ไนเมเคิน (ดัตช์: Nijmegen) เป็นเมืองและเทศบาลริมฝั่งแม่น้ำวาล ในจังหวัดเกลเดอร์ลันด์ทางตะวันออกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ใกล้กับชายแดนประเทศเยอรมนี ถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ เฉลิมฉลองครบ 2,000 ปี ในปี ค.ศ. 2005 เขตเมืองมีประชากร 736,107 คน (มกราคม ค.ศ. 2011)
ไนเมเคิน Nimwegen | |
---|---|
เมือง | |
มุมมองของเมืองไนเมเคิน | |
ธง ตราอาร์ม | |
ประเทศ | เนเธอร์แลนด์ |
จังหวัด | เกลเดอร์ลันด์ |
Ulpia Noviomagnus Batavorum | 98–102 |
ผู้ก่อตั้ง | |
การปกครอง | |
• Mayor | (D66) |
• | P.F.G. Depla J.A.C. van Hooft sr. H.T.M. Scholten J.G. Kunst J. van der Meer |
• | P. Eringa |
พื้นที่(2006) | |
• เมือง | 57.53 ตร.กม. (22.21 ตร.ไมล์) |
• พื้นดิน | 53.59 ตร.กม. (20.69 ตร.ไมล์) |
• พื้นน้ำ | 3.94 ตร.กม. (1.52 ตร.ไมล์) 6.8% |
ความสูง | 7–88 เมตร (24–288 ฟุต) |
ประชากร (4 January 2011) | |
• เมือง | 164,272 คน |
• ความหนาแน่น | 3,043 คน/ตร.กม. (7,884 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 280,079 คน |
• รวมปริมณฑล | 736,107 คน |
Source: , [1] | |
เขตเวลา | (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | (CEST) |
6500–6547, 6663, 6679, 6683 | |
รหัสพื้นที่ | 024 / 0481 |
เว็บไซต์ | www.nijmegen.nl |
ประวัติศาสตร์
ไนเมเคินปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล เมื่อชาวโรมันตั้งค่ายทหารขึ้นเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีชัยภูมิที่ดี ล้อมรอบด้วยภูเขาและอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวาลและแม่น้ำไรน์ ทำให้มองเห็นข้าศึกได้โดยง่าย
ต่อมา ค.ศ. 69 ชาวปัตตาเวีย ชนพื้นเมืองดั้งเดิมลุกฮือต่อต้านการปกครองของจักรวรรดิโรมัน ชาวโรมันปราบปรามและสร้างค่ายทหารที่ใหญ่ขึ้นอีก ส่งผลให้หมู่บ้านรอบๆค่ายเติบโตขึ้น ต่อมาใน ค.ศ. 98 ไนเมเคินยกระดับเป็นเมืองในจักรวรรดิโรมัน เป็นเพียงหนึ่งในสองชุมชนในเนเธอร์แลนด์แรกที่ได้รับสถานะนี้
ในปี ค.ศ. 103 แม่ทัพโรมันย้ายฐานทัพไปยังบริเวณกรุงเวียนนาในปัจจุบัน ทำให้เศรษฐกิจของไนเมเคินซบเซาลง ประชากรอพยพออกจากเมืองกว่าห้าพันคน ในปีต่อมา จักรพรรดิไตรยานุสเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น Ulpia Noviomagus Batavorum หรือย่อเป็น โนวิโอมากุส (Noviomagus) อันเป็นที่มาของชื่อไนเมเคินทุกวันนี้
เมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลาย เมืองโนวิโอมากุสตกเป็นของราชอาณาจักรแฟรงก์ที่เรืองอำนาจขึ้นมาแทน ด้วยการตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำวาล การค้าทำให้ไนเมเคินกลับมาคึกคักอีกครั้ง จักรพรรดิในราชวงศ์การอแล็งเฌียงเคยประทับที่เมืองนี้เป็นช่วงเวลาหนึ่ง
ปี ค.ศ. 1230 ไนเมเคินมีสถานะเป็นเมืองอีกครั้งภายใต้จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยมีจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2เป็นผู้ปกครอง ต่อมาในปี ค.ศ. 1247 ไนเมเคินกลายเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้จากเคานต์แห่งเกลเดอร์ส เมื่อเงินกู้ไม่เคยถูกชำระคืน ไนเมเคินจึงตกเป็นของเคาน์ตีเกลเดอร์สไปตลอดนับตั้งแต่นั้นมา การค้ายังคงดำเนินได้ต่อเพราะไนเมเคินเป็นส่วนหนึ่งของสันนิบาตฮันเซอตั้งแต่ปี ค.ศ 1364
เมื่อชาวดัตช์ทำการปฏิวัติต่อต้านการปกครองของสเปนในช่วงสงครามแปดสิบปี สาธารณรัฐดัตช์ที่ประกาศเอกราชต่อสเปนเข้ายึดครองไนเมเคินได้ในปี ค.ศ. 1591 กลายเป็นพรมแดนกั้นระหว่างดินแดนเนเธอร์แลนด์ใหม่กับส่วนที่ยังตกเป็นของสเปน จนกระทั่ง ค.ศ. 1648 มีการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลีย รับรองเอกราชของเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ
ไนเมเคินเป็นสถานที่ลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกหลายฉบับระหว่าง ค.ศ. 1678-1679 เพื่อยุติสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับฮอลแลนด์
ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 แนวกำแพงโบราณกลายเป็นปัญหาใหญ่เนื่องจากประชากรอพยพเข้ามาอยู่ภายในเขตกำแพงเมืองมากเกินไป แต่ทางการไม่สามารถทำลายกำแพงเมืองลงได้เพราะมีความสำคัญต่อการป้องกันประเทศของเนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ากำแพงเมืองโบราณล้าสมัยและไม่สามารถใช้ป้องกันได้จริงในศึกสงครามสมัยใหม่ ทางการจึงได้เปลี่ยนนโยบาย กำแพงถูกรื้อในปี ค.ศ. 1874 เกิดการขยายเมืองออกไปรอบนอก
นับแต่นั้นมาจนถึงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ไนเมเคินเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำวาลสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1878 และสะพานรถยนต์แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1936 เป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในสมัยนั้น มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยรัดเบาด์ไนเมเคินในปี ค.ศ. 1923 และขุดคลองเชื่อมระหว่างแม่น้ำวาลและแม่น้ำเมิซในปี ค.ศ. 1927
ไนเมเคินเป็นเมืองแรกในเนเธอร์แลนด์ที่ถูกนาซีเยอรมนียึดครองในสงครามโลกครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1940 การต่อสู้ที่ดุเดือดในสงครามทำให้บ้านเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากไนเมเคินเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในสงคราม โดยเฉพาะยุทธการต่างๆในเดือนกันยายน ค.ศ. 1944
ปัจจุบัน แนวคิดทางการเมืองของไนเมเคินค่อนข้างเด่นชัดว่านิยมฝ่ายซ้าย ได้รับสมญานามว่า "กรุงอาบานาแห่งแม่น้ำวาล" พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายมักได้รับการรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพรรรคครุนลิงกส์ พรรคประชาธิปัตย์ 66 พรรคสังคมนิยม และพรรคแรงงาน
อ้างอิง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
inemekhin dtch Nijmegen epnemuxngaelaethsbalrimfngaemnawal incnghwdekledxrlndthangtawnxxkkhxngpraethsenethxraelnd iklkbchayaednpraethseyxrmni thuxwaepnemuxngthiekaaekthisudinenethxraelnd echlimchlxngkhrb 2 000 pi inpi kh s 2005 ekhtemuxngmiprachakr 736 107 khn mkrakhm kh s 2011 inemekhin NimwegenemuxngmummxngkhxngemuxnginemekhinthngtraxarmpraethsenethxraelndcnghwdekledxrlndUlpia Noviomagnus Batavorum98 102phukxtngkarpkkhrxng Mayor D66 P F G Depla J A C van Hooft sr H T M Scholten J G Kunst J van der Meer P Eringaphunthi 2006 emuxng57 53 tr km 22 21 tr iml phundin53 59 tr km 20 69 tr iml phunna3 94 tr km 1 52 tr iml 6 8 khwamsung7 88 emtr 24 288 fut prachakr 4 January 2011 emuxng164 272 khn khwamhnaaenn3 043 khn tr km 7 884 khn tr iml ekhtemuxng280 079 khn rwmprimnthl736 107 khn Source 1 ekhtewlaUTC 1 CET vdurxn ewlaxxmaesng UTC 2 CEST 6500 6547 6663 6679 6683rhsphunthi024 0481ewbistwww nijmegen nlprawtisastrinemekhinpraktinhlkthanthangprawtisastrkhrngaerkinstwrrsthi 1 kxnkhristkal emuxchawormntngkhaythharkhunenuxngcakepnbriewnthimichyphumithidi lxmrxbdwyphuekhaaelaxyurimfngaemnawalaelaaemnairn thaihmxngehnkhasukidodyngay txma kh s 69 chawpttaewiy chnphunemuxngdngedimlukhuxtxtankarpkkhrxngkhxngckrwrrdiormn chawormnprabpramaelasrangkhaythharthiihykhunxik sngphlihhmubanrxbkhayetibotkhun txmain kh s 98 inemekhinykradbepnemuxnginckrwrrdiormn epnephiynghnunginsxngchumchninenethxraelndaerkthiidrbsthanani inpi kh s 103 aemthphormnyaythanthphipyngbriewnkrungewiynnainpccubn thaihesrsthkickhxnginemekhinsbesalng prachakrxphyphxxkcakemuxngkwahaphnkhn inpitxma ckrphrrdiitryanusepliynchuxemuxngepn Ulpia Noviomagus Batavorum hruxyxepn onwioxmakus Noviomagus xnepnthimakhxngchuxinemekhinthukwnni emuxckrwrrdiormntawntklmslay emuxngonwioxmakustkepnkhxngrachxanackraefrngkthieruxngxanackhunmaaethn dwykartngxyuiklaemnawal karkhathaihinemekhinklbmakhukkhkxikkhrng ckrphrrdiinrachwngskarxaelngechiyngekhyprathbthiemuxngniepnchwngewlahnung pi kh s 1230 inemekhinmisthanaepnemuxngxikkhrngphayitckrwrrdiormnxnskdisiththi odymickrphrrdifridrichthi 2epnphupkkhrxng txmainpi kh s 1247 inemekhinklayepnhlkthrphykhapraknenginkucakekhantaehngekledxrs emuxenginkuimekhythukcharakhun inemekhincungtkepnkhxngekhantiekledxrsiptlxdnbtngaetnnma karkhayngkhngdaeninidtxephraainemekhinepnswnhnungkhxngsnnibathnesxtngaetpi kh s 1364 aemnawal eliybinemekhin kh s 1641 emuxchawdtchthakarptiwtitxtankarpkkhrxngkhxngsepninchwngsngkhramaepdsibpi satharnrthdtchthiprakasexkrachtxsepnekhayudkhrxnginemekhinidinpi kh s 1591 klayepnphrmaednknrahwangdinaednenethxraelndihmkbswnthiyngtkepnkhxngsepn cnkrathng kh s 1648 mikarlngnaminsnthisyyasntiphaphewstfaeliy rbrxngexkrachkhxngenethxraelndxyangepnthangkar inemekhinepnsthanthilngnaminsnthisyyasngbsukhlaychbbrahwang kh s 1678 1679 ephuxyutisngkhramrahwangfrngesskbhxlaelnd salawakarinemekhin say raw kh s 1900 chwngkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 19 aenwkaaephngobranklayepnpyhaihyenuxngcakprachakrxphyphekhamaxyuphayinekhtkaaephngemuxngmakekinip aetthangkarimsamarththalaykaaephngemuxnglngidephraamikhwamsakhytxkarpxngknpraethskhxngenethxraelnd xyangirktam sngkhramfrngess prsesiyidepnthipracksaelwwakaaephngemuxngobranlasmyaelaimsamarthichpxngknidcringinsuksngkhramsmyihm thangkarcungidepliynnoybay kaaephngthukruxinpi kh s 1874 ekidkarkhyayemuxngxxkiprxbnxk nbaetnnmacnthungkhrungaerkkhxngstwrrsthi 20 inemekhinetibotxyangtxenuxng saphanrthifkhamaemnawalsrangaelwesrcinpi kh s 1878 aelasaphanrthyntaelwesrcinpi kh s 1936 epnsaphanthiihythisudinyuorpinsmynn mikarkxtngmhawithyalyrdebadinemekhininpi kh s 1923 aelakhudkhlxngechuxmrahwangaemnawalaelaaemnaemisinpi kh s 1927 inemekhinepnemuxngaerkinenethxraelndthithuknasieyxrmniyudkhrxnginsngkhramolkkhrngthisxnginpi kh s 1940 kartxsuthidueduxdinsngkhramthaihbanemuxngidrbkhwamesiyhayxyanghnkenuxngcakinemekhinepncudyuththsastrthisakhyinsngkhram odyechphaayuththkartangineduxnknyayn kh s 1944 pccubn aenwkhidthangkaremuxngkhxnginemekhinkhxnkhangednchdwaniymfaysay idrbsmyanamwa krungxabanaaehngaemnawal phrrkhkaremuxngfaysaymkidrbkarrbeluxktng imwacaepnphrrrkhkhrunlingks phrrkhprachathipty 66 phrrkhsngkhmniym aelaphrrkhaerngnganxangxing