มะม่วงหิมพานต์ | |
---|---|
มะม่วงหิมพานต์สุกพร้อมเก็บ ใน Guinea-Bissau | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Sapindales |
วงศ์: | Anacardiaceae |
สกุล: | Anacardium |
สปีชีส์: | A. occidentale |
ชื่อทวินาม | |
Anacardium occidentale L. |
มะม่วงหิมพานต์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Anacardium occidentale) เป็นไม้ดอกยืนต้น ในวงศ์ Anacardiaceae กลุ่มเดียวกับมะม่วง (mango) และถั่วพิสตาชีโอ มะม่วงหิมพานต์เป็นพืชพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ซึ่งเรียกเป็นภาษาโปรตุเกสว่า "กาฌู" (caju - ผล) หรือ "กาฌูเอย์รู" (cajueiro - ต้น) ปัจจุบันเติบโตแพร่หลายทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อน เพื่อใช้ประโยชน์จาก และผล นำเข้ามาปลูกครั้งแรกที่ภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2444 โดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง ประกอบด้วยโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันที่ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (เมื่อบริโภคเข้าไปจะไม่เพิ่มไขมันในเส้นเลือด) คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ, บี, อี และเกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และด้วยพื้นดินที่ติดทะเลส่งผลให้ผลมะม่วงหิมพานต์มีความหวานกว่าภาคอื่น ๆ จังหวัดภาคใต้ที่ติดทะเล เช่น นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล เป็นต้น
มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ลำต้นมีความสูง 10-12 เมตร ต้นเตี้ย สยายกิ่งก้านไม่สม่ำเสมอ ใบจัดเรียงเป็นแบบเกลียว ผิวมันลื่น รูปโค้งจนถึงรูปไข่ ความยาว 4-22 เซนติเมตร และกว้าง 2-15 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ ส่วนดอกนั้นเกิดจาก ที่ยาวถึง 26 เซนติเมตร แต่ละดอกตอนแรกมีสีเขียวซีด จากนั้นสีสดเป็นแดงจัด มี 5 กลีบ ปลายแหลม เรียว ยาว 7-15 มิลลิเมตร
ส่วนที่จะปรากฏไปเป็นผลของมะม่วงหิมพานต์นั้น ก็คือ (accessory fruit) รูปไข่หรือรูปลูกแพร์ ซึ่งจะเติบโตจากฐานดอกขึ้นมา ผลมะม่วงหิมพานต์นี้มีชื่อเรียกในแถบอเมริกากลางว่า "มารัญญอน" (marañón) เมื่อสุกจะมีสีเหลืองหรือส้มแดง มีความยาวประมาณ 5-11 เซนติเมตร
ผลแท้ของมะม่วงหิมพานต์นั้นเป็นผลเมล็ดเดียว รูปไต หรือรูปนวมนักมวย งอกออกจากปลายของ ก้านดอกจะขยายตัวออกมาเป็นผลเทียม ภายในผลแท้นั้น เป็นเมล็ดเดี่ยว แม้ว่าโดยทั่วไปจะมองว่าส่วนเนื้อขาวนวลนั้นเป็นผลที่มีเปลือกแข็ง (nut) แต่ในทางพฤกษศาสตร์ถือว่า เป็นเมล็ด (seed) อย่างไรก็ตาม ส่วนของผลแท้นั้น นักพฤกษศาสตร์บางท่านถือว่าเป็นผลที่มีเปลือกแข็งก็มี เมล็ดนั้นห่อหุ้มด้วยเปลือกสองชั้น ประกอบด้วยยางฟีโนลิก (caustic phenolic resin) น้ำมัน urushiol, พิษที่ระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างรุนแรง บางคนแพ้มะม่วงหิมพานต์ แต่ปกติถือว่าก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยกว่าผลเปลือกแข็งชนิดอื่น ๆ
ชื่อ
ในประเทศไทย มะม่วงหิมพานต์พบได้ทั่วไปในภาคใต้ และมีชื่อเรียกตามสำเนียงภาษาถิ่นใต้แตกต่างกันไป เช่น กาหยู กาหยี (เข้าใจว่าเป็นคำยืมจากภาษามลายู ซึ่งยืมจากภาษาโปรตุเกสอีกทอดหนึ่ง) เม็ดล่อ ยาร่วง หัวครก ยาโห้ย เป็นต้น ซึ่งกระบวนการผลิตในภาคใต้นิยมเอาไปคั่วหรือเผาไฟร้อน ๆ
ประโยชน์
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์) | |
---|---|
พลังงาน | 2,314 กิโลจูล (553 กิโลแคลอรี) |
30.19 g | |
น้ำตาล | 5.91 g |
ใยอาหาร | 3.3 g |
43.85 g | |
18.22 g | |
วิตามิน | |
ไทอามีน (บี1) | (37%) .42 มก. |
ไรโบเฟลวิน (บี2) | (5%) .06 มก. |
ไนอาซิน (บี3) | (7%) 1.06 มก. |
(17%) .86 มก. | |
วิตามินบี6 | (32%) .42 มก. |
โฟเลต (บี9) | (6%) 25 μg |
วิตามินซี | (1%) .5 มก. |
แร่ธาตุ | |
แคลเซียม | (4%) 37 มก. |
เหล็ก | (51%) 6.68 มก. |
แมกนีเซียม | (82%) 292 มก. |
ฟอสฟอรัส | (85%) 593 มก. |
โพแทสเซียม | (14%) 660 มก. |
สังกะสี | (61%) 5.78 มก. |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ แหล่งที่มา: USDA FoodData Central |
ปัจจุบันมะม่วงหิมพานต์พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อน เพราะเติบโตได้อย่างเหมาะสมในสภาพอากาศที่ชื้น และอบอุ่น ทั้งในเอเชีย และอเมริกาใต้ นิยมใช้เนื้อภายในเมล็ดเป็นอาหารว่าง และยังเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกของอินเดีย เวียดนาม และบราซิล ทั้งสามประเทศนี้ มีอัตราการส่งออกถึง 90% ของผลิตภัณฑ์เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทั่วโลก
ส่วนผลมะม่วงหิมพานต์นั้นเนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ แต่มีรสเปรี้ยว รับประทานได้ทั้งห่ามและสุก ทางภาคใต้ของไทย นิยมนำผลห่ามแกงส้ม แกงเลียง ส่วนผลสุก รับประทานกับเกลือเป็นของกินเล่น บางครั้งออกรสฝาดเล็กน้อย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปหมักเป็นไวน์ น้ำส้มสายชู หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ ผลมะม่วงหิมพานต์มีส่วนประกอบของแทนนินมาก และเน่าเสียเร็วมาก ด้วยเหตุนี้ โดยทั่วไปจึงมักจะทิ้งผลเทียม หลังจากเก็บเมล็ดออก
ส่วน urushiol นั้น จะต้องนำออกจากเปลือกเมล็ดสีเขียวเข้มก่อนที่จะรับประทานเนื้อสีขาวนวลข้างใน ยางจากเปลือกเมล็ดมะม่วงหิมพานต์นี้ในอินเดีย ควาญช้างนำมาใช้เพื่อคุมช้างให้เชื่อง
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์นับเป็นส่วนประกอบอาหารหลายชนิดในเอเชีย อาจบดให้ป่น เป็นเนยเมล็ดมะม่วงสำหรับใช้ทาขนมปังแบบเดียวกับเนยถั่วก็ได้ เมล็ดมะม่วงนี้มีน้ำมันพืชสูงมาก มีการนำไปใช้ในเนยถั่วอื่น ๆ บางชนิด เพื่อเพิ่มน้ำมันพิเศษ เมล็ดมะม่วงบรรจุหีบห่อที่พบในสหรัฐอเมริกา ปริมาณ 30 กรัม มีพลังงาน 180 แคลอรี (750 กิโลจูล) โดยมีไขมัน 70% เม็ดมะม่วงหิมพานต์สดได้จากการกะเทาะเปลือกของผลแก่ออก นำมาแช่น้ำปูนใสเพื่อป้องกันไม่ให้ดำ นำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่นใส่ในแกงไตปลา แกงส้ม นำไปอบแล้วผัดกับน้ำตาลปี๊บเคี่ยว กินเป็นของหวาน เช่นหัวครกฉาบ
ของเหลวที่มีอยู่ในเปลือก ที่หุ้มเนื้อข้างใน เรียกว่า Cashew Nut Shell Liquid (CNSL) มีประโยชน์หลายประการในด้านอุตสาหกรรม ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในราวทศวรรษ 1930 ของเหลวชนิด CNSL นี้ถูกนำไปผ่านกระบวนการคล้ายการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม โดยได้ผลผลิตเบื้องต้นสองอย่าง นั่นคือ ของแข็งบดละเอียด ใช้หุ้มเบรก และของเหลวสีอำพัน ที่ใช้เพื่อสร้างตัวทำให้แข็งแบบฟีนอลคามีน (phenalkamine) และตัวปรับปรุงคุณภาพเรซิน สารฟีนอลคามีนนั้นเดิมใช้ในการเคลือบอีพอกซีสำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ปูพื้นและเกี่ยวกับการเดินเรือ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่มีไฮโดรโฟบิกเข้มข้น และสามารถมีปฏิกิริยาเคมีได้ดีที่อุณหภูมิต่ำ
อ้างอิง
- พจน์ สัจจะ. ฟู้ดอับเดต: หัวครกฉาบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผัดน้ำผึ้ง. ครัว. ปีที่ 20 ฉบับที่ 229 กรกฎาคม 2556 หน้า 14
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
- Jostock, Carolyn. "Cashew Industry" in Encyclopedia of Latin American History and Culture, vol. 2, p. 5. New York: Charles Scribner's Sons 1996.
- Olaya, Clara Inés. "Cajú/ Marañon/ Merey/Acaiu/Cashew Nut", in Americas 42, no. 3 (1990), 52–53.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ มะม่วงหิมพานต์
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Anacardium occidentale ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mamwnghimphantmamwnghimphantsukphrxmekb in Guinea Bissaukarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaehmwd Magnoliophytachn Magnoliopsidaxndb Sapindaleswngs Anacardiaceaeskul Anacardiumspichis A occidentalechuxthwinamAnacardium occidentale L mamwnghimphant chuxwithyasastr Anacardium occidentale epnimdxkyuntn inwngs Anacardiaceae klumediywkbmamwng mango aelathwphistachiox mamwnghimphantepnphuchphunemuxngkhxngphakhtawnxxkechiyngehnuxkhxngbrasil sungeriykepnphasaoprtuekswa kachu caju phl hrux kachuexyru cajueiro tn pccubnetibotaephrhlaythwipinphumiphakhekhtrxn ephuxichpraoychncak aelaphl naekhamaplukkhrngaerkthiphakhitkhxngpraethsithy emuxpi ph s 2444 odyphrayarsdanupradisthmhisrphkdi khxsimbi n ranxng epnphuchthimikhunkhathangsarxaharsung prakxbdwyoprtinthiyxyngay ikhmnthiswnihyepnkrdikhmnimximtw emuxbriophkhekhaipcaimephimikhmninesneluxd kharobihedrt witaminex bi xi aelaekluxaer aekhlesiym fxsfxrs ehlk aeladwyphundinthitidthaelsngphlihphlmamwnghimphantmikhwamhwankwaphakhxun cnghwdphakhitthitidthael echn nkhrsrithrrmrach chumphr surasdrthani phthlung sngkhla pttani nrathiwas ranxng phngnga phuekt krabi trng stul epntn mamwnghimphantepnimimphldib latnmikhwamsung 10 12 emtr tnetiy syaykingkanimsmaesmx ibcderiyngepnaebbekliyw phiwmnlun rupokhngcnthungrupikh khwamyaw 4 22 esntiemtr aelakwang 2 15 esntiemtr khxbiberiyb swndxknnekidcak thiyawthung 26 esntiemtr aetladxktxnaerkmisiekhiywsid caknnsisdepnaedngcd mi 5 klib playaehlm eriyw yaw 7 15 milliemtr swnthicapraktipepnphlkhxngmamwnghimphantnn kkhux accessory fruit rupikhhruxruplukaephr sungcaetibotcakthandxkkhunma phlmamwnghimphantnimichuxeriykinaethbxemrikaklangwa maryyxn maranon emuxsukcamisiehluxnghruxsmaedng mikhwamyawpraman 5 11 esntiemtr phlaethkhxngmamwnghimphantnnepnphlemldediyw rupit hruxrupnwmnkmwy ngxkxxkcakplaykhxng kandxkcakhyaytwxxkmaepnphlethiym phayinphlaethnn epnemldediyw aemwaodythwipcamxngwaswnenuxkhawnwlnnepnphlthimiepluxkaekhng nut aetinthangphvkssastrthuxwa epnemld seed xyangirktam swnkhxngphlaethnn nkphvkssastrbangthanthuxwaepnphlthimiepluxkaekhngkmi emldnnhxhumdwyepluxksxngchn prakxbdwyyangfionlik caustic phenolic resin namn urushiol phisthirakhayekhuxngtxphiwhnngxyangrunaerng bangkhnaephmamwnghimphant aetpktithuxwakxihekidxakaraephnxykwaphlepluxkaekhngchnidxun chuxinpraethsithy mamwnghimphantphbidthwipinphakhit aelamichuxeriyktamsaeniyngphasathinitaetktangknip echn kahyu kahyi ekhaicwaepnkhayumcakphasamlayu sungyumcakphasaoprtueksxikthxdhnung emdlx yarwng hwkhrk yaohy epntn sungkrabwnkarphlitinphakhitniymexaipkhwhruxephaifrxn praoychnphlmamwnghimphantemldmamwnghimphantsdkhunkhathangophchnakartx 100 krm 3 5 xxns phlngngan2 314 kiolcul 553 kiolaekhlxri kharobihedrt30 19 gnatal5 91 giyxahar3 3 gikhmn43 85 goprtin18 22 gwitaminithxamin bi1 37 42 mk irobeflwin bi2 5 06 mk inxasin bi3 7 1 06 mk krdaephnothethnik bi5 17 86 mk witaminbi6 32 42 mk ofelt bi9 6 25 mgwitaminsi 1 5 mk aerthatuaekhlesiym 4 37 mk ehlk 51 6 68 mk aemkniesiym 82 292 mk fxsfxrs 85 593 mk ophaethsesiym 14 660 mk sngkasi 61 5 78 mk hnwy mg imokhrkrm mg millikrm IU hnwysaklpramanrxylakhraw odyichkaraenanakhxngshrthsahrbphuihy aehlngthima USDA FoodData Central pccubnmamwnghimphantphbidthwipinphumiphakhekhtrxn ephraaetibotidxyangehmaasminsphaphxakasthichun aelaxbxun thnginexechiy aelaxemrikait niymichenuxphayinemldepnxaharwang aelayngepnphlitphnthsngxxkkhxngxinediy ewiydnam aelabrasil thngsampraethsni mixtrakarsngxxkthung 90 khxngphlitphnthemldmamwnghimphantthwolk swnphlmamwnghimphantnnenuxnim chana aetmirsepriyw rbprathanidthnghamaelasuk thangphakhitkhxngithy niymnaphlhamaekngsm aekngeliyng swnphlsuk rbprathankbekluxepnkhxngkineln bangkhrngxxkrsfadelknxy nxkcakniyngsamarthnaiphmkepniwn nasmsaychu hruxekhruxngdumxun id phlmamwnghimphantmiswnprakxbkhxngaethnninmak aelaenaesiyerwmak dwyehtuni odythwipcungmkcathingphlethiym hlngcakekbemldxxk swn urushiol nn catxngnaxxkcakepluxkemldsiekhiywekhmkxnthicarbprathanenuxsikhawnwlkhangin yangcakepluxkemldmamwnghimphantniinxinediy khwaychangnamaichephuxkhumchangihechuxng emldmamwnghimphantkhw oryeklux epnxaharwang emldmamwnghimphantnbepnswnprakxbxaharhlaychnidinexechiy xacbdihpn epnenyemldmamwngsahrbichthakhnmpngaebbediywkbenythwkid emldmamwngniminamnphuchsungmak mikarnaipichinenythwxun bangchnid ephuxephimnamnphiess emldmamwngbrrcuhibhxthiphbinshrthxemrika priman 30 krm miphlngngan 180 aekhlxri 750 kiolcul odymiikhmn 70 emdmamwnghimphantsdidcakkarkaethaaepluxkkhxngphlaekxxk namaaechnapunisephuxpxngknimihda naipprungxaharidhlaychnid echnisinaekngitpla aekngsm naipxbaelwphdkbnatalpibekhiyw kinepnkhxnghwan echnhwkhrkchab khxngehlwthimixyuinepluxk thihumenuxkhangin eriykwa Cashew Nut Shell Liquid CNSL mipraoychnhlayprakarindanxutsahkrrm sungmikarphthnakhunepnkhrngaerkinrawthswrrs 1930 khxngehlwchnid CNSL nithuknaipphankrabwnkarkhlaykarklnnamnpiotreliym odyidphlphlitebuxngtnsxngxyang nnkhux khxngaekhngbdlaexiyd ichhumebrk aelakhxngehlwsixaphn thiichephuxsrangtwthaihaekhngaebbfinxlkhamin phenalkamine aelatwprbprungkhunphaphersin sarfinxlkhaminnnedimichinkarekhluxbxiphxksisahrbtladphlitphnthpuphunaelaekiywkbkaredinerux enuxngcakmikhunsmbtithimiihodrofbikekhmkhn aelasamarthmiptikiriyaekhmiiddithixunhphumitaxangxingphcn scca fudxbedt hwkhrkchab emdmamwnghimphantphdnaphung khrw pithi 20 chbbthi 229 krkdakhm 2556 hna 14hnngsuxxanephimetimJostock Carolyn Cashew Industry in Encyclopedia of Latin American History and Culture vol 2 p 5 New York Charles Scribner s Sons 1996 Olaya Clara Ines Caju Maranon Merey Acaiu Cashew Nut in Americas 42 no 3 1990 52 53 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb mamwnghimphant khxmulthiekiywkhxngkb Anacardium occidentale thiwikispichis