ภูมิภาคโบราณแห่งอานาโตเลีย แคปพาโดเชีย | |
ภูเขา Aktepe ไม่ไกลจากเกอเรเมและภูมิภาคเขาหินแห่งแคปพาโดเชีย (มรดกโลกยูเนสโก) | |
ที่ตั้ง | ตะวันออกของอานาโตเลีย |
ฐานะของภูมิภาค: | กึ่งอิสระในรูปแบบต่าง ๆ มาจนถึงปี ค.ศ. 17 |
อดีตเมืองหลวง | |
จังหวัดโรมัน | แคปพาโดเชีย |
38°39′30″N 34°51′13″E / 38.65833°N 34.85361°E แคปพาโดเชีย (กรีก: Καππαδοκία กัปปาโดเกีย ; อังกฤษ: Cappadocia /kæpəˈdoʊʃə/) แผลงมาจากคำในภาษากรีก “Καππαδοκία” (Kappadokía) คือภูมิภาคตอนกลางของประเทศตุรกีที่ส่วนใหญ่อยู่ใน
อุทยานแห่งชาติเกอเรเม และ ภูมิภาคเขาหินแห่งแคปพาโดเชีย * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
(ประเทศ) | ตุรกี |
ภูมิภาค ** | รายชื่อแหล่งมรดกโลกในทวีปยุโรป |
ประเภท | ผสม |
(เกณฑ์พิจารณา) | i, iii, v, vii |
อ้างอิง | 357 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | ค.ศ. 1985 (คณะกรรมการสมัยที่ 9) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
“แคปพาโดเชีย” เป็นชื่อที่ปรากฏตลอดมาในประวัติศาสตร์ของคริสต์ศาสนาและเป็นชื่อที่ใช้โดยทั่วไปที่หมายถึงบริเวณที่เป็นที่น่าสนใจแก่นักท่องเที่ยว ในบริบทของภูมิภาคอันมีความน่าตื่นตาตื่นใจทางธรรมชาติ โดยเฉพาะภูมิสัณฐานที่มีลักษณะเป็นแท่ง ๆ คล้ายหอปล่องไฟ หรือ เห็ด ( (fairy chimney)) และประวัติความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคอานาโตเลีย
ในสมัยของเฮอรอโดทัส กลุ่มชาติพันธุ์แคปพาโดเชียกล่าวว่าเป็นผู้ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในภูมิภาคตั้งแต่ไปจนถึงบริเวณยูซีน (ทะเลดำ) ฉะนั้นแคปพาโดเชียในกรณีนี้จึงมีบริเวณทางตอนใต้จรด ที่เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แยกจาก, ทางตะวันออกโดยแม่น้ำยูเฟรทีสตอนเหนือและ , ทางตอนเหนือโดยภูมิภาคพอนตัส และทางตะวันตกโดยภูมิภาค และ ตะวันออก: 13
ที่มา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์หลักฐานแรกที่กล่าวถึงแคปพาโดเชียเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ที่ปรากฏในคำจารึกสามภาษา ของจักรพรรดิดาไรอัสมหาราช และ จักรพรรดิเซิร์กซีสแห่งจักรวรรดิอคีเมนียะห์ว่าเป็นอาณาจักร หรือ “dahyu-” หนึ่งของจักรวรรดิเปอร์เซีย ที่เรียกเป็นภาษาเปอร์เซียโบราณว่า “Katpatuka” ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ต้นรากของชื่อภาษาเปอร์เซียโดยทั่วไป ภาษาอีลาไมต์ และ ภาษาแอกแคดใช้ชื่อที่คล้ายคลึงกันจากภาษาแอกแคด “katpa” “side” ที่แผลงมาจากชื่อบรรพบุรุษ “Tuka”
เฮอรอโดทัสกล่าวว่าชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์แคปพาโดเชียเป็นชื่อที่ชาวเปอร์เซียใช้เรียกชนกลุ่มดังกล่าวนี้ ขณะที่ชาวกรีกเรียกว่า “ชาวซีเรีย” หรือ “ชาวซีเรียขาว” (Leucosyri) ชนเผ่าหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์แคปพาโดเชียที่เฮอรอโดทัสกล่าวถึงคือ ที่นักประวัติศาสตร์โจซีฟัสกล่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในพระคัมภีร์ไบเบิลชื่อบุตรของ: “และโมโซเคนีก่อตั้งขึ้นโดยโมซอค; ที่ปัจจุบันคือกลุ่มชาติพันธุ์แคปพาโดเชีย”
แคปพาโดเชียปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิลใน “กิจการของอัครทูต” 2:9 กลุ่มชาติพันธุ์แคปพาโดเชียกล่าวว่าเป็นกลุ่มชนหนึ่งที่ได้รับการประกาศข่าวดีจากอัครทูตเป็นภาษาของตนเองในเทศกาลเพนเทคอสต์ไม่นานหลังจากการคืนพระชนม์ของพระเยซู ซึ่งเป็นนัยยะว่าชาวแคปพาโดเชียเป็น “ชาวยิวที่มีความเกรงกลัวในพระเจ้า”
ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเปอร์เซียองค์ต่อ ๆ มาแคปพาโดเชียแบ่งออกเป็นสองแคว้น (Satrap) ที่มีศูนย์กลางหนึ่งที่ยังคงใช้ชื่อแคปพาโดเชียโดยนักประวัติศาสตร์กรีก แต่อีกแคว้นหนึ่งเรียกว่า “พอนตัส” การแบ่งแยกนี้เกิดขึ้นก่อนสมัยของ หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิเปอร์เซียแคว้นสองแคว้นก็ยังคงแยกตัวเป็นอิสระจากกัน และ ยังคงดำรงความแตกต่างจากกันต่อมา แคปพาโดเชียมาหมายถึงจังหวัดลึกเข้าไปในแผ่นดิน (inland province ที่บางครั้งก็เรียกว่า “แคปพาโดเชียใหญ่”) เท่านั้น และเป็นภูมิภาคที่เน้นถึงในบทความนี้
ราชอาณาจักรแคปพาโดเชียยังคงดำรงความเป็นราชอาณาจักรกึ่งอิสระมาจนถึงสมัยของสตราโบ ส่วนเป็นชื่อที่ใช้สำหรับดิสตริคท์ ที่เป็นที่ตั้งของเซซาเรีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักร เมืองสองเมืองในแคปพาโดเชียที่สตราโบเห็นว่ามีความสำคัญคือ เซซาเรีย (เดิมเรียกว่ามาซาคา) และ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเชิงเขา
ที่ตั้งและอากาศ
แคปพาโดเชียตั้งอยู่ทางตะวันออกของอานาโตเลียในบริเวณตอนกลางของประเทศตุรกีปัจจุบัน เนื้อที่ของภูมิภาคที่ราบสูงที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร ประกอบไปด้วยยอดภูเขาไฟ ที่มีภูเขา เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดที่สูงราว 3,917 เมตร พรมแดนในประวัติศาสตร์ของแคปพาโดเชียเป็นพรมแดนที่คลุมเครือโดยเฉพาะทางด้านตะวันตก ทางด้านใต้เป็นที่เป็นพรมแดนธรรมชาติกับ และแยกแคปพาโดเชียจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางด้านตะวันตกตั้งอยู่ติดกับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ และทางตะวันตกเฉียงเหนือ เทือกเขาริมฝั่งทะเลดำแยกแคปพาโดเชียจากพอนตัสและทะเลดำ ขณะที่ทางตะวันออกเป็นแม่น้ำยูเฟรทีสตอนเหนือ ก่อนที่แม่น้ำจะเลี้ยวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ไปยังเมโสโปเตเมีย และ : 13 ภูมิภาคนี้มีเนื้อที่ทั้งหมดที่ยาว 400 กิโลเมตรจากตะวันออกจรดตะวันตก และ 250 กิโลเมตรจากเหนือจรดใต้ เพราะที่ตั้งที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ภายในประเทศและมีระดับสูงจากระดับน้ำทะเลมากแคปพาโดเชียจึงมีภาวะอากาศแบบภาคพื้นทวีป (continental climate) ที่ร้อนแห้งในฤดูร้อน และ หนาวพอที่จะมีหิมะตกในช่วงฤดูหนาว: 14 อัตราการตกของฝนมีระดับต่ำและเป็นบริเวณที่จัดว่าเป็นบริเวณกึ่งแห้งแล้งถึงแล้ง (semi-arid ถึง arid)
ประวัติ
แคปพาโดเชียเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “” ในปลายยุคสำริดและเป็นศูนย์กลางทางอำนาจของชนฮิตไทต์ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิฮิตไทต์และความเสื่อมโทรมของอารยธรรมซีเรีย-แคปพาโดเชียหลังจากความพ่ายแพ้ต่อกษัตริย์แห่งลีเดียในคริสต์ศตวรรษที่ 6 แล้ว แคปพาโดเชียก็ปกครองโดยขุนนางกึ่งระบบศักดินา ที่อยู่อาศัยกันตามที่มั่นที่เป็นปราสาทต่าง ๆ โดยมีไพร่ติดแผ่นดินเป็นบริวาร ซึ่งต่อมาเป็นสภาวะที่เหมาะกับการวิวัฒนาการมาเป็นระบบทาสต่างประเทศ แคปพาโดเชียจัดเป็นแคว้นของจักรวรรดิเปอร์เซียสมัยที่สามที่ก่อตั้งขึ้นโดยจักรพรรดิดาไรอัสมหาราช แต่ยังคงได้รับการอนุญาตให้มีประมุขปกครองตนเอง แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่มีอำนาจมากพอที่จะปกครองได้ทั้งภูมิภาค
- ราชอาณาจักรแคปพาโดเชีย
หลังจากอเล็กซานเดอร์มหาราชนำมาซึ่งการล่มสลายของจักรวรรดิเปอร์เซียแล้ว พระองค์ก็ทรงพยายามที่จะปกครองแคปพาโดเชียโดยการส่งผู้แทนพระองค์มาปกครอง แต่อาเรียร์ทีสผู้เป็นขุนนางเปอร์เซียกลับกลายมาเป็นกษัตริย์แห่งแคปพาโดเชียแทนที่ (332–322 ก่อนคริสต์ศักราช) เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถ และทรงทำการขยายดินแดนของราชอาณาจักรแคปพาโดเชียออกไปถึงทะเลดำ ราชอาณาจักรแคปพาโดเชียตั้งอยู่ในความสงบสุขมาจนกระทั่งการเสด็จสวรรคตของอเล็กซานเดอร์มหาราช เมื่อจักรวรรดิถูกแบ่งย่อยออกไปเป็นส่วน ๆ แคปพาโดเชียตกไปเป็นของ ยูเมนีสขึ้นมามีอำนาจโดยความช่วยเหลือของขุนพลผู้เป็นผู้สำเร็จราชการของอเล็กซานเดอร์มหาราชผู้จับอาเรียร์ทีสตรึงกางเขน แต่หลังจากที่ถูกลอบสังหาร และถูกประหารชีวิต บุตรชายของอาเรียร์ทีสก็ได้แคปพาโดเชียคืน และทำการปกครองเป็นกษัตริย์ที่สืบเชื้อสายต่อมา
เมื่อมาถึงรัชสมัยของ (220–163 ก่อนคริสต์ศักราช) แคปพาโดเชียก็เริ่มมีความสัมพันธ์กับโรมที่เริ่มด้วยการเป็นศัตรูในการเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าแอนทิโอคัสมหาราช และต่อมาหันมาเป็นพันธมิตรในการต่อต้าน ซึ่งก็เท่ากับทรงวางตนเป็นศัตรูกับ จักรวรรดิซิลูซิดที่เคยทรงส่งบรรณาการเป็นครั้งคราวอย่างเต็มพระองค์
(163–130 ก่อนคริสต์ศักราช) ทรงนำทัพร่วมกับกงสุลโรมันในการต่อสู้กับ ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ แต่พระองค์ก็ทรงได้รับความพ่ายแพ้อย่างยับเยินและสิ้นพระชนม์ในปี 130 ก่อนคริสต์ศักราช ภาวะของความสับสนวุ่นวายที่ตามมาหลังจากการเสียชีวิตของอาเรียร์ทีสที่ 5 นำไปสู่การแทรกแซงของพอนตัสที่รุ่งเรืองขึ้นมา และการสงครามที่เกิดขึ้นที่นำมาซึ่งความหายนะของราชวงศ์ที่ปกครองแคปพาโดเชีย
- มณฑลแคปพาโดเชียของโรมัน
ชาวแคปพาโดเชียได้รับการสนับสนุนจากโรมในการเป็นโค่น และแทนที่ด้วย ในปี 93 ก่อนคริสต์ศักราช แต่ในปีเดียวกันกองทัพอาร์มีเนียภายใต้การนำของพระเจ้าไทกราเนสมหาราชก็ทรงนำทัพเข้ามารุกรานแคปพาโดเชีย ทรงทำการถอดอริโอบาร์ซานีสจากราชบัลลังก์ และทรงแต่งตั้งให้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์บริวารแทนที่ การสร้างแคปพาโดเชียขึ้นเป็นอาณาจักรบริวารของพระเจ้าไทกราเนสก็เท่ากับเป็นการสร้างบริเวณฉนวนเพื่อยับยั้งความก้าวร้าวของสาธารณรัฐโรมันที่คืบเข้ามาในภูมิภาค
เมื่อโรมถอดกษัตริย์พอนตัสและกษัตริย์อาร์มีเนียจากราชบัลลังก์ จึงได้กลับมาขึ้นครองแคปพาโดเชียอีกครั้งหนึ่งในปี 63 ก่อนคริสต์ศักราช ในระหว่างสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในโรมแคปพาโดเชียก็เปลี่ยนการสนับสนุนเรื่อยมาตั้งแต่สนับสนุนปอมปีย์, ต่อมาก็จูเลียส ซีซาร์, ต่อมามาร์ค แอนโทนี และหันมาเป็นปฏิปักษ์ท้ายที่สุด ราชวงศ์อริโอบาร์ซานีสมาสิ้นสุดลงในสมัยของผู้หนุนหลังมาร์ค แอนโทนี และหันมาเป็นปฏิปักษ์ ผู้ปกครองเป็นอิสระมาจนกระทั่งปี 17 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อจักรพรรดิไทบีเรียสทรงลดฐานะของแคปพาโดเชียลงมาเป็นเพียงมณฑลของโรมันหลังจากการสิ้นพระชนม์ของอาร์คีลอสอย่างอัปยศ ต่อมาอีกเป็นเวลานานแคปพาโดเชียก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์
แคปพาโดเชียประกอบด้วยหลายเมือง (ดู) ที่ใช้โดยชาวคริสเตียนในยุคแรกในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาประจำจักรวรรดิ ของคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นองค์ประกอบสำคัญของประวัติศาสตร์เทววิทยาศาสนาคริสต์ยุคแรก นักเทววิทยาศาสนาคริสต์คนสำคัญก็รวมทั้งผู้เป็นอัครบิดรแห่งคอนสแตนติโนเปิล ระหว่างปี ค.ศ. 517 ถึง ค.ศ. 520 ในช่วงการปกครองของจักรวรรดิไบแซนไทน์ แคปพาโดเชียปลอดจากความขัดแย้งของบริเวณนี้กับจักรวรรดิแซสซานิด แต่มาเป็นบริเวณดินแดนพรมแดนอันสำคัญต่อมาในสมัยการพิชิตดินแดนของมุสลิมต่อมา แคปพาโดเชียกลายเป็นส่วนหนึ่งของ (Armeniac Theme) และต่อมาเขตการปกครอง และในที่สุด (Cappadocia Theme)
ความสัมพันธ์ระหว่างแคปพาโดเชียและอาร์มีเนียที่ตั้งอยู่ติดกันเป็นความสัมพันธ์อันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นักประวัติศาสตร์อาหรับ อบู อัล ฟารัจ กล่าวถึงชาวอาร์มีเนียผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ซิวาสระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 10 ว่า “ซิวาสในแคปพาโดเชียเต็มไปด้วยชาวอาร์มีเนีย ที่มีจำนวนมากจนกระทั่งกลายเป็นส่วนสำคัญของกองทัพของราชอาณาจักร กองทหารอาร์มีเนียเหล่านี้มีหน้าที่เฝ้ายามตามป้อมที่สำคัญ ๆ ที่ยึดมาได้จากอาหรับ ทหารอาร์มีเนียมีชื่อเสียงจากการเป็นทหารราบผู้มีประสบการณ์และมักจะแสดงความสามารถในการต่อสู้อย่างกล้าหาญและประสบกับความสำเร็จเคียงข้างทหารโรมันหรือที่เรียกว่าทหารไบแซนไทน์” การรณรงค์ทางการทหารของไบแซนไทน์และการรุกรานของเซลจุคในอาร์มีเนียทำให้ชาวอาร์มีเนียขยายตัวเข้ามาในแคปพาโดเชียและออกไปทางตะวันออกจากไปยังดินแดนที่เป็นหุบเขาทางตอนเหนือของซีเรีย และ เมโสโปเตเมีย จนกระทั่งได้ก่อตั้งราชอาณาจักรอาร์มีเนียแห่งซิลิเคียขึ้น การอพยพของชาวอาร์มีเนียเพิ่มจำนวนขึ้นหลังจากการเสื่อมโทรมอำนาจของจักรวรรดิไบแซนไทน์ และการขยายตัวของอาณาจักรครูเสดหลังสงครามครูเสดครั้งที่ 4 สำหรับนักรบครูเสดแล้วแคปพาโดเชียคือ “terra Hermeniorum” (ดินแดนของชาวอาร์มีเนีย) เพราะเป็นดินแดนที่ขณะนั้นเต็มไปด้วยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอาร์มีเนีย
หลังจากในปี ค.ศ. 1071 แล้วกลุ่มตุรกีต่าง ๆ ภายใต้การนำของเซลจุคก็เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอานาโตเลีย การค่อยขยายตัวทางอำนาจของเซลจุคอย่างค่อยเป็นค่อยไปในที่สุดก็ทำให้แคปพาโดเชียกลายเป็นรัฐบริวารของรัฐตุรกีที่ก่อตั้งขึ้นทางตะวันออกและตะวันตกของภูมิภาค และประชากรบางส่วนของบริเวณนี้ก็เปลี่ยนไปถือศาสนาอิสลาม เมื่อมาถึงตอนปลายของต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 เซลจุคแห่งอานาโตเลียก็กลายเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในภูมิภาคแคปพาโดเชีย ต่อมาเมื่ออำนาจของเซลจุคที่ตั้งอยู่ที่คอนยาอ่อนตัวลงในครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 13 (Anatolian Turkish Beyliks) ที่มีฐานอำนาจอยู่ที่ก็เข้ามามีอำนาจแทนที่ และในที่สุดกลุ่มที่ว่านี้ก็มาแทนที่ด้วยจักรวรรดิออตโตมันในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 แคปพาโดเชียก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลาอีกหลายร้อยปีต่อมา และในปัจจุบันก็เป็นส่วนหนึ่งของรัฐปัจจุบัน ความเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของภูมิภาคนี้เกิดขึ้นเมื่อ บริเวณเมือง ได้รับการก่อตั้งขึ้นใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยมหาเสนาบดีผู้มีถิ่นฐานดั้งเดิมมาจากบริเวณนี้ก่อตั้งขึ้นเป็นเมืองหลวงของภูมิภาค และยังคงเป็นมาจนกระทั่งทุกวันนี้
ในขณะเดียวกันชาวแคปพาโดเชียก็เริ่มเปลี่ยนไปพูดภาษาตุรกีที่เขียนด้วยอักษรกรีกที่เรียกว่า “Karamanlıca” และในบริเวณที่ยังคงพูดภาษากรีก อิทธิพลของภาษาตุรกีรอบข้างก็เริ่มจะเพิ่มขึ้น ภาษากรีกที่พูดกันในภูมิภาคแคปพาโดเชียเรียกกันว่า “” หลังจากในปี ค.ศ. 1923 แล้วก็เหลือผู้พูดภาษากรีกแคปพาโดเชียอยู่เพียงไม่กี่คน
ภูมิสัณฐาน
ภูมิภาคแคปพาโดเชียที่มีชื่อเสียงว่ามีภูมิสัณฐานที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งทางด้านภูมิศาสตร์, ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรม ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองไคย์เซอรี
ฐานของธรณีสัณฐานของแคปพาโดเชียเป็นการทับถมของหินที่มาจากทะเลสาบและลำธาร และ จากการทับถมของวัตถุต่าง ๆ ที่ระเบิดจากภูเขาไฟ (Ignimbrite) โบราณเมื่อราว 9 ถึง 3 ล้านปีที่ผ่านมาในระหว่างสมัยไมโอซีนจนถึงสมัยไพลโอซีน
หินในภูมิภาคแคปพาโดเชียไม่ไกลจากเกอเรเมถูกกัดกร่อนจากธรรมชาติกลายเป็นรูปทรงคล้ายแท่งหรือหอที่มีปลายแหลมบนยอดคล้ายเห็ดอันดูแปลกตา วัตถุที่ระเบิดจากภูเขาไฟเป็นหินที่มีคุณสมบัติที่ง่ายต่อการกัดกร่อนหรือสลักเสลา ที่ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณแคปพาโดเชียใช้ในการขุดคว้านเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัย, ศาสนสถาน หรือ อารามได้ ซึ่งทำให้เกอเรเมกลายมาเป็นศูนย์กลางของอารามระหว่างราวปี ค.ศ. 300–1200
การตั้งถิ่นฐานในยุคแรกในเกอเรเมเริ่มขึ้นในสมัยโรมัน บริเวณที่ว่านี้เต็มไปด้วยบ้านเรือน, หมู่บ้าน, หมู่บ้านใต้ดิน และ คริสต์ศาสนสถานที่ขุดเข้าไปในโพรงหิน มีด้วยกันกว่า 30 โบสถ์และโบสถ์น้อย บางโบสถ์ก็มีงานจิตรกรรมฝาผนังจากคริสต์ศตวรรษที่ 9 ถึง 11 ที่ยังมีความงดงามสดใสอยู่
ระเบียงภาพ
- แผนที่แสดงที่ตั้ง
- ภาพถ่ายจากอากาศ
- ทิวทัศน์ทั่วไป
- แท่งหินที่ถูกกัดกร่อนเหมือนเห็ด
- หมู่บ้านที่ขุดเข้าไปในภูเขา
- บ้านเรือนที่ขุดเข้าไปในผาหิน
- โพรงที่ขุดภายในผาหิน
- จิตรกรรมฝาผนัง
ในโบสถ์ในถ้ำ -
-
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- "การออกเสียงคำว่า Καππαδοκία". Bible Study Tools.
- Van Dam, R. (27 กันยายน 2002). Kingdon of Snow: Roman rule and Greek culture in Cappadocia. Philadelphia: University of Pennsylvania Press. ISBN .
- Room, Adrian (1 สิงหาคม 1997). Placenames of the World: Origins and Meanings of the Names for over 5000 Natural Features, Countries, Capitals, Territories, Cities and Historic sites. London: MacFarland Publishing. ISBN .
- I:6
- 13:11 ใน
- "What does Acts 2:9 mean?". BibleRef.com. Got Questions Ministries.
- Schlumberger, Gustave Léon (1890). Un empereur byzantin au dixième siècle, Nicéphore Phocas (ภาษาฝรั่งเศส). Paris: Firmin-Didot et cie. p. 251. ISBN .
- MacEvitt, Christopher Hatch (2008). The Crusades and the Christian World of the East: Rough Tolerance. Philadelphia: University of Pennsylvania Press. p. 56. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ แคปพาโดเชีย
- . kapadokya.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 ตุลาคม 2011.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phumiphakhobranaehngxanaoteliy aekhpphaodechiyphuekha Aktepe imiklcakekxeremaelaphumiphakhekhahinaehngaekhpphaodechiy mrdkolkyuensok thitng tawnxxkkhxngxanaoteliythanakhxngphumiphakh kungxisrainrupaebbtang macnthungpi kh s 17xditemuxnghlwngcnghwdormn aekhpphaodechiy 38 39 30 N 34 51 13 E 38 65833 N 34 85361 E 38 65833 34 85361 aekhpphaodechiy krik Kappadokia kppaodekiy xngkvs Cappadocia k ae p e ˈ d oʊ ʃ e aephlngmacakkhainphasakrik Kappadokia Kappadokia khuxphumiphakhtxnklangkhxngpraethsturkithiswnihyxyuinxuthyanaehngchatiekxerem aela phumiphakhekhahinaehngaekhpphaodechiy aehlngmrdkolkodyyuensokpraeths turkiphumiphakh raychuxaehlngmrdkolkinthwipyuorppraephthphsmeknthphicarnai iii v viixangxing357prawtikarkhunthaebiynkhunthaebiynkh s 1985 khnakrrmkarsmythi 9 chuxtamthiidkhunthaebiyninbychiaehlngmrdkolk phumiphakhthicdaebngodyyuensok aekhpphaodechiy epnchuxthiprakttlxdmainprawtisastrkhxngkhristsasnaaelaepnchuxthiichodythwipthihmaythungbriewnthiepnthinasnicaeknkthxngethiyw inbribthkhxngphumiphakhxnmikhwamnatuntatunicthangthrrmchati odyechphaaphumisnthanthimilksnaepnaethng khlayhxplxngif hrux ehd fairy chimney aelaprawtikhwamepnmathangprawtisastrxnepnexklksnkhxngphumiphakhxanaoteliy insmykhxngehxrxodths klumchatiphnthuaekhpphaodechiyklawwaepnphuthitngthinthanxyuinphumiphakhtngaetipcnthungbriewnyusin thaelda channaekhpphaodechiyinkrninicungmibriewnthangtxnitcrd thiepnphrmaednthrrmchatithiaeykcak thangtawnxxkodyaemnayuefrthistxnehnuxaela thangtxnehnuxodyphumiphakhphxnts aelathangtawntkodyphumiphakh aela tawnxxk 13 thimahlkthanthangprawtisastrhlkthanaerkthiklawthungaekhpphaodechiyekhiynkhuninstwrrsthi 6 kxnkhristskrach thipraktinkhacaruksamphasa khxngckrphrrdidairxsmharach aela ckrphrrdiesirksisaehngckrwrrdixkhiemniyahwaepnxanackr hrux dahyu hnungkhxngckrwrrdiepxresiy thieriykepnphasaepxresiyobranwa Katpatuka sungcaehnidchdwaimichtnrakkhxngchuxphasaepxresiyodythwip phasaxilaimt aela phasaaexkaekhdichchuxthikhlaykhlungkncakphasaaexkaekhd katpa side thiaephlngmacakchuxbrrphburus Tuka ehxrxodthsklawwachuxkhxngklumchatiphnthuaekhpphaodechiyepnchuxthichawepxresiyicheriykchnklumdngklawni khnathichawkrikeriykwa chawsieriy hrux chawsieriykhaw Leucosyri chnephahnunginklumchatiphnthuaekhpphaodechiythiehxrxodthsklawthungkhux thinkprawtisastrocsifsklawwamikhwamekiywkhxngkbbukhkhlinphrakhmphiribebilchuxbutrkhxng aelaomosekhnikxtngkhunodyomsxkh thipccubnkhuxklumchatiphnthuaekhpphaodechiy aekhpphaodechiypraktinphrakhmphiribebilin kickarkhxngxkhrthut 2 9 klumchatiphnthuaekhpphaodechiyklawwaepnklumchnhnungthiidrbkarprakaskhawdicakxkhrthutepnphasakhxngtnexnginethskalephnethkhxstimnanhlngcakkarkhunphrachnmkhxngphraeysu sungepnnyyawachawaekhpphaodechiyepn chawyiwthimikhwamekrngklwinphraeca phayitkarpkkhrxngkhxngckrphrrdiepxresiyxngkhtx maaekhpphaodechiyaebngxxkepnsxngaekhwn Satrap thimisunyklanghnungthiyngkhngichchuxaekhpphaodechiyodynkprawtisastrkrik aetxikaekhwnhnungeriykwa phxnts karaebngaeykniekidkhunkxnsmykhxng hlngcakkarlmslaykhxngckrwrrdiepxresiyaekhwnsxngaekhwnkyngkhngaeyktwepnxisracakkn aela yngkhngdarngkhwamaetktangcakkntxma aekhpphaodechiymahmaythungcnghwdlukekhaipinaephndin inland province thibangkhrngkeriykwa aekhpphaodechiyihy ethann aelaepnphumiphakhthiennthunginbthkhwamni rachxanackraekhpphaodechiyyngkhngdarngkhwamepnrachxanackrkungxisramacnthungsmykhxngstraob swnepnchuxthiichsahrbdistrikhth thiepnthitngkhxngessaeriy sungepnemuxnghlwngkhxngrachxanackr emuxngsxngemuxnginaekhpphaodechiythistraobehnwamikhwamsakhykhux essaeriy edimeriykwamasakha aela thitngxyuimiklcakechingekhathitngaelaxakasphuekha 3 917 emtr sungepnyxdekhathisungthisudinaekhpphaodechiy aekhpphaodechiytngxyuthangtawnxxkkhxngxanaoteliyinbriewntxnklangkhxngpraethsturkipccubn enuxthikhxngphumiphakhthirabsungthimikhwamsungcakradbnathaelkwa 1 000 emtr prakxbipdwyyxdphuekhaif thimiphuekha epnyxdekhathisungthisudthisungraw 3 917 emtr phrmaedninprawtisastrkhxngaekhpphaodechiyepnphrmaednthikhlumekhruxodyechphaathangdantawntk thangdanitepnthiepnphrmaednthrrmchatikb aelaaeykaekhpphaodechiycakthaelemdietxrereniyn thangdantawntktngxyutidkbphumiphakhthitngxyuthangtawntkechiyngit aelathangtawntkechiyngehnux ethuxkekharimfngthaeldaaeykaekhpphaodechiycakphxntsaelathaelda khnathithangtawnxxkepnaemnayuefrthistxnehnux kxnthiaemnacaeliywipthangtawnxxkechiyngitipyngemosopetemiy aela 13 phumiphakhnimienuxthithnghmdthiyaw 400 kiolemtrcaktawnxxkcrdtawntk aela 250 kiolemtrcakehnuxcrdit ephraathitngthixyubnaephndinihyphayinpraethsaelamiradbsungcakradbnathaelmakaekhpphaodechiycungmiphawaxakasaebbphakhphunthwip continental climate thirxnaehnginvdurxn aela hnawphxthicamihimatkinchwngvduhnaw 14 xtrakartkkhxngfnmiradbtaaelaepnbriewnthicdwaepnbriewnkungaehngaelngthungaelng semi arid thung arid prawtiekxeremthiepnbaneruxnthisrangekhaipinphumisnthanthrrmchatihnaphumithsnxnnaprathbickhxnghubekhaxnetmipdwysisnbllunxakasrxnehnuxaekhpphaodechiyaethnghinthrrmchatiinaekhpphaodechiyaephnthicakkhriststwrrsthi 15 khxngphumiphakhaekhpphaodechiybaneruxnthiepnswnhnungkhxngphumisnthanthrrmchatiinaekhpphaodechiykhristsasnsthanthiepn Rock cut architecture inaekhpphaodechiy aekhpphaodechiyepnthiruckkninchuxwa inplayyukhsaridaelaepnsunyklangthangxanackhxngchnhitithtthimisunyklangxyuthi hlngcakkarlmslaykhxngckrwrrdihitithtaelakhwamesuxmothrmkhxngxarythrrmsieriy aekhpphaodechiyhlngcakkhwamphayaephtxkstriyaehngliediyinkhriststwrrsthi 6 aelw aekhpphaodechiykpkkhrxngodykhunnangkungrabbskdina thixyuxasykntamthimnthiepnprasathtang odymiiphrtidaephndinepnbriwar sungtxmaepnsphawathiehmaakbkarwiwthnakarmaepnrabbthastangpraeths aekhpphaodechiycdepnaekhwnkhxngckrwrrdiepxresiysmythisamthikxtngkhunodyckrphrrdidairxsmharach aetyngkhngidrbkarxnuyatihmipramukhpkkhrxngtnexng aetkimmiphuidthimixanacmakphxthicapkkhrxngidthngphumiphakh rachxanackraekhpphaodechiy hlngcakxelksanedxrmharachnamasungkarlmslaykhxngckrwrrdiepxresiyaelw phraxngkhkthrngphyayamthicapkkhrxngaekhpphaodechiyodykarsngphuaethnphraxngkhmapkkhrxng aetxaeriyrthisphuepnkhunnangepxresiyklbklaymaepnkstriyaehngaekhpphaodechiyaethnthi 332 322 kxnkhristskrach epnphramhakstriyphuthrngphraprichasamarth aelathrngthakarkhyaydinaednkhxngrachxanackraekhpphaodechiyxxkipthungthaelda rachxanackraekhpphaodechiytngxyuinkhwamsngbsukhmacnkrathngkaresdcswrrkhtkhxngxelksanedxrmharach emuxckrwrrdithukaebngyxyxxkipepnswn aekhpphaodechiytkipepnkhxng yuemniskhunmamixanacodykhwamchwyehluxkhxngkhunphlphuepnphusaercrachkarkhxngxelksanedxrmharachphucbxaeriyrthistrungkangekhn aethlngcakthithuklxbsnghar aelathukpraharchiwit butrchaykhxngxaeriyrthiskidaekhpphaodechiykhun aelathakarpkkhrxngepnkstriythisubechuxsaytxma emuxmathungrchsmykhxng 220 163 kxnkhristskrach aekhpphaodechiykerimmikhwamsmphnthkbormthierimdwykarepnstruinkarepnptipkstxphraecaaexnthioxkhsmharach aelatxmahnmaepnphnthmitrinkartxtan sungkethakbthrngwangtnepnstrukb ckrwrrdisilusidthiekhythrngsngbrrnakarepnkhrngkhrawxyangetmphraxngkh 163 130 kxnkhristskrach thrngnathphrwmkbkngsulormninkartxsukb phuxangsiththiinrachbllngk aetphraxngkhkthrngidrbkhwamphayaephxyangybeyinaelasinphrachnminpi 130 kxnkhristskrach phawakhxngkhwamsbsnwunwaythitammahlngcakkaresiychiwitkhxngxaeriyrthisthi 5 naipsukaraethrkaesngkhxngphxntsthirungeruxngkhunma aelakarsngkhramthiekidkhunthinamasungkhwamhaynakhxngrachwngsthipkkhrxngaekhpphaodechiy mnthlaekhpphaodechiykhxngormn chawaekhpphaodechiyidrbkarsnbsnuncakorminkarepnokhn aelaaethnthidwy inpi 93 kxnkhristskrach aetinpiediywknkxngthphxarmieniyphayitkarnakhxngphraecaithkraensmharachkthrngnathphekhamarukranaekhpphaodechiy thrngthakarthxdxrioxbarsaniscakrachbllngk aelathrngaetngtngihkhunkhrxngepnkstriybriwaraethnthi karsrangaekhpphaodechiykhunepnxanackrbriwarkhxngphraecaithkraenskethakbepnkarsrangbriewnchnwnephuxybyngkhwamkawrawkhxngsatharnrthormnthikhubekhamainphumiphakh emuxormthxdkstriyphxntsaelakstriyxarmieniycakrachbllngk cungidklbmakhunkhrxngaekhpphaodechiyxikkhrnghnunginpi 63 kxnkhristskrach inrahwangsngkhramklangemuxngthiekidkhuninormaekhpphaodechiykepliynkarsnbsnuneruxymatngaetsnbsnunpxmpiy txmakcueliys sisar txmamarkh aexnothni aelahnmaepnptipksthaythisud rachwngsxrioxbarsanismasinsudlnginsmykhxngphuhnunhlngmarkh aexnothni aelahnmaepnptipks phupkkhrxngepnxisramacnkrathngpi 17 kxnkhristskrach emuxckrphrrdiithbieriysthrngldthanakhxngaekhpphaodechiylngmaepnephiyngmnthlkhxngormnhlngcakkarsinphrachnmkhxngxarkhilxsxyangxpys txmaxikepnewlananaekhpphaodechiykklayepnswnhnungkhxngckrwrrdiibaesnithn aekhpphaodechiyprakxbdwyhlayemuxng du thiichodychawkhrisetiyninyukhaerkinkarepnthihlbhniphycakkarebiydebiynkhristsasnikchnkxnthisasnakhristcaepnsasnathiidrbkarprakaswaepnsasnapracackrwrrdi khxngkhriststwrrsthi 4 epnxngkhprakxbsakhykhxngprawtisastrethwwithyasasnakhristyukhaerk nkethwwithyasasnakhristkhnsakhykrwmthngphuepnxkhrbidraehngkhxnsaetntionepil rahwangpi kh s 517 thung kh s 520 inchwngkarpkkhrxngkhxngckrwrrdiibaesnithn aekhpphaodechiyplxdcakkhwamkhdaeyngkhxngbriewnnikbckrwrrdiaesssanid aetmaepnbriewndinaednphrmaednxnsakhytxmainsmykarphichitdinaednkhxngmuslimtxma aekhpphaodechiyklayepnswnhnungkhxng Armeniac Theme aelatxmaekhtkarpkkhrxng aelainthisud Cappadocia Theme khwamsmphnthrahwangaekhpphaodechiyaelaxarmieniythitngxyutidknepnkhwamsmphnthxnepliynaeplngxyutlxdewla nkprawtisastrxahrb xbu xl farc klawthungchawxarmieniyphutngthinthanxyuthisiwasrahwangkhriststwrrsthi 10 wa siwasinaekhpphaodechiyetmipdwychawxarmieniy thimicanwnmakcnkrathngklayepnswnsakhykhxngkxngthphkhxngrachxanackr kxngthharxarmieniyehlanimihnathiefayamtampxmthisakhy thiyudmaidcakxahrb thharxarmieniymichuxesiyngcakkarepnthharrabphumiprasbkarnaelamkcaaesdngkhwamsamarthinkartxsuxyangklahayaelaprasbkbkhwamsaercekhiyngkhangthharormnhruxthieriykwathharibaesnithn karrnrngkhthangkarthharkhxngibaesnithnaelakarrukrankhxngeslcukhinxarmieniythaihchawxarmieniykhyaytwekhamainaekhpphaodechiyaelaxxkipthangtawnxxkcakipyngdinaednthiepnhubekhathangtxnehnuxkhxngsieriy aela emosopetemiy cnkrathngidkxtngrachxanackrxarmieniyaehngsiliekhiykhun karxphyphkhxngchawxarmieniyephimcanwnkhunhlngcakkaresuxmothrmxanackhxngckrwrrdiibaesnithn aelakarkhyaytwkhxngxanackrkhruesdhlngsngkhramkhruesdkhrngthi 4 sahrbnkrbkhruesdaelwaekhpphaodechiykhux terra Hermeniorum dinaednkhxngchawxarmieniy ephraaepndinaednthikhnannetmipdwyphutngthinthanchawxarmieniy hlngcakinpi kh s 1071 aelwklumturkitang phayitkarnakhxngeslcukhkerimekhamatngthinthaninxanaoteliy karkhxykhyaytwthangxanackhxngeslcukhxyangkhxyepnkhxyipinthisudkthaihaekhpphaodechiyklayepnrthbriwarkhxngrthturkithikxtngkhunthangtawnxxkaelatawntkkhxngphumiphakh aelaprachakrbangswnkhxngbriewnnikepliynipthuxsasnaxislam emuxmathungtxnplaykhxngtnkhriststwrrsthi 12 eslcukhaehngxanaoteliykklayepnphumixanaceddkhadinphumiphakhaekhpphaodechiy txmaemuxxanackhxngeslcukhthitngxyuthikhxnyaxxntwlnginkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 13 Anatolian Turkish Beyliks thimithanxanacxyuthikekhamamixanacaethnthi aelainthisudklumthiwanikmaaethnthidwyckrwrrdixxtotmninchwngkhriststwrrsthi 15 aekhpphaodechiykklayepnswnhnungkhxngckrwrrdixxtotmnepnewlaxikhlayrxypitxma aelainpccubnkepnswnhnungkhxngrthpccubn khwamepliynaeplngphunthankhxngphumiphakhniekidkhunemux briewnemuxng idrbkarkxtngkhunihminkhriststwrrsthi 18 odymhaesnabdiphumithinthandngedimmacakbriewnnikxtngkhunepnemuxnghlwngkhxngphumiphakh aelayngkhngepnmacnkrathngthukwnni inkhnaediywknchawaekhpphaodechiykerimepliynipphudphasaturkithiekhiyndwyxksrkrikthieriykwa Karamanlica aelainbriewnthiyngkhngphudphasakrik xiththiphlkhxngphasaturkirxbkhangkerimcaephimkhun phasakrikthiphudkninphumiphakhaekhpphaodechiyeriykknwa hlngcakinpi kh s 1923 aelwkehluxphuphudphasakrikaekhpphaodechiyxyuephiyngimkikhnphumisnthanphumiphakhaekhpphaodechiythimichuxesiyngwamiphumisnthanthiepnexklksnthngthangdanphumisastr prawtisastr aela wthnthrrm tngxyuthangtawnxxkechiyngitkhxngemuxngikhyesxri thankhxngthrnisnthankhxngaekhpphaodechiyepnkarthbthmkhxnghinthimacakthaelsabaelalathar aela cakkarthbthmkhxngwtthutang thiraebidcakphuekhaif Ignimbrite obranemuxraw 9 thung 3 lanpithiphanmainrahwangsmyimoxsincnthungsmyiphloxsin hininphumiphakhaekhpphaodechiyimiklcakekxeremthukkdkrxncakthrrmchatiklayepnrupthrngkhlayaethnghruxhxthimiplayaehlmbnyxdkhlayehdxnduaeplkta wtthuthiraebidcakphuekhaifepnhinthimikhunsmbtithingaytxkarkdkrxnhruxslkesla thithaihphuthixasyxyuinbriewnaekhpphaodechiyichinkarkhudkhwanepnbaneruxnthixyuxasy sasnsthan hrux xaramid sungthaihekxeremklaymaepnsunyklangkhxngxaramrahwangrawpi kh s 300 1200 kartngthinthaninyukhaerkinekxeremerimkhuninsmyormn briewnthiwanietmipdwybaneruxn hmuban hmubanitdin aela khristsasnsthanthikhudekhaipinophrnghin midwyknkwa 30 obsthaelaobsthnxy bangobsthkmingancitrkrrmfaphnngcakkhriststwrrsthi 9 thung 11 thiyngmikhwamngdngamsdisxyuraebiyngphaphaephnthiaesdngthitng phaphthaycakxakas thiwthsnthwip aethnghinthithukkdkrxnehmuxnehd hmubanthikhudekhaipinphuekha baneruxnthikhudekhaipinphahin ophrngthikhudphayinphahin citrkrrmfaphnng inobsthintha citrkrrmfaphnng karnmskarkhxngohracary citrkrrmfaphnng xkhrthut duephimxanaoteliy silpaaelasthaptykrrmkhrisetiynyukhaerkxangxing karxxkesiyngkhawa Kappadokia Bible Study Tools Van Dam R 27 knyayn 2002 Kingdon of Snow Roman rule and Greek culture in Cappadocia Philadelphia University of Pennsylvania Press ISBN 978 0 812 23681 1 Room Adrian 1 singhakhm 1997 Placenames of the World Origins and Meanings of the Names for over 5000 Natural Features Countries Capitals Territories Cities and Historic sites London MacFarland Publishing ISBN 978 0 7864 0172 7 I 6 13 11 in What does Acts 2 9 mean BibleRef com Got Questions Ministries Schlumberger Gustave Leon 1890 Un empereur byzantin au dixieme siecle Nicephore Phocas phasafrngess Paris Firmin Didot et cie p 251 ISBN 978 5 87 351 417 5 MacEvitt Christopher Hatch 2008 The Crusades and the Christian World of the East Rough Tolerance Philadelphia University of Pennsylvania Press p 56 ISBN 978 0 812 24050 4 aehlngkhxmulxunwikithxngethiyw mikhaaenanakarthxngethiywsahrb aekhpphaodechiy wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb aekhpphaodechiy kapadokya net khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 9 tulakhm 2011