รัฐบัญญัติจัดตั้งรัฐลิทัวเนียขึ้นใหม่ หรือ รัฐบัญญัติ 11 มีนาคม (ลิทัวเนีย: Aktas dėl Lietuvos nepriklausomos valstybės atstatymo; อังกฤษ: Act of the Re-Establishment of the State of Lithuania; Act of March 11) เป็นรัฐบัญญัติของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตลิทัวเนีย ร่างขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1990 และลงนาม โดยสมาชิกทุกคนของ นำโดยขบวนการซายูดิส (Sąjūdis) รัฐบัญญัตินี้เน้นย้ำถึงการฟื้นฟูและสถานภาพทางกฎหมายอันต่อเนื่องของลิทัวเนีย ซึ่งถูกยึดครองโดยและสูญเสียเอกราชแก่สหภาพโซเวียตในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ส่งผลให้ลิทัวเนียเป็นสาธารณรัฐแห่งสหภาพโซเวียตแห่งแรกที่ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
พื้นเพเดิม
การสูญเสียเอกราช
ภายหลังการแบ่งแยกเครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ลิทัวเนียถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย ถัดมาเกิดการปฏิวัติขึ้นในปี ค.ศ. 1917 สภาที่ปรึกษาแห่งลิทัวเนียซึ่งมีนาย (Jonas Basanavičius) เป็นประธาน จึงได้ประกาศในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1918 ลิทัวเนียจึงมีสถานะเป็นรัฐเอกราชเป็นเวลาสองทศวรรษ เมื่อเวลาก้าวล่วงถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 สหภาพโซเวียตและนาซีเยอรมนีได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบนทรอพซึ่งทำให้เกิดการแบ่งแยกเขตอิทธิพลของทั้งสองฝ่ายในภูมิภาคยุโรปตะวันออก รัฐบอลติก (ลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย) จึงตกอยู่ภายใต้เขตอิทธิพลของสหภาพโวเวียต และถูกเข้ายึดครองในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ก่อนที่จะถูกแปรสภาพไปเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตในภายหลัง
ในกรณีของลิทัวเนีย ประธานาธิบดี (Antanas Smetona) เลือกที่จะลี้ภัยออกนอกประเทศแทนการยอมรับการเข้ายึดครองของโซเวียต เขาไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง แต่ทำการถ่ายโอนหน้าที่ของประธานาธิบดีแก่นายกรัฐมนตรี (Antanas Merkys) แทน ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าพึงกระทำได้ ในวันถัดมานายเมอร์คีสจึงได้ประกาศตนเป็นประธานาธิบดีและแต่งตั้งนาย (Justas Paleckis) นักการเมืองผู้อยู่ฝ่ายตรงข้ามนายสเมโตนามาอย่างยาวนาน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายเมอร์คีสก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้นายพาเลกคีสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสืบต่อมา สหภาพโซเวียตจึงได้ใช้นายพาเลกคีสเป็นผู้นำหุ่นเชิดเพื่อให้การผนวกรวมลิทัวเนียทั้งในทางปฏิบัติและในทางกฎหมายสามารถดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์
จากนั้นทางการโซเวียตได้ริเริ่มนโยบายทำให้รัฐบอลติกเป็นโซเวียต (Sovietization) เช่น ยึดเอาทรัพย์สินเอกชนมาเป็นของชาติ ริเริ่มเกษตรกรรมแบบนารวม ปราบปรามคริสตจักรโรมันคาทอลิก และเข้าปกครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ ในขณะเดียวกันนั้นเองยังได้ริเริ่มโครงการการศึกษาและสาธารณสุขฟรีอีกด้วย ในปี ค.ศ. 1953 กลุ่มติดอาวุธต่อต้านโซเวียตของลิทัวเนียถูกกำจัด โดยประมาณการณ์กันว่าสมาชิกกองกำลังชาวลิทัวเนียกว่า 130,000 คน หรือถูกเรียกขานโดยโซเวียตว่า ศัตรูของประชาชน ถูกเนรเทศไปยังไซบีเรีย (และ) ถัดมาในปีเดียวกันนั้นเอง โจเซฟ สตาลิน ถึงแก่อสัญกรรม สหภาพโซเวียตจึงได้ริเริ่มนโยบาย (de-Stalinization) ซึ่งทำให้การประหัตประหารผู้คนจำนวนมากสิ้นสุดลงไปด้วย ทั้งนี้ขบวนการต่อต้านโซเวียตของลิทัวเนียที่ปราศจากความรุนแรงยังคงดำเนินต่อไปทั้งในลิทัวเนียเองและในหมู่ชาวลิทัวเนียพลัดถิ่น ขบวนการนี้เป็นขบวนการลับ ผิดกฎหมาย และมุ่งเน้นไปที่ประเด็นปัญหาทางสังคม สิทธิมนุษยชน และกิจการด้านวัฒนธรรม มากกว่าการเรียกร้องทางการเมือง
ขบวนการเรียกร้องเอกราช
ในขณะที่มิฮาอิล กอร์บาชอฟ พยายามพลิกฟื้นเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตด้วยนโยบายกลัสนอสต์ (glasnost; การเผยแพร่) และเปเรสตรอยคา (perestroika; การปรับโครงสร้าง) กอร์บาชอฟได้เปลี่ยนแปลงท่าทีทางการเมืองของรัฐบาลโซเวียตครั้งใหญ่ เช่น เปิดกว้างให้สาธารณชนชาวโซเวียตได้ถกเถียงและอภิปรายกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับชาวลิทัวเนียผู้ไม่พอใจสหภาพโซเวียตแล้ว นี่จึงเป็นโอกาสทองที่พลาดไม่ได้ในการนำขบวนการใต้ดินของตนขึ้นมาบนดิน
ต่อมาในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1987 (ตรงกับวันครบรอบปีที่ 48 ของสนธิสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบนทรอพ) สันนิบาตเสรีภาพลิทัวเนียได้จัดการเดินประท้วงขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่ได้มีการปราบปรามหรือจับกุมจากทางการโซเวียตแต่อย่างใด โดยหลังจากการเดินประท้วงครั้งดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มปัญญาชน 35 คนรู้สึกถึงแรงกล้าที่จะจัดตั้ง (Sąjūdis) ในช่วงกลางปี ค.ศ. 1988 มีเป้าหมายดั้งเดิมเพื่อสนับสนุน อภิปราย และริเริ่มการปฏิรูปของกอร์บาชอฟ รวมถึงสนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชจากสหภาพโซเวียตอย่างเปิดเผยด้วยเล็กน้อย ขบวนการดังกล่าวได้รับความนิยมมากขึ้นและดึงดูดผู้คนให้มาเข้าร่วมการเดินประท้วงในสวนสาธารณะวินกีสจำนวนมาก ส่งผลให้แนวทางและเป้าหมายของขบวนการมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นโดยอาศัยโอกาสที่กอร์บาชอฟมีท่าทีที่เพิกเฉย
เมื่อก้าวล่วงถึงปี ค.ศ. 1989 ขบวนการซายูดิสไม่เกรงกลัวอำนาจของมอสโกหรือการปราบปรางที่รุนแรงแต่อย่างใด แต่ยังคงพลักดันข้อเรียกร้องของตนอย่างต่อเนื่อง โดยลดทอนการอภิปรายในประเด็นการปฏิรูปของกอร์บาชฟลงและเพิ่มน้ำหนักไปที่ข้อเรียกร้องถึงสิทธิการมีส่วนรวมในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น รวมถึงสิทธิในการปกครองตนเองภายใต้สหภาพโซเวียตอีกด้วย
ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1989 เกิดเหตุการณ์ บอลติกเวย์ (Baltic Way) ที่ผู้คนร่วมออกมาเรียงแถวเป็นยาวมากกว่า 600 กิโลเมตร (370 ไมล์) ผ่านรัฐบอลติก 3 รัฐ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 50 ของสนธิสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบนทรอพ ซึ่ง ณ เวลานี้เองขบวนการซายูดิสได้ถือเอาการเรียกร้องเอกราชแบบเต็มขั้นมาเป็นเป้าหมายอย่างเป็นทางการของกลุ่ม
การเลือกตั้งในแบบประชาธิปไตย
การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาลิทัวเนีย ค.ศ. 1990 นับเป็นการเลือกตั้งเสรีตามระบอบประชาธิปไตยครั้งแรกในลิทัวเนียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ผู้คนจำนวนมากออกมาใช้เสียงเลือกผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกโดยขบวนการซายูดิส แม้ขบวนการดังกล่าวจะไม่ได้ดำเนินงานในฐานะพรรการเมืองก็ตาม ลิทัวเนียจึงได้รัฐบาลที่ไม่ใช่ฝ่ายคอมมิวนิสต์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยสงครามโลก และในสมัยประชุมแรกของรัฐสภาในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1990 นี่เองที่ (Supreme Soviet of the Lithuanian SSR) ได้เลือกนายวีเทาตัส ลันสเบอร์กีส (Vytautas Landsbergis) เป็นประธานสภา และได้เปลี่ยนชื่อเป็น สภาที่ปรึกษาสูงสุดแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย (Supreme Council of the Republic of Lithuania) พร้อมกับประกาศจัดตั้งรัฐลิทัวเนียขึ้นใหม่ด้วยรัฐบัญญัติซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภาฯ จำนวน 124 คน (งดออกเสียง 6 คน) เมื่อเวลา 22.44 น. โดยปราศจากเสียงคัดค้าน
เนื้อความ
“ | รัฐบัญญัติ ว่าด้วยการจัดตั้งรัฐลิทัวเนียขึ้นใหม่แสดงออกซึ่งเจตจำนงแห่งประชาชาติ จึงตราและประกาศเป็นพิธีว่า การใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐลิทัวเนียที่กองกำลังต่างชาติล้มล้างลงในปี 1940 นั้นเป็นอันจัดตั้งขึ้นอีกครั้ง และลิทัวเนียจึงกลับคืนเป็นรัฐเอกราชนับแต่บัดนั้น ของ และกฤษฎีกาของ ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 1920 ว่าด้วยรัฐประชาธิปไตยลิทัวเนียที่จัดตั้งขึ้นใหม่นั้น ไม่เคยสิ้นผลทางกฎหมาย และประกอบไว้ซึ่งรากฐานทางรัฐธรรมนูญของรัฐลิทัวเนีย อาณาเขตลิทัวเนียย่อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวและจะแบ่งแยกมิได้ และการสถาปนารัฐอื่นใดในอาณาเขตนี้ย่อมไม่เป็นผล รัฐลิทัวเนียเน้นย้ำการที่ตนยึดถือหลักกฎหมายระหว่างประเทศอันเป็นที่ยอมรับโดยสากล รับรองหลักความละเมิดมิได้ของเขตแดนตามที่กำหนดไว้ในกรรมสารฉบับสุดท้ายของ ณ กรุงเฮลซิงกิในปี 1975 กับทั้งรับประกันสิทธิมนุษยชน พลเมือง และชุมชนชาติพันธุ์ สภาสูงสุดแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย แสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตย จึงให้อำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์ของรัฐเป็นอันเริ่มมีขึ้นด้วยรัฐบัญญัตินี้ | ” |
วาทกรรมของรัฐบัญญัตินี้ที่ว่าลิทัวเนียไม่เคยสูญเสียเอกราชนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดที่ว่าประธานาธิบดีอันตานัส สเมโตนา ไม่เคยลาออกจากตำแหน่ง ดังนั้นการสืบทอดตำแหน่งของประธานาธิบดีอันตานัส เมอร์คีส จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ลิทัวเนียได้โต้แย้งว่าการกระทำทุกอย่างหลังจากที่นายเมอร์คีสเข้าสืบทอดตำแหน่งไปจนถึงการเข้ายึดครองของโซเวียตถือเป็นโมฆะ
ผลที่ตามมา
แม้รัฐบัญญัติจัดตั้งรัฐลิทัวเนียขึ้นใหม่จะถือเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แก่สาธารณรัฐโซเวียตแห่งอื่น ๆ แต่ประเด็นปัญญาเกี่ยวกับการประกาศเอกราชก็ไม่ได้รับการคลี่คลายลงในทันที ส่วนการยอมรับจากประเทศอื่น ๆ ก็ยังไม่เป็นที่แน่นอน
มิฮาอิล กอร์บาชอฟ กล่าวว่ารัฐบัญญัติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย สหภาพโซเวียตเองก็เรียกร้องให้มีการเพิกถอนกฎหมายดังกล่าวและเริ่มมาตรการคว่ำบาตรลิทัวเนีย เช่น การปิดกั้นทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ในวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1991 กองกำลังของโซเวียตได้เข้าโจมตีอาคารรัฐสภาในกรุงวิลนีอุสและหอแพร่ภาพสัญญาณโทรทัศน์ของวิลนีอุสด้วย พลเรือนชาวลิทัวเนียผู้ไม่มีอาวุธจึงเข้าเผชิญหน้ากับทหารโซเวียต ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน และอีก 700 กว่าคนได้รับบาดเจ็บ ภายหลังได้มีการขนานนามเหตุการณ์นี้ว่า
ในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 สภาสูงสุดแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวียลงมติยอมรับการจัดตั้งรัฐลิทัวเนียขึ้นใหม่ให้เป็นเอกราช จึงเป็นรัฐสภาประเทศแรกในโลกที่ยอมรับเอกราชของลิทัวเนียอย่างเป็นทางการ แม้มอลเดเวียจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตก็ตาม
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศนอกสหภาพโซเวียตประเทศแรกที่ยอมรับเอกราชของลิทัวเนียในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ตามมาด้วยเดนมาร์ก สโลวีเนีย โครเอเชีย และลัตเวีย ต่อมาหลังความพยายามรัฐประหารที่ล้มเหลวในเดือนสิงหาคม เอกราชของลิทัวเนียก็ถูกยอมรับโดยสหรัฐอเมริกาในวันที่ 2 กันยายน ซึ่งประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ประกาศว่าหากโซเวียตรัสเซียใช้กำลังเข้าโจมตีลิทัวเนียสหรัฐอเมริกาก็จะตอบโต้ในแบบเดียวกัน จนกระทั่งวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1991 สหภาพโซเวียตจึงยอมรับเอกราชของลิทัวเนียในที่สุด ลิทัวเนียจึงได้รับการยอมรับจากนานาชาติอย่างรวดเร็ว เช่น จีน อินเดีย และเบลารุส เป็นต้น ในท้ายที่สุดในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1991 ลิทัวเนียก็ได้เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติเช่นเดียวกับเอสโตเนียและลัตเวีย
การยอมรับจากนานาชาติ
เส้นเวลาการยอมรับการจัดตั้งรัฐลิทัวเนียขึ้นใหม่ของนานาชาติ | |||||
ที่ | วันที่ | ประเทศ | ที่ | วันที่ | ประเทศ |
---|---|---|---|---|---|
1 | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 | มอลเดเวีย | 58 | 6 กันยายน ค.ศ. 1991 | สิงคโปร์ |
2 | 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 | ไอซ์แลนด์ | 59 | 6 กันยายน ค.ศ. 1991 | อียิปต์ |
3 | 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 | เดนมาร์ก | 60 | 6 กันยายน ค.ศ. 1991 | สหภาพโซเวียต |
4 | 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 | สโลวีเนีย | 61 | 7 กันยายน ค.ศ. 1991 | อัฟกานิสถาน |
5 | 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 | โซเวียตรัสเซีย | 62 | 7 กันยายน ค.ศ. 1991 | จีน |
6 | 3 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | โครเอเชีย | 63 | 7 กันยายน ค.ศ. 1991 | เกาหลีเหนือ |
7 | 23 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ลัตเวีย | 64 | 7 กันยายน ค.ศ. 1991 | เปรู |
8 | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | นอร์เวย์ | 65 | 7 กันยายน ค.ศ. 1991 | เซเนกัล |
9 | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ฮังการี | 66 | 7 กันยายน ค.ศ. 1991 | บังกลาเทศ |
10 | 25 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | อาร์เจนตินา | 67 | 8 กันยายน ค.ศ. 1991 | ปากีสถาน |
11 | 25 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ฝรั่งเศส | 68 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | โบลิเวีย |
12 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | บัลแกเรีย | 69 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | โบลิเวีย |
13 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | อิตาลี | 70 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | อินเดีย |
14 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | แคนาดา | 71 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | คิวบา |
15 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | โปแลนด์ | 72 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | ซีเรีย |
16 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | มอลตา | 73 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | ไทย |
17 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | โปรตุเกส | 74 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | เวียดนาม |
18 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | โรมาเนีย | 75 | 9 กันยายน ค.ศ. 1991 | กาบูเวร์ดี |
19 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ซานมารีโน | 76 | 10 กันยายน ค.ศ. 1991 | กาบูเวร์ดี |
20 | 26 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ยูเครน | 77 | 10 กันยายน ค.ศ. 1991 | อาเซอร์ไบจาน |
21 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | แอลเบเนีย | 78 | 10 กันยายน ค.ศ. 1991 | อิหร่าน |
22 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ออสเตรเลีย | 79 | 10 กันยายน ค.ศ. 1991 | เนปาล |
23 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | เบลเยียม | 80 | 11 กันยายน ค.ศ. 1991 | มาดากัสการ์ |
24 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | สหราชอาณาจักร | 81 | 12 กันยายน ค.ศ. 1991 | อาร์มีเนีย |
25 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | จอร์เจีย | 82 | 12 กันยายน ค.ศ. 1991 | ไซปรัส |
26 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | สเปน | 83 | 13 กันยายน ค.ศ. 1991 | เยเมน |
27 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ลักเซมเบิร์ก | 84 | 15 กันยายน ค.ศ. 1991 | บาห์เรน |
28 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | สวีเดน | 85 | 15 กันยายน ค.ศ. 1991 | จอร์แดน |
29 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | เยอรมนี | 86 | 15 กันยายน ค.ศ. 1991 | คูเวต |
30 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ไอร์แลนด์ | 87 | 15 กันยายน ค.ศ. 1991 | ฟิลิปปินส์ |
31 | 27 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | เอสโตเนีย | 88 | 16 กันยายน ค.ศ. 1991 | ซาอุดีอาระเบีย |
32 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ออสเตรีย | 89 | 17 กันยายน ค.ศ. 1991 | อินโดนีเซีย |
33 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ชิลี | 90 | 19 กันยายน ค.ศ. 1991 | สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
34 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | นิวซีแลนด์ | 91 | 20 กันยายน ค.ศ. 1991 | ลาว |
35 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | แอฟริกาใต้ | 92 | 24 กันยายน ค.ศ. 1991 | เติร์กเมนิสถาน |
36 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | ฟินแลนด์ | 93 | 25 กันยายน ค.ศ. 1991 | ปานามา |
37 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | สวิตเซอร์แลนด์ | 94 | 30 กันยายน ค.ศ. 1991 | อุซเบกิสถาน |
38 | 28 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | อุรุกวัย | 95 | 30 กันยายน ค.ศ. 1991 | นามิเบีย |
39 | 29 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | เชโกสโลวาเกีย | 96 | 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 | ศรีลังกา |
40 | 29 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | มองโกเลีย | 97 | 23 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | กานา |
41 | 30 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | นครรัฐวาติกัน | 98 | 23 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | คาซัคสถาน |
42 | 30 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | คีร์กีซสถาน | 99 | 24 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | โมซัมบิก |
43 | 2 กันยายน ค.ศ. 1991 | เอกวาดอร์ | 100 | 25 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | ทาจิกิสถาน |
44 | 2 กันยายน ค.ศ. 1991 | เนเธอร์แลนด์ | 101 | 27 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | แอลจีเรีย |
45 | 2 กันยายน ค.ศ. 1991 | สหรัฐ | 102 | 27 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | เบลารุส |
46 | 3 กันยายน ค.ศ. 1991 | กรีซ | 103 | 30 ธันวาคม ค.ศ. 1991 | เลบานอน |
47 | 3 กันยายน ค.ศ. 1991 | ลิเบีย | 104 | 2 มกราคม ค.ศ. 1991 | อิรัก |
48 | 3 กันยายน ค.ศ. 1991 | นิการากัว | 105 | 6 มกราคม ค.ศ. 1991 | บุรุนดี |
49 | 3 กันยายน ค.ศ. 1991 | ตุรกี | 106 | 16 มกราคม ค.ศ. 1991 | บูร์กินาฟาโซ |
50 | 4 กันยายน ค.ศ. 1991 | บราซิล | 107 | 25 มกราคม ค.ศ. 1991 | มาลี |
51 | 4 กันยายน ค.ศ. 1991 | อิสราเอล | 108 | 31 มกราคม ค.ศ. 1991 | เบนิน |
52 | 4 กันยายน ค.ศ. 1991 | ตูนิเซีย | 109 | 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 | คอสตาริกา |
53 | 5 กันยายน ค.ศ. 1991 | เกาหลีใต้ | 110 | 17 มีนาคม ค.ศ. 1991 | ซิมบับเว |
54 | 5 กันยายน ค.ศ. 1991 | เม็กซิโก | 111 | 25 กันยายน ค.ศ. 1992 | เอลซัลวาดอร์ |
55 | 6 กันยายน ค.ศ. 1991 | กินี | 112 | 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1992 | บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา |
56 | 6 กันยายน ค.ศ. 1991 | ญี่ปุ่น | 113 | 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1992 | ไนจีเรีย |
57 | 6 กันยายน ค.ศ. 1991 | โคลอมเบีย | 114 | 12 มกราคม ค.ศ. 1993 | ชาด |
อ้างอิง
- . Lietuvos Respublikos Seimas. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-07-01. สืบค้นเมื่อ 2016-07-18.
- . Lietuvos Respublikos Seimas. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-07-01. สืบค้นเมื่อ 2016-07-18.
- "Supreme Council - Reconstituent Seimas 1990 - 1992". Lietuvos Respublikos Seimas.
- . January 29, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-02. สืบค้นเมื่อ April 1, 2015.
- "Core document forming part of the reports of states parties : Lithuania". United Nations. 1 October 1998. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-15. สืบค้นเมื่อ February 20, 2008.
- "Atkurtos Lietuvos nepriklausomos valstybės pripažinimo chronologija". สืบค้นเมื่อ April 7, 2015.
หนังสือเพิ่มเติม
- The Oxford Companion to Politics of the World (p. 69, 70), Joel Krieger (editor), Oxford University, 1993.
- Background Notes on Countries of the World 2003; September 2003, Lithuania, (p. 12)
- The Baltic Revolution; Estonia, Latvia, Lithuania and The Path to Independence, Anatol Lieven, 1993.
- Collapse of an Empire, Lessons for Modern Russia (pp. 175, 214, 217-219), Yegor Gaidar, , 2007.
- Why did the Soviet Union collapse, Understanding Historical Change, (p. 152-155), Robert Strayer, M.E.Sharpe, 1998.
- Ilgūnas, Gediminas. . Lietuvos Respublikos Seimas. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-22. สืบค้นเมื่อ 2016-10-01.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rthbyyticdtngrthlithweniykhunihm hrux rthbyyti 11 minakhm lithweniy Aktas del Lietuvos nepriklausomos valstybes atstatymo xngkvs Act of the Re Establishment of the State of Lithuania Act of March 11 epnrthbyytikhxngsatharnrthsngkhmniymosewiytlithweniy rangkhuninwnthi 11 minakhm kh s 1990 aelalngnam odysmachikthukkhnkhxng naodykhbwnkarsayudis Sajudis rthbyytiniennyathungkarfunfuaelasthanphaphthangkdhmayxntxenuxngkhxnglithweniy sungthukyudkhrxngodyaelasuyesiyexkrachaekshphaphosewiytineduxnmithunayn kh s 1940 sngphlihlithweniyepnsatharnrthaehngshphaphosewiytaehngaerkthiprakasaeyktwepnexkrachcakkarlmslaykhxngshphaphosewiyttnchbbrthbyyticdtngrthlithweniykhunihmthilngnamodykhnaphuaethnfaytang phunephedimkarsuyesiyexkrach phayhlngkaraebngaeykekhruxckrphphopaelnd lithweniyinchwngkhriststwrrsthi 18 lithweniythukphnwkekhaepnswnhnungkhxngckrwrrdirsesiy thdmaekidkarptiwtikhuninpi kh s 1917 sphathipruksaaehnglithweniysungminay Jonas Basanavicius epnprathan cungidprakasinwnthi 16 kumphaphnth kh s 1918 lithweniycungmisthanaepnrthexkrachepnewlasxngthswrrs emuxewlakawlwngthungeduxnsinghakhm kh s 1939 shphaphosewiytaelanasieyxrmniidrwmlngnaminsnthisyyaomoltxf ribebnthrxphsungthaihekidkaraebngaeykekhtxiththiphlkhxngthngsxngfayinphumiphakhyuorptawnxxk rthbxltik lithweniy ltewiy aelaexsoteniy cungtkxyuphayitekhtxiththiphlkhxngshphaphowewiyt aelathukekhayudkhrxngineduxnmithunayn kh s 1940 kxnthicathukaeprsphaphipepnsatharnrthsngkhmniymosewiytinphayhlng inkrnikhxnglithweniy prathanathibdi Antanas Smetona eluxkthicaliphyxxknxkpraethsaethnkaryxmrbkarekhayudkhrxngkhxngosewiyt ekhaimidlaxxkcaktaaehnng aetthakarthayoxnhnathikhxngprathanathibdiaeknaykrthmntri Antanas Merkys aethn sungrththrrmnuybyytiiwwaphungkrathaid inwnthdmanayemxrkhiscungidprakastnepnprathanathibdiaelaaetngtngnay Justas Paleckis nkkaremuxngphuxyufaytrngkhamnaysemotnamaxyangyawnan khunepnnaykrthmntri caknnnayemxrkhiskidlaxxkcaktaaehnng sngphlihnayphaelkkhisekharbtaaehnngprathanathibdisubtxma shphaphosewiytcungidichnayphaelkkhisepnphunahunechidephuxihkarphnwkrwmlithweniythnginthangptibtiaelainthangkdhmaysamarthdaeninipidxyangsmburn caknnthangkarosewiytidrierimnoybaythaihrthbxltikepnosewiyt Sovietization echn yudexathrphysinexkchnmaepnkhxngchati rierimekstrkrrmaebbnarwm prabpramkhristckrormnkhathxlik aelaekhapkkhrxngpraethsxyangebdesrc inkhnaediywknnnexngyngidrierimokhrngkarkarsuksaaelasatharnsukhfrixikdwy inpi kh s 1953 klumtidxawuthtxtanosewiytkhxnglithweniythukkacd odypramankarnknwasmachikkxngkalngchawlithweniykwa 130 000 khn hruxthukeriykkhanodyosewiytwa strukhxngprachachn thukenrethsipyngisbieriy aela thdmainpiediywknnnexng ocesf stalin thungaekxsykrrm shphaphosewiytcungidrierimnoybay de Stalinization sungthaihkarprahtpraharphukhncanwnmaksinsudlngipdwy thngnikhbwnkartxtanosewiytkhxnglithweniythiprascakkhwamrunaerngyngkhngdaenintxipthnginlithweniyexngaelainhmuchawlithweniyphldthin khbwnkarniepnkhbwnkarlb phidkdhmay aelamungennipthipraednpyhathangsngkhm siththimnusychn aelakickardanwthnthrrm makkwakareriykrxngthangkaremuxng khbwnkareriykrxngexkrach aephnthikhxngklumtawnxxk inkhnathimihaxil kxrbachxf phyayamphlikfunesrsthkickhxngshphaphosewiytdwynoybayklsnxst glasnost karephyaephr aelaeperstrxykha perestroika karprbokhrngsrang kxrbachxfidepliynaeplngthathithangkaremuxngkhxngrthbalosewiytkhrngihy echn epidkwangihsatharnchnchawosewiytidthkethiyngaelaxphiprayknxyangthiimekhymimakxn sahrbchawlithweniyphuimphxicshphaphosewiytaelw nicungepnoxkasthxngthiphladimidinkarnakhbwnkaritdinkhxngtnkhunmabndin txmainwnthi 23 singhakhm kh s 1987 trngkbwnkhrbrxbpithi 48 khxngsnthisyyaomoltxf ribebnthrxph snnibatesriphaphlithweniyidcdkaredinprathwngkhunepnkhrngaerk sungimidmikarprabpramhruxcbkumcakthangkarosewiytaetxyangid odyhlngcakkaredinprathwngkhrngdngklawsngphlihklumpyyachn 35 khnrusukthungaerngklathicacdtng Sajudis inchwngklangpi kh s 1988 miepahmaydngedimephuxsnbsnun xphipray aelarierimkarptirupkhxngkxrbachxf rwmthungsnbsnunkaraeyktwepnexkrachcakshphaphosewiytxyangepidephydwyelknxy khbwnkardngklawidrbkhwamniymmakkhunaeladungdudphukhnihmaekharwmkaredinprathwnginswnsatharnawinkiscanwnmak sngphlihaenwthangaelaepahmaykhxngkhbwnkarmikhwamrunaerngephimmakkhunodyxasyoxkasthikxrbachxfmithathithiephikechy emuxkawlwngthungpi kh s 1989 khbwnkarsayudisimekrngklwxanackhxngmxsokhruxkarprabprangthirunaerngaetxyangid aetyngkhngphlkdnkhxeriykrxngkhxngtnxyangtxenuxng odyldthxnkarxphiprayinpraednkarptirupkhxngkxrbachflngaelaephimnahnkipthikhxeriykrxngthungsiththikarmiswnrwminkartdsinicthangesrsthkicthimakkhun rwmthungsiththiinkarpkkhrxngtnexngphayitshphaphosewiytxikdwy inwnthi 23 singhakhm kh s 1989 ekidehtukarn bxltikewy Baltic Way thiphukhnrwmxxkmaeriyngaethwepnyawmakkwa 600 kiolemtr 370 iml phanrthbxltik 3 rth ephuxepnkarechlimchlxngkhrbrxbpithi 50 khxngsnthisyyaomoltxf ribebnthrxph sung n ewlaniexngkhbwnkarsayudisidthuxexakareriykrxngexkrachaebbetmkhnmaepnepahmayxyangepnthangkarkhxngklumkareluxktnginaebbprachathipitykareluxktngsmachikrthsphalithweniy kh s 1990 nbepnkareluxktngesritamrabxbprachathipitykhrngaerkinlithweniynbtngaetsngkhramolkkhrngthisxng phukhncanwnmakxxkmaichesiyngeluxkphusmkhrthiphankarkhdeluxkodykhbwnkarsayudis aemkhbwnkardngklawcaimiddaeninnganinthanaphrrkaremuxngktam lithweniycungidrthbalthiimichfaykhxmmiwnistepnkhrngaerknbtngaetsmysngkhramolk aelainsmyprachumaerkkhxngrthsphainwnthi 11 minakhm kh s 1990 niexngthi Supreme Soviet of the Lithuanian SSR ideluxknaywiethats lnsebxrkis Vytautas Landsbergis epnprathanspha aelaidepliynchuxepn sphathipruksasungsudaehngsatharnrthlithweniy Supreme Council of the Republic of Lithuania phrxmkbprakascdtngrthlithweniykhunihmdwyrthbyytisungidrbkhwamehnchxbcaksmachikspha canwn 124 khn ngdxxkesiyng 6 khn emuxewla 22 44 n odyprascakesiyngkhdkhanenuxkhwam sphasungsudaehngsatharnrthlithweniy rthbyyti wadwykarcdtngrthlithweniykhunihm aesdngxxksungectcanngaehngprachachati cungtraaelaprakasepnphithiwa karichxanacxthipitykhxngrthlithweniythikxngkalngtangchatilmlanglnginpi 1940 nnepnxncdtngkhunxikkhrng aelalithweniycungklbkhunepnrthexkrachnbaetbdnn khxng aelakvsdikakhxng lngwnthi 15 phvsphakhm 1920 wadwyrthprachathipitylithweniythicdtngkhunihmnn imekhysinphlthangkdhmay aelaprakxbiwsungrakthanthangrththrrmnuykhxngrthlithweniy xanaekhtlithweniyyxmepnxnhnungxnediywaelacaaebngaeykmiid aelakarsthapnarthxunidinxanaekhtniyxmimepnphl rthlithweniyennyakarthitnyudthuxhlkkdhmayrahwangpraethsxnepnthiyxmrbodysakl rbrxnghlkkhwamlaemidmiidkhxngekhtaedntamthikahndiwinkrrmsarchbbsudthaykhxng n krungehlsingkiinpi 1975 kbthngrbpraknsiththimnusychn phlemuxng aelachumchnchatiphnthu sphasungsudaehngsatharnrthlithweniy aesdngxxksungxanacxthipity cungihxanacxthipityodysmburnkhxngrthepnxnerimmikhundwyrthbyytini wathkrrmkhxngrthbyytinithiwalithweniyimekhysuyesiyexkrachnn tngxyubnphunthankhxngaenwkhidthiwaprathanathibdixntans semotna imekhylaxxkcaktaaehnng dngnnkarsubthxdtaaehnngkhxngprathanathibdixntans emxrkhis cungimchxbdwykdhmay sungkhnanilithweniyidotaeyngwakarkrathathukxyanghlngcakthinayemxrkhisekhasubthxdtaaehnngipcnthungkarekhayudkhrxngkhxngosewiytthuxepnomkhaphlthitammaehriyythiraluklitsenuxnginoxkaskhrbrxbhnungthswrrskhxngkarprakasexkrach aemrthbyyticdtngrthlithweniykhunihmcathuxepnaebbxyangaelaaerngbndalicihaeksatharnrthosewiytaehngxun aetpraednpyyaekiywkbkarprakasexkrachkimidrbkarkhlikhlaylnginthnthi swnkaryxmrbcakpraethsxun kyngimepnthiaennxn mihaxil kxrbachxf klawwarthbyytidngklawimchxbdwykdhmay shphaphosewiytexngkeriykrxngihmikarephikthxnkdhmaydngklawaelaerimmatrkarkhwabatrlithweniy echn karpidknthangesrsthkic nxkcakniinwnthi 13 mkrakhm kh s 1991 kxngkalngkhxngosewiytidekhaocmtixakharrthsphainkrungwilnixusaelahxaephrphaphsyyanothrthsnkhxngwilnixusdwy phleruxnchawlithweniyphuimmixawuthcungekhaephchiyhnakbthharosewiyt sngphlihmiphuesiychiwit 14 khn aelaxik 700 kwakhnidrbbadecb phayhlngidmikarkhnannamehtukarnniwa inwnthi 31 phvsphakhm kh s 1990 sphasungsudaehngsatharnrthsngkhmniymosewiytmxledewiylngmtiyxmrbkarcdtngrthlithweniykhunihmihepnexkrach cungepnrthsphapraethsaerkinolkthiyxmrbexkrachkhxnglithweniyxyangepnthangkar aemmxledewiycayngkhngepnswnhnungkhxngshphaphosewiytktam ixsaelndepnpraethsnxkshphaphosewiytpraethsaerkthiyxmrbexkrachkhxnglithweniyinwnthi 11 kumphaphnth kh s 1991 tammadwyednmark solwieniy okhrexechiy aelaltewiy txmahlngkhwamphyayamrthpraharthilmehlwineduxnsinghakhm exkrachkhxnglithweniykthukyxmrbodyshrthxemrikainwnthi 2 knyayn sungprathanathibdicxrc exch dbebilyu buch prakaswahakosewiytrsesiyichkalngekhaocmtilithweniyshrthxemrikakcatxbotinaebbediywkn cnkrathngwnthi 6 knyayn kh s 1991 shphaphosewiytcungyxmrbexkrachkhxnglithweniyinthisud lithweniycungidrbkaryxmrbcaknanachatixyangrwderw echn cin xinediy aelaeblarus epntn inthaythisudinwnthi 17 knyayn kh s 1991 lithweniykidekhaepnsmachikkhxngshprachachatiechnediywkbexsoteniyaelaltewiy karyxmrbcaknanachati esnewlakaryxmrbkarcdtngrthlithweniykhunihmkhxngnanachatithi wnthi praeths thi wnthi praeths1 31 phvsphakhm kh s 1990 mxledewiy 58 6 knyayn kh s 1991 singkhopr2 11 kumphaphnth kh s 1991 ixsaelnd 59 6 knyayn kh s 1991 xiyipt3 28 kumphaphnth kh s 1991 ednmark 60 6 knyayn kh s 1991 shphaphosewiyt4 16 phvsphakhm kh s 1991 solwieniy 61 7 knyayn kh s 1991 xfkanisthan5 27 krkdakhm kh s 1991 osewiytrsesiy 62 7 knyayn kh s 1991 cin6 3 singhakhm kh s 1991 okhrexechiy 63 7 knyayn kh s 1991 ekahliehnux7 23 singhakhm kh s 1991 ltewiy 64 7 knyayn kh s 1991 epru8 24 singhakhm kh s 1991 nxrewy 65 7 knyayn kh s 1991 esenkl9 24 singhakhm kh s 1991 hngkari 66 7 knyayn kh s 1991 bngklaeths10 25 singhakhm kh s 1991 xarecntina 67 8 knyayn kh s 1991 pakisthan11 25 singhakhm kh s 1991 frngess 68 9 knyayn kh s 1991 obliewiy12 26 singhakhm kh s 1991 blaekeriy 69 9 knyayn kh s 1991 obliewiy13 26 singhakhm kh s 1991 xitali 70 9 knyayn kh s 1991 xinediy14 26 singhakhm kh s 1991 aekhnada 71 9 knyayn kh s 1991 khiwba15 26 singhakhm kh s 1991 opaelnd 72 9 knyayn kh s 1991 sieriy16 26 singhakhm kh s 1991 mxlta 73 9 knyayn kh s 1991 ithy17 26 singhakhm kh s 1991 oprtueks 74 9 knyayn kh s 1991 ewiydnam18 26 singhakhm kh s 1991 ormaeniy 75 9 knyayn kh s 1991 kabuewrdi19 26 singhakhm kh s 1991 sanmarion 76 10 knyayn kh s 1991 kabuewrdi20 26 singhakhm kh s 1991 yuekhrn 77 10 knyayn kh s 1991 xaesxribcan21 27 singhakhm kh s 1991 aexlebeniy 78 10 knyayn kh s 1991 xihran22 27 singhakhm kh s 1991 xxsetreliy 79 10 knyayn kh s 1991 enpal23 27 singhakhm kh s 1991 ebleyiym 80 11 knyayn kh s 1991 madakskar24 27 singhakhm kh s 1991 shrachxanackr 81 12 knyayn kh s 1991 xarmieniy25 27 singhakhm kh s 1991 cxreciy 82 12 knyayn kh s 1991 isprs26 27 singhakhm kh s 1991 sepn 83 13 knyayn kh s 1991 eyemn27 27 singhakhm kh s 1991 lkesmebirk 84 15 knyayn kh s 1991 bahern28 27 singhakhm kh s 1991 swiedn 85 15 knyayn kh s 1991 cxraedn29 27 singhakhm kh s 1991 eyxrmni 86 15 knyayn kh s 1991 khuewt30 27 singhakhm kh s 1991 ixraelnd 87 15 knyayn kh s 1991 filippins31 27 singhakhm kh s 1991 exsoteniy 88 16 knyayn kh s 1991 saxudixaraebiy32 28 singhakhm kh s 1991 xxsetriy 89 17 knyayn kh s 1991 xinodniesiy33 28 singhakhm kh s 1991 chili 90 19 knyayn kh s 1991 shrthxahrbexmierts34 28 singhakhm kh s 1991 niwsiaelnd 91 20 knyayn kh s 1991 law35 28 singhakhm kh s 1991 aexfrikait 92 24 knyayn kh s 1991 etirkemnisthan36 28 singhakhm kh s 1991 finaelnd 93 25 knyayn kh s 1991 panama37 28 singhakhm kh s 1991 switesxraelnd 94 30 knyayn kh s 1991 xusebkisthan38 28 singhakhm kh s 1991 xurukwy 95 30 knyayn kh s 1991 namiebiy39 29 singhakhm kh s 1991 echoksolwaekiy 96 2 phvscikayn kh s 1991 srilngka40 29 singhakhm kh s 1991 mxngokeliy 97 23 thnwakhm kh s 1991 kana41 30 singhakhm kh s 1991 nkhrrthwatikn 98 23 thnwakhm kh s 1991 khaskhsthan42 30 singhakhm kh s 1991 khirkissthan 99 24 thnwakhm kh s 1991 omsmbik43 2 knyayn kh s 1991 exkwadxr 100 25 thnwakhm kh s 1991 thacikisthan44 2 knyayn kh s 1991 enethxraelnd 101 27 thnwakhm kh s 1991 aexlcieriy45 2 knyayn kh s 1991 shrth 102 27 thnwakhm kh s 1991 eblarus46 3 knyayn kh s 1991 kris 103 30 thnwakhm kh s 1991 elbanxn47 3 knyayn kh s 1991 liebiy 104 2 mkrakhm kh s 1991 xirk48 3 knyayn kh s 1991 nikarakw 105 6 mkrakhm kh s 1991 burundi49 3 knyayn kh s 1991 turki 106 16 mkrakhm kh s 1991 burkinafaos50 4 knyayn kh s 1991 brasil 107 25 mkrakhm kh s 1991 mali51 4 knyayn kh s 1991 xisraexl 108 31 mkrakhm kh s 1991 ebnin52 4 knyayn kh s 1991 tuniesiy 109 21 kumphaphnth kh s 1991 khxstarika53 5 knyayn kh s 1991 ekahliit 110 17 minakhm kh s 1991 simbbew54 5 knyayn kh s 1991 emksiok 111 25 knyayn kh s 1992 exlslwadxr55 6 knyayn kh s 1991 kini 112 6 phvscikayn kh s 1992 bxseniyaelaehxresokwina56 6 knyayn kh s 1991 yipun 113 10 phvscikayn kh s 1992 incieriy57 6 knyayn kh s 1991 okhlxmebiy 114 12 mkrakhm kh s 1993 chadxangxing Lietuvos Respublikos Seimas khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2003 07 01 subkhnemux 2016 07 18 Lietuvos Respublikos Seimas khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2003 07 01 subkhnemux 2016 07 18 Supreme Council Reconstituent Seimas 1990 1992 Lietuvos Respublikos Seimas January 29 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 04 02 subkhnemux April 1 2015 Core document forming part of the reports of states parties Lithuania United Nations 1 October 1998 cakaehlngedimemux 2008 03 15 subkhnemux February 20 2008 Atkurtos Lietuvos nepriklausomos valstybes pripazinimo chronologija subkhnemux April 7 2015 hnngsuxephimetimThe Oxford Companion to Politics of the World p 69 70 Joel Krieger editor Oxford University 1993 Background Notes on Countries of the World 2003 September 2003 Lithuania p 12 The Baltic Revolution Estonia Latvia Lithuania and The Path to Independence Anatol Lieven 1993 Collapse of an Empire Lessons for Modern Russia pp 175 214 217 219 Yegor Gaidar 2007 Why did the Soviet Union collapse Understanding Historical Change p 152 155 Robert Strayer M E Sharpe 1998 Ilgunas Gediminas Lietuvos Respublikos Seimas khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 06 22 subkhnemux 2016 10 01