwhnungthicnghwdnkhrpthmdwyrakhasungthunghnunglanbath sahrbinwngs Parastacoidea sayphnthuthiniymeliyngknkidaek Cherax quadricarinatus aela C tenuimanus ephraamisisnthihlakhlayintwediywkn thngsifa sinatalxmekhiyw hrux sinatalekhm epntn inpraethsithyniymeriykwa kungernobw aelachnid C sp zebra sungepnchnidthiyngimidrbkartngchuxsayphnthu misisnlatwthiswyngam misidaepnengaslbkblayplxngsikhawxmsm kamsikhaw inbangtwxacmikamsinaenginhruxsimwngswyngam sungniymeriykwa kungmalay hrux kungsibra aelacakkhwamniymthiphungkhunsungnithaihekhryfichklaymaepnpyhaeruxngsingaewdlxmekiywkb thaihinklangpi ph s 2560 krmpramngidsnghamnaekhaekhryfichthukchnid aelaphuthiephaaeliyngthukraytxngkhunthaebiynxyangthuktxng aelahamplxylngaehlngnathrrmchatiodyeddkhad hakfafunmiothsprbthung 1 2 lanbath nxkcakniaelw inorngnganphlitebiyraehnghnungthangtxnitkhxngsatharnrthechk idichekhryfichepntwwdkhunnathrrmchaticakaehlngthrrmchatiephuxichinkarphlitebiyr odyichekhruxngxinfaerd iboxesnesxrtidthitwekhryfichcanwn 3 tw aelaplxylnginnathicaichphlitepnebiyr ephuxdukaretnkhxnghwicaelakarekhluxnihwkhxngekhryfichphankarpramwlphlodykhxmphiwetxr odyichewlaephiyngaekh 3 nathiethann kcathrabwanannmisingpnepuxnhruxim odyxupkrntwnipccubnidthakarcdlikhsiththisingpradisthaelwxangxingAlycia L Rode amp 2003 Phylogeny of fossil and extant freshwater crayfish and some closely related nephropid lobsters 23 2 418 435 doi 10 1651 0278 0372 2003 023 0418 POFAEF 2 0 CO 2 JSTOR 1549646 Astacoidea C W Hart Jr 1994 A dictionary of non scientific names of freshwater crayfishes Astacoidea and Parastacoidea including other words and phrases incorporating crayfish names 38 38 1 127 doi 10 5479 si 00810223 38 1 10088 1372 Pableaux Johnson Bayou Dog khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 19 August 2006 subkhnemux 28 August 2006 OED khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 09 subkhnemux 2016 07 22 Crayfish khuxxair hna 82 90 ody nnn phanitwngs nitysar AQUA chbbeduxnknyayn ph s 2548 12 February 2008 Oldest Australian crayfish fossils provide missing evolutionary link kungmngkr December 16 2012 subkhnemux July 23 2016 phucdkarxxniln 2017 01 31 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 05 02 subkhnemux 2017 03 29 hna 7 orngebiyrechkichkungekhryfichtrwcsphaphna chunchiwit ithyrthpithi 68 chbbthi 21818 wncnthrthi 16 tulakhm ph s 2560 aerm 11 kha eduxn 11 piraka wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ekhryfichaehlngkhxmulxunwikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Astacoidea Astacoidea 2012 11 08 thi ewyaebkaemchchin