Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
สงครามปาเลสไตน์ ค.ศ. 1947–1949 หรือในอิสราเอล เรียก สงครามอิสรภาพ (ฮีบรู: מלחמת העצמאות) และในภาษาอาหรับเรียกว่าเป็นองค์ประกอบแกนกลางของนักบา (อาหรับ: النكبة) เป็นสงครามรบพึ่งกันในดินแดนปาเลสไตน์ภายใต้อาณัติของบริเตน เป็นสงครามครั้งแรกในความขัดแย้งอิสราเอล–ปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งอาหรับ–อิสราเอลอีกต่อหนึ่ง ในสงครามครั้งนี้ จักรวรรดิบริติชถอนตัวจากปาเลสไตน์ในอาณัติ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันจนถึงปี 1917 สงครามครั้งนี้ลงเอยด้วยการสถาปนารัฐอิสราเอลโดยชาวยิว และมีการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์อย่างเบ็ดเสร็จในดินแดนที่ยิวได้ยึดครอง โดยมีการพลัดถิ่นของชาวอาหรับปาเลสไตน์ประมาณ 700,000 คน และการทำลายพื้นที่เมืองของชาวอาหรับปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ ชาวอาหรับปาเลสไตน์ตกอยู่ในสภาพไร้รัฐเป็นอันมาก โดยกระจัดกระจายอยู่ตามดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกประเทศอียิปต์และจอร์แดนยึดครอง หรืออยู่ตามรัฐอาหรับที่อยู่ติดกัน ในบรรดาชาวอาหรับปาเลสไตน์นี้ มีจำนวนมากยังไร้รัฐและต้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย
| สงครามปาเลสไตน์ ค.ศ. 1947–1949 | |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
 ทหารอิสราเอลปักธงหมึก ณ ไอลัต เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 1948 | |||||||||
| |||||||||
| คู่สงคราม | |||||||||
ก่อน 26 พฤษภาคม 1948 กำลังกึ่งทหาร:
หลัง 26 พฤษภาคม 1948: อาสาสมัครต่างด้าว: |
 เลบานอน(หลัง 15 พฤษภาคม 1948) | ||||||||
| ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
|
|
 | ||||||||
| กำลัง | |||||||||
| อิสราเอล: เริ่มแรกมีประมาณ 10,000 คน แต่เพิ่มขึ้นเป็น 115,000 คนในเดือนมีนาคม 1949 | อียิปต์: 10,000 นาย ขั้นต้นและเพิ่มขึ้นถึง 20,000 นาย อิรัก: 3,000 นาย ขั้นต้นและเพิ่มขึ้นถึง 15,000-18,000 นาย ซีเรีย: 2,500-5,000 นาย ทรานสจอร์แดน: 8,000-12,000 นาย เลบานอน: 1,000 นาย ซาอุดีอาระเบีย: 800-1,200 นาย (คำสั่งอียิปต์) เยเมน: 300 นาย กองทัพปลดปล่อยอาหรับ:. 3,500-6,000 | ||||||||
| ความสูญเสีย | |||||||||
| เสียชีวิต 6,080 คน (ทหาร 4,074 นายและพลเรือน 2,000 คน) | เสียชีวิตระหว่าง +5,000 และ 20,000 คน (รวมพลเรือน) ในจำนวนนี้เป็นทหารอียิปต์ จอร์แดนและซีเรียรวมกัน 4,000 นาย | ||||||||
| อาหรับเสียชีวิต 15,000 คนและได้รับบาดเจ็บ 25,000 คน (ประมาณการ) | |||||||||
ดินแดนที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริติชก่อนสงครามนั้นถูกแบ่งออกเป็นรัฐอิสราเอล ซึ่งควบคุมประมาณร้อยละ 78 ของพื้นที่ ราชอาณาจักรจอร์แดน (ขณะนั้นชื่อ) ซึ่งควบคุมและต่อมาผนวกดินแดนซึ่งต่อมาเป็นเวสต์แบงก์ และประเทศอียิปต์ซึ่งยึดฉนวนกาซา ดินแดนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้านสันนิบาตอาหรับสถาปนารัฐบาลปาเลสไตน์ทั้งปวง (All-Palestine Government)
สงครามนี้แบ่งออกเป็นสองระยะ ระยะแรกเป็นสงครามกลางเมืองในปาเลสไตน์ในอาณัติปี 1947–1948 ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 1947 หนึ่งวันหลังสหประชาชาติลงมติให้แบ่งดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐเอกราชยิวและอาหรับ และเยรูซาเลมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของนานาชาติ (ข้อมติสมัชชาสหประชาชาติที่ 181) ซึ่งผู้นำยิวยอมรับ แต่ผู้นำอาหรับและอาหรับปาเลสไตน์ปฏิเสธโดยพร้อมเพรียงกัน นักประวัติศาสตร์อธิบายความขัดแย้งในระยะนี้ว่าเป็นสงคราม "กลางเมือง", "เชื้อชาติ" หรือ "ระหว่างชุมชน" เพราะรบพุ่งกันระหว่างทหารอาสาสมัครยิวและอาหรับปาเลสไตน์ ซึ่งฝ่ายหลังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพปลดปล่อยอาหรับและรัฐอาหรับที่อยู่โดยรอบ สงครามในระยะนี้มีลักษณะเป็นการสงครามกองโจรและการก่อการร้าย และต่อมาบานปลายขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคม 1948 เมื่อยิวเป็นฝ่ายบุกและเป็นฝ่ายชนะชาวปาเลสไตน์ในการทัพและยุทธการขนาดใหญ่ จนเกิดเป็นแนวรบที่ชัดเจน ในระหว่างนี้ บริเตนยังคงปกครองดินแดนปาเลสไตน์อยู่ แม้ว่าจะน้อยลงเรื่อย ๆ และบางทีก็เข้าสอดในความรุนแรงนี้
จักรวรรดิบริติชกำหนดการถอนกำลังและสละการอ้างสิทธิ์ทั้งปวงในปาเลสไตน์ไว้วันที่ 14 พฤษภาคม 1948 ในวันนั้น เมื่อทหารและกำลังพลบริติชคนสุดท้ายออกจากนครไฮฟา ผู้นำยิวในปาเลสไตน์ประกาศสถาปนารัฐอิสราเอล หลังประกาศได้พลันกองทัพอาหรับและกำลังรบนอกประเทศของอาหรับที่อยู่โดยรอบอิสราเอลก็บุกครองอิสราเอลทันทีเพื่อขัดขวางอิสราเอลและเข้าช่วยชาวอาหรับปาเลสไตน์ซึ่งเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำในเวลานั้น การบุกครองดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในระยะที่สอง เรียก อียิปต์รุกคืบเข้ามาทางฝั่งทะเลตอนใต้และหยุดใกล้กับแอชดอด (Ashdod); ลีจันอาหรับจากจอร์แดนและกองทัพอิรักยึดที่ราบสูงตอนกลางของปาเลสไตน์ ประเทศซีเรียและเลบานอนรบปะทะกับกำลังอิสราเอลหลายครั้งทางตอนเหนือ ทหารอาสาสมัครอิสราเอล ซึ่งจัดระเบียบเป็นกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) สามารถหยุดยั้งกองทัพอาหรับไว้ได้ ในเดือนต่อ ๆ มามีการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่าง IDF กับกองทัพอาหรับ ซึ่งค่อย ๆ ถูกผลักดันกลับไป กองทัพจอร์แดนและอิรักสามารถควบคุมที่สูงตอนกลางปาเลสไตน์และยึดเยรูซาเลมตะวันออกไว้ได้ รวมทั้งกรุงเก่า เขตยึดครองของอียิปต์ถูกจำกัดไว้เพียงฉนวนกาซาและวงล้อมขนาดเล็กภายใต้การล้อมของกำลังอิสราเอลที่ Al-Faluja ในเดือนตุลาคมและธันวาคม 1948 กำลังอิสราเอลข้ามสู่ดินแดนเลบานอนและผลักดันเข้าสู่คาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ล้อมกำลังอียิปต์ไว้ใกล้กับนครกาซา การปฏิบัติทางทหารสุดท้ายเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 1949 เมื่อกำลังอิสราเอลยึดทะเลทรายเนเกฟและถึงทะเลแดง ในปี 1949 อิสราเอลลงนามการสงบศึกแยกกันกับประเทศต่าง ๆ ดังนี้ กับประเทศอียิปต์ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์, กับประเทศเลบานอนในวันที่ 23 มีนาคม, กับทรานส์จอร์แดนในวันที่ 3 เมษายน และกับประเทศซีเรียในัวนที่ 20 กรกฎาคม ในช่วงนี้ การหนีของและการขับไล่ชาวอาหรับปาเลสไตน์ยังคงดำเนินต่อไป
ในช่วงสามปีหลังสงคราม ยิวประมาณ 700,000 คนเข้าเมืองอิสราเอลจากทวีปยุโรปและดินแดนอาหรับ โดยหนึ่งในสามของจำนวนนี้ออกหรือถูกขับออกจากประเทศถิ่นพำนักของตนในตะวันออกกลาง ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกกลืนเข้าสู่อิสราเอลในแผนหนึ่งล้าน
แผนภาพ
| แผนที่ชุดสงครามปาเลสไตน์ ค.ศ. 1947–1949 | ||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- Palestine Post, "Israel's Bedouin Warriors", Gene Dison, August 12, 1948
- AFP (24 April 2013). "Bedouin army trackers scale Israel social ladder". . สืบค้นเมื่อ 7 May 2015.
- Anita Shapira, L'imaginaire d'Israël : histoire d'une culture politique (2005), Latroun : la mémoire de la bataille, Chap. III. 1 l'événement p. 91–96
- Benny Morris (2008), p.419.
- Pollack, 2004; Sadeh, 1997
- Sandler, Stanley (2002). Ground Warfare: An International Encyclopedia. ABC-CLIO. p. 160. ISBN .
- Rosemarie Esber, Under the Cover of War, Arabicus Books & Medica, 2009, p.28.
- Casualties in Arab-Israeli Wars
- Clodfelter, Micheal (2017). Warfare and Armed Conflicts: A Statistical Encyclopedia of Casualty and Other Figures, 1492-2015, 4th ed. McFarland. p. 572. ISBN .
- Reuven Firestone To Jews, the Jewish-Arab war of 1947–1948 is the War of Independence (milchemet ha'atzma'ut). To Arabs, and especially Palestinians, it is the nakba or calamity. I therefore refrain from assigning names to wars. I refer to the wars between the State of Israel and its Arab and Palestinian neighbors according to their dates: 1948, 1956, 1967, 1973, and 1982.' Reuven Firestone, Holy War in Judaism: The Fall and Rise of a Controversial Idea, , 2012 p.10, cf.p.296
- Neil Caplan, ‘Perhaps the most famous case of differences over the naming of events is the 1948 war (more accurately, the fighting from December 1947 through January 1949). For Israel it is their “War of Liberation” or “War of Independence” (in Hebrew, milhemet ha-atzama’ut) full of the joys and overtones of deliverance and redemption. For Palestinians, it is Al-Nakba, translated as “The Catastrophe” and including in its scope the destruction of their society and the expulsion and flight of some 700,000 refugees.’ The Israel-Palestine Conflict: Contested Histories, , Sep 19, 2011 p.17.
- Neil Caplan Although some historians would cite 14 May 1948 as the start of the war known variously as the Israeli War of Independence, an-Nakba (the (Palestinian) Catastrophe), or the first Palestine war, it would be more accurate to consider that war as beginning on 30 November 1947'. Futile Diplomacy: The United Nations, the Great Powers, and Middle East Peacemaking 1948–1954, (vol.3) & Co, 1997 p.17
- — Benny Morris, 2004. The Birth of the Palestinian Refugee Problem Revisited, pp. 602–604. Cambridge University Press; ISBN . "It is impossible to arrive at a definite persuasive estimate. My predilection would be to opt for the loose contemporary British formula, that of 'between 600,000 and 760,000' refugees; but,if pressed, 700,000 is probably a fair estimate";
— Memo US Department of State, 4 May 1949, FRUS, 1949, p. 973.: "One of the most important problems which must be cleared up before a lasting peace can be established in Palestine is the question of the more than 700,000 Arab refugees who during the Palestine conflict fled from their homes in what is now Israeli occupied territory and are at present living as refugees in Arab Palestine and the neighbouring Arab states.";
— Memorandum on the Palestine Refugee Problem, 4 May 1949, FRUS, 1949, p. 984.: "Approximately 700,000 refugees from the Palestine hostilities, now located principally in Arab Palestine, Transjordan, Lebanon and Syria, will require repatriation to Israel or resettlement in the Arab states." - Morris (2008), p.63–65
- Morris (2008), p.77–79
- Tal (2003), p.41
- Devorah Hakohen, Immigrants in Turmoil: Mass Immigration to Israel and Its Repercussions in the 1950s and after, Syracuse University Press 2003 p.267
- Displaced Persons retrieved on 29 October 2007 from the U.S. Holocaust Museum.
- Tom Segev, 1949. The First Israelis, Owl Books, 1986, p.96.
- Morris, 2001, chap. VI.
- "Jewish Refugees of the Israeli Palestinian Conflict". Mideast Web. สืบค้นเมื่อ 2013-04-01.
- Axelrod, Alan (2014). Idiot's Guides: The Middle East Conflict. Penguin Group. ISBN .
- Benny Morris, Righteous Victims, chap. VI.
บรรณานุกรม
- , 1948, Yale University Press, 2008, ISBN
- , War in Palestine, 1948. Strategy and Diplomacy, Routledge, 2004.
แหล่งข้อมูลอื่น
 | บทความประวัติศาสตร์นี้ยังเป็น คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhrampaelsitn kh s 1947 1949 hruxinxisraexl eriyk sngkhramxisrphaph hibru מלחמת העצמאות aelainphasaxahrberiykwaepnxngkhprakxbaeknklangkhxngnkba xahrb النكبة epnsngkhramrbphungknindinaednpaelsitnphayitxantikhxngbrietn epnsngkhramkhrngaerkinkhwamkhdaeyngxisraexl paelsitn sungepnswnhnungkhxngkhwamkhdaeyngxahrb xisraexlxiktxhnung insngkhramkhrngni ckrwrrdibritichthxntwcakpaelsitninxanti sungekhyepnswnhnungkhxngckrwrrdixxtotmncnthungpi 1917 sngkhramkhrngnilngexydwykarsthapnarthxisraexlodychawyiw aelamikarepliynaeplngthangprachakrsastrxyangebdesrcindinaednthiyiwidyudkhrxng odymikarphldthinkhxngchawxahrbpaelsitnpraman 700 000 khn aelakarthalayphunthiemuxngkhxngchawxahrbpaelsitnswnihy chawxahrbpaelsitntkxyuinsphaphirrthepnxnmak odykracdkracayxyutamdinaednpaelsitnthithukpraethsxiyiptaelacxraednyudkhrxng hruxxyutamrthxahrbthixyutidkn inbrrdachawxahrbpaelsitnni micanwnmakyngirrthaelatxngxyuinkhayphuliphysngkhrampaelsitn kh s 1947 1949thharxisraexlpkthnghmuk n ixlt emuxwnthi 10 minakhm 1948wnthi15 phvsphakhm 1948 20 krkdakhm 1949 1 pi 7 eduxn 2 spdah 6 wn sthanthixditpaelsitninxanti khabsmuthrisnay thangitkhxngelbanxnphlxisraexlchna cxraednchnaephiyngelknxy paelsitnxahrbaeph xiyiptaeph khwamlmehlwthangyuththsastrkhxngsnnibatxahrb karxphyphhniphykhxngchawpaelsitn kh s 1948 aelakarxphyphkhxngyiwxxkcakpraethsxahrbaelamuslim kh s 1948dinaedn epliynaeplngphayitkhwamtklngsngbsuk kh s 1949 tngrthxisraexlthimiekhtaednmakkwathikahndodyaephnaebngpaelsitnkhxngyuexn tngrthbalpaelsitnthngpwnginchnwnkasaphayitkarxupthmphkhxngxiyipt cxraednpkkhrxngewstaebngkaelaeyrusaelmtawnxxk sieriyidthimnthangehnuxaelaitkhxngkhusngkhramkxn 26 phvsphakhm 1948 kalngkungthhar phnthmitrephaebduxin hlng 26 phvsphakhm 1948 xisraexl kxngkalngpxngknxisraexl xasasmkhrtangdaw kxn 15 phvsphakhm 1948 xiyipt thranscxraedn sieriy elbanxn hlng 15 phvsphakhm 1948 phubngkhbbychaaelaphunaedwid ebnkueriyn yitskh rabin omech daynphraecafarukaehngxiyipt smedcphraecaxbdullxhthi 1 kalngxisraexl erimaerkmipraman 10 000 khn aetephimkhunepn 115 000 khnineduxnminakhm 1949xiyipt 10 000 nay khntnaelaephimkhunthung 20 000 nay xirk 3 000 nay khntnaelaephimkhunthung 15 000 18 000 nay sieriy 2 500 5 000 nay thranscxraedn 8 000 12 000 nay elbanxn 1 000 nay saxudixaraebiy 800 1 200 nay khasngxiyipt eyemn 300 nay kxngthphpldplxyxahrb 3 500 6 000khwamsuyesiyesiychiwit 6 080 khn thhar 4 074 nayaelaphleruxn 2 000 khn esiychiwitrahwang 5 000 aela 20 000 khn rwmphleruxn incanwnniepnthharxiyipt cxraednaelasieriyrwmkn 4 000 nayxahrbesiychiwit 15 000 khnaelaidrbbadecb 25 000 khn pramankar bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha dinaednthixyuphayitkarbriharkhxngbritichkxnsngkhramnnthukaebngxxkepnrthxisraexl sungkhwbkhumpramanrxyla 78 khxngphunthi rachxanackrcxraedn khnannchux sungkhwbkhumaelatxmaphnwkdinaednsungtxmaepnewstaebngk aelapraethsxiyiptsungyudchnwnkasa dinaednchayfngthaelemdietxrereniyn dansnnibatxahrbsthapnarthbalpaelsitnthngpwng All Palestine Government sngkhramniaebngxxkepnsxngraya rayaaerkepnsngkhramklangemuxnginpaelsitninxantipi 1947 1948 sungerimtnemuxwnthi 30 phvscikayn 1947 hnungwnhlngshprachachatilngmtiihaebngdinaednpaelsitnxxkepnrthexkrachyiwaelaxahrb aelaeyrusaelmsungxyuphayitkarbriharkhxngnanachati khxmtismchchashprachachatithi 181 sungphunayiwyxmrb aetphunaxahrbaelaxahrbpaelsitnptiesthodyphrxmephriyngkn nkprawtisastrxthibaykhwamkhdaeynginrayaniwaepnsngkhram klangemuxng echuxchati hrux rahwangchumchn ephraarbphungknrahwangthharxasasmkhryiwaelaxahrbpaelsitn sungfayhlngidrbkarsnbsnuncakkxngthphpldplxyxahrbaelarthxahrbthixyuodyrxb sngkhraminrayanimilksnaepnkarsngkhramkxngocraelakarkxkarray aelatxmabanplaykhunemuxplayeduxnminakhm 1948 emuxyiwepnfaybukaelaepnfaychnachawpaelsitninkarthphaelayuththkarkhnadihy cnekidepnaenwrbthichdecn inrahwangni brietnyngkhngpkkhrxngdinaednpaelsitnxyu aemwacanxylngeruxy aelabangthikekhasxdinkhwamrunaerngni ckrwrrdibritichkahndkarthxnkalngaelaslakarxangsiththithngpwnginpaelsitniwwnthi 14 phvsphakhm 1948 inwnnn emuxthharaelakalngphlbritichkhnsudthayxxkcaknkhrihfa phunayiwinpaelsitnprakassthapnarthxisraexl hlngprakasidphlnkxngthphxahrbaelakalngrbnxkpraethskhxngxahrbthixyuodyrxbxisraexlkbukkhrxngxisraexlthnthiephuxkhdkhwangxisraexlaelaekhachwychawxahrbpaelsitnsungepnfayephliyngphlainewlann karbukkhrxngdngklawepncuderimtnkhxngsngkhraminrayathisxng eriyk xiyiptrukkhubekhamathangfngthaeltxnitaelahyudiklkbaexchdxd Ashdod licnxahrbcakcxraednaelakxngthphxirkyudthirabsungtxnklangkhxngpaelsitn praethssieriyaelaelbanxnrbpathakbkalngxisraexlhlaykhrngthangtxnehnux thharxasasmkhrxisraexl sungcdraebiybepnkalngpxngknxisraexl IDF samarthhyudyngkxngthphxahrbiwid ineduxntx mamikarsurbxyangdueduxdrahwang IDF kbkxngthphxahrb sungkhxy thukphlkdnklbip kxngthphcxraednaelaxirksamarthkhwbkhumthisungtxnklangpaelsitnaelayudeyrusaelmtawnxxkiwid rwmthngkrungeka ekhtyudkhrxngkhxngxiyiptthukcakdiwephiyngchnwnkasaaelawnglxmkhnadelkphayitkarlxmkhxngkalngxisraexlthi Al Faluja ineduxntulakhmaelathnwakhm 1948 kalngxisraexlkhamsudinaednelbanxnaelaphlkdnekhasukhabsmuthrisnaykhxngxiyipt lxmkalngxiyiptiwiklkbnkhrkasa karptibtithangthharsudthayekidkhunineduxnminakhm 1949 emuxkalngxisraexlyudthaelthrayenekfaelathungthaelaedng inpi 1949 xisraexllngnamkarsngbsukaeykknkbpraethstang dngni kbpraethsxiyiptinwnthi 24 kumphaphnth kbpraethselbanxninwnthi 23 minakhm kbthranscxraedninwnthi 3 emsayn aelakbpraethssieriyinwnthi 20 krkdakhm inchwngni karhnikhxngaelakarkhbilchawxahrbpaelsitnyngkhngdaenintxip inchwngsampihlngsngkhram yiwpraman 700 000 khnekhaemuxngxisraexlcakthwipyuorpaeladinaednxahrb odyhnunginsamkhxngcanwnnixxkhruxthukkhbxxkcakpraethsthinphankkhxngtnintawnxxkklang phuliphyehlanithukklunekhasuxisraexlinaephnhnunglanaephnphaphaephnthichudsngkhrampaelsitn kh s 1947 1949sthankarnrahwangwnthi 15 phvsphakhm 10 mithunayn 1948sthankarnrahwangwnthi 15 phvsphakhm 10 mithunayn 1948 sthankarnineduxntulakhm 1948sthankarnineduxntulakhm 1948 sthankarnrahwangwnthi 22 thnwakhm 1948 7 mkrakhm 1949sthankarnrahwangwnthi 22 thnwakhm 1948 7 mkrakhm 1949 sthankarnrahwangwnthi 5 10 minakhm 1949sthankarnrahwangwnthi 5 10 minakhm 1949 aephnthihlngkarsngbsukaephnthihlngkarsngbsuk xangxingPalestine Post Israel s Bedouin Warriors Gene Dison August 12 1948 AFP 24 April 2013 Bedouin army trackers scale Israel social ladder subkhnemux 7 May 2015 Anita Shapira L imaginaire d Israel histoire d une culture politique 2005 Latroun la memoire de la bataille Chap III 1 l evenement p 91 96 Benny Morris 2008 p 419 Pollack 2004 Sadeh 1997 Sandler Stanley 2002 Ground Warfare An International Encyclopedia ABC CLIO p 160 ISBN 9781576073445 Rosemarie Esber Under the Cover of War Arabicus Books amp Medica 2009 p 28 Casualties in Arab Israeli Wars Clodfelter Micheal 2017 Warfare and Armed Conflicts A Statistical Encyclopedia of Casualty and Other Figures 1492 2015 4th ed McFarland p 572 ISBN 978 0786474707 Reuven Firestone To Jews the Jewish Arab war of 1947 1948 is the War of Independence milchemet ha atzma ut To Arabs and especially Palestinians it is the nakba or calamity I therefore refrain from assigning names to wars I refer to the wars between the State of Israel and its Arab and Palestinian neighbors according to their dates 1948 1956 1967 1973 and 1982 Reuven Firestone Holy War in Judaism The Fall and Rise of a Controversial Idea 2012 p 10 cf p 296 Neil Caplan Perhaps the most famous case of differences over the naming of events is the 1948 war more accurately the fighting from December 1947 through January 1949 For Israel it is their War of Liberation or War of Independence in Hebrew milhemet ha atzama ut full of the joys and overtones of deliverance and redemption For Palestinians it is Al Nakba translated as The Catastrophe and including in its scope the destruction of their society and the expulsion and flight of some 700 000 refugees The Israel Palestine Conflict Contested Histories Sep 19 2011 p 17 Neil Caplan Although some historians would cite 14 May 1948 as the start of the war known variously as the Israeli War of Independence an Nakba the Palestinian Catastrophe or the first Palestine war it would be more accurate to consider that war as beginning on 30 November 1947 Futile Diplomacy The United Nations the Great Powers and Middle East Peacemaking 1948 1954 vol 3 amp Co 1997 p 17 Benny Morris 2004 The Birth of the Palestinian Refugee Problem Revisited pp 602 604 Cambridge University Press ISBN 978 0 521 00967 6 It is impossible to arrive at a definite persuasive estimate My predilection would be to opt for the loose contemporary British formula that of between 600 000 and 760 000 refugees but if pressed 700 000 is probably a fair estimate Memo US Department of State 4 May 1949 FRUS 1949 p 973 One of the most important problems which must be cleared up before a lasting peace can be established in Palestine is the question of the more than 700 000 Arab refugees who during the Palestine conflict fled from their homes in what is now Israeli occupied territory and are at present living as refugees in Arab Palestine and the neighbouring Arab states Memorandum on the Palestine Refugee Problem 4 May 1949 FRUS 1949 p 984 Approximately 700 000 refugees from the Palestine hostilities now located principally in Arab Palestine Transjordan Lebanon and Syria will require repatriation to Israel or resettlement in the Arab states Morris 2008 p 63 65 Morris 2008 p 77 79 Tal 2003 p 41 Devorah Hakohen Immigrants in Turmoil Mass Immigration to Israel and Its Repercussions in the 1950s and after Syracuse University Press 2003 p 267 Displaced Persons retrieved on 29 October 2007 from the U S Holocaust Museum Tom Segev 1949 The First Israelis Owl Books 1986 p 96 Morris 2001 chap VI Jewish Refugees of the Israeli Palestinian Conflict Mideast Web subkhnemux 2013 04 01 Axelrod Alan 2014 Idiot s Guides The Middle East Conflict Penguin Group ISBN 9781615646401 Benny Morris Righteous Victims chap VI brrnanukrm 1948 Yale University Press 2008 ISBN 978 0 300 12696 9 War in Palestine 1948 Strategy and Diplomacy Routledge 2004 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sngkhrampaelsitn kh s 1947 1949 bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk